สุภาพสตรีหมายเลขสอง - ตอนที่ 5
|
 |
ตอนที่ 6 (เดิมเป็นตอนที่ 5 ขอแก้ไขเป็นตอนที่ 6)
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ไกลออกไปในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แอนดรูว์ แบรดฟอร์ด ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และบิลลี่ แบรดฟอร์ด ย้ายเข้าไปพำนักในทำเนียบขาว ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
อีกสองเดือนต่อมา บิลลี่ แบรดฟอร์ด นำผู้คนจำนวนหลายล้านทั่วโลก ทัวร์ห้องส่วนตัวต่างๆที่ตั้งอยู่บนชั้นสองของทำเนียบขาว ผ่านทางเครือข่ายโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกา โดยหล่อนทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับประวัติของห้องเหล่านี้ บิลลี่ทำหน้าที่ผู้บรรยายได้อย่างเอาจริงเอาจัง แต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันและความฉลาดหลักแหลม
รายการนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามด้วยเรทติ้งที่สูง และทำให้ภาพพจน์ของตัวหล่อนและความนิยมของผู้คน ที่มีต่อสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้ยิ่งสูงมากขึ้น สารคดีการทัวร์ทำเนียบขาวนี้ชุดหนึ่งได้ถูกส่งจากนิวยอร์คไปยังมอสโคว์โดยทางเครื่องบิน
เปโตรพ เรซินและวีร่านั่งชมสารคดีชุดนี้ด้วยกันในห้องฉายภาพยนตร์ ในบ้านที่ห่างไกลหลังนั้น หลังจากนั้นวีร่าได้รับคำสั่งให้ดูสารคดีซึ่งมีความยาวประมาณสิบนาทีชุดนี้ทุกวัน วันละสามรอบ ติดต่อกันหกสัปดาห์ หล่อนจะต้องศึกษาและจดจำความแตกต่างเล็กๆน้อยๆในวิธีพูด อากัปกริยา การเคลื่อนไหวต่างๆของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯจนซึมซาบเข้าไปหมด หล่อนต้องพยายามเลียนแบบและฝึกซ้อมสิ่งเหล่านี้ในห้องต่างๆในทำเนียบขาวจำลอง ที่เปโตรพสร้างไว้ให้
ระหว่างภารกิจดังกล่าว วีร่ายังคงฝึกฝนเกี่ยวกับเสียง และอิริยาบถต่างๆของบิลลี่ โดยมีผู้ฝึกสอนคนหนึ่งทำหน้าที่ช่วยเปิดเทปบันทึกเสียงพูดและการให้สัมภาษณ์ของบิลลี่ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เช่นนั้น จนหล่อนสามารถเลียนสำเนียงของบิลลี่ ซึ่งมีสำเนียงแบบคนอเมริกันตะวันตกปนอยู่เล็กน้อยได้โดยไม่ผิดเพี้ยน วีร่าบังคับโทนเสียงของตัวเองให้ต่ำลงและให้เสียงออกมาจากลำคอมากขึ้น นอกจากนั้นหล่อนยังสามารถลอกเลียนวิธีหัวเราะที่เหมือนโรคติดต่อ ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกาได้อย่างดี
ส่วนในเรื่องท่วงท่าอิริยาบถต่างๆ ผู้ฝึกสอนหลายคนและฟิล์มหนังจำนวนมากที่เกี่ยวกับบิลลี่ ช่วยให้นักแสดงหญิงชาวโซเวียตเลียนแบบท่าเดินและท่าทางที่บิลลี่หยุดเดิน เพื่อหันไปทางเสียงที่กำลังทักทายหล่อน ซึ่งเป็นท่วงท่าที่สง่างามและอ่อนช้อยราวกับท่าเต้นรำที่หมุนพริ้ว รวมทั้งอิริยาบถเวลาอยู่เฉยๆไม่เคลื่อนไหว และอากัปกิริยาเฉพาะตัวอื่นๆอีกมากมายได้อย่างไม่ผิดพลาด
เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่หกของการฝึกฝน เรซินพูดกับหล่อนว่า "พรุ่งนี้เช้าตอนแปดนาฬิกา คุณจะต้องเข้าฉากกับห้องในทำเนียบขาวพวกนั้น เราจะเริ่มถ่ายหนัง" "งั้นก็แปลว่าเรามีการถ่ายหนังจริงๆใช่ไหมตะ ?" หล่อนล้อเลียนเขา
เรซินรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์ของหล่อน แต่เขาก็ยังคงทำท่าทางเคร่งขรึมเอาจริงเอาจังต่อไป "ก็ทำนองนั้นแหละ และคุณเป็นนางเอกของเรื่อง"
อีกสี่สัปดาห์ต่อมา หลังจากดูหนังที่ได้รับการตัดต่อเป็นครั้งสุดท้าย เปโตรพตัดสินใจว่าเขามาถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแล้ว เขาไม่สามารถจะเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ ---และเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่จำเป็น
เปโตรพโทรศัพท์ไปขอเข้าพบท่านนายกรัฐมนตรี เป็นกรณีพิเศษ โดยขอพบที่ห้องฉายภาพยนตร์ ในวังเครมลิน
นายกรัฐมนตรีโซเวียต ซึ่งปกติเป็นคนเงียบๆอ่อนโยนละมุนละม่อม มีสุ้มเสียงที่แสดงความรำคาญ "ห้องฉายหนังงั้นหรือ ? ฉันไม่มีเวลาจะดูหนังหรอก ไว้วันอื่นได้ไหม ?"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากขอรับ ท่าน" "อืมม์ ฉันมีนัดตลอดทั้งวัน" "ช่วงเย็นได้ไหมขอรับ ?" "ช่วงเย็น....ช่วงเย็น ---การานิน โลบานอฟ อุมยากอฟ ---ฉันมีนัดกินอาหารค่ำกับพวกเขา"
พวกที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมดนี้ เป็นผู้บริหารระดับสูงของโปลิทบิวรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนาโตลี การานิน เป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนองค์การเคจีบีและโปรเจ็คต่างๆของเคจีบีมาตลอด
"ท่านพาพวกเขามาด้วยเลยขอรับ" เปโตรพกล่าว "ผมจะขอเวลาท่านไม่เกินครึ่งชั่วโมงก่อนเวลารับประทานอาหารค่ำของท่าน"
ท่านนายกรัฐมนตรีถอนหายใจด้วยสุ้มเสียงที่บ่งบอกถึงความอิดหนาระอาใจ "ถ้างั้นก็ตามใจ พรุ่งนี้ทุ่มครึ่ง ที่ห้องฉายหนัง" แล้วเขาก็วางหูโทรศัพท์
เย็นวันรุ่งขึ้น เปโตรพเข้าไปในห้องฉายภาพยนตร์ที่หรูหราในวังเครมลิน ตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มยี่สิบแปดนาที เขานั่งรออยู่ที่เก้าอี้สีแดงแถวหน้าสุดในจำนวนแถวที่นั่งทั้งหมดหกแถว เขาพา อเล๊กซ์ เรซิน มาด้วย และขณะนี้เรซินอยู่ในคอกฉายหนัง กำลังอธิบายรายละเอียดต่างๆให้คนฉายหนัง
เวลาหนึ่งทุ่มสามสิบสี่นาที ท่านนายกรัฐมนตรีเข้ามาในห้องฉายหนัง พร้อมด้วยบรรดาผู้บริหารโปลิทบิวโรของเขา การานิน โลบานอฟ และ อุมยากอฟ
เขาเป็นชายที่มีรูปร่างสง่างาม สูงห้าฟุตสิบเอ็ดนิ้ว ล่ำสันแข็งแรงราวกับรูปปั้นหินอ่อน เขาแต่งกายด้วยชุดสูทลายทางที่ตัดอย่างประณีต ใบหน้าที่ยาวเหมือนม้าของเขามีแว่นตาไม่มีก้านประดับอยู่ หนวดของเขาได้รับการเล็มอย่างปราณีต และมีรูปทรงเหมือนหนวดสั้นๆที่มีปลายชี้แหลมของแวนไดท์ เขามีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับ เลออง ตร๊อทสกี้ ซึ่งเป็นศัตรูของรัฐบาล
ท่านนายกรัฐมนตรีนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งเช่นเดียวกับการานิน ซึ่งมีรูปร่างเตี้ยและศรีษะเถิกคล้ายพวกนักปราชญ์ และโลบานอฟกับอุมยากอฟ ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพวกนักธุรกิจวัยกลางคนผู้ร่ำรวย
เปโตรพลุกขึ้นยืนต้อนรับ
"เรามากันแล้ว" ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าว "มีอะไรสำคัญนักหนา ?"
