Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลขาเนื้อทอง :: ยอแสงแข - 13 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12565042/W12565042.html

บทที่ 13

อมฤทธิ์ถอนใจพรวดเมื่อวางสาย เขาถลึงตาใส่คุณทนายจอมบ้าบิ่น แล้วค่อยเผยความคิด ไม่สิ ต้องเรียกว่าคาดเดามากกว่า แล้วมันก็ถูกเผงเสียด้วย

"เป็นยังไงล่ะ ซื้อหวยถูกแบบนี้ละก็ ฉันคงปิดสำนักงานไปซื้อสวนสักสิบยี่สิบแปลงนอนตีพุงสบายไปแล้ว"

"เวลาประชดหรือ"

"เออ"

ปัญปัทม์ทำปากยื่น เวลาสามเดือนของเธอหดสั้นลงอีกหนึ่งวันแล้วนะ โมโหตรงฉัตรเหมือนกัน ทำไมเขาสงบสยบความเคลื่อนไหวได้อย่างเก่งอย่างน่าเกลียดแบบนี้นะ

เธอส่งเสียง 'เฮ้ย เฮ่อ' อะไรก็ไม่ทราบออกมาให้อมฤทธิ์ตวัดค้อนหงุดหงิด ตอนนี้ในใจของเจ้านายใจดีเริ่มจะสำนึกแล้วละว่าตัดสินใจผิดถนัดที่รับงานชิ้นนี้

"เอาเถอะ อยากดื่มน้ำสะอาดที่สุด มันก็ต้องดั้นด้นจากตีนดอยไปให้ถึงยอดดอยนั่นแหละ ของแบบนี้มันเลี่ยงความเหนื่อยไม่ได้นี่"

อมฤทธิ์พยักหน้าหงอยๆ สงสารลูกน้องคนเก่ง ช่างมีกำลังใจและพลังฮึดอันล้นเหลือ ตอนนี้ เขาเริ่มลังเลแล้วละว่าระหว่างณพนากับตรงฉัตร สองคนนี้ใครเก่งกว่าใคร

"แล้วจะทำยังไงต่อไป" เขาหารือเสียงหม่นๆ

"ก็ในเมื่อคุณพันศิลป์พูดเองว่าจะเข้าทางคุณตรงฉัตร แม้ภาพที่ส่งไปจะคุกคามให้เขารวนไม่ได้ แต่ปัทม์เชื่อว่าเขาต้องรวนแน่ ยิ่งมีภาพ เขาก็ยิ่งแก้ตัวยาก จริงไม่จริง ก็มีแต่เขาที่รู้ แต่หลักฐานจะมัดปากมัดตัวเขาให้ดิ้นไม่หลุด เขาต้องแพ้เราแน่ค่ะ"

"พี่กำลังให้คนช่วยตามสืบประวัติคุณตรงฉัตรอยู่นะ เอ้อ แกลองดูนี่ซิ คิดว่าจะมีประโยชน์กับแกหรือเปล่า"

ปัญปัทม์เก็บรูปทั้งหมดใส่ซองสีน้ำตาลก่อน มันเป็นรูปที่เธอแอบถ่ายได้เมื่อวานนี้ แล้วส่งให้พันศิลป์ดูก่อน ทางโน้นหัวเราะขำๆ แต่ก็ยังส่งต่อไปยังเป้าหมาย เขาเปรยทีเล่นทีจริงว่า

"ผมไม่คิดว่ารูปเด็กๆ แบบนี้จะต้อนไอ้แมงดาปีกทองจนมุมได้หรอกนะ แต่ก็เอาเถอะ ที่ที่มีประกายไฟ ยังไงก็ต้องเกรงใจกลิ่นน้ำมันกันบ้าง ผมจะเล่นสนุกกับมันสักเกม คุณทำหน้าที่ของคุณต่อไป ทำให้เต็มที่ภายในสามเดือนที่ผมกำหนด ถ้าไม่สำเร็จจริง เราจะเดินหน้าลุยให้ถึงศาลเป็นเรื่องเป็นราว และต้องไม่แพ้"

