Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สุดปลายทางหัวใจ -บทที่ 1- ติดต่อทีมงาน

เมื่อไม่เคยหมายว่าจะรัก เมื่อหัวใจรู้จักแต่ความแค้น
แล้วสุดปลายทางหัวใจนั้นจะเป็นเช่นไร...

บทที่ 1

รถโดยสารประจำทางสีส้มครีมวิ่งตัดความมืดเคลื่อนตัวช้าลงจนหยุดสนิทตรงป้ายรอ ประตูเปิดออกปรากฏร่างหญิงสาวซึ่งกำลังก้าวลงอย่างระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงสามนิ้วครึ่งที่สวมอยู่ เธอปล่อยราวประตูทันทีเมื่อเท้าแตะพื้นทั้งสองข้างแล้วเรียบร้อย นึกรำคาญใจไม่ใช่น้อยกับชุดราตรีกระโปรงบานฟูฟ่องและรองเท้าส้นสูงเปิดหัวหนังแก้วสีครีมอ่อนคู่งามที่ทำให้ลงรถประจำทางได้อย่างยากลำบากนัก

เนตรนภิสควานหารองเท้าแตะสภาพสมบุกสมบันในกระเป๋าแล้วรีบสลับเปลี่ยนกับรองเท้าส้นสูงทันทีด้วยท่าทางไม่สมหญิงเท่าใด ดวงหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยโทนสีอ่อนหวานชวนให้หลงใหลนั้นกำลังมีสีหน้าไม่รับแขกอย่างแรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับหญิงสาววัยแรกแย้มทำหน้ายั่วนุ่งน้อยห่มน้อยบนป้ายขนาดใหญ่หน้าสถานบันเทิงที่ผู้ชายหลากหลายวัยจำนวนมากกำลังเดินเข้าเดินออกอย่างคึกคัก

คืนนี้อาบอบนวดหน้าปากซอยบ้านเธอก็มีคนมาใช้บริการเยอะเช่นเคย

หญิงสาวรวบชายกระโปรงพร้อมกระชับเสื้อคลุมแขนยาวไว้ให้มั่นแล้วเร่งฝีเท้าเข้าซอยเล็กที่อยู่ด้านข้าง แม้ว่าจะเคยชินกับสถานบริการครบวงจรแห่งนี้มาตั้งแต่เด็กเพราะเดินผ่านทุกวัน แต่ก็มักจะเลี่ยงไม่กลับในเวลาดึกเนื่องจากรู้ดีว่ากิตติศัพท์ความเถื่อนของย่านนี้เป็นที่ร่ำลือกันมากเพียงใดในหมู่ชาวกรุง

หน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลาห้าทุ่มครึ่ง

เนตรนภิสกดล็อคหน้าจอให้ดับลงแล้วมองบรรยากาศสลัวรอบตัวอย่างไม่ไว้ใจ มีเพียงแสงไฟจากเสาต้นถัดไปที่คอยนำทาง เคล้าไปกับเสียงกระหึ่มของเพลงเพื่อชีวิตจากร้านเหล้าที่อยู่ติดๆกับสถานบันเทิง ...ถ้าหากไม่ใช่เพราะคืนนี้เป็นงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตอย่างบุณยนุช ไม่มีทางเสียที่เนตรนภิสจะยอมกลับบ้านดึกขนาดนี้ ว่าแล้วก็นึกโทษไปถึงสารถีที่รับปากกับเธอว่าไม่ว่าดึกแค่ไหนก็จะมาส่ง

‘เฮ้ยยยยยน้อยหน่า เดี๋ยวเราปายส่งหน่ากลับเอง ขออีกแก้วก่อน’

ธนาธรยิ้มเผล่ชูแก้วใสที่เต็มไปด้วยของเหลวสีอำพันสูงเหนือหัว เนื่องจากเจ้าบ่าวของบุณยนุชเองก็เป็นรุ่นพี่ที่จบมาจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน บรรยากาศงานแต่งงานในยามดึกๆจึงกลายเป็นงานสังสรรค์แบบคึกๆในหมู่เพื่อนฝูงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

