ท่ามกลางความสลัว แสงสีทองของท้องฟ้านอกหน้าต่างทอสว่างขึ้นทีละน้อย ชาญกวาดมองบรรยากาศสีเทาดำของห้องนอนรอบด้าน กระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ยังวางเด่นชัดอยู่ข้างประตู
ดุจเวียนว่ายอยู่ในความฝัน ข้างกายเขายามนี้ว่างเปล่าปราศจากเธอ และอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอก็จะจากเขาไปชั่วนิรันดร์
รินรดาประคองขันสีเงินใบใหญ่ตรงมาจากประตูรั้วบ้านด้วยใบหน้าอิ่มเอิบ พร้อมด้วยเด็กรับใช้คนสนิท เธอส่งยิ้มมาให้เมื่อเห็นเขา
วันนี้ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ
รอยยิ้มของหญิงสาวแลสงบ กลมกลืนไปกับฉากสีเทาของผืนฟ้า
จ้ะ เขารับคำเพียงสั้น ๆ ซ่อนแววตาโศกด้วยการหันไปโบกมือไล่เด็กรับใช้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หล่อนถอยห่างออกไปอย่างรู้ถึงสถานการณ์
วันนี้รินทำอะไรใส่บาตรจ๊ะ เขาเอ่ยถามขึ้น ขณะเดินเคียงคู่เธอไปยังห้องรับประทานอาหาร
ตุ๋นกระเพาะปลาค่ะ ชาร์ลจะรับประทานรองท้องซะหน่อยไหมคะ เธอถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม้จะมิได้สบมองมา หากเขาก็สัมผัสได้ถึงกระแสความอาลัยจากเธอ
ก็ดีจ้ะ
หนุ่มใหญ่ทอดมองกิริยาอ่อนช้อยของภรรยา ที่บรรจงตักอาหารในโถหยอดใส่ถ้วยใบเล็ก ความรักและอาวรณ์ในหัวใจเอ่อล้น เป็นความจริงหรือที่เธอยอมตัดใจไปจากเขา
ริน... เขาโน้มตัวไปโอบหญิงสาวในดวงใจจากด้านหลัง และจุมพิตเบา ๆ ที่พวงแก้มของเธอ อย่าไปจากผมเลยนะจ๊ะ ผมจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีคุณ
รินรดาสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง หวั่นไหวไปกับถ้อยคำของเขา
นะจ๊ะที่รัก ผมรักคุณมากนะ ถึงชาตินี้เราไม่มีโอกาสจะมีลูกด้วยกัน ผมก็จะไม่เสียใจเลยที่แต่งงานกับคุณ
ความรักและการแต่งงาน ความต้องการมีทายาทเป็นโซ่ทองคล้องใจ ทั้งหมดคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตเธอ
รินรดาหมุนตัวกลับมาสบนัยน์ตาคู่เว้าวอนของสามี คงด้วยฤทธิ์บาปกรรมที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเมินเฉยต่อการตั้งครรภ์ของปรียา ยอมรับและภาคภูมิใจกับการตัดสินใจเลือกของเขา ส่งผลให้ต้องผจญกับความเสียใจในความเจ้าชู้ไม่มีสิ้นสุด และการสูญเสียลูกในท้องอย่างมิอาจเรียกคืนมาได้
รินไม่ได้หายไปจากชีวิตชาร์ลเลยนี่คะ ความรักและผูกพันที่มีต่อชาญ บดบังศีลธรรมครั้งนั้นจนสิ้น ถึงเวลาแล้วที่เธอจะคืนสติสัมปชัญญะให้กับตัวเอง ชาร์ลมีที่อยู่ทางนั้นของรินแล้ว เรายังมีโอกาสพบกันเสมอ จนกว่า...
