Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ภูตคราม บทที่ 14 คำเตือนของมฤต ติดต่อทีมงาน

ภูตครามบทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=26-04-2012&group=22&gblog=1

บทที่ 13 เหตุร้าย
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12607409/W12607409.html

บทที่ 14 คำเตือนของมฤต

ทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงกำลังหลับสนิท ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางดูขาวซีดผิดไปจากที่เห็นจนชินตา พิมมาดามองนิลเนตรด้วยความเป็นห่วงพลางแตะแขนเพื่อนอย่างแผ่วเบา

“นิล”

น้ำตาที่เพิ่งแห้งไหลพรากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวย้อนคิดถึงเหตุการณ์อันน่าระทึก ภาพที่เพื่อนยอมรับเคราะห์เพียงลำพังด้วยการผลักเธอไปให้พ้นทางทำให้เธอรู้สึกเศร้าจนสุดทน หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าคงจะดีกว่านี้ถ้าคนที่นอนอยู่บนเตียงคือตัวเธอ  

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้พิมมาดาเกือบจะเปล่งเสียงร่ำไห้แต่ความที่กลัวว่าเพื่อนจะตื่นขึ้นมาเห็นเธอจึงรีบออกไปยืนที่ระเบียง เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้วหญิงสาวจึงเริ่มทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและนึกขึ้นได้ว่าหากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากภูธรา บางทีนิลเนตรอาจจะไม่ได้แค่เจ็บหนัก และคมกริชคงจะลงมาเล่นงานเธออีกคน

“ทั้งที่เขามาช่วย แต่เรากลับไปพาลใส่”

หญิงสาวพึมพำอย่างสำนึกผิด เป็นจังหวะเดียวกับที่กลิ่นดอกไม้ยามราตรีรวยรินมากระทบจมูก หัวใจของพิมมาดาเต้นแรงขึ้นด้วยความดีใจ เธอหันมองไปรอบตัวพร้อมกับเอ่ยเรียก

“ภูธรา”

ไม่มีแม้เสียงหรือเงาตอบรับ หญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอสั่งห้ามเขาเข้าใกล้ เป็นครั้งแรกที่พิมมาดารู้สึกว่าตัวเองทำความผิดมหันต์ ความเศร้าหวนกลับเข้ามาเกาะกุมหัวใจของเธออีกครั้ง หญิงสาวจึงได้แต่ทอดสายตามองแสงไฟตามอาคารที่ส่องกะพริบวิบวับด้วยความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้าด้านในอย่างเงื่องหงอย แม้นิลเนตรจะนอนอยู่บนเตียงแต่ความเงียบภายในห้องทำให้หญิงสาวรู้สึกโหวงเหวงราวกับอยู่ตัวคนเดียวในโลก สิ่งที่สร้างความเหงาให้กับเธอมากที่สุดก็คือ การอยู่อย่างปราศจากภูธรา

“ถ้าเธอได้ยินเสียงฉันก็ขอให้รีบมาหา”

พิมมาดาพูดเสียงแผ่วแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ด้วยความสำนึกผิดที่ระบายอารมณ์หงุดหงิดใส่ภูธราและภาวนาให้เขามาปลอบใจเธอเหมือนดั่งที่เคยทำ

ความคิดคำนึงอันแรงกล้าของหญิงสาวล่องลอยไปตามสายลมผ่านเทือกเขาลำเนาไพรไปจนถึงใจกลางของผืนป่า เสียงกระซิบเพรียกหาทำให้ภูธราต้องหันหน้าไปยังทิศทางอันเป็นที่มาของกระแสลม หัวใจของภูตหนุ่มเฝ้าพะวงถึงแต่นางอันเป็นที่รัก

“พิม”

เอ่ยออกมาเพียงเท่านั้นก็ต้องหยุดเมื่อมีเสียงแหลมเล็กคล้ายกับเสียงร้องของเหยี่ยวดังขึ้น ภูธราจึงเลื่อนกายตามเหล่าภูตครามที่กำลังไปรวมตัวกันที่ลานโล่งหน้าต้นไม้ใหญ่ ณ ที่นั้นวิษธรกำลังยืนอย่างสง่าอยู่บนขอนไม้ท่ามกลางแสงจันทร์ รัศมีของความเป็นผู้นำเปล่งประกายเจิดจรัสจนไม่มีภูตตนใดกล้ามอง