‘ไม่ต้องเลยต้น ก๊งต่อไปเถอะ เราคงต้องกลับละ กลับดึกกว่านี้ไม่ไหวหรอก’

หน้าของคนบอกว่าจะไปส่งแดงก่ำอย่างตกอยู่ในฤทธิ์สุรา เนตรนภิสมองแล้วก็เบ้หน้า... เมาขนาดนี้ขับรถทีคงส่ายยิ่งกว่างูเลื้อย

‘หน่า เดี๋ยวๆ นะ ขออีกนิด เอ้าชน’

‘ชนมันเข้าไปนะต้น ชนแก้วต่อแบบนี้มีหวังได้รถชนแน่ เรากลับเองละ’

พอนึกถึงตรงนี้แล้วก็กัดฟันกรอด อุตส่าห์ตั้งท่าเท่แกล้งเดินช้าๆหวังว่าธนาธรจะเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง ที่ไหนได้ พอแอบหันไปมองก็กลับยังก๊งต่ออีกยก ทำเอาหญิงสาวถึงหมดความอดทนกุมขมับอย่างปลอบใจตัวเอง เธอน่าจะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเธอคนนี้ลองได้เมาแล้วรับรองยาวแบบที่ไม่เช้าไม่เลิก จึงจำใจกระโดดขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อเดียวถึงบ้านเพราะกลัวการนั่งแท็กซี่ในยามวิกาล

อีกไม่ไกลนักก็จะสุดซอยแล้ว หญิงสาวเร่งฝีเท้าให้พ้นผับที่ติดกับอาบอบนวดโดยเร็ว

“โอ๊ย!”

เสียงชายร้องตะโกนลั่นอย่างเจ็บปวดดังมาจากเบื้องหน้า เนตรนภิสเพ่งสายตาเห็นร่างที่ค่อยอ่อนยวบลงไปกองที่พื้นพร้อมกับเงาไหวๆของอีกคนที่น่าจะเป็นโจร แม้จะตกใจไม่ใช่น้อยแต่สมองก็ไม่รอช้าคิดหาทางไล่โจรด้วยตัวเองทันที

“ตำรวจคะ! ทางนี้ค่ะทางนี้!”

ไม่ไปแฮะ...

หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆจ้องมองโจรที่หันมามองเธอ สงสัยคงต้องเข้าไปลุยเอง

“เฮ้ยออกไปเดี๋ยวนี้!”

ว่าแล้วก็รวบกระโปรงวิ่งเข้าหาอย่างไม่กลัวด้วยความที่เรียนทั้งคาราเต้และเทควันโดจนสายดำมาแล้วทั้งคู่ เพราะมารดาของเธอนั้นรู้ดีว่าย่านที่อาศัยอยู่นั้นอันตรายเพียงใดจึงให้ลูกสาวไปเรียนรู้เอาไว้เผื่อวันใดจะได้มีโอกาสใช้เช่นวันนี้ โจรเมื่อเห็นเธอวิ่งเข้ามาก็คว้ามีดพกแล้วแกว่งฉวัดเฉวียนอย่างไร้ทิศทางหมายให้โดนสักแผล แต่คู่ต่อสู้สาวกลับหลบซ้ายขวาอย่างคล่องแคล่วกว่าที่คิด

เนตรนภิสพยายามมองหน้าของคนที่สู้ผ่านแสงสลัวด้วยเผื่อจะเรียกตำรวจให้ตามจับถูกตัว เมื่อได้โอกาสคนร้ายเปิดช่องว่าง หญิงสาวไม่รอช้ากำหมัดต่อยท้องเข้าเต็มแรงจนผู้ร้ายลงทรุดตัวลงไปร้องโอดครวญ

ก็อ่อนนี่หว่า...