"โปรเจ็คใหม่ขอรับ" เปโตรพชี้แจง "โปรเจ็คที่วิเศษสุด ถ้าได้ผลมันจะเปลี่ยนโฉมหน้าของโลก โปรเจ็คนี้จะเริ่มต้นด้วยหนังสองม้วน"
เมื่อเปโตรพเห็นเรซินกำลังเดินออกมาจากคอกฉายภาพยนตร์อย่างรีบร้อน เขาก็ทรุดตัวลงนั่ง เรซินเดินผ่านมาข้างหน้าเขา แล้วส่งสัญญานให้กับคนฉายภาพยนตร์ แล้วนั่งลงหลังแผงควบคุม ไฟในห้องมืดลง ในจอภาพยนตร์ ที่อยู่เบื้องหน้าของทุกคน บิลลี่ แบรดฟอร์ด กำลังเคลื่อนเข้าไปในห้องนอนลินคอนน์ ในทำเนียบขาว
"ท่านจำหล่อนได้ไหมขอรับ ท่านเลขาธิการ ?" เปโตรพถามข้ามไหล่ตัวเองไปข้างหลัง
"สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ของสหรัฐฯ" ท่านนายกรัฐมนตรีตอบกลับมา "หล่อนเป็นคนน่ามองจริงๆ"
ในจอภาพยนตร์ บิลลี่ แบรดฟอร์ด กำลังเริ่มอธิบายถึงประวัติ ของเตียงนอนขนาดแปดฟุตที่ทำจากไม้กุหลาบ และเครื่องแต่งห้องแบบสมัยวิคตอเรีย ที่มิสซิส ลินคอนน์เป็นผู้ซื้อหามาตกแต่ง หนังยังเคลื่อนไหวต่อไปเรื่อยๆเมื่อบิลลี่ออกจากห้องนอนลินคอนน์ เข้าไปยังห้องรับประทานอาหารค่ำของประธานาธิบดี หนังจบลงในสิบนาที แล้วไฟในห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เปโตรพหันตะแคงข้างไปด้านหลัง "ที่เพิ่งจบไปนั้นเป็นหนังที่ฉายทางโทรทัศน์เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ภรรยาประธานาธิบดีสหรัฐฯ นำเยี่ยมชมห้องส่วนตัวสำหรับครอบครัวในทำเนียบขาว ท่านกำลังจะได้ชมอีกม้วนหนึ่ง"
"หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของฉัน กลายเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ?" ท่านนายกรัฐมนตรีโซเวียตกล่าวสัพยอก พร้อมกับหัวเราะ ทำให้พวกผู้บริหารโปลิทบิวรี่ทั้งสามคนพลอยหัวเราะตามไปด้วย
"ท่านจะได้เห็นขอรับ ท่านจะได้เห็นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของผม" เปโตรพพูด
ไฟดับมืดลงอีกครั้งหนึ่ง
ในทันทีนั้นห้องฉายภาพยนตร์ที่มืดสนิทก็มีแสงจากภาพของบิลลี่ แบรดฟอร์ด ที่ปรากฏขึ้นบนจอ หล่อนกำลังเดินเข้าไปในห้องนอนลินคอนน์ในทำเนียบขาว บิลลี่ชี้ไปตามเครื่องเรือนชิ้นประวัติศาสตร์ต่างๆและบอกเล่าความเป็นมาของมัน หลังจากนั้น หล่อนเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารค่ำของประธานาธิบดี
เสียงของท่านนายกรัฐมนตรีโซเวียตดังขึ้นอย่างหมดความอดกลั้น "เปโตรพ เกิดอะไรขึ้น ? คุณกำลังฉายหนังซ้ำให้เราดู เราเพิ่งดูมันไปหยกๆนี่เอง"
"ผมทราบครับท่าน" เปโตรพกล่าว "กรุณาให้เวลาผมสักสองสามนาที ผมมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น"
หนังเรื่องที่เกี่ยวกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ฉายต่อไป ทุกอย่างในหนังม้วนนี้เหมือนกับม้วนแรกโดยไม่ผิดเพี้ยน เสียงพึมพำด้วยความไม่สบอารมณ์ ของท่านนายกรัฐมนตรีดังขึ้นกว่าเก่า หนังจบลง ไฟสว่างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ท่านนายกรัฐมนตรีมีสีหน้าที่แสดงถึงความโกรธ เขาจ้องมองหัวหน้าเคจีบีของเขาเขม็ง "คุณจะบ้าหรือ เปโตรพ ? คุณกล้าดีอย่างไรถึงทำให้เราต้องเสียเวลาอันมีค่า มานั่งดูหนังของคุณซ้ำซากถึงสองครั้ง ? นี่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณละก้อ มันคงถูกส่งเข้าโรงพยาบาลบ้าไปแล้ว ฉันต้องการคำอธิบายเรื่องนี้"
และโดยไม่สะทกสะท้าน เปโตรพลุกขึ้นยืนและหันหน้าไปทางท่านนายกฯเต็มตัว "ผมมีคำอธิบาย ขอรับ" เขากล่าว
"ดีแล้ว บ้าฉิบ.... อธิบายมาเลย!!"