นั่นล่ะ คือครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้คุยกับเจ้านายโดยตรง เจ้าของคดีฟ้องหย่าพิลึกกึกกือ อยากหย่าแต่ไม่อยากโฉ่งฉ่าง ส่วนฝ่ายโน้น โฉ่งฉ่างก็เชิญ แต่ให้ตายก็ไม่หย่า ครั้นเลี้ยวไปหาตรงฉัตร พ่อเลขาหน้าขรึมก็ตะบี้ตะบันยืนกรานอยู่ประโยคเดียวว่า 'ผมไม่เกี่ยว'

แฟ้มบางสีเทาที่อมฤทธิ์เลื่อนมาวางตรงหน้าบรรจุข้อมูลที่นักสืบของเขาไปควานหามาได้ มันก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับประวัติของตรงฉัตรเสียทีเดียว แต่มันก็เป็นเบาะแสที่โดดเด่นมากท่ามกลางความว่างเปล่าในเวลานี้

"คนขับรถคนเก่าของคุณณพนาหรือคะ"

เธอกวาดตาอ่านเร็วแล้วเงยหน้าถามให้แน่ใจ เพราะตามที่ระบุในนี้ 'ลุงเฉิดชัย' เป็นคนขับรถที่นักบริหารสาวใหญ่ในวันวานไว้ใจนักหนา นัยว่าเป็นคนขับรถตกทอดมาจากรุ่นมารดาของหล่อนอีกต่อเสียด้วย

"มันเกี่ยวอะไรกับคุณตรงฉัตรวะ"

เธอพึมพำกับตัวเอง แต่อมฤทธิ์ได้ยินแล้วยิ้มละเหี่ย เป็นทนายความที่หยาบกระด้างห้าวห้วน หาดีไม่ได้เลยจริงๆ

เสร็จจากคดีนี้แล้ว เขาอาจต้องจับเข่าคุย แนะแนวทางอาชีพใหม่ที่เหมาะสมกว่าให้เธอเก็บไปพิจารณาแล้วล่ะ หรือไม่ก็ เปิดร้านถ่ายรูปอย่างที่ใฝ่ฝันนั่นแหละ แล้วยึดเป็นธุรกิจถาวรไปเลย ไม่ต้องเป็นงานอดิรงอดิเรกให้วุ่นวายหรอก

แต่พออ่านไปอีกสักหลายบรรทัด คราวนี้ ตาเรียวมุ่งมั่นก็พลันวาวประกายใสปิ๊ง ซ้ำยังฉีกยิ้มกว้างดั่งว่าเจ้าตัวเจอแล้วล่ะ หลุมยักษ์ที่ซ่อนขุมทรัพย์ทองคำ

"บอกด้วยเว้ย บอกด้วย" เจ้านายรุ่นพี่ก็รีบเอะอะ อยากมีส่วนร่วมด้วย

"แล้วปัทม์จะบอก แต่ไม่ใช่ตอนนี้ รอไว้.. " เธอลากเสียงลีลาน่าตบ แต่สักพักก็ทำท่าสะดุ้ง รีบพลิกข้อมือดูนาฬิกา แล้วร้องเอะอะขึ้น "ว้ายๆ ไม่ได้การแล้ว ปัทม์ต้องรีบไปก่อน แล้วได้ความคืบหน้าเอบวกบีบวกยังไง ปัทม์จะโทรมารายงาน"

"จะไปไหนล่ะ เฮ้ย ไอ้ปัทม์ แกต้องบอกพี่ก่อน ไอ้ปัทม์ ไอ้ปัทม์โว้ย รอเดี๋ยว มันต้องบอกกันก่อนสิวะ ไอ้นี่"

อมฤทธิ์โมโหตัวเองจัง แอบด่าลูกน้องจอมห้าวอยู่ในใจไม่ทันไร ตัวเองก็พลอยห้วนพลอยหยาบไปด้วยแล้ว

