Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ่วงสาง บทที่ 9 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 9



อรุณรุ่งกลับเข้ามาในบ้านพักของเขาโดยใช้เวลาไม่นานนัก พร้อมสมุดแบบมีห่วงเล่มหนาและปากกาใหม่เอี่ยมสองแท่ง ฮันเตอร์กล่าวขอบคุณก่อนจะรับเครื่องเขียนทั้งหมดมา

“รู้ไหมคะว่าคุณเพิ่งพูดจาเพราะๆ กับฉัน” เธอยิ้มแป้น “ฉันไม่เคยได้ยินคำว่า ครับ หรือ ผม จากคุณมาก่อนเลยค่ะ”

“ถ้าคุณชอบ ผมจะเปลี่ยนคำพูดเสียตอนนี้เลยก็ได้นะ” ฮันเตอร์บอกพลางเรียงกระดาษโน้ตลงสมุด แต่อรุณรุ่งส่ายศีรษะ

“เอาตามที่คุณสะดวกเถอะค่ะ ฉันไม่ถือหรอก” จากนั้นเธอก็ขยับตัวเข้าใกล้ชายหนุ่ม “ดูเหมือนคุณจะงานเยอะทีเดียว มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ”

ฮันเตอร์ชะงักมือที่กำลังแปะกระดาษโน้ตชั่วครู่ ชั่งใจว่าควรจะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องสางดีหรือไม่ แต่แล้วก็ตัดสินใจว่าควรเลื่อนออกไปก่อนเพราะต้องการจัดระเบียบสิ่งที่ได้รู้มาให้ดีกว่านี้ เขาชอบคิดอย่างเป็นระบบมากกว่าจับแพะชนแกะ “ไม่เป็นไรครับ อีกครู่หนึ่งผมก็เขียนเสร็จแล้ว”

“ฉันจะรอค่ะ มีเรื่องอยากคุยกับคุณเยอะแยะเลย” พูดจบ อรุณรุ่งก็เดินไปทางตู้เย็น หยิบชาเขียวออกมาขวดหนึ่งและแก้วอีกสองใบ จัดแจงรินชาเขียวลงแก้วก่อนเดินกลับมายังโซฟา และยื่นแก้วใบหนึ่งให้เขา

“ทานน้ำก่อนค่ะ ถ้าต้องการขนมหรืออะไร ฉันจะไปเอามาให้”

ประโยคนั้นทำให้ฮันเตอร์เผลอกวาดตามองเรือนร่างเธออย่างเผลอไผล กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มแบบเอวต่ำที่เน้นสะโพก ช่วงเอวและเรียวขา กับเสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่โคร่งผูกปลายสาบเสื้อให้ดูโป่งพอง ราวกับคนสวมต้องการอำพรางบางจุด ให้ตายเถอะ! หรือว่า...

ชายหนุ่มสะดุดตรงทรวงอกที่เขาแน่ใจว่าข้างใต้เนื้อผ้าหนาสีดำนั้นไม่มีอะไรปกปิด ก่อนเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องนานเกินไปแล้ว

“ขอบคุณ แต่ผมต้องใช้สมาธิมากสักหน่อย คุณฟังเพลงรอผมไปก่อนดีกว่า”

“ฉันออกไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดและลุกขึ้นยืน แต่ชายหนุ่มคว้าแขนเธอไว้ เขาทนไม่ได้หรอกถ้าหากเธอจะเดินออกไปแล้วเจอกับนายแบบตัวใหญ่ที่เติบโตในยุโรปคนนั้น

“ไม่ต้องหรอก เข้าไปนอนฟังเพลงรอผมในห้องนอนก็ได้ เสร็จแล้วผมจะเรียก”

แล้วภาพวาบหวามของหญิงสาวที่นอนรอเขาอยู่ในห้องนอนก็ผุดขึ้นในความคิด ชายหนุ่มแทบจะตีอกชกหัวตัวเองให้เลือดตกยางออกกันไปข้างหนึ่ง บ้าเอ๊ย! ทำไมถึงพูดอะไรไม่คิดได้ขนาดนี้นะ

“ก็ได้ค่ะ ฉันขอยืมสมาร์ตโฟนของคุณด้วยนะคะ” เห็นได้ชัดว่าอรุณรุ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่กับความคิดชั่วร้ายของอีกฝ่าย เธอยังคงนั่งยิ้มแป้นรอเขาหยิบสมาร์ตโฟนให้ ฮันเตอร์ปิด GPRS และลบเว็บที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทั้งหมดก่อนยื่นให้เธอ