พลเมืองดีในชุดราตรีแอบคิดในใจก่อนเหลือบมองคนเจ็บที่นอนกองตรงพื้น แสงไฟสลัวจากเสาไฟที่ห่างไปสาดสว่างให้เห็นตีนกาและรอยย่นบนใบหน้าสูงวัยที่บัดนี้ดูไร้สติสัมปชัญญะ แว่นกรอบสีทองทรงโบราณตกอยู่ใกล้ๆ สภาพโดยรวมไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออกแม้จะมีรอยช้ำบนใบหน้าบ้าง

เธอก้มลงหวังจะประคองชายแก่ผู้นี้ขึ้นมาเพื่อช่วยพาออกจากที่นี่โดยเร็ว หากแต่โจรบ้าที่เธอนึกดูถูกนักหน้ากลับคว้ามีดออกมาอีกครั้งอย่างไม่ทันคาดคิดแล้วฟันเข้าให้ เนตรนภิสมองทันพอดีก็หลบโดยเร็วแต่ก็ยังไม่ทันเมื่อปลายมีดคมบาดเนื้อแขนซ้ายเป็นทางยาว เธอไม่เสียเวลาตกใจกับบาดแผลรีบกระโดดถีบยอดหน้าคนร้ายเมื่อเห็นจังหวะเหมาะ พอโดนเข้าไปจังๆขนาดนี้ชายผู้ไม่หวังดีก็รู้แล้วว่าแม้แต่อาวุธก็ไม่สามารถทำร้ายหญิงสาวได้จึงรีบแจ้นหนีไปทันที ในขณะที่เธอก้มลงมองดูเหยื่ออีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“คุณลุงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

ชายเคราะห์ร้ายกระพริบตาอย่างสติเลอะเลือน ส่ายหน้าให้อย่างอ่อนแรงแล้วคอพับลงไป เนตรนภิสคว้าโทรศัพท์ตัวเองเตรียมโทรเรียกรถพยาบาล หากแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าหน้าอกของชายผู้ไม่ได้สติเสียก่อนจึงล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาโดยไม่ขออนุญาตแล้วรับทันทีหวังว่าคนโทรมาจะเป็นลูกหลานหรือญาติของชายผู้นี้

“พ่อ! พ่ออยู่ที่ไหนครับ”

น้ำเสียงทุ้มปลายสายแสดงความร้อนใจจนเนตรนภิสรีบตอบกลับไปโดยเร็วอย่างเข้าใจทันทีว่าคู่สนทนาคงกำลังเป็นห่วงพ่อตนอย่างมาก

“เอ่อ คุณพ่อของคุณตอนนี้ท่านสลบอยู่ที่ข้างๆอาบอบนวดกาแล็คซี่ค่ะ”

“คุณเป็นใคร? แล้วทำไมพ่อของผมถึงไปสลบอยู่ข้างอาบอาบนวดได้?”

คำถามหลังของคู่สนทนาฉายน้ำเสียงโกรธเคืองอย่างชัดเจน เนตรนภิสกระพริบตาปริบๆ... เขาพูดราวกับว่าเป็นความผิดของคนรับโทรศัพท์อย่างเธอที่ทำให้ชายผู้นี้สลบอย่างไรอย่างนั้น

“รีบๆมาเถอะค่ะ ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก ฉันจะโทรเรียกรถพยาบาลด้วยละกันจะได้ช่วยคุณพ่อคุณได้เร็วๆ”

“ไม่ต้อง ตอนนี้ผมอยู่ในซอยข้างๆแล้ว”

แสงไฟจากหน้ารถยุโรปคันหรูค่อยๆสาดส่องสว่างจ้าเข้ามาในซอยจนเนตรนภิสต้องหรี่ตาปรับแสงแทบไม่ทัน ก่อนร่างสูงจะเปิดประตูรถวิ่งตรงมาที่เธอที่ประคองชายชราอยู่

“พ่อ! พ่อครับ”

ชายหนุ่มผู้เป็นลูกรีบฉวยพ่อตนที่สลบอยู่ไปจากเธอทันที เนตรนภิสนึกไม่ชอบใจในความไร้มารยาทของคนตรงหน้าแต่พยายามพูดอย่างใจเย็น

“แค่สลบไปน่ะค่ะ”

คำตอบของเธอทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาโตมีเสน่ห์ใต้คิ้วหน้าเข้มนั้นสบเข้าให้แล้วฉายแววโกรธมายังเธอจนรู้สึกได้ชัดเจน ก่อนที่ปากได้รูปเข้ากับจมูกโด่งจะพูดเสียงดังจนเกือบตะคอก

“ทำอีท่าไหนทำไมพ่อผมถึงเป็นแบบนี้!”

