Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Can You See Me? - วันดีๆ ที่มีเธอ ติดต่อทีมงาน

สวัสดีทุกคนครับ หลังจากจัดการ Black Gun And Red Rose เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลามาเดินหน้าโปรเจ็กต์ Love Like Blood กันต่อ แต่ก่อนที่จะไปโปรเจ็กต์นั้น ผมได้เขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ผมเคยได้ยินนักเขียนท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า หากจะเขียนนิยายหรือเรื่องสั้นสักเรื่อง จงเขียนเรื่องที่ตัวเองอยากอ่านเป็นอันดับแรก ตอนนี้ผมอยากอ่านเรื่องนี้มากที่สุด เป็นพล็อตสั้นๆ ที่ผุดขึ้นมาระหว่างการฟังเพลง(อีกแล้ว) จึงลัดคิว Love Like Blood และเขียนมันจนจบ

ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านครับ

ขอบคุณจากใจ love

หมอผี

----------------------------

Can You See Me? - วันดีๆ ที่มีเธอ



เมื่อหมีพบว่าเธอนั่งอยู่ในรถตู้อยู่ก่อนแล้ว หัวใจของเขาก็กลับมาเต้นตึกตัก ซึ่งเป็นอาการประจำที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ

หมีคุ้นชินแล้วกับความรู้สึกที่เรียกว่า การแอบรัก

หมีและเธอเป็นชายหนุ่มและหญิงสาวรุ่นเดียวกัน ทำงานออฟฟิศเหมือนกัน บ้านอยู่ไกลที่ทำงานเหมือนกัน จึงทำให้ได้เจอหน้ากันทุกวัน

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือเธอมักจะนั่งบนเบาะที่ล้ำอยู่ข้างหน้าเขาเสมอ มันเป็นความตั้งใจของหมีเอง เขาชอบที่จะนั่งมองเส้นผมสีดำที่รวบเป็นหางม้าและท้ายทอยขาวผ่องของเธอ เขาไม่เคยรู้ว่าเธอชื่ออะไร หมีรู้ตัวว่าเขาขี้ขลาดเกินไปสำหรับการเริ่มต้น

ในทุกๆ วันที่ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อนั่งรถเมล์มายังคิวรถตู้ ผจญการจราจรอันวุ่นวายของเมืองที่คนรวยเป็นใหญ่ เพื่อไปทำงานแลกเงินเดือนหนึ่งหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยบาท หมีจะใช้เวลาผ่านไปกับการนั่งฟังเพลงจากหูฟังของไอพอดและเฝ้ามองว่าเธอจะทำอะไรบ้าง

เธอกับหมีมีอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือฆ่าเวลาบนรถโดยการนั่งฟังเพลง

เพลงที่หมีฟังส่วนใหญ่เป็นเพลงร็อคจากยุค 90 ซึ่งเป็นยุคที่เขาเติบโต หนึ่งในเพลงโปรดของหมีคือเพลง Live Forever ของวง Oasis

ท่อนหนึ่งของเพลงมีว่า

“...Maybe I will never be
All the things that I want to be
Now is not the time to cry
Nows the time to find out why

I think you're the same as me
We see things they'll never see
You and I are gonna live forever...”


เนื้อหาของเพลงกระแทกใจเขาอย่างแรง หมีมีความฝันว่าอยากเป็นนักร้อง แต่บางทีความฝันของเขาคงไม่มีทางเป็นจริงในชาตินี้ เขารู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นและหมีไม่เคยร้องไห้ เขายอมรับความขี้ขลาดของตัวเองได้เสมอ เขาอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก

หมีอยากเป็นนักร้อง แต่ไม่มีทางเป็นนักร้อง เพราะเขากลัวผลของมันที่จะเผยออกมา

เผยออกมาว่าเขามันเป็นไอ้ห่วยแตกคนหนึ่ง

หมีคิดว่าคงมีใครสักคนที่เหมือนกับเขา ใครสักคนที่อยากโบยบินไปบนฟ้า ละทิ้งความขี้ขลาดของตัวเอง ละทิ้งความกดดันจากคนรอบกาย ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อหมีได้เจอเธอ หมีก็รู้ว่าเขาได้ว่าเจอคนๆ นั้นแล้ว