ไม่... ผมจะไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากคุณ
ชาญโอบร่างภรรยาไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหน จนถึงวันนี้เขายอมรับแล้วว่า คงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หากปราศจากเธอ
ท้องฟ้ายามสายสว่างสดใส แสงแดดอ่อน ๆ อาบไล้ไปทั่วเนินหญ้ากว้างรอบอาณาบริเวณบ้านของชาญ แลไพศาลเขียวชอุ่ม ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งสบายตาไม่ต่างไปจากเมื่อเกือบสิบปีก่อน คราวที่เคยติดตามเขามาถึงบ้านในฐานะคนรัก นับเป็นอดีตอันเลวร้ายและโง่เขลาตลอดมาของเธอ
นี่คุณ สุ้มเสียงตื่นตระหนกทักขึ้นทันทีเมื่อเปิดประตูรถ คุณมาที่นี่อีกทำไมกัน ไหนคุณหนูบอกว่า...
สายตาของสตรีวัยกลางคนยามจับมองมา ราวกับเห็นเธอเป็นตัวประหลาด
ดิฉันมาขอพบชาร์ลคะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรมานัดไว้ล่วงหน้า หญิงสาวบอกเสียงเรียบ ด้วยรู้ตัวดีว่าไม่มีใครในคฤหาสถ์แห่งนี้ต้อนรับการมาเยือนของเธอ
คุณมีธุระอะไร ฝากบอกดิฉันเอาไว้ได้นะคะ ช่วงนี้คุณหนู เอ่อ... คุณชาญไม่สะดวกจะรับแขก
ปรียาสังเกตมองคู่สนทนา ซึ่งมีอาการหวั่นวิตกผสานอยู่ในความรังเกียจเดียดฉันท์ที่เคยมีมาแต่เดิมของหล่อน คงต้องมีเหตุบางประการเกิดขึ้นกับชาญในระยะนี้ หากนั่นมิใช่ประเด็นหลักสำหรับเธอ
ถ้าชาร์ลอยู่ ฉันขอพบเพื่อพูดคุยธุระซักครู่เถอะค่ะป้า คงจะรบกวนเวลาเค้าไม่นาน
สังวาลพิจารณาถ้อยคำและอากัปกิริยาสุภาพของผู้มาเยือนอย่างชั่งใจ หล่อนรู้จักเธอดี สาวสวยอดีตคนรักผู้ซึ่งเคยเพียรพยายามผูกมัดชาญ เธอหายหน้าไปนานหลังการแต่งงานของนายจ้างทั้งคู่ หากทว่าระยะนี้ กลับหวนคืนมาพัวพันกับเขาอีก
พบไม่ได้จริง ๆ ค่ะคุณ หญิงสูงวัยยืนยัน
เป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจวางใจ หากจะปล่อยให้เธอหลุดเข้าไปทำลายความสัมพันธ์อันเปราะบางในช่วงเวลานี้
คุณก็รู้ว่าที่นี่ไม่มีใครต้อนรับคุณ ทำไมถึงยัง...
ทำไมพูดจาเสียมารยาทกับคุณปรียาอย่างงั้นล่ะจ๊ะป้าสังวาล
ชั่วขณะ คนเป็นเจ้าของบ้านก็ปรากฏกายขึ้น รินรดาส่งยิ้มให้แขกอย่างอ่อนโยน
สวัสดีค่ะคุณปรียา ไม่ได้พบกันเสียนานเลย
ปรียานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แม้จะเคยพบกันเพียงแค่ครั้ง หากหญิงสาวผู้ได้ครองครอบหัวใจของชาญก็ยังคงแลบอบบางเยาว์วัยไม่ต่างไปจากเดิม
สวัสดีค่ะ คุณริน... เธอฝืนใจทักตอบ
คุณปรียาต้องการพบชาร์ลหรือคะ ชาร์ลอยู่บ้านพอดี เชิญด้านในเลยค่ะ คนเป็นเจ้าของบ้านกล่าวเชื้อเชิญอย่างมีมารยาท ป้าสังวาลให้เด็กยกน้ำกับของว่างมาให้แขกด้วยนะคะ
ปรียาโผล่มาได้จังหวะ ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเธอกับชาญคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ตนไม่รู้ความเท่านั้น วันนี้แล้วสินะที่ชาญจะเลือกทางเดินชีวิตให้กับตนเอง หญิงสาวแอบคิดเงียบ ๆ ขณะเดินนำผู้มาเยือนเข้าไปภายในบ้าน
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ก.ย. 55 10:52:16
|
|
|
|