หญิงสาวที่มั่นใจว่าตนเองเป็นพลเมืองดีชักเริ่มมีน้ำโห ถึงจะหล่อขนาดไหนแต่พูดจาสั่วๆขนาดนี้เธอก็คงต้องชี้แจงกันหน่อย

“ตอนฉันมาถึงพ่อของคุณก็สลบอยู่แล้ว พ่อของคุณโดนโจรจี้ทำร้าย”

“แล้วไหนล่ะโจร”

เนตรนภิสเบ้ปาก อยากจะตอกใส่หน้าว่าแล้วไอ้โจรที่ว่ามันจะอยู่ให้โดนจับไหมล่ะ

“หนีไปแล้วค่ะ”

“คุณดูพ่อผมยังไงฮะ ทำไมปล่อยให้พ่อโดนแบบนี้ โจรมันน่าจะเอาตัวคุณไปด้วยนะ”

“นี่คุณ... ฉันว่าคุณคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ ฉันเพิ่งมาถึงก็เจอพ่อของคุณโดนทำร้ายอยู่ ฉันก็เลยเข้ามาไล่”

คราวนี้ชายหนุ่มเหยียดเยาะ ก่อนจะปรามาสเธอคำโต

“โกหก คุณจะอ้างว่าไม่รู้จักกับพ่อผมเพราะกลัวผมเอาเรื่องน่ะสิ”

“แล้วทำไมคุณต้องเอาเรื่องฉัน ฉันทำอะไรผิด นี่ฉันเข้ามาช่วยพ่อคุณนะคะ”

“หยุดได้แล้ว! ผมไม่อยากฟังเมียน้อยอย่างคุณแก้ตัว”

สิ้นเสียงชายหนุ่ม เนตรนภิสอ้าปากค้างไปด้วยความงง...

เมียน้อย?

ยังไม่ทันที่จะได้ตอบกลับอะไรไป กระดาษสีขาวใบเล็กๆก็ถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนที่มือของเธอจะถูกคนตรงหน้าดึงไปแล้วยัดนามบัตรใส่อย่างถือวิสาสะ

“สำหรับฐานะอย่างคุณ... เท่านั้นคงพอประทังชีพนะ”

เนตรนภิสยังอึ้งค้างเมื่อจ้องมองกระดาษตรงหน้า เช็คใบนี้เว้นชื่อผู้รับเอาไว้พร้อมระบุเงินจำนวนหนึ่งแสนบาท

“แล้วก็ถ้าอยากเกาะนักก็ไปเกาะเสี่ยคนอื่นซะ อย่ามาเกาะพ่อผมกิน”

เขาปล่อยเช็คลงทันทีอย่างไม่สนว่าคนรับจับไว้แล้วหรือยัง พร้อมกับรีบลุกขึ้นพยุงพ่อตนเดินไปที่รถหรูโดยเร็ว เนตรนภิสรีบคว้ามันไว้ด้วยมือขวาแล้ววิ่งตามหมายจะมอบคืน

“เดี๋ยวคุณ! เดี๋ยวก่อนค่ะ”

หากแต่รถนั้นเข้าเกียร์หลังค่อยๆถอยออกไปจากซอยเปลี่ยวนี้ แล้วเลี้ยวเข้าซอยถัดไปที่เชื่อมกันโดยเร็ว เนตรนภิสวิ่งตามไปเต็มฝีเท้าหากแต่กำลังขาก็ไม่สามารถสู้กำลังเครื่องยนต์ หญิงสาวทิ้งความพยายามเมื่อเห็นว่ารถออกสู่ถนนใหญ่ไปแล้วพลางหวังว่าคุณลุงคนที่เธอช่วยเอาไว้จะถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย ก่อนที่จะเหลียวกลับมาดูรอยขาดของแขนเสื้อสีดำที่เปิดเผยให้เห็นแผลยาวขนาดกลางจากการพลาดถูกมีดฟันเอาเมื่อครู่นี้

นี่เขาคงไม่เห็นเลือดที่กำลังไหลรินลงมาพ้นชายแขนเสื้อของเธอ...