“ที่ข้าเรียกพวกเจ้าให้มารวมตัวกันในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ”

วิษธรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงก้องกังวานและกวาดมองบริวารที่ยืนรายล้อมโดยรอบด้วยดวงตาคมปลาบดุดัน

“ดังเช่นที่ชาวภูตครามถือปฏิบัติ เมื่อถึงช่วงสิ้นสุดอายุขัยของหัวหน้าก็ต้องมีการคัดเลือกผู้นำคนใหม่ สามฤดูกาลที่ผ่านมาข้าได้เฝ้าดูพวกเจ้ามาโดยตลอดและตกลงใจแล้วว่าผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้ามากที่สุดก็คือมฤต”

ภูตครามผู้มีเรือนกายสูงใหญ่ไม่แพ้ภูธราก้าวไปหยุดยืนตรงหน้า วิษธรวางมือลงบนบ่าของเขาและกล่าวอะไรบางอย่างออกมา มฤตผงกศีรษะรับอย่างเคร่งขรึมและโค้งคำนับให้กับหัวหน้าอย่างนอบน้อม เมื่อเขายืดตัวขึ้นวิษธรจึงกางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับกล่าว

“ข้าขอมอบจิตวิญญาณและพลังชีวิตรวมทั้งความรู้ที่สั่งสมมาทั้งหมดให้กับหัวหน้าคนใหม่ จงรับและปกป้องผืนป่าแห่งนี้ให้เป็นที่อยู่อาศัยอันแสนสงบของชาวภูตคราม”

กล่าวจบร่างของวิษธรก็เปล่งแสงเรืองรองออกมา พริบตามันก็แตกกระจายออกเป็นลูกไฟดวงน้อยคล้ายหิ่งห้อยล่องลอยรอบตัวของมฤต เมื่อภูตหนุ่มผายมือทั้งสองข้างออก ไฟทั้งหมดก็ซึมผ่านเข้าไปในร่าง ไม่กี่อึดใจกายของมฤตก็บังเกิดแสงเป็นประกายเจิดจรัสเช่นเดียวกับวิษธร เหล่าภูตครามทุกตนไม่เว้นแม้ภูธราต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงที่มนุษย์คนใดได้ยินแล้วจะต้องเกิดอาการขวัญผวา กระแสลมเย็นยะเยือกพัดกรรโชกผ่านผืนป่าอย่างรุนแรงจนแทบจะถอนรากให้หลุดออกจากดิน สัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่เคยออกหากินยามราตรีต่างพากันหลบเร้นกายอยู่ในรัง จนเมื่อกลุ่มเมฆเคลื่อนมาบังแสงจันทร์ เสียงเพลงของภูตครามจึงยุติลง  

“บัดนี้ข้าคือหัวหน้าคนใหม่ของภูตคราม” มฤตกล่าวด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจดวงตาคมกริบไล่มองภูตครามไปทีละคน”เราจะดำเนินชีวิตไปตามวิถีของภูตคราม กฏของป่าคือสิ่งที่พวกเจ้าทุกตนต้องพึงปฏิบัติ ผู้ใดบังอาจล่วงละเมิด จะต้องได้รับโทษเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือความตาย”

เสียงซู่ซ่าจากต้นไม้ขนาดยักษ์ที่ยืนต้นอยู่ด้านหลังดังขานรับคำกล่าวของมฤต ภูตครามทุกคนต่างพร้อมใจกันค้อมศีรษะลง เมื่อเห็นว่าคำกล่าวของตนเป็นที่ยอมรับแล้วมฤตจึงพยักหน้าอย่างแช่มช้า

“เมื่อเข้าใจดีแล้วก็ขอให้พวกเจ้าแยกย้ายกันไปได้”

ร่างของภูตครามทุกตนเคลื่อนถอยออกจากลานโล่งและหายวูบไปตามต้นไม้ ภูธราเองก็เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นว่าพิธีมอบสิ้นสุดลงเขาก็คิดที่จะกลับไปหาพิมมาดา แต่ก่อนที่จะได้ทันเลื่อนกาย มฤตก็เอ่ยเรียก

“ภูธรา”

ภูตหนุ่มหยุดชะงักและหันไปมองด้วยความสงสัย อีกฝ่ายจึงก้าวเข้ามาหาพร้อมกับถาม

“เจ้าคิดจะกลับไปที่นั่นอีกหรือ”