ก็มันน่าสงสัยนี่หว่า จู่ๆ ก็ตาเป็นประกายเหมือนเจอรักแท้กลางถนน แล้วก็ลุกผลุนผลันร้อนรนเหมือนโดนไฟลนก้น ดูสิ แม้แต่เขาจะวิ่งตามมาติดๆ ก็ยังไม่ทันแม่ตัวปลิว โน่น เหาะไปกับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเสียแล้ว




แย่แล้ว เธอมาช้าไปแค่เสี้ยวนาทีเอง ตรงฉัตรขับรถออกไปกับณพนาเสียแล้ว หุ่นเล็กรีบเคลื่อนปรูดปราดไปเกาะหน้าต่างป้อมยาม โผล่หน้าพรวดพราดอวดเหงื่อมันเยิ้มให้พี่ยามรูปหล่อสะดุ้งก่อนแล้วอุทาน 'เฮ้ย'

"ฉันเองค่ะ แหม คนกันเอง ยังไม่ชินอีกหรือคะ ฉันไม่อยากเสียเที่ยว พี่ยามบอกฉันหน่อยสิคะ คุณตรงฉัตรออกไปไหน พอจะทราบไหมคะ"

"ผมจะบอกได้ยังไง ไม่ใช่หน้าที่ของผมสักหน่อย ขืนทะเล่อทะล่าไปถามส่งเดช คุณนาก็แว้ดให้เท่านั้นเอง"

ปัญปัทม์ก็รู้คำตอบก่อนแล้ว แต่แค่อยากเสี่ยง ทุกอย่างและทุกนาทีที่เธอเดินไปหามันตลอดระยะเวลาสามเดือนของพันศิลป์ต้องเสี่ยงหมด เธอจะไม่ยอมพลาดเพียงแค่ว่ารู้คำตอบก่อนแล้วแม้แต่เรื่องเดียว

"พี่ยามว่าฉันถามใครได้บ้างคะ"

อันนี้ก็รู้คำตอบแล้วว่าพี่ยามต้องส่ายหน้าปัดภาระไป มันไม่ใช่หน้าที่ของเขาจริงๆ อะไรที่เขาพอคุยพอเล่าได้ เขาก็มีน้ำใจดีอยู่แล้ว เธอไม่ควรบีบคั้นให้เขาอึดอัด ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีใครให้คำตอบ เธอก็จะรอไว้ถามตรงฉัตรนั่นแหละ

พี่ยามรูปหล่อโคลงหัวตากลอก มันออกจะเหลือเชื่อกับการเคลื่อนไหววูบไปวาบมาเหมือนสายลมของสาวทนายตัวเล็กคนนั้นเสียจริงๆ ดูสิ เธอซอยเท้าจ้ำอ้าวเข้าสำนักงานไปแล้ว

เขานั่งลง รินน้ำดื่ม ใจก็คิดไปว่าต่อให้เธอทราบว่าตรงฉัตรไปไหน แล้วเธอจะทำยังไง ตัวสูงกว่าพุ่มเข็มนิดหน่อยเองจะไล่ตามภารกิจร้อยแปดพันประการในแต่ละวันของพ่อเลขาเนื้อทองทันหรือ เธอจะเหนื่อยเปล่าน่ะสิ แต่ก็ตามใจเธอ เสียงแข็งตาดื้อแบบนั้น เตือนไปเขาก็ 'เหนื่อยเปล่า'




ไม่หรอก ปัญปัทม์จะไม่เหนื่อยเปล่า เธอมุ่งมั่นออกอย่างนั้น ถ้าตรงฉัตรมีนิสัยคิดก่อนพูดก่อนทำ เธอก็มีนิสัยนั้นอยู่นะ

ตอนนี้เธอเข้าสู่ระบบจริงจังมากเลย สองเท้าก็มุ่งตรงดิ่งไปเตร่ไม่รู้ไม่ชี้ใกล้ห้องทำงานของตรงฉัตร เห็นผู้ช่วยเลขานั่งผัดแป้ง อันที่จริง หน้าก็นวลดีอยู่แล้วนะ แน่ะ เติมลิปสติกด้วย ทั้งที่เคลือบๆ อยู่มันก็หนาจนปากจะปลิ้นอยู่แล้ว