เนตรนภิสส่ายหน้าพร้อมก้มลงมองเช็คในมือ จะเป็นจะตายเช่นไรเธอก็ต้องนำไปคืนเขาพร้อมกับแก้ความเข้าใจผิดนั้นให้จงได้

บัดนี้แขนของเสื้อนอกสีดำนั้นชุ่มไปด้วยเลือดแดง หญิงสาวกลั้นใจกุมแผลไว้รีบวิ่งกลับบ้านโดยเร็ว สายตานั้นเหลือบไปเห็นชื่อบนนามบัตรที่เพิ่งได้รับ

‘เจนภพ พิทักษ์ภักดี’





ผนังเวิ้งว้างสีขาวสว่างจ้าเบลอหมุนเอนไปมาก่อนจะค่อยๆชัดขึ้นและหยุดนิ่งลงเมื่อดวงตากระพริบปรับโฟกัส ชายวัยเลยหกสิบพยายามยกแขนหนักอึ้งควานหาแว่นตากรอบทองคู่ใจบริเวณหัวเตียงอันเป็นที่วางประจำ หูได้ยินเสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ตรงข้างเตียงก่อนที่มือจะยื่นสิ่งที่ต้องการอยู่

“ที่นี่...”

เจษฎาเอ่ยถามด้วยความอ่อนแรงทันที พลางจ้องมองสายน้ำเกลือที่ไล่ยาวเหนือหัวขึ้นไป รู้ทันทีก่อนที่จะได้รับคำตอบจากลูกชาย

“โรงพยาบาลครับพ่อ”

เจนภพตอบอย่างโล่งใจที่เห็นพ่อฟื้นขึ้นมา นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ยังคงระทึกไม่หาย นี่ถ้าหากว่าพ่อของเขาไม่เผลอลืมยาระงับอาการโรคหัวใจก่อนออกไปเที่ยวอาบอบนวดตามวิสัย เขาคงไม่ได้ออกมาตามหาพ่อและส่งโรงพยาบาลจนปลอดภัยแบบนี้

หมอบอกว่าเป็นเพราะเจษฎามีร่างกายอ่อนแออยู่แล้วเมื่อโดนทำร้ายนิดหน่อยก็สลบได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เจนภพแอบนึกสังเวชในใจ... พ่อก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นแบบนี้ยังมีหน้าไปเที่ยวอาบอบนวด เกิดวันดีคืนดีหัวใจวายคาอกสาวข้างอ่าง วันนั้นเขาคงทั้งเสียใจและทั้งงามหน้าในเวลาเดียวกัน

“กี่โมงแล้ว”

“เที่ยง”

“กลับไปทำงานก่อนก็ได้มั้ง พ่ออยู่ในมือหมอแล้ว”

เจนภพพินิจใบหน้าซีดของพ่อ... ใจนึกเป็นห่วงไม่น้อยแต่ก็มีคำถามที่ต้องการจะคุยด้วย

เจษฎา พิทักษ์ภักดี สำหรับคนทั่วไปต่างก็รู้จักเขาในฐานะกรรมการผู้จัดการของอภิทักษ์ บริษัทผลิตน้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองเพื่อประกอบอาหารระดับแนวหน้าของไทย ความสามารถในฐานะผู้บริหารของเจษฎานั้นเก่งกาจจนเป็นที่ยอมรับนับถือในวงการธุรกิจอย่างมาก หากแต่สำหรับเจนภพ เจษฎาคือบิดาบังเกิดเกล้าที่เจนภพไม่นึกอยากจะเสวนาด้วยเท่าไรนักด้วยสาเหตุที่ความสัมพันธ์พ่อลูกดำเนินไปอย่างกระท่อนกระแท่นมาตลอดเวลาหลังจากที่ภรรยาเสียไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ เจษฎาผู้ซึ่งเป็นมนุษย์บ้างานมาตั้งแต่เริ่มก็ตั้งบริษัทก็กลายยิ่งทุ่มแต่งานหนักขึ้นไปจนลืมเหลียวแลบุตรในอกอย่างที่ควรจะเป็น