ภูธราผงกศีรษะเป็นการตอบ มฤตจึงถอนใจออกมาอย่างยอมจำนน

“หากเป็นเมื่อก่อนข้าคงทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้ากระทำเช่นนั้น แต่บัดนี้ดวงจิตของท่านวิษธรที่สถิตย์อยู่ในตัวของข้าได้บอกเล่าเรื่องราวบางอย่าง”

เขามองหน้าอีกฝ่ายที่ยืนขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง ข้าได้รับรู้ถึงเรื่องราวของความรัก แม้จะไม่เข้าใจนักแต่ก็ไม่คิดจะห้ามเจ้าอีกต่อไป”

“งั้นเจ้ารั้งข้าด้วยเรื่องอะไร”

ภูธราถาม มฤตจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าแน่ใจแล้วหรือที่อยากจะมีร่างเนื้อแบบมนุษย์และใช้ชีวิตร่วมกับหญิงสาวนางนั้น”

“มันเป็นความตั้งใจของข้า แม้จะแทบไม่มีหนทางเลยก็ตาม”

ภูธราตอบเสียงหนัก มฤตจึงยืนนิ่งเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีกว่าเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นมากกว่าภูตตนใด สุดท้ายเขาจึงกล่าว

“ท่านวิษธรมีบางอย่างที่อยากจะบอกเจ้า” เขาเว้นระยะคำพูดไปเล็กน้อยและกล่าวต่อ
”ต้นไม้คือผู้ให้ ภูตครามเองก็เช่นเดียวกัน จงคิดดูให้ดีแล้วเจ้าจะเข้าใจความหมายนี้เอง”

มฤตมองภูธราที่กำลังยืนนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิด

“ตัวข้าเองแม้จะไม่เข้าใจในความรัก แต่อยากจะพูดประโยคหนึ่งให้เจ้าฟัง มันอาจจะแปลกสำหรับชนภูตครามแต่คงไม่ใช่เรื่องประหลาดนักสำหรับเจ้าในเวลานี้”

เขามองอีกฝ่ายแน่วนิ่งและกล่าวเน้นทีละคำ

“รักแท้เท่านั้นที่สามารถสร้างปาฏิหารย์”

มือของมฤตวางลงบนไหล่ภูธรา

“จงกลับไปหานาง และทำความต้องการของเจ้าให้กลายเป็นจริง”

กล่าวจบร่างของมฤตก็เคลื่อนถอยออกห่าง เขาส่งยิ้มให้กับภูธราพร้อมกับคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะเลือนหายไป

“ลาก่อน”

*/*/*/*

มาคุยกันเลยค่า ^0^/
คมกริชถูกพิพากษาเร็วไปหน่อย เอ หรือว่าเราซาดิสต์

จากคุณ : ขุนเขา (ขุนเขาแมกไม้)

- หุ หุ ไม่หรอกค่ะ ความจริงมูนนี่อยากจะให้เขาตายทรมานกว่านี้ แต่ติดที่ว่ามันเป็นนิยายรักเลยเมตตาให้ดับคาที่ไปเลย

เรื่องนี้มีสองบรรยากาศในเรื่องเดียวกัน
(คนอ่านได้กำไรนะ..)
คือส่วนที่ไม่มีภูมิครามมาเกี่ยว (แบบตรงๆ)
กับส่วนที่มีภูติครามมาเกี่ยว (แบบตรงๆ)

จากคุณ : GTW  

- คงจะเพราะภูธราไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ ถ้าการกระทำทั้งหลายเหล่านั้นไม่มีผลกับพิมมาดา แต่เอ...หรือว่าภูตของเราไร้เดียงสาหว่า = =

สนุกมากกกก จะติดตามจบจนเลยค่าา ;)

จากคุณ : Cookies 'n Cream Frappe  

- ขอบคุณมากค่า แต่มีแววว่าจะลงบทหน้าได้เป็นตอนสุดท้ายเท่านั้น ตามสัญญากับทางสนพ.T.T

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานของมูนนี่นะคะ ยังไงมูนนี่ขอฝากนิยายที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ นั่นคือเรื่องความทรงจำในผืนทราย ด้วยค่ะ รับรองว่าเนื้อหาอัดแน่น เต็มไปด้วยคุณภาพและพระเอกหล่อล่ำบาดใจ ^____^

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 12:40:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com