"คุณอีกแล้ว" เสียงนั้นตึงแกมเบื่อเชียว

"ค่ะ แต่ไม่ต้องบอกฉันนะคะ ตอนฉันมาถึง คุณตรงฉัตรขับรถออกไปแล้ว"

"อ้าว รู้แล้วทำไมยัง.. "

"ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่ร้อน เหนื่อย เลยอยากมานั่งพักตากแอร์สักชั่วโมง เดี๋ยวฉันจะไล่กวดเขาไปเอง รับรองว่าทัน"

"คุณทราบได้ยังไงว่าคุณตรงฉัตรไปไหน"

ปัญปัทม์ยักไหล่ เธอมั่นใจว่าถ้าโทรไปถาม ตรงฉัตรต้องบอกแน่ เขายโสในความเก่งของตัวเอง มองข้ามหัวทุยสวยๆ ของเธออย่างประมาท แล้วเธอจะสอนบทเรียนให้เขาเองว่าอย่าริอ่านมองข้ามไอ้ปัทม์ เพราะถ้ามันไม่แน่จริง มันก็สะกดเสียงสุนัขหมดตรอกไม่ได้หรอก

คุณผู้ช่วยเลขาคนสวยเลิกสนใจเธอผู้น่าเบื่อหน่ายแล้ว ปัญปัทม์คิดว่าอย่างนั้นนะ สังเกตจากปากเบะๆ แวบหนึ่งกับยักไหล่อีกนิดนั่นแหละ ตอนนี้ ก็ก้มง่วนควานหาอะไรก็ไม่รู้ในกระเป๋าบนตัก

อ้อ ที่ปัดแก้ม ตามสบายเถอะ เธอมีเป้าหมายอีกแห่งต้องไปสำรวจ และเชื่อว่าหล่อนก็จะไม่สนใจว่าเธอจะหายหัวไปไหนเหมือนเช่นที่ผ่านๆ มานั่นล่ะ

สาวสวยใช้เวลาเตร่ไม่นานนัก เพราะออกจะคุ้นสถานที่พอสมควร เพียงแต่เป้าหมายใหม่ยังไม่เคยอยู่ในหัวมาก่อน จึงต้องสำรวจที่ทางกันสักเล็กน้อย แล้วไม่กี่นาทีเอง มันก็มาตระหง่านมั่นคงกลางดวงตาลิงโลด

อยู่นี่เองใช่ไหมห้องอันหรูหราของฝ่ายบุคลากร ปัญปัทม์ยิ้มกระหยิ่มอย่างมีแผน ตาเรียวใสหรี่ลึกอย่างมุ่งมั่น ในใจก็ทักทายกับมันอย่างเป็นมิตรว่า 'แล้วคืนนี้เจอกันนะจ๊ะ'




ตรงฉัตรยิ้มในหน้าเมื่อสาวทนายจอมบ้าบิ่นโทรเข้า ดีหน่อยว่าจอดรอสัญญาณไฟตรงสี่แยกพอดี ณพนาก็ทุ่มสมาธิกับเอกสารสัญญาบนตัก เขากดปุ่มแล้วกรอกเสียงทุ้มสุขุมให้ฝ่ายโน้นยิ้มเบิกบาน

"ตรงฉัตรครับ"

"ฉันรู้แล้วว่าต้องเป็นคุณ จะบอกให้คุณภูมิใจไว้นะว่าอะไรก็ตามที่รวมๆ กันแล้วเป็นคุณน่ะ มันทองคำล้ำค่าหมด"

"ขอบคุณ นั่นคุณอยู่ไหนครับ"

"ถามได้ ก็จ่อท้ายรถคุณอยู่นี่ไง หันหลังมาดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าไอ้ปัทม์มันเก่งแค่ไหน"

ตรงฉัตรเลิกคิ้วตาเป็นประกาย เขาไม่เชื่อว่าเธอเก่งอย่างนั้น แต่เขาก็โดนเธอหลอกได้จริงๆ เมื่อหันขวับกลับหลังแล้วไม่พบเงาสาวกวนประสาท

เธอหัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่ที่ล่อหลอกให้เขาหลงกลได้ ส่วนเขาก็ใกล้จะบ้าแล้ว ถึงได้มองอุบายพิเรนทร์นั้นในมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน อย่างเช่นว่า 'น่ารัก'

"เป็นอะไร จู่ๆ ก็หัวเราะ ใกล้จะบ้าแล้วหรือ" ณพนาเงยหน้าจากกองเอกสารบนตัก แล้วถามเสียงสะบัดๆ

"ก็นี่แหละที่แปลก" ตรงฉัตรสวนทันควันตามประสาคนสนิทอกสนิทใจ

"อย่ามาลีลา ฉันยิ่งหัวหมุนๆ อยู่"

"มันแปลกเพราะจนป่านนี้ผมยังไม่บ้าเสียทีไง แค่ใกล้เฉยๆ ทั้งที่ผมคลุกคลีกับคนบ้ามาตั้งหลายปี"

เขาหัวเราะเพราะเดาทางเจ็บตัวได้ แขนซ้ายยกป้องแฟ้มพิฆาตทันที ณพนาคว้าหมับแล้วทุ่มฟาดตึกๆ จนเขาต้องปรามว่ากำลังคุยโทรศัพท์ค้าง หล่อนถึงยอมออมชอมชะลอโทษไว้ก่อน

"ใครยะ"

เขาบอกชื่อปัญปัทม์โดยไม่ออกเสียง เจ้านายสาวใหญ่พออ่านออกก็ตาโต ทำท่ากระตือรือร้น ขยับมาเอียงแก้มชิดแก้ม หล่อนอยากฟังด้วย ก็ไม่เป็นไร อยากฟังก็จะเปิดลำโพงให้เลย ไม่ต้องมาทำเนียนแอบแต๊ะอั๋งหรอก เขารู้ทัน

"ทำไมคุณเงียบไปคะ กำลังอายฉันอยู่ใช่ไหม ไม่เป็นไร ฉันไอ้ปัทม์ไม่มีนิสัยซ้ำเติมใครหรอกค่ะ อ้อ หรือว่าจะพูดด้วยประโยคสวยๆ คมๆ ฉีกหน้าให้อับอายเหมือนที่คุณชอบทำกับฉัน อันนั้น ฉันก็ไม่ถนัดด้วยนะ ฉันใจกว้าง ฉัน.. "

"คุณยังพูดมากน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งดัดจริตเหมือนเดิมนั่นละครับคุณปัญปัทม์ เข้าสู่ประเด็นธุระของคุณมา ก่อนที่ไฟเขียวจะทำงาน ทันทีที่ผมขับรถ ผมจะไม่คุยโทรศัพท์นะครับ"

"อ้อ ค่ะ" ปัญปัทม์ย่นจมูกใส่โทรศัพท์ในมือ เสียงเขาก็นุ่มทุ้มซึ้งหูดีอยู่หรอก แต่เขาด่าทุกประโยคเลย

"ไฟเหลืองแล้วครับ"

"อ้อ ค่ะ คือฉันมีเรื่องสำคัญมาก" เธอลากเสียงยาวๆ ให้เขาตระหนักว่าสำคัญมากจริงๆ นะ "คุณต้องให้ฉันพบคุณตอนนี้ ไม่อย่างนั้น คุณจะต้องสำนึกเสียใจในภายหลัง แล้วก็ไม่อาจย้อนเวลานาทีทองกลับมาได้ ตอนนั้น คุณจะ.. "

"คุณปัญปัทม์ ไฟเขียวแล้วครับ เท่านี้นะ"

"เดี๋ยว คุณจะไปไหน" ปัญปัทม์ลนลานถามหน้าตื่นหน้าตั้งทันที

"สนามบิน เลี้ยวแยกนี้ไปอีกสักห้าหรือเจ็ดนาทีก็ถึงแล้ว ถ้าคุณตามมาทันภายในหนึ่งชั่วโมง ผมยินดีคุยกับคุณทุกเรื่อง สวัสดีครับคุณปัญปัทม์"

"อ้อ ค่ะ สวัสดีค่ะ"

