เสียงไพเราะของบทเพลงจากโทรศัพท์มือถือดังต่อเนื่องอยู่นาน กว่าที่เจ้าของเครื่องจะรู้ตัวหยิบมันขึ้นมา ชื่อที่ปรากฏอยู่ช่วยให้เธอหายง่วง
กันต์เหรอ มีอะไรโทรมาแต่เช้าเลย เธอถามพลางหาวหวอด แล้วเหลือบมองนาฬิกาบนตู้ข้างเตียงซึ่งบอกเวลาเกือบหกโมงเช้า
อย่าบอกนะว่านุ่นยังไม่ตื่น ปลายสายจับสังเกตได้หัวเราะร่า
อื่อ หญิงสาวยอมรับ ขยับตัวลุกจากผ้าห่มขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง ก็ยังไม่ตื่นน่ะสิ ปกติวันหยุดหรือปิดเทอม กว่านุ่นจะตื่นก็ปาเข้าไปแปดโมงเช้า
ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ กับคำบอกเล่าอย่างตรงไปตรงมาของเธอ
แล้วกันต์ล่ะ ต้องตื่นแต่เช้าแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ
จ้ะ บ้านไกลตัวเมืองไง ต้องออกแต่เช้า ไม่งั้นไปทำงานไม่ทัน
จริงสินะ เขามีภาระหน้าที่และวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากเธอ หญิงสาวคืนสติคิดทบทวน
แล้วมีไรเหรอ ถึงโทรมาแต่เช้าเลย เสียงของเธอยังฟังดูงัวเงีย
ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะ เขาตอบอย่างอารมณ์ดี พลางออกจากห้องมาสวมรองเท้า แค่คิดถึงเฉย ๆ
นริศราเงียบอึ้งไปกับคำบอกนั้น
แหม เว่อ ฟังแล้วเขินจนอดไม่ได้ที่จะค่อนแคะเขา ไม่จริงหรอก เมื่อวานก็เพิ่งเจอกัน
อ้าว โทนเสียงนุ่มนวลคลุกเคล้าปะปนกับเสียงหัวเราะเบา ๆ เพิ่งเจอกันแล้วคิดถึงไม่ได้เหรอ
ชายหนุ่มยืนยันเช่นนั้น แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนบันไดขั้นบนสุดของระเบียง สายลมอ่อน ๆ โชยผ่านให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
กันต์อ่ะ ไม่ต้องมาพูดหรอก เธอเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบเสียงไปพัก คิดถึงงั้นงี้ พอเวลานัดกันทีไรก็เบี้ยว
นริศราคงยังไม่คลายความขุ่นเคืองใจเดิม ๆ ที่เคยมีต่อเขา ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักใจ
ต่อไป ไม่เบี้ยวแล้วล่ะ เสียงของเขาทุ้มต่ำลงให้ความรู้สึกจริงจังจนสัมผัสได้ สัญญาเลย แล้วก็...จะไม่ผิดสัญญาด้วย
เธอขันเมื่อเขารีบแก้ต่าง ก่อนที่จะสวนกลับไป
ไม่ต้องสัญญาหรอก เธอว่า พิสูจน์ให้เห็นดีกว่า กันต์ต้องไม่เบี้ยว ไม่ผิดนัดกับนุ่นอีก
ถ้อยคำที่ฟังดูเหมือนร้องขอเล่น ๆ นั้น ช่างเปี่ยมไปด้วยพลังน้ำเสียงอันหนักแน่น
จ้า เขารับคำแล้วรีบถือโอกาสสานต่อ แล้ววันนี้เราเจอกันที่ไหนดี
หญิงสาวนิ่งคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง
สองวันนี้คงไปไม่ได้หรอกกันต์ เสาร์อาทิตย์นี้แม่ขอให้อยู่ช่วยทำขนม
อ้าวเป็นงั้นไป
น้ำเสียงผิดหวังของเขาทำให้เธอต้องรีบปลอบ
