สัญญารัก...ลวงใจ...[ ตอนที่ 8 ]
|
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 8 ]
แรกรัก..
มินตรารู้สึกอึดอัดมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากรุงเทพ เพราะจู่ๆวสุก็เป็นฝ่ายเงียบไปจนหล่อนรู้สึกอึดอัด...มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันทั้งๆที่ตอนอยู่บนเรือยังรู้สึกดีกันอยู่เลย...เมื่อรถยุโรปราคาแพงของวสุแล่นเข้ามาจอดยังคอนโดของมินตรา หล่อนถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากทีเดียว
" พี่ก้องจะขึ้นมาก่อนไหม " มินตราถามขึ้นเมื่อรถแล่นเข้ามาจอดยังหน้าคอนโดของหล่อน
" ไม่ล่ะ...พี่เหนื่อย " วสุหันกลับมามองหน้ามินตราด้วยแววตาตัดพ้อ..จนมินตรานึกสงสัยและเป็นห่วงก่อนจะจับมือของวสุขึ้นมากุมไว้แนบแก้มไว้อย่างเอาใจ
" ทั้งๆที่พี่ก้องเหนื่อยขนาดนี้..มินก็ยังชอบทำยุ่งอีก...ขอโทษนะคะ " ดวงตาของหล่อนวูบไหวยามเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เกาะ เป็นเพราะหล่อนเองไม่รู้จักควบคุมจิตใจ
" มิน....รู้มั๊ย พี่รักมินมากนะ...ถ้าต้องเสียมินไป พี่จะอยู่ได้ยังไง " วสุลูบไล้ไปที่แก้มของมินตรา เลาะเลยมาถึงซอกคอขาวนุ่มนิ่มก่อนจะกดจูบแรงๆลงไปตรงจุดนั้นอย่างต้องการจะลบร่องรอยค้างเก่าที่มันทิ่มแทงใจเขาอยู่ในตอนนี้.....ก่อนจะสวมกอดมินตราแน่นอย่างหวงแหน...
" มินรู้...รู้ดีที่สุดเลย " ถึงจะสงสัยกับท่าทางของคนรักแต่มินตราก็ไม่มีคำพูดอะไรอีก...ทั้งสองต่างกอดกันแน่นอย่างจะถ่ายทอดความรู้สึก....
สำหรับวสุ...มินตราเป็นคนรักคนแรกที่เขาไม่อยากเสียไป แล้วสำหรับมินตราล่ะ...หล่อนเองก็เคยเป็นเหมือนวสุ...ที่รักใครบางคนอย่างสุดหัวใจ...รักจนไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อย่างไรถ้าเสียเขาไปเหมือนกัน... ..............................................................................................................................................
7 ปีก่อน...
" มินอยู่กับพี่เค้าก็ทำตัวดีดีนะลูก...ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆนะจ๊ะ " แม่ของมินตราและรินลดาสั่งความมาทางโทรศัพท์..ถึงลูกสาวทั้งสองที่หล่อนอดเป็นห่วงไม่ได้...อยู่ไกลสายตาอย่างนี้ ลูกจะอยู่ได้ไหม จะเป็นอะไรรึเปล่า นางก็ยังนึกหวั่นใจอยู่เหมือนกัน
" ริน..ดูแลน้องด้วยนะลูก...เพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพแม่เป็นห่วง "
" รู้แล้วจ้ะ...แม่ ไม่ต้องห่วงลูกสุดที่รักของแม่หรอกนะ...พี่คนนี้จะดูแลอย่างดีเลย..." รินลดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงล้อเลียน มินตราที่ยืนแนบหูฟังอยู่ข้างๆถึงกับหัวเราะออกมาในความรักของแม่ที่เห็นหล่อนเป็นเด็กอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง มินตราถึงกับถอนหายใจ....แม่ของหล่อนเห็นลูกสาวเป็นเด็กที่ยังไม่โตสักที......ปีนี้มินตราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังและกำลังจะเข้าศึกษาในชั้นปีที่หนึ่ง ลูกสาวของแม่ไม่ใช่เด็กแล้ว
" พี่ริน...มินขอลงไปซื้อของแป๊บนึงนะ " มินตราน้ำเสียงอ้อนบอกรินลดาอย่างกระตือรือร้น...ก็ที่นี่คือ...กรุงเทพ....เมืองฟ้าอมร หล่อนอยากจะเปิดหูเปิดตาชมความงดงามของมันบ้าง ไหนๆพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเปิดเทอมแล้ว....