++++++++

เธอเดินไหล่งุ้ม โอบกอดกระเป๋าสะพายอยู่กับหน้าอก เธอเป็นคนตัวเล็ก ผอม แต่สวยมาก แต่ก็แลดูซึมเซามากๆ เช่นกัน หมีจำได้ว่าวันแรกที่เขาพบเธอ คือวันหนึ่งเมื่อห้าเดือนก่อน เขาและเธอเดินมาขึ้นรถตู้พร้อมกัน พวกเขามาสาย เป็นเวลาที่รถตู้จะออกแล้ว พวกเขาวิ่งมาชนกันตอนจะก้าวขึ้นรถตู้ หมีขอโทษเธอ เธอตอบว่าไม่เป็นไร นั่นคือครั้งเดียวที่พวกเขาได้พูดคุยกัน

หลังจากนั้น หมีไม่เคยมาก่อนเธอ เธอจะนั่งอยู่บนเบาะที่ประจำอยู่แล้วเมื่อเขามาถึง หมีจะก้าวขึ้นรถตู้ บางวันเธอจะเหลือบตามองเขาและยิ้มทักทายเล็กน้อยเมื่อเขาเคลื่อนผ่านไปนั่งด้านหลังเธอ แต่บางวันก็ไม่ หมีผ่านความรู้สึกสับสนนับครั้งไม่ถ้วน ออฟฟิศของเขาและของเธออยู่ไม่ห่างกัน พวกเขาเป็นสองคนที่ลงรถตู้ ณ จุดเดียวกันเพื่อนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปในซอยอีกหนึ่งทอด หมีไม่เคยรู้แน่ชัดว่าออฟฟิศของเธออยู่ที่ไหน แต่เขารู้ว่ามันอยู่ไม่ไกล เขากับเธอต้องเดินคู่กันไปยังคิวมอเตอร์ไซค์ บ่อยครั้งหมีอยากใช้จังหวะนั้นทำความรู้จักกับเธอ แต่หมีก็ยังขี้ขลาดเสมอสำหรับการเริ่มต้น

จนวันหนึ่ง เธอก็หายตัวไป หมีไม่เจอเธอเมื่อเขามาถึงคิวรถตู้ หมีกระวนกระวาย รอให้เธอวิ่งกระหืดกระหอบเมื่อประตูรถเลื่อนปิด แต่รถตู้ก็แล่นออกมา เป็นครั้งแรกที่หมีนั่งรถตู้คันนี้และไม่มีเธอไปด้วย มันทำให้เขานั่งซึม ลืมที่จะหยิบ Oasis ขึ้นมาฟังเหมือนเคย เขาเลยได้ยินหญิงสาวสองคนบนเบาะหลังคุยกันระหว่างทาง

“นี่แก เมื่อวานดูข่าวหรือเปล่ายะ?” คนแรกเริ่ม

“ข่าวอะไร?” คนสองถาม

“เอ๊า ก็ข่าวที่สาวออฟฟิศโดนคนเมาแล้วขับขับรถชนไง ดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองเลยนะ”

“ทำไมถึงดังอ้ะ?”

“ก็คนเห็นเยอะแยะ เกิดเหตุหน้าคิวมอร์’ ไซต์ด้วยนะ เห็นว่าโดนชนสองคน มีผู้ชายกับผู้หญิง คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่ารถเก๋งคันนั้นพุ่งเหเข้ามาทางผู้หญิง แล้วผู้ชายที่เดินมาด้วยกันก็เข้าไปผลักผู้หญิง หวังให้ผู้หญิงพ้นวิถีรถ”

“กรี๊ด โรแมนติก แต่ภาวนาว่าอย่าจบเศร้า เรื่องนี้คงไม่มีใครตายใช่ไหม?”