เปโตรพไม่สะดุ้งสะเทือน เขาหันไปพูดกับท่านนายกรัฐมนตรีโดยตรง "ท่านแน่ใจหรือขอรับ ว่ามันเป็นหนังม้วนเดียวกัน สหายคีเรเชนโก้ ?" " คิดว่าฉันตาบอดหรือไง ? หนังม้วนเดียวกันแน่นอน แต่นำมาฉายซ้ำกันสองครั้ง"
"ผู้หญิงที่อยู่ในหนังม้วนแรก คือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ใช่หรือไม่ขอรับ ?" " แน่นอน"
"แล้วผู้หญิงในหนังม้วนที่สองเล่าขอรับ คือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯเหมือนกัน ใช่ไหมขอรับ ?"
"ก็ใช่น่ะสิ" ท่านนายกรัฐมนตรีโซเวียตตอบอย่างโกรธเหมือนถูกยั่วโทสะ
เปโตรพนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แล้วจึงพูดต่อไป "ผมขออภัย แต่ท่านยังเข้าใจไม่ถูกต้อง ผู้หญิงในหนังม้วนแรกคือ บิลลี่ แบรดฟอร์ด สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งตัวจริง ส่วนม้วนที่สองคือนักแสดงหญิงชาวโซเวียต ที่ชื่อ วีร่า วาวีโลว่า หล่อนแสดงบทบาทเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง"
เปโตรพมองเห็นความพิศวงงงงวยและความตื่นตระหนกสุดขีด ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสี่ที่อยู่เบื้องหน้าเขา
ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทำลายความเงียบ "คุณกำลังเล่นตลกอะไรหรือ ?"
"ผมไม่ได้เล่นตลกเลยขอรับ หนังม้วนแรกคือ บิลลี่ แบรดฟอร์ด ภริยาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนม้วนที่สองคือคู่เหมือนชาวโซเวียตของหล่อน นักแสดงที่ชื่อ วีร่า วาวีโลว่า ซึ่งแสดงบทบาทของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง โดยใช้ฉากซึ่งสร้างจำลองมาจากห้องต่างๆในทำเนียบขาว มร.เรซิน ผู้ช่วยของผม จะยืนยันคำพูดของผมได้ ท่านเพิ่งเห็นภรรยาประธานาธิบดีในกรุงวอชิงคัน ดี.ซี. และท่านก็เพิ่งได้เห็นคู่เหมือนของหล่อนในกรุงมอสโคว์"
การานินหันไปมองหน้าท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ "วิเศษมาก" เขาพูด
"นายกรัฐมนตรีโซเวียต ผงกศรีษะรับ "ไม่น่าเชื่อเลย" เขายืดตัวขึ้นนั่งตรงๆ "เอาละ เปโตรพ นี่เป็นการหลอกลวงที่เก่งมาก ฉลาดมาก คุณมีแผนการอะไร ?"
"แผนการใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงมากครับ ท่าน" เปโตรพ ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา "ในอีกสองสามปีข้างหน้า การเมืองของโลกอาจจะมาถึงจุดวิกฤต ที่ต้องมีการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ สหภาพโซเวียตฯ และอย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ การเผชิญหน้าอาจจะเกิดขึ้นได้ ในปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับเกาหลี โบเอ็นเด หรือ อิหร่าน และเมื่อถึงตอนนั้น ปัญหามีอยู่ว่าใครจะเป็นฝ่ายถอย เขาถอยหรือเราถอย เพราะถ้าไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมถอย ก็หมายถึงสงคราม และเมื่อถึงตอนนั้นเราต้องแน่ใจว่า เราจะเป็นฝ่ายมีชัย เราจะต้องมีอาวุธลับที่จะพิชิตเขาให้ได้ และสิ่งที่ท่านเพิ่งเห็นจากในหนังเมื่อสักครู่นี้ เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้เป็นอาวุธลับที่ว่านั้นได้ ถ้าเรามีผู้หญิงที่เหมือนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา จนไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าหล่อนไม่ใช่ และถ้าเราสามารถส่งหล่อนเข้าไปไว้ในทำเนียบขาว แทนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งตัวจริง แม้เพียงในระยะเวลาสั้นๆโดยไม่มีใครรู้ หล่อนก็จะกลายเป็นสายลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์งานจารกรรมของเราทีเดียว เราจะมีโอกาสได้รู้จุดมุ่งหมายทุกอย่างที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลของเขาและพวกที่กระหายสงครามเหล่านั้นคิดเอาไว้ เราจะสามารถเข้าถึงกลยุทธและแผนการต่างๆของเขาล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้เราเป็นฝ่ายมีชัยเมื่อเกิดวิกฤติกาลขึ้น"
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
ในที่สุด นายกรัฐมนตรี คีเรเชนโก้ ทำลายความเงียบด้วยการกล่าวว่า "มันเป็นไปได้หรือ เป็นได้จริงๆหรือ ?"
"ท่านหมายความว่าหล่อนทำได้เช่นนั้นจริงหรือไม่ ใช่ไหมขอรับ ?" "หล่อนทำได้ไหม ?"
เปโตรพพยักหน้า "หล่อนทำได้และยินดีจะทำ ถ้ามีโอกาส ท่านก็ได้เห็นหลักฐานแล้วว่าหล่อนคือ บิลลี่ แบรดฟอร์ด ผมใคร่ขออนุญาตกราบเรียนให้ท่านทราบว่า แผนการนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เราเตรียมหล่อนให้พร้อมอย่างไรบ้าง เรามีแผนจะเตรียมหล่อนให้พร้อมมากขึ้นไปอีกอย่างไร และเราตั้งใจจะให้หล่อนทำอะไรบ้าง"
ต่อจากนั้น เปโตรพเล่าเรื่องราวทั้งหมด โดยปราศจากการหยุดชะงักหรือการรบกวนใดๆจากผู้ฟัง เขาใช้เวลาทั้งหมดสี่สิบห้านาที
เมื่อเล่าจบ เปโตรพรู้สึกเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ทัน "นั่นเป็นเรื่องราวทั้งหมด สหายคีเรเชนโก้"
"แล้วฉันมีอะไรบ้างล่ะ ? " ท่านนายกรัฐมนตรีพูดด้วยเสียงต่ำๆ "ฉันมีแต่เพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งพร้อมที่จะทำงานที่เสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิต ฉันมีแค่นั้นไม่ใช่หรือ ? การเล่นหนังเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การคาดหวังว่าหล่อนจะทนอยู่ในสภาพเช่นนั้นเป็นวันๆ หรืออาจเป็นอาทิตย์ๆ แล้วก็ผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีปัญหานั้น เป็นเรื่องเหลือเชื่อ หล่อนอาจจะพลาดทำให้เรื่องเปิดเผยออกมา หนังถ้าถ่ายทำไม่ดีหรือเล่นไม่ดี ก็ถ่ายทำใหม่ได้ แต่บทบาทในชีวิตจริง ---"
"สหายคีเรเช็นโก้" เปโตรพขัดขึ้นอย่างร้อนรน "หล่อนไม่เคยทำพลาดแม้แต่ครั้งเดียวในระหว่างการถ่ายทำ และหล่อนก็จะไม่มีวันพลาดเมื่อไปทำงานจริงๆ ผมเอาตำแหน่งหน้าที่การงานของผมเป็นเดิมพัน ว่าหล่อนจะทนทำงานอยู่ที่นั่นได้โดยไม่มีกำหนดเวลา"
คีเรเช็นโก้ มองหน้าหัวหน้าใหญ่องค์การเคจีบีของเขาอย่างพินิจพิจารณา "ถ้าหล่อนทำพลาด คอคุณขาด" "ผมทราบครับ ท่าน" " ถ้าหล่อนพลาด หล่อนจะทำให้ประเทศชาติของหล่อนและประชากรของชาติทุกคนตกอยู่ในอันตราย" "ผมทราบดีครับท่าน" "คุณรู้แล้วยังคิดจะทำอีกหรือ ?"