" ไปสิ...ระวังหลงนะ...ต้องแขวนเบอร์โทรที่คอด้วยรึเปล่า " รินลดาเอ่ยอย่างนึกขำ พลางขยี้หัวน้องรักเบาๆอย่างเอ็นดู
" พี่ก็...มินไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ..." มินตรากอดเอวพี่สาวสุดที่รักอย่างเอาใจ .............................................................................................................................................. มินตรากับรินลดาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์สามชั้นขนาดเล็กตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ ที่นี่สภาพค่อนข้างเก่าทำให้ราคาไม่แพงจนเกินไป...และที่สำคัญยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยอีกด้วย แม่ของหล่อนไม่ใช่คนร่ำรวย...แค่พออยู่พอกิน...แต่สองพี่น้องก็มีความสุขกับชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ที่สุด
หลังจากซื้อของใช้เสร็จมินตราก็กลับมาที่พัก...กำลังจะเปิดประตูห้องอยู่แล้วก็ต้องตกใจกับเสียงอะไรบางอย่าง
ดังออกมาจากห้องตรงข้ามกับห้องของหล่อน ที่ห้องนั้นประตูเปิดกว้างค้างอยู่...ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงได้แต่ชะเง้อแอบมองเข้าไปข้างในแต่ก็ได้ยินแต่เสียงไม่เห็นใครสักคน
" แม่ชักจะโมโหแล้วนะโอม....ทำไมต้องย้ายออกมาอยู่ข้างนอก "
" แค่นี้แม่ก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว....ยังจะต้องให้มาห่วงแกอีกเหรอ " เสียงของผู้หญิงสูงวัยสบถเป็นระยะ
" แล้วแม่จะห่วงอะไรผม....วันวันก็ไม่เห็นอยู่....แล้วนี่อะไรถึงกับต้องมาอาละวาดถึงที่นี่เลยเหรอ " เสียงของชายวัยน่าจะไล่เลี่ยกันกับมินตรา...หล่อนเดาว่าน่าจะยังเป็นนักศึกษาอยู่เป็นแน่
" พ่อแกจะมาว่าแม่ได้นะสิว่าไม่ดูแลแก....แม่เหนื่อยจะพูดกับแกแล้ว...ไปคิดดูก็แล้วกันอย่าให้แม่ต้องพูดบ่อย... " บ่นว่าพลางนางก็กลับออกจากห้องมาอย่างหัวเสีย...เจอเข้ากับมินตราที่ยืนพิงผนังค้างอยู่ นางเพียงแค่ชายตาแลมองมินตราเพียงแวบเดียวก่อนจะเดินเชิดออกไป จนมินตราถึงกับเหวอไป
เมื่ออดรนทนที่จะเก็บความสงสัยต่อไปไม่ไหว....มินตราจึงเดินย่องเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้นเรื่อยๆ
" เธอ...มาทำอะไร " จู่ๆผู้ชายคนที่มินตราได้ยินแต่เสียงเมื่อสักครู่ก็โผล่พรวดออกมายืนขวางอยู่หน้าประตู มินตรามองไปตรงหน้า ก็พบกับแผงอกแกร่งไม่ได้สวมเสื้อของเขาในระยะประชิดสายตา ทำเอาหล่อนถึงกับสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมามองด้วยใจที่เต้นตึกตัก ก่อนจะตั้งสติได้จึงระล่ำระลักตอบ
" คือ....ฉะ...ฉัน...เห็นประตูมันเปิดอยู่...ก็เลย " มินตรารีบก้มหัวขอโทษ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดูผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง..ซึ่งทำให้หล่อนถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าผู้ชายคนนี้ดูดีมากทีเดียว
" อยากรู้อยากเห็นว่างั้น....งั้นก็ออกไปเลยไป " ชายหนุ่มผละจากที่พิงประตูอยู่เมื่อครู่แล้วดันประตูปิดใส่หน้ามินตราซะจนหล่อนถึงกับอึ้งไปเลย
" อะไรของเขาเนี่ย " มินตราสบถ...จากที่กำลังเคลิ้มอยู่เมื่อกี้...หล่อนถึงกับเซ็ง
" ผู้ชายอะไร...หน้าตาก็ดี...พูดจาไม่เป็นสับปะรด...ไอ้บ้าเอ๊ย!!! " มินตราเบะปากอย่างขัดใจ แถมด้วยคำพูดประโยคสุดท้ายที่หล่อนตะโกนเสียงดัง...เผื่อไปถึงคนเมื่อกี้ที่อยู่ในห้องจะได้ยิน...