“ตอนนี้ยังไม่รู้ ผู้ชายอาการโคม่า ส่วนผู้หญิงบาดเจ็บ ไม่รู้ว่าหนักหรือเปล่า”

“เจ้าพระคุ๊ณ อย่าให้เป็นอะไรกันเลยนะ รักกันขนาดนั้น ฉันล่ะเกลียดพวกเมาแล้วขับจริงๆ เข้าพรรษาแท้ๆ”

“แต่แกเอ๊ย ยังมีเด็ดกว่านั้นอีกนะ”

“อะไรหรอ?”

“ก็ผู้หญิงคนนั้นน่ะซี่ เป็นคนที่ฉันกับแกเห็นหน้ากันทุกวันด้วยนะ”

“ใครอ้ะ?”

“แกลองมองผู้โดยสารวันนี้สิ มีใครบ้างที่หายไป”

หมีรู้ดีว่ามีเพียงเธอของเขาเท่านั้นที่หายไป!

เขาได้ยินเสียงหญิงสาวบนเบาะหลังอุทาน “คุณพระ! อย่าบอกนะว่าคนที่เป็นข่าวคือผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบใส่กระโปรงสีครีมนั่นน่ะ?”

“ใช่ เป็นเธอคนนั้นแหละ”

หลังจากนั้น หูของหมีก็อื้ออึง ฟังอะไรไม่รู้เรื่องอีกต่อไป

เขาจำได้ว่า เมื่อวานนี้เขาไม่สบายอย่างกะทันหันจึงไม่ได้ไปทำงาน หมีไม่อยากเชื่อว่าเรื่องที่ได้ยินจะเป็นความจริง เธอประสบอุบัติเหตุ แต่มีผู้ชายคนหนึ่งเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลกเพื่อให้เธอปลอดภัย รักมากขนาดนั้นคงไม่พ้นเป็นคนรักกันแน่ๆ

หมีรู้สึกอยากร้องไห้ ทำไมเขาถึงไม่เคยคิดนะว่าเธอจะมีคนรักอยู่แล้ว ไม่สิ เขาไม่ควรร้องไห้โง่ๆ แบบนั้น แต่เขาควรร้องไห้ให้กับความรักที่ผู้ชายคนนั้นมอบให้เธอมากกว่า หมีรู้สึกชื่นชมชายผู้นั้นที่กล้าหาญเผชิญความเจ็บปวดเพื่อปกป้องคนที่รัก หมีอดคิดไม่ได้ว่า หากให้คนขี้ขลาดอย่างเขาไปอยู่ตรงจุดนั้น เขาอาจยืนตะลึงมองเธอกลืนหายไปใต้ท้องรถก็ได้

หมีก็ได้แต่ภาวนาว่าเธอคงปลอดภัยและเขาคนนั้นก็คงปลอดภัยด้วยเช่นกัน

++++++++

ชีวิตของพนักงานออฟฟิศที่โดนจิกหัวใช้และเป็นที่ระบายอารมณ์ของเจ้านายไม่ใช่เรื่องสนุก หมีไม่เคยสนุกกับชีวิตที่ต้องตอกบัตร เข้าทำงานแปดโมงครึ่ง เลิกงานห้าโมงเย็น เห็นหน้าพ่อแม่น้อยกว่าเห็นหน้าเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมทางบนรถตู้ รถเมล์(บางครั้งรวมถึงรถไฟฟ้า)

หมีเรียนจบคณะบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยมีชื่อ เกรดเฉลี่ยของเขาค่อนข้างดี พ่อแม่ของหมีมีทุนมากพอที่จะให้เขาหยิบยืมมาเปิดร้านอาหารสักร้าน แต่หมีก็ขี้ขลาดเกินไปที่จะเริ่มต้น บางทีอาจเป็นเพราะพ่อแม่ดูแลเขาดีเกินไป หมีจึงหวาดกลัวความล้มเหลว