"แน่นอนครับ ท่าน" เปโตรพ ตอบอย่างมั่นใจ "เพราะผมเชื่อว่าหล่อนจะไม่มีวันพลาดหล่อนจะทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน หล่อนจะรีดเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์มาให้เรา ซึ่งเราไม่สามารถหาได้โดยวิธีอื่น หล่อนจะทำให้เราได้ล่วงรู้ถึงแผนการทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา ความลับต่างๆจะถูกนำมาเปิดเผยโดยสิ้นเชิง ถ้าท่านถามว่ามีอันตรายไหม ? ผมตอบได้เลยว่ามันมีอันตรายแน่ แต่ท่านก็คงทราบดีว่าสิ่งต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ก็ต้องเสี่ยงอันตรายทั้งนั้นไม่ใช่หรือขอรับ ?" "ถ้าหล่อนทำพลาดแม้แต่เพียงครั้งเดียว" คีเรเชนโก้กล่าว " เกียรติยศชื่อเสียงของเราในสายตาของชาวโลก ก็จะเสียหายยับเยิน---และจะทำให้เราเข้าสู่ภาวะสงคราม"
"ที่ท่านพูดมานั้นผมเห็นด้วยทุกอย่าง แต่ถ้าเราสามารถล้วงความลับมาได้ ซึ่งผมแน่ใจว่าเราต้องได้ มันจะทำให้เรามีอำนาจเหนือสหรัฐอเมริกาในอนาคต"
ท่านนายกรัฐมนตรีนั่งเงียบอย่างใช้ความคิด
การานินเอียงตัวเข้าไปใกล้ท่านนายกรัฐมนตรีแล้วกระซิบว่า "มันเป็นโอกาสที่หาค่ามิได้"
คีเรเชนโก้ ไม่สนใจการานิน เขาเงยหน้าขึ้นและประสานตากับหัวหน้าใหญ่เคจีบี
"คุณพยายามชักจูงเหลือเกินนะ สหายเปโตรพ" สายตาของเขาเลื่อนไปจับที่จอภาพยนตร์ซึ่งว่างเปล่า "และหล่อนก็คงเหมือนกัน" เขาสบตากับเปโตรพอีกครั้งหนึ่ง "คุณต้องการอะไรบ้าง ?"
"สองอย่างครับท่าน อย่างแรกคือคำอนุมัติจากท่านให้ผมดำเนินการต่อไปตามแผน แต่แน่นอน การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นของท่านแต่เพียงผู้เดียว เมื่อเวลานั้นมาถึงท่านจะเป็นคนตัดสิน ว่าจะยกเลิกหรือดำเนินการได้เลย แต่ตอนนี้---ผมต้องการคำอนุญาตจากท่านให้ผมดำเนินการเตรียมการต่อ"
"ตกลง ฉันอนุญาต" "แล้วเงินค่าใช้จ่ายเล่าครับ ?" "อนุมัติ"
ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนี้ เป็นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อเกือบสามปีมาแล้ว ตอนนี้เปโตรพคืนกลับมาสู่ปัจจุบัน การนับถอยหลังจะเริ่มต้นตั้งแต่พรุ่งนี้ ความจริงก็คืนนี้แหละ เพราะนาฬิกาบนโต๊ะทำงานของเขาชี้บอกเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกเจ็ดสิบสองชั่วโมง การรอคอยช่างน่าเบื่อเสียนี่กระไร
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 55 09:14:32
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 11:27:24
จากคุณ |
:
ดอยสะเก็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 55 19:37:10
|
|
|
|