ณพนาทำหน้าละเหี่ยพร้อมกับส่ายหน้าให้อ่านว่า 'ไร้สาระมาก' ตรงฉัตรหาเรื่องโยนโทรศัพท์ไปแหมะบนตักหล่อน ทำให้หล่อนหันขวับมาถลึงตากัดปาก กำหมัดด้วยแต่ก็ไม่ต่อย คงเพราะเห็นเขาขับรถกระมัง

"อย่าทำหน้าอย่างนั้นครับ ผมจะบอกคุณนาว่านี่แหละวิธีการทำงานของคุณปัญปัทม์"

"ทุเรศน่ะสิ ไม่มืออาชีพเลย"

"คุณนาต้องอาย จนแทรกแผ่นดินหนีอายไม่ทัน เพราะอาจจะกระอักเลือดแค้นตายเสียก่อน ถ้าตอนขึ้นศาลแล้วแพ้ทนายไม่มืออาชีพคนนี้"

เจ้านายสาวใหญ่คลายสีหน้าดูแคลนแล้วเหลียวไปมองแก้มเนียนของคนพูดอย่างลังเลระคนตื่นเต้น ตรงฉัตรกำลังจะบอกอะไรหล่อนหรือเปล่า เขาเอี้ยวหน้ามายิ้มนุ่มเร็ว เลี้ยวรถเข้าสู่บริเวณสนามบิน จนได้ที่จอดเรียบร้อย จึงค่อยถอนใจยาว หันกลับมาแล้วพูดจริงจังว่า

"คู่ต่อสู้ของคุณนาคือคุณพันศิลป์ อย่ามัวแต่หัวเราะเยาะกับสิ่งลวงตาเล็กๆ ที่คุณพันศิลป์โรยให้ชะล่าใจกลางสมรภูมิเลยครับ เผลอๆ คุณนาจะตายไม่รู้ตัวเสียเปล่าๆ "

"นายตรง"

"มันจะไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะคุณนายังมีผม ถ้าจะมีการตายไม่รู้ตัวเกิดขึ้นจริง ผมจะเป็นคนคนนั้นก่อน การตายของผมจะปลุกคุณนาให้ตื่นจากความประมาท แล้วทีนี้ คุณพันศิลป์ก็จะคุกคามคุณนายากขึ้น ตอนนี้ ผมก็แค่เตือนเฉยๆ "

ณพนากลืนน้ำลาย ในทรวงมันสะท้านด้วยแรงตื้นตัน ตรงฉัตรทำให้หล่อนโกรธแค้นตัวเอง บางวูบก็นึกเกลียดเสียด้วยซ้ำ

เพราะหล่อนแท้ๆ หล่อนดึงเขาเข้ามาแปดเปื้อนเขม่าของสงคราม นอกจากไม่ช่วยเช็ดคราบพวกนั้น ไม่ผลักเขาออกไป หล่อนยังจงใจดึงเขามาคลุกเต็มตัวจนตอนนี้อยากให้เขากลับออกไป ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเสียแล้ว

"ยิ่งนายดีกับฉัน ซื่อสัตย์มากมายขนาดนี้ ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิดและเกลียดตัวเอง ฉันใจร้ายและเลือดเย็นต่อนายมากเลย ทำไมฉันต้องรังแกนาย ในเมื่อนายคือคนที่ฉัน.. "

"ผมรักคุณนา จบแค่ความรู้สึกนี้เถอะ"

เขากุมมือเจ้านายเสียงเศร้า ท่าทางก็ประหนึ่งว่าเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และอยากปลอบประโลมใจ แต่ว่าท้ายประโยคนี่สิ ฉายความตั้งใจที่ถูกต้องได้ชัดเจนทีเดียว

"อย่าฟูมฟาย อย่าคร่ำครวญ อย่ารำพัน มันยาวมากเลย คล้ายคุณปัญปัทม์ตอนพ่นน้ำลายจนทุ่งท่วมแล้วผักบุ้งก็ลอยไปลอยมาดัดจริต"