ไม่ถูกต้องเลยที่จะคิดอย่างนั้น บ่อยครั้งหมีมักจะปรามตัวเองเช่นนี้ เขาไม่ควรโทษพ่อโทษแม่ แต่ควรโทษตัวเขาเองที่ขี้ขลาดเกินไป ครั้งหนึ่ง หมีประหลาดใจที่เห็นเพื่อนร่วมรุ่นที่อยากเป็นนักเขียน ได้รับคำปฏิเสธจากสำนักพิมพ์แต่กลับไม่ได้มีท่าทีผิดหวังเลย เพื่อนคนนั้นยิ้มและบอกเขาว่า

“ชีวิตคนก็เหมือนเพลงร็อค ยิ่งหนักหน่วงยิ่งสนุก ขวากหนามยิ่งมาก มันยิ่งทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น นายลองนึกดูสิ ถ้าเราไม่เคยล้มเหลว ถ้าเราไม่เคยถูกปฏิเสธ แล้ววันข้างหน้า เราจะรู้รสความสำเร็จที่แท้จริงได้ยังไง จริงมั้ยล่ะ?”

ตอนนี้ เพื่อนคนนั้นกลายเป็นนักเขียนอาชีพ มีฐานคนอ่านจำนวนหนึ่ง แม้ไม่เยอะมาก แต่มันก็เพียงพอให้นักเขียนไม่อดตายและสามารถพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ได้เรื่อยๆ

ในขณะเดียวกัน หมียังไม่มีอะไรที่สามารถสร้างความภูมิใจให้ตัวเองได้เลย

หมีมักปลอบใจตัวเองว่า ถึงแม้เขาไม่เคยได้รู้รสชาติความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เคยรู้รสชาติความล้มเหลวเหมือนกัน แม้กระทั่งการสมัครงาน ก็เป็นแม่ของเขาที่นำเขามาฝากให้ผู้ใหญ่ในบริษัทนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้แห่งนี้ การเป็น ‘เด็กเส้น’ ทำให้หมีถูกเพื่อนร่วมงานเย็นชาใส่ในระยะแรก แต่ความที่ไม่เคยเป็นพิษเป็นภัยกับใคร ทุกคนจึงทำลายกำแพงแห่งความเย็นชาทิ้งและรับหมีเป็นเพื่อนในที่สุด

แล้วหมีก็ได้พบเธอ ที่คิวรถตู้

หมีเคยระบายความรู้สึกให้เพื่อนในที่ทำงานฟัง คนที่ฟังต่างเชียร์ให้เขาทำความรู้จักกับเธอ แต่หมีก็ไม่กล้า เขากลัวว่าความล้มเหลวครั้งแรกในชีวิตจะมาจากการเดินเข้าไปทักทายเธอและเธอไม่เล่นด้วย เขาพอใจที่ได้นั่งมองเธอเงียบๆ พลางมีเสียงดนตรีของวงโปรดดังในหูประกอบบรรยากาศมากกว่า

แต่เมื่อได้ทราบข่าวว่าเธอประสบอุบัติเหตุ ความคิดของหมีก็เปลี่ยนไป

หมีรู้สึกทุกข์ใจที่ทุกเช้าเมื่อเขามาถึงคิวรถตู้ ที่นั่งประจำของเธอว่างเปล่า หรือไม่ก็ถูกจับจองโดยคนอื่น เธอหายหน้าไป หมีเป็นห่วงสุดหัวใจ แต่ขี้ขลาดเกินไปแม้กับการเปิดดูข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นหลังอุบติเหตุ เขารับไม่ได้หากค้นพบว่าเธอหรือคนรักของเธอเสียชีวิต หากต้องรู้แบบนั้น สู้ไม่รู้เลยเสียดีกว่า

ดังนั้นในเช้านี้ เมื่อหมีพบว่าเธอนั่งอยู่ในรถตู้อยู่ก่อนแล้ว หัวใจของเขาก็กลับมาเต้นตึกตัก ซึ่งเป็นอาการประจำที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ

หมีคุ้นชินแล้วกับความรู้สึกที่เรียกว่า การแอบรัก

แต่ไม่คุ้นชินเลยกับบรรดาความรู้สึกที่เรียกว่า ความดีใจ โล่งใจ มีชีวิตชีวาเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เธอยังคงสวมกระโปรงสีครีม นั่งบนเบาะเดิม แต่ผิดจากเดิมที่ไม่ช้อนตามองและยิ้มให้ขณะหมีเคลื่อนกายผ่านที่นั่งของเธอ แต่ไม่เป็นไร บางวันเธอก็ไม่ได้ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว หมีบอกตัวเองและรู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอที่เขาเห็นเมื่อครู่ดูเศร้าโศกมาก

หรือว่าคนรักของเธอ...