“ผู้หญิงคนนั้น... เมียใหม่ของพ่อเหรอ”

เจนภพเปรยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน คนป่วยที่หน้าซีดอยู่ถามย้อนโดยเร็ว

“คนไหน”

ใบหน้าสวยหวานท่ามกลางความสลัวของซอยเปลี่ยวลอยเด่นชัดขึ้นมาในความคิด เธอคงเป็นเด็กรายล่าสุดของเจษฎาอย่างไม่ผิดตัว ก็ในเมื่อก่อนหน้านี้เขาเพิ่งได้รับรายงานจากนักสืบที่เขาจ้างวานถึงลักษณะเมียน้อยคนใหม่ของพ่อว่าเป็นหญิงสาวตาโตท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู สูงประมาณร้อยหกสิบ ผมสีน้ำตาลเข้ม อายุประมาณเบญจเพส... อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสักปีสองปี แถมมีต้นสังกัดคืออาบอบนวดกาแล็กซี่ที่เขาไปตามพ่อเมื่อคืนนี้อีกต่างหาก

แม้จะมั่นใจว่าไม่ผิดแน่ แต่คนเป็นลูกก็อดยั่วไม่ได้ตามความเคยชิน

“มีหลายคนจนจำไม่ได้เหรอ”

“เจน!”

ยิ่งเห็นพ่อดูไม่พอใจมากเท่าใด เจนภพก็ยิ่งยิ้มกระหยิ่มมากเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้แม้ดูผิดจริตของพ่อที่ปกติชอบแต่แบบเนื้อนมไข่ไปหน่อย แต่บางทีท่านก็คงอาจอยากจะเปลี่ยนแนวบ้างอะไรบ้างก็เป็นได้

“เขามาช่วยพ่อไว้หรอก เมียน้อยอะไรกัน”

“ผมไม่เชื่อ พ่อก็พูดอย่างนี้ไปเสียทุกราย”

เจนภพว่าแล้วก็ละจากข้างเตียงไปยังริมระเบียงห้องพิเศษผู้ป่วยแห่งนี้อย่างไม่นึกอยากจะฟังข้อแก้ตัวอื่นใดต่อ แม้คำพูดคำจาของเขาจะแย่แต่เจนภพก็ไม่เห็นว่าเขาควรที่จะพูดจาถนอมน้ำใจบิดาบังเกิดเกล้า... พลางนึกย้อนไปถึงตอนที่มารดาผู้เป็นที่รักที่สุดในโลกจากไป... ตอนนั้นโลกเหมือนจะสลายไปตรงหน้า เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดที่เคยมีรอยยิ้มสดใสตลอดเวลาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความเย็นเยียบและอารมณ์ร้ายกาจที่มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อจากการที่พ่อนั้นไปมีภรรยาน้อยมากมายหลังจากแม่เสียไปพักใหญ่ได้อย่างรวดเร็วจนเกือบจะเรียกได้ว่าน่าเกลียด สิ่งเดียวที่จะทำให้ชายหนุ่มลืมความขมขื่นของชีวิตก็คือการตั้งใจเรียน หมายลืมปมที่พ่อของเขาเป็นคนผูกขึ้นมาในใจอย่างยากจะแก้ไข

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกเจนภพจากภวังค์ หน้าจอปรากฏชื่อเลขานุการสาวผู้รู้งานเป็นอย่างดี

“มีผู้หญิงต้องการจะพบด่วนค่ะคุณเจน”

“วันนี้ผมไม่มีนัดