บทที่ 9
อรุณรุ่งกลับเข้ามาในบ้านพักของเขาโดยใช้เวลาไม่นานนัก พร้อมสมุดแบบมีห่วงเล่มหนาและปากกาใหม่เอี่ยมสองแท่ง ฮันเตอร์กล่าวขอบคุณก่อนจะรับเครื่องเขียนทั้งหมดมา
รู้ไหมคะว่าคุณเพิ่งพูดจาเพราะๆ กับฉัน เธอยิ้มแป้น ฉันไม่เคยได้ยินคำว่า ครับ หรือ ผม จากคุณมาก่อนเลยค่ะ
ถ้าคุณชอบ ผมจะเปลี่ยนคำพูดเสียตอนนี้เลยก็ได้นะ ฮันเตอร์บอกพลางเรียงกระดาษโน้ตลงสมุด แต่อรุณรุ่งส่ายศีรษะ
เอาตามที่คุณสะดวกเถอะค่ะ ฉันไม่ถือหรอก จากนั้นเธอก็ขยับตัวเข้าใกล้ชายหนุ่ม ดูเหมือนคุณจะงานเยอะทีเดียว มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ
ฮันเตอร์ชะงักมือที่กำลังแปะกระดาษโน้ตชั่วครู่ ชั่งใจว่าควรจะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องสางดีหรือไม่ แต่แล้วก็ตัดสินใจว่าควรเลื่อนออกไปก่อนเพราะต้องการจัดระเบียบสิ่งที่ได้รู้มาให้ดีกว่านี้ เขาชอบคิดอย่างเป็นระบบมากกว่าจับแพะชนแกะ ไม่เป็นไรครับ อีกครู่หนึ่งผมก็เขียนเสร็จแล้ว
ฉันจะรอค่ะ มีเรื่องอยากคุยกับคุณเยอะแยะเลย พูดจบ อรุณรุ่งก็เดินไปทางตู้เย็น หยิบชาเขียวออกมาขวดหนึ่งและแก้วอีกสองใบ จัดแจงรินชาเขียวลงแก้วก่อนเดินกลับมายังโซฟา และยื่นแก้วใบหนึ่งให้เขา
ทานน้ำก่อนค่ะ ถ้าต้องการขนมหรืออะไร ฉันจะไปเอามาให้
ประโยคนั้นทำให้ฮันเตอร์เผลอกวาดตามองเรือนร่างเธออย่างเผลอไผล กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มแบบเอวต่ำที่เน้นสะโพก ช่วงเอวและเรียวขา กับเสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่โคร่งผูกปลายสาบเสื้อให้ดูโป่งพอง ราวกับคนสวมต้องการอำพรางบางจุด ให้ตายเถอะ! หรือว่า...
ชายหนุ่มสะดุดตรงทรวงอกที่เขาแน่ใจว่าข้างใต้เนื้อผ้าหนาสีดำนั้นไม่มีอะไรปกปิด ก่อนเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องนานเกินไปแล้ว
ขอบคุณ แต่ผมต้องใช้สมาธิมากสักหน่อย คุณฟังเพลงรอผมไปก่อนดีกว่า
ฉันออกไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ หญิงสาวพูดและลุกขึ้นยืน แต่ชายหนุ่มคว้าแขนเธอไว้ เขาทนไม่ได้หรอกถ้าหากเธอจะเดินออกไปแล้วเจอกับนายแบบตัวใหญ่ที่เติบโตในยุโรปคนนั้น
ไม่ต้องหรอก เข้าไปนอนฟังเพลงรอผมในห้องนอนก็ได้ เสร็จแล้วผมจะเรียก
แล้วภาพวาบหวามของหญิงสาวที่นอนรอเขาอยู่ในห้องนอนก็ผุดขึ้นในความคิด ชายหนุ่มแทบจะตีอกชกหัวตัวเองให้เลือดตกยางออกกันไปข้างหนึ่ง บ้าเอ๊ย! ทำไมถึงพูดอะไรไม่คิดได้ขนาดนี้นะ
ก็ได้ค่ะ ฉันขอยืมสมาร์ตโฟนของคุณด้วยนะคะ เห็นได้ชัดว่าอรุณรุ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่กับความคิดชั่วร้ายของอีกฝ่าย เธอยังคงนั่งยิ้มแป้นรอเขาหยิบสมาร์ตโฟนให้ ฮันเตอร์ปิด GPRS และลบเว็บที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทั้งหมดก่อนยื่นให้เธอ
อรุณรุ่งรับมาและเสียบสายฟังไว้กับหูก่อนเดินเข้าห้องนอนของชายหนุ่ม ฮันเตอร์ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงไม่ให้ตัวเองมองสะโพกไหวๆ ที่ลอยห่างออกไปจนเกินงาม เขาเคาะศีรษะตัวเองแรงๆ ก่อนจดจ่อความตั้งใจอยู่กับเรื่องของสาง