หมีหยุดความคิดของตัวเอง เขานั่งบนเบาะด้านหลังเธอเช่นเคย วันนี้ก็ครบหนึ่งสัปดาห์พอดีที่เกิดอุบัติเหตุ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นว่าจะมีใครบนรถแสดงท่าทีว่าเห็นเธอ แม้แต่หญิงวัยสามสิบกว่าที่นั่งข้างๆ ซึ่งมักจะพูดคุยกับเธอเล็กน้อยก่อนที่รถจะออกก็ยังนั่งเงียบ

หมีประหลาดใจ เฝ้ามองเธอเสียบหูฟังทั้งสองข้างเงียบๆ ขณะรถตู้เคลื่อนออกจากที่ ฉับพลันนั้น ขนทั่วกายของหมีก็ลุกซู่ หมีไม่รู้ว่าอะไรกันที่ทำให้เขาบังเกิดความคิดเช่นนี้ หมีกำลังคิดว่า เป็นไปได้ไหมที่ทุกคนทำนิ่งเฉยกับเธอ เป็นเพราะไม่มีใครบนรถมองเห็นเธอ

เธอตายแล้ว เป็นผี

อย่างนั้นหรือ?

บ้าชะมัด หมีไล่ความคิดบ้าๆ ออกจากหัว เขาหยิบหูฟังของตัวเองออกมาเสียบรูหูและเปิดเพลงฟัง

แต่ตลอดการเดินทาง หมีก็ไม่อาจขจัด ‘ความคิดบ้าๆ’ ออกจากหัวได้
คนอะไรกันประสบอุบัติเหตุโดนรถชนแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย ใช้เวลาพักฟื้นเพียงเจ็ดวันเท่านั้น?

เมื่อรถตู้แล่นมาถึงจุดที่เขาและเธอต้องลงเพื่อเดินไปที่คิวมอเตอร์ไซค์ เขาประหลาดใจเป็นรอบที่สามสิบเมื่อพบว่าเธอนั่งนิ่งเฉยอยู่ที่เดิม เขาจึงต้องลุกออกจากเบาะและเดินลงไปก่อนเมื่อเห็นคนขับรถเหลียวหน้ามามองด้วยสายตา ‘ถ้าไม่ลง งั้นจะออกรถละนะ’

หลังจากหมีลงรถ เธอก็เดินตามลงมาติดๆ แทบจะห่างกันไม่ถึงสิบวินาที ประตูรถเลื่อนปิด รถตู้กระชากตัวออกไปทิ้งควันจากท่อไอเสียตลบคลุ้งอยู่ด้านหลัง หมีเหลือบมองเธอเก็บหูฟังกับไอพอดลงกระเป๋า แต่ทันใดนั้น หูกระเป๋าก็ขาดผึง กระเป๋าหล่นลงพื้น ของที่อยู่ภายในกระจัดกระจายออกมา

หมีได้ยินเธออุทานออกมาเบาๆ ก่อนถอนหายใจ และก้มลงเก็บของที่กระจัดกระจายใส่กระเป๋าอย่างเหนื่อยหน่าย

คงไม่มีผีที่ไหนจะทำหูกระเป๋าขาดแล้วยังต้องเดือดร้อนนั่งเก็บของทีละชิ้นแบบนี้แน่ๆ

ด้วยความไม่รู้ตัวและไม่ได้คำนึงถึงความล้มเหลวที่อาจจะพบแต่อย่างใด หมีก้มลงและพูดกับเธอว่า

“ให้ช่วยเก็บไหมครับ?”