อีตาบ้า...ทำมินตราเสียหน้าสุดๆไปเลย...
................ วันแรกของมินตราในมหาวิทยาลัยชื่อดัง หล่อนตื่นเต้นจนอกแทบระเบิดถึงกับรบเร้ารินลดาให้ไปมหาวิทยาลัยด้วยกันตั้งแต่เช้า...ก็ตอนนี้หล่อนกำลังจะเป็นนิสิตสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดน่ะสิ...พอมาถึงก็พบเพื่อนของรินลดารออยู่ ผู้ชายรูปร่างสูงหน้าตาจัดว่าดีมากคนนั้นชื่อ...วสุ
" มิน....สวัสดีเพื่อนพี่สิ....พี่เขาชื่อพี่ก้องจ้ะ " รินลดาแนะนำมินตราให้รู้จักกับเพื่อนรักของหล่อน พลางหันมาส่งยิ้มทักทายให้กับวสุ เพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง....
" สวัสดีค่ะ พี่ก้อง...ชื่อมินตราค่ะ หรือจะเรียกมินเฉยๆก็ได้ค่ะ มินเป็นน้องสาวแท้ๆของพี่รินค่ะ " มินตรายิ้มน่ารักก่อนจะแนะนำตัวพลางไหว้แสดงความเคารพ
" เอ่อ....สวัสดี....พะ....พี่ชื่อก้องครับ...น้องมิน " วสุแนะนำตัวเสร็จพร้อมกับยกมือขวาขึ้นเกาท้ายทอยเบาๆ แสดงความขัดเขิน มินตราแอบหัวเราะขำพร้อมหันมาบอกพี่สาว
" พี่ริน พี่ก้องนี่น่ารักดีนะ...ดูสิ....พี่เค้าเหมือนจะเขินมินเลย " มินตราหันไปบอกรินลดาอย่างนึกขำ...จนรินลดาอดนึกระแวงขึ้นมาไม่ได้ วสุมีท่าทีตื่นเต้นเป็นอย่างมากถึงกับอาสาพามินตราชมทั่วมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว...
.............................................................................................................................. " ถึงแล้วครับห้องเรียนของน้องมิน วสุขันอาสาพาหล่อนมาส่งจนถึงห้องเรียนตึกคณะ หลายคนต่างพากันหันมามองเพราะรุ่นพี่ เดือนมหาวิทยาลัย มาส่งคนน่ารักน้องใหม่ถึงที่ เพราะมัวแต่ชมนั่นชมนี่กับวสุ ทำให้มินตราได้ที่นั่งเกือบจะหลังสุดของห้องทีเดียว
" นี่...นี่...ฉันชื่ออรณี เรียกอ้วนหรืออรก็ได้...แล้วเธอชื่ออะไร " ทันทีที่มินตรานั่งประจำที่ คนตัวอวบที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็หันมาคุยด้วยอย่างเป็นมิตร
" ฉันชื่อ....มินตรา เรียกมินก็ได้จ้ะ....ยินดีที่ได้รู้จักนะ " ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้แก่กัน อรณีเป็นคนสวย นิสัยร่าเริง คุยเก่ง... มินตรารู้สึกดีใจที่เพื่อนใหม่ของหล่อนอัธยาศัยดี...แถมหน้าตายังสวยน่ารักอีกด้วย
.........................................................................................................