ไว้วันจันทร์นะ เป็นวันเปิดเทอมพอดี นุ่นจะไปรับกันต์ไปเรียนวันแรก แล้วจะมีเซอร์ไพร์สด้วยล่ะ นะกันต์นะ อย่าว่ากันเลย
สุ้มเสียงไพเราะลอดมาสาย หวนรำลึกถึงดวงหน้าหวานของเจ้าของเสียงแล้ว เขาโกรธไม่ลงจริง ๆ
ก็ได้จ้ะ เขากระซิบ อารมณ์คะนึงหาท้วมท้นอยู่ในอก จนอดไม่ได้ที่จะสัมผัสริมฝีปากลงบนวัตถุต้นกำเนิดเสียง แล้วเจอกันจ้ะ
จูบโทรศัพท์แบบนั้น เจอตัวจริงเค้า นายจะกล้าจูบหรือเปล่า
เสียงหยอกล้อกลั่วหัวเราะดังขึ้นทันทีเมื่อเขาวางสาย ชายหนุ่มเพ่งสายตามองลงไปข้างล่าง เกียรติก้องกำลังยืนยิ้มกว้างให้เขาอยู่
โธ่ ดูถูกกันได้ กันต์ธีร์เก็บโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกงอย่างหงุดหงิด นึกโมโหตัวเองที่เมื่อสักครู่ไม่ทันสังเกตเห็นเขา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
ก็มาทันเห็นตอนนายจูบโทรศัพท์ละกัน
ร่างสูงย่ำเท้าขึ้นมายังระเบียงชั้นบน สีหน้ามีร่องรอยของความเหนื่อยล้าและอิดโรย กระนั้น กระแสตาก็ยังเปี่ยมด้วยแววเย้าหยอก
นายรู้หรือเปล่า
เขาหยุดถอดรองเท้าแล้วโน้มตัวลงไปกระซิบผู้อ่อนวัยกว่า
กับผู้หญิงเนี่ย ต้องปากว่ามือถึง ต้วมเตี้ยมอย่างนาย มีหวังไม่ทันกิน ว่าแล้วก็เปล่งหัวเราะเสียงดัง แล้วตรงไปที่ห้องของตัวเอง
คำของพี่ชายทำให้เขาหวนระลึกถึงความรู้สึกเมื่อคืนวานที่ได้อยู่ใกล้ชิดเธอ สัมผัสแผ่วเบาบนริมฝีปากที่ดูเหมือนว่า นริศรายังหวาดหวั่นและไม่มั่นใจในตัวเขา
ชายหนุ่มสลัดศีรษะขณะย่างเท้าลงบันได พยายามตัดความคิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเธอทิ้งไป เพื่อเร่งรีบเดินทางไปทำงาน
เฮ้ย กันต์ นายเห็นนุชหรือเปล่าวะ
เสียงนั้นทำให้ฝีเท้าของเขาชะงัก แล้วแหงนมองขึ้นไปชั้นบน
อ้าว ไม่รู้สิ ไม่อยู่ในห้องเหรอ
ร่างสูงของเกียรติก้องยืนเกาะอยู่ที่ขอบระเบียงไม้ ทอดมองลงมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ไปซื้อของกินที่ตลาดมั้ง ผู้เยาว์วัยกว่าคาด
เป็นไปได้ยาก นี่มันเพิ่งหกโมงเช้า นายก็รู้ นุชตื่นสายอย่างกับอะไร คนพูดยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ เพื่อย้ำความแน่ใจอีกครั้ง แล้วที่สำคัญ สภาพห้องนอนเมื่อวานเป็นไงเป็นงั้นเลย เหมือนเค้าไม่ได้นอน
กันต์ธีร์ส่ายหน้า รู้สึกระอากับความระหองระแหงของทั้งคู่
ก็เมื่อวานนายไล่เค้าไม่ใช้เหรอ คงงอนไปนอนบ้านเพื่อนแถวรามฯ แล้วมั้ง เดี๋ยวเงินหมดก็กลับมาเองแหละ เขาว่าพลางตรงไปที่ประตูรั้ว แล้วเดินผ่านออกไปอย่างไม่ใส่ใจ
ไล่
เกียรติก้องพึมพำครุ่นคิดทบทวนอย่างไม่เข้าใจ ไล่เหรอ...
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ส.ค. 55 10:45:37
|
|
|
|