"ต๊าย ไอ้ตรงบ้า ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กปากเสีย ไอ้ทุเรศเอ๊ย ทุกทีเลยนะ พอฉันจะซึ้งเสียหน่อย เป็นต้องสามหาวให้ฉันอยากตบให้ฟันร่วงทุกทีเลย นี่ จะไปไหน แล้วไม่เปิดประตูให้ฉันก่อนหรือยังไง ไอ้บ้าเอ๊ย เป็นเลขาประสาอะไร"

นั่นสิ ตรงฉัตรเป็นเลขาประสาอะไร ชอบใช้วาจาห่ามกระตุ้นโทสะเจ้านาย ประตูรถก็ไม่เปิดให้ ตัวเองพูดจบสาแก่ใจสนุกแล้ว ก็พาหุ่นสูงในชุดสูทสุภาพไหลออกจากรถไปอย่างนุ่มๆ เสียงเปิดปิดประตูก็นุ่มยิ่งกว่านุ่ม

ตอนนี้ก็ไปยืนล้วงกระเป๋าหลบแดดอยู่ใต้ชายคาห่างออกไปตั้งหลายก้าว จึงไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่ได้ยินเลยว่าเจ้านายสาวใหญ่ร้องด่าฉุนเฉียวอะไรบ้าง อ้อ แต่ได้ยินเสียงเปิดปิดประตูรถนะ มันลั่นเต็มสองหูด้วยเสียงนี้ 'โครม'




เจ้านายเลขาเดินเข้าสู่บริเวณด้านในของสนามบินแล้ว ตอนนี้ก็กำลังรอพ่อค้าขี้หลีอย่างกระวนกระวาย ตรงฉัตรยังดูว่าสุขุมสำรวม ต่างจากณพนาที่บิดไปบิดมา เท้าคางก็แล้ว แต่งหน้าก็แล้ว เติมลิปสติกสองสามหน ปัดขนตา แต่งขนคิ้ว จัดทรงผม

ทั้งหมดสารพัดที่หล่อนทำ แสดงถึงความร้อนรุ่มในการรอคอย เงินทุนก้อนใหม่มันคล้ายเครื่องบินกระดาษที่ลอยอยู่บนฟ้า อยากได้มันก็ต้องรอจนแรงลมอ่อน ให้มันค่อยๆ ร่วง แล้วก็ดูว่ามีใครวิ่งไปเก็บ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามี ก็ต้องแย่งกันหน่อย ซอยเท้าเร็วขึ้นอีกนิด

ปัญปัทม์ไม่รู้ไม่ชี้กับเงินทุนจำนวนมหาศาลที่ก่อความร้อนรุ่มท่วมทรวงณพนา เธอก็มีปัญหาให้รุ่มร้อนอยู่เหมือนกัน

เวลาหนึ่งชั่วโมงของตรงฉัตรช่างท้าทายเหลือแสน คนอย่างไอ้ปัญท์แพ้ได้ แต่อย่ามาท้านะ ท้าเมื่อไหร่ เป็นได้เห็นดีกัน นึกหรือว่าใช้เงื่อนไขจำกัดเพียงเท่านั้น จะสกัดการลุยเข้าหาอย่างกล้าหาญของไอ้ปัทม์ได้

คุณพี่รูปหล่อหุ่นล่ำหน้าเข้มเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่เธอซ้อนท้ายมาด้วย ช่างน่ารักเหลือเกิน ป้ายทะเบียนรถมีกี่เลขกี่ตัวอักษร เธอจดไว้หมดแล้ว

งานชิ้นนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ได้ค่าจ้างมาปุ๊บ เธอจะตอบแทนเป็นรางวัลอย่างงามนอกเหนือจากค่าโดยสารในอัตราปกติ บวกด้วยค่าจ้างเพิ่มอีกต่างหาก เพื่อให้เจ้าตัวสนองคำสั่งเข้มเฉียบว่า 'ลูกพี่ ซิ่ง'