เมื่อสมาธิกลับมา เขาก็เริ่มบันทึก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานมากเท่าใด แต่กว่านายแบบหนุ่มจะรู้สึกตัวก็ตอนที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเขียนบรรทัดสุดท้ายก่อนวางปากกา ลุกขึ้นไปเปิดประตู จากนั้นก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นสาวิตรียืนอยู่หน้าบ้าน
เย็นมากแล้ว ฉันมารับตัวลูกสาวกลับค่ะ
ฮันเตอร์ชำเลืองมองนาฬิกา และพบว่ามันเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ให้เธออยู่อีกสักพักก็ได้ครับ สักทุ่มหนึ่งผมจะไปส่งเธอเอง
ไม่ได้ค่ะ นางพูดพลางก้าวเข้าไปในบ้านพักของนายแบบหนุ่ม กวาดมองไปทั่วห้องรับแขกก่อนหยุดสายตาตรงสมุดที่เปิดค้างไว้
ดูเหมือนว่าคุณกำลังทำเรื่องที่น่าสนใจ นางเปรย และหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขา มีอะไรอยากถามฉันไหมคะ
วูบหนึ่งที่ฮันเตอร์คิดว่าการปรากฏตัวของแลงฟอร์ดผู้นี้คือเพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่โดยใช้ลูกสาวเป็นข้ออ้าง เพราะยายคุณหนูนั่นมีปัญหากับภาษาอังกฤษแน่นอน แต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ชายหนุ่มจึงยักไหล่ก่อนตอบ ให้ผมแน่ใจมากกว่านี้ก่อน แล้วหลังจากนั้นเราคงต้องหาเวลาคุยกันสักหน่อย
สาวิตรียิ้มพลางพยักหน้าครั้งหนึ่ง ฉันจะรอค่ะ
ตอนนั้นเองที่อรุณรุ่งเดินปิดปากหาวออกมาจากห้องนอนของฮันเตอร์ เธอชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อบิดขี้เกียจ ทำให้เห็นสรีระของร่างกายได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงเปิดเผยความลับในจุดที่ชายหนุ่มสงสัยด้วย
แม้จะรู้ว่านี่เป็นการกระทำอันไม่สมควร เพราะมารดาของเจ้าหล่อนก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ ทว่าฮันเตอร์กลับละสายตาจากทรวงอกของเธอไม่ได้
แต่สาวิตรียืนอยู่ในจุดที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มไม่ถนัด ส่วนอรุณรุ่งก็ไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่กับความหมายในสายตาของเขาเลย เธอยิ้มอย่างงัวเงีย ทักทายตามปกติ ขอโทษค่ะที่เผลอหลับไป อ้าว แม่ขา มาได้ยังไงคะ
มาตามลูกนั่นแหละ เย็นมากแล้วรู้ตัวไหม
คำพูดของมารดาทำให้เธอชำเลืองมองนาฬิกา แล้วดวงตาที่สะลึมสะลืออยู่ก็ลืมโพลงทันที
ตายจริง รุ่งไม่รู้ตัวเลยค่ะ พูดจบก็วิ่งพรวดไปหน้าประตูห้อง แต่ก่อนออกจากบ้านพัก อรุณรุ่งเกาะขอบประตูและพูดกับชายหนุ่ม ไว้พบกันวันพรุ่งนี้นะคะ คุณฮันเตอร์
เสียงตึงตังที่บอกว่าเจ้าหล่อนรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตนั้นทำให้สาวิตรีโคลงศีรษะ จากนั้นนางก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยให้ฮันเตอร์เป็นเชิงบอกลา ก่อนออกจากบ้านพักของนายแบบหนุ่มตามผู้เป็นลูกสาวไป
เป็นอันว่าเรื่องที่หญิงสาวอยากคุยด้วยก็เป็นอันไม่ได้พูด แต่ฮันเตอร์พอเดาได้ มีแค่ไม่กี่เรื่องที่ยายคุณหนูสนใจและนำมาเป็นหัวข้อสนทนาได้อย่างไม่รู้จบ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องเป็นเรื่องของนายแบบลูกครึ่งเกาหลี คนที่สาวเจ้าปักใจว่าตนเองหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ
ดีแล้วที่เจ้าหล่อนไม่ได้เล่า เพราะมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่อยากฟัง
จากคุณ |
:
g_maru
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 55 20:19:01
|
|
|
|