อรุณรุ่งรับมาและเสียบสายฟังไว้กับหูก่อนเดินเข้าห้องนอนของชายหนุ่ม ฮันเตอร์ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงไม่ให้ตัวเองมองสะโพกไหวๆ ที่ลอยห่างออกไปจนเกินงาม เขาเคาะศีรษะตัวเองแรงๆ ก่อนจดจ่อความตั้งใจอยู่กับเรื่องของสาง

เมื่อสมาธิกลับมา เขาก็เริ่มบันทึก

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานมากเท่าใด แต่กว่านายแบบหนุ่มจะรู้สึกตัวก็ตอนที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเขียนบรรทัดสุดท้ายก่อนวางปากกา ลุกขึ้นไปเปิดประตู จากนั้นก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นสาวิตรียืนอยู่หน้าบ้าน

“เย็นมากแล้ว ฉันมารับตัวลูกสาวกลับค่ะ”

ฮันเตอร์ชำเลืองมองนาฬิกา และพบว่ามันเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว “ให้เธออยู่อีกสักพักก็ได้ครับ สักทุ่มหนึ่งผมจะไปส่งเธอเอง”

“ไม่ได้ค่ะ” นางพูดพลางก้าวเข้าไปในบ้านพักของนายแบบหนุ่ม กวาดมองไปทั่วห้องรับแขกก่อนหยุดสายตาตรงสมุดที่เปิดค้างไว้

“ดูเหมือนว่าคุณกำลังทำเรื่องที่น่าสนใจ” นางเปรย และหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขา “มีอะไรอยากถามฉันไหมคะ”

วูบหนึ่งที่ฮันเตอร์คิดว่าการปรากฏตัวของแลงฟอร์ดผู้นี้คือเพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่โดยใช้ลูกสาวเป็นข้ออ้าง เพราะยายคุณหนูนั่นมีปัญหากับภาษาอังกฤษแน่นอน แต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ชายหนุ่มจึงยักไหล่ก่อนตอบ “ให้ผมแน่ใจมากกว่านี้ก่อน แล้วหลังจากนั้นเราคงต้องหาเวลาคุยกันสักหน่อย”

สาวิตรียิ้มพลางพยักหน้าครั้งหนึ่ง “ฉันจะรอค่ะ”

ตอนนั้นเองที่อรุณรุ่งเดินปิดปากหาวออกมาจากห้องนอนของฮันเตอร์ เธอชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อบิดขี้เกียจ ทำให้เห็นสรีระของร่างกายได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงเปิดเผยความลับในจุดที่ชายหนุ่มสงสัยด้วย

แม้จะรู้ว่านี่เป็นการกระทำอันไม่สมควร เพราะมารดาของเจ้าหล่อนก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ ทว่าฮันเตอร์กลับละสายตาจากทรวงอกของเธอไม่ได้

แต่สาวิตรียืนอยู่ในจุดที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มไม่ถนัด ส่วนอรุณรุ่งก็ไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่กับความหมายในสายตาของเขาเลย เธอยิ้มอย่างงัวเงีย ทักทายตามปกติ “ขอโทษค่ะที่เผลอหลับไป อ้าว แม่ขา มาได้ยังไงคะ”

“มาตามลูกนั่นแหละ เย็นมากแล้วรู้ตัวไหม”

คำพูดของมารดาทำให้เธอชำเลืองมองนาฬิกา แล้วดวงตาที่สะลึมสะลืออยู่ก็ลืมโพลงทันที

“ตายจริง รุ่งไม่รู้ตัวเลยค่ะ” พูดจบก็วิ่งพรวดไปหน้าประตูห้อง แต่ก่อนออกจากบ้านพัก อรุณรุ่งเกาะขอบประตูและพูดกับชายหนุ่ม “ไว้พบกันวันพรุ่งนี้นะคะ คุณฮันเตอร์”

เสียงตึงตังที่บอกว่าเจ้าหล่อนรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตนั้นทำให้สาวิตรีโคลงศีรษะ จากนั้นนางก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยให้ฮันเตอร์เป็นเชิงบอกลา ก่อนออกจากบ้านพักของนายแบบหนุ่มตามผู้เป็นลูกสาวไป

เป็นอันว่าเรื่องที่หญิงสาวอยากคุยด้วยก็เป็นอันไม่ได้พูด แต่ฮันเตอร์พอเดาได้ มีแค่ไม่กี่เรื่องที่ยายคุณหนูสนใจและนำมาเป็นหัวข้อสนทนาได้อย่างไม่รู้จบ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องเป็นเรื่องของนายแบบลูกครึ่งเกาหลี คนที่สาวเจ้าปักใจว่าตนเองหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ

ดีแล้วที่เจ้าหล่อนไม่ได้เล่า เพราะมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่อยากฟัง

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 20:19:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com