สนามบินมันจะไกลสักเท่าไหร่เชียวในความบ้าดีเดือดของปัญปัทม์ เธอลงมาปัดสะโพกที่ร้อนฉ่าและออกจะเมื่อยเอาการ กล้ามเนื้อมันโดนบีบเกร็งอยู่นานละสิ เพราะคุณพี่รูปหล่อซิ่งอย่างเดียวไม่หนำใจ ยังลัดเลาะไปตามซอกช่องแคบห่างอย่างฉวัดเฉวียน

มีบางช่วง ต้นแขนเธอกระทบกระจกมองข้างของรถยนต์คันโก้บางคันเสียด้วย แต่ไม่เป็นไร เพื่อจะมาดูหน้าแห้งๆ ของตรงฉัตร อย่าว่าแต่ต้นแขนช้ำเลย ต่อให้ไหล่หลุด เธอก็จะไม่บ่น

"แล้วฉันจะดูซิว่าคุณจะกล้าคุยอะไรกับฉันบ้าง"

เสียงสาแก่ใจดังพอพ้นลำคอนิดหน่อยกลมกลืนกับสีหน้ามุ่งมั่นดีแท้ เธอมาถึงสนามบินภายในสี่สิบนาทีล่ะ เหลือเวลาอีกตั้งยี่สิบนาทีสำหรับการเร่งฝีเท้าเดินตามหาตัวเขาให้เจอ

อุ๊ย เจอแล้ว โน่นไง นั่งหน้าหล่อมาดเท่กับเจ้านายสาวใหญ่ ท่าทางก็เหมือนมารอใครสักคน

จะรอช้าไปทำไม โทรไปเจรจาเลยสิ แล้วปากจิ้มลิ้มก็ผุดยิ้มยโสนิดๆ เมื่อเห็นเขาหยิบโทรศัพท์แล้วจ้องเบอร์ ทำท่าลังเลว่าจะรับสายดีไหม รับสิ เธออยากให้รับ พอรับปุ๊บ เธอจะถามว่า

"รู้ไหมคะว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน"

"สนามบินครับ"

"คะ" แล้วคำตอบนุ่มนวลก็ตบหน้ายโสเธอแตกกระจาย มันฟ้องด้วยเสียงอุทานเหลือเชื่อที่หลุดออกมานั่นล่ะ

"ผมก็นึกไว้แล้วว่าคุณต้องไม่ทำให้ผมผิดหวังแน่ คุณเป็นใคร ไอ้ปัทม์สุนัขไม่กล้าเห่านี่ใช่ไหม เอาล่ะ ในเมื่อคุณมาถึงแล้ว และทันเวลาตามที่ผมกำหนดเสียด้วย เราก็เลือกโต๊ะว่างสักโต๊ะนั่งคุยกันเถอะ"

"คะ"

"คุณเจอโต๊ะว่างหรือยัง ถ้าเจอแล้วก็บอกมาเลย ผมจะลุกไปหาเดี๋ยวนี้ เจอหรือยังครับคุณปัญปัทม์ ผมให้เวลาหนึ่งนาทีครึ่ง ถ้ายังหาไม่เจอ เราจะยกเลิก.. "

"เอ้อ ไม่ๆ เราจะไม่ยกเลิก ต่อให้ไม่มีโต๊ะว่าง ฉันก็จะพาคุณไปนั่งคุยกันริมถนน คุณรอฉันที่โต๊ะนั่นแหละ ฉันจะเดินไปหาคุณเอง"

โอ๊ย ไอ้ปัทม์เอ๊ย จะเป็นลมเสียให้ได้ พ่อเลขาเนื้อทองคนนี้ต้องเป็นชายที่สวรรค์ส่งลงมาเพื่อคานความเก่งกาจของเธอแน่ๆ เขารู้นั่นรู้นี่ไปเสียหมด เธอคิดอะไร เขาก็อ่านออก เธอจะทำอะไร เขาก็เหมือนจะดักทางได้ไม่เคยผิดสักสายเลย

นี่เขาเก่งหรือสวรรค์ลำเอียงกับเธอกันแน่ ให้ตายสิ ทำไมเธอต้องมารับทำงานหินชิ้นนี้ด้วย มันเริ่มจะยากมากขึ้นกับมากขึ้นทุกทีแล้วนะ

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:13:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com