เธอทำนิ่งเฉย ไม่เงยหน้ามอง ไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีว่าได้ยินคำที่เขาพูด มิหนำซ้ำ ยังรีบเก็บของลงกระเป๋าด้วยความรวดเร็วมากกว่าเดิมอีกด้วย

หมีหน้าชา รู้สึกถึงความอับอายที่ปรากฏบนใบหน้า เขาทำอะไรไม่ถูก รสชาติของความผิดหวังมันเป็นอย่างนี้นี่เอง แม้เธอจะไม่รับมิตรภาพจากเขา แต่ไม่เห็นต้องทำเย็นชาเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งแบบนี้ก็ได้นี่นา หมีคิดอย่างน้อยใจ ขณะนั้นลิปสติกแท่งหนึ่งได้กลิ้งหลุดจากมือของเธอและมาหยุดตรงหน้าเขาพอดี หมีสูดหายใจลึก บอกกับตัวเองว่าเมื่อครู่ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น หมีเอื้อมมือหยิบลิปสติกแท่งนั้นหมายยื่นส่งให้เธอ

แต่เขาก็ต้องตกตะลึง

มือของเขาคว้าลิปสติกไม่ได้ มันผ่านแท่งลิปสติกไปเหมือนหมอกควัน หมีลองเปลี่ยนมืออีกข้าง ผลยังเป็นเหมือนเดิม เขาได้แต่เบิกตามองเธอเอื้อมมือมาหยิบลิปสติกกลับไป เธอหย่อนมันใส่กระเป๋าใบเล็กอีกใบก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินผ่านเขาไป

เธอเดินผ่านเขาไปจริงๆ

เธอเดิน ‘ทะลุ’ ร่างของหมีไปเลย

หมีตั้งสติรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน เขาลุกขึ้นยืน ยกมือแตะสำรวจตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มือของเขาเปรอะไปด้วยเลือด ที่ศีรษะเปียกชุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เลือดเหนียวข้นไหลย้อยลงมาเข้าตา หมีรู้สึกหมดแรงจนต้องทรุดนั่งริมฟุตบาท เลือดทะลักออกปาก หมีถ่มออกมาข้างตัว ยกแขนเสื้อปาดริมฝีปาก ความทรงจำที่แท้จริงเริ่มหวนกลับคืนมาทีละนิด...

เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน เขาไม่ได้ไม่สบาย เขามาทำงานตามปกติ

สถานที่ที่เธอและชายคนนั้นประสบอุบัติเหตุคือหน้าคิวมอเตอร์ไซค์รับจ้างแห่งนี้

ผู้ชายคนนั้นคือเขาเอง

++++++++

มันเป็นวันแห่งชันชนะของหมี วันที่เขาชนะความขี้ขลาดของตัวเอง

เช้าวันนั้นหลังจากลงรถตู้ เขาเดินตามหลังเธอเหมือนทุกวัน แต่เขาก็เร่งฝีเท้าจนทันเธอและรวบรวมความกล้าเอ่ยปากทักทายคำแรก

“วันนี้อากาศดีนะครับ”

ท้องฟ้าวันนั้นมืดมิดขมุกขมัวด้วยเมฆฝน

“ค่ะ” เธอเลิกคิ้วมองเขาอย่างประหลาดใจพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้ายามหัวเราะของเธอ สวยยิ่งกว่าใบหน้าที่ซึมเซาหลายเท่า

“ตอนอยู่ในรถตู้ ผมได้ยินเพลงของ Oasis ลอดออกมาจากหูฟังคุณ ชอบ Oasis เหมือนกันหรือครับ?” เขาถาม เพลง Whatever ที่ลอยออกมาจากหูฟังของเธอก่อนลงจากรถ เป็นสาเหตุให้เขาตัดสินใจเอ่ยปากทักทายเธอในเช้านั้นโดยไม่กลัวความผิดหวัง

“ก็ชอบค่ะ ถามทำไมหรอคะ?”