จนกระทั่งช่วงเวลาพักเที่ยง....โรงอาหารคราคร่ำไปด้วยนักศึกษามากมายจนแทบจะไม่มีที่นั่ง...อรณีจึงขันอาสาไปซื้ออาหารมาเผื่อมินตรา แล้วให้หล่อนรีบไปจองที่นั่งแทนเผื่อตัวหล่อนเองด้วย
" เฮ้อ...ทำไมคนเยอะอย่างนี้นะ " มินตราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ปกติหล่อนไม่ใช่คนที่ชอบแย่งของหรืออะไรกับใคร พอเจอที่นั่งที่ดูเหมือนจะว่าง หล่อนจึงไม่รอช้า...การกระทำของมินตราอยู่ในสายตาของใครบางคนตลอด เขามองดูพฤติกรรมของมินตราพลางขมวดคิ้วอย่างขัดใจ เพราะตนเองเอาหนังสือมาตั้งจองไว้แต่กลับถูกหล่อนเขี่ยออกไปข้างๆ
" นี่...มาทีหลังแล้วแย่งนั่งเฉยเลยหรือไง " น้ำเสียงเอาเรื่องจากใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลัง มินตราถึงกับสะดุ้งโหยงค่อยๆหันไปมองพร้อมกับยิ้มแหยๆให้ หล่อนรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ชายคนนี้อย่างไรพิกล
" ฉันนั่งก่อนนี่ก็เป็นที่ของฉันสิ " มินตรายังไม่วายเถียงจะเอาชนะก็หล่อนมานั่งก่อนเขาจริงๆนี่นา
" นอกจากจะชอบจุ้นจ้านห้องชาวบ้านเขาแล้ว...ยังกวนประสาทได้อีกนะเธอเนี่ย...." ชายหนุ่มจิกกัดหล่อนด้วยคำพูดพลางลงนั่งข้างๆแล้วเอาศอกกระทุ้งสีข้างหล่อนให้เขยิบออกไปอีกต่างหาก...จนหล่อนแทบจะตกม้านั่ง
" นะ...นาย....หะ...ห้องตรงข้ามใช่มั๊ย " มินตราเหวอไปเลยอยู่ดีดีก็เจอสองข้อหาโดยไม่ทันตั้งตัว อธิปเหล่มองอดไม่ได้ที่จะต่อปากต่อคำด้วย...
ทำไมอธิปจะจำไม่ได้...ก็เพราะเขาสะดุดกับดวงตาเศร้าของผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นแล้วน่ะสิ....จะว่าไปยัยตัวยุ่งที่มีดวงตาเศร้าคนนี้ก็หน้าตาน่ารักดีเหมือนกัน...
" เฮ้ย..โอม...น้องคนสวยนี่ใครกันวะ กิ๊กใหม่รึไง " เสียงทักทายจากเพื่อนของผู้ชายคนข้างๆ มินตราหันขวับไปมองด้วยสายตาตำหนิเปิดเผย
" ฉันไม่ใช่น้องใคร...บอกเพื่อนนายด้วย...อย่ามาสนิท " มินตราที่กำลังอารมณ์เสียได้ที่..หันไปบอกอธิปลอยๆ
" โห...แรง...แซวเล่นแค่นิดเดียวเอง....ฉันชื่อภาณุ เรียกณุก็ได้...อยู่วิศวะปีหนึ่ง " ภาณุยิ้มหวานให้
" ส่วนนี่..เพื่อนฉันไอ้โอม หรืออธิป......วิศวะปีหนึ่งเหมือนกัน " ภาณุตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ เพราะเขากับอธิปสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมแล้ว
" พูดดีๆแบบนี้ ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย...ฉันมินตรา เรียกมินก็ได้...อยู่สถาปัตย์ปีหนึ่ง.." ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรกันมากนัก อรณีก็เข้ามาร่วมวง พร้อมด้วยอาหารสำหรับตัวเองและมินตรา บรรยากาศการสนทนาจึงค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะประปราย มิตรภาพเริ่มเกิดขึ้นทีละน้อย...ทีละน้อย....โดยไม่รู้ตัว
นอกจากอรณีแล้ว...ตอนนี้มินตราก็มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนแล้ว....อันที่จริงพอได้คุยกันมากขึ้น...อธิปก็ดูเข้าท่าดีเหมือนกัน ถ้าไม่เก๊กน่ะนะ
..............................................................................................................................................
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 55 20:18:50
|
|
|
|