“อยากบอกว่าผมก็ชอบเหมือนกัน ผมโตมากับเพลงของวงนี้เลยนะครับ” หมีหัวเราะทั้งที่ไม่มีอะไรน่าขำ เขากำลังพยายามทำให้ตัวเองประหม่าน้อยที่สุด

“งั้นระหว่าง Definitely Maybe กับ What’s The Story Morning Glory คุณชอบอัลบั้มชุดไหนมากกว่ากันคะ?” เธอถามเหมือนอยากลองดูว่าเขาจะใช่แฟนของ Oasis จริงหรือไม่

“ถึงเพลงฮิตที่ทำให้ Oasis โด่งดังจะมาจาก What’s The Story Morning Glory เป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับชอบ Definitely Maybe มากกว่า อัลบั้มนี้มีเพลงดีๆ มากมาย ขนาดโนเอลยังเคยให้สัมภาษณ์เลยว่าเขาชอบชุดนี้มากกว่าชุดหลัง” เขาตอบ รู้สึกว่าการพูดคุยกับเธอเป็นธรรมชาติมากขึ้น

“ค่ะ ฉันก็ชอบชุดนั้นเหมือนกัน” เธอว่า ฝีเท้าของพวกเขาที่เดินไปยังคิวมอเตอร์ไซค์เชื่องช้ามาก

“คุณชอบเพลงอะไรครับ?” หมีถาม “ผมชอบ Live Forever ที่สุดเลย”

“Live Forever ก็เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของฉันค่ะ แต่เพลงที่ฉันชอบไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม แต่ว่าออกเป็นซิงเกิ้ลเมื่อปี 94 เหมือนกัน”

“ถ้าให้เดา คงเป็น Whatever ใช่มั้ยครับ?”

“ค่ะ”

หมีนึกถึงท่อนหนึ่งในเพลง Whatever ที่มีว่า

“...I'm free to be whatever I, whatever I choose
And I'll sing the blues if I want

I'm free to say whatever I, whatever I like.
If it's wrong or right, it's alright...”



“คงจะดีนะครับถ้าคนเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น” หมีรำพึง เงยหน้ามองเห็นคิวมอเตอร์ไซค์อยู่อีกไม่ไกล เขาต้องคว้าโอกาสไว้ก่อนจะไม่มีความกล้าเช่นนี้อีก หมีหยุดเท้าและพูด  “ผมชื่อหมีนะครับ แล้วคุณ...”

เธอหยุดเท้า หมุนตัวกลับมามองหมี กระเป๋าของเธอยังกอดอยู่แนบอก สองแก้มนวลของเธอแดงระเรื่อ สองตาเธอช้อนสบตาเขาแวบหนึ่งขณะจะเอ่ยปากบอกชื่อตัวเอง

ฉับพลันนั้น รถสปอร์ตสุดหรูคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง มันพุ่งเข้ามาด้านหลังของเธอ หมีซึ่งยืนหันหน้าเข้าหาเธอในเวลานั้นเห็นอันตรายที่พุ่งเข้ามา หมีไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องราวอื่น เขาเอื้อมสองมือจับไหล่เธอและผลักเธอไปด้านซ้ายมือของตัวเอง

สิ่งที่เขารับรู้ในวินาทีต่อมาคือความเจ็บปวด กระโปรงหน้ารถปะทะเข้ากับลำตัวของเขา หมีกลิ้งไปบนฝากระโปรง ร่างลอยสูงขึ้นกลางอากาศ หมุนคว้าง ก่อนร่วงลงมากระแทกพื้น โดยอวัยวะส่วนแรกที่กระทบพื้นคอนกรีตคือศีรษะ....

++++++++

หมีกำลังบินขึ้นไป เขาบินได้แล้ว เขาสามารถสลัดทิ้งความขี้ขลาดของตัวเองได้แล้วจริงๆ

หมีกำลังนึกถึงประโยคหนึ่งในเพลงที่เขาชอบ Live Forever อย่างสุดเศร้า

“...Maybe I just want to fly
I want to live, I don't want to die
Maybe I just want to breath
Maybe I just don't believe

Maybe you're the same as me
We see things they'll never see
You and I are gonna live forever...”


ร่างของหมี จางลง จางลง และจางลง...


-------------------------------

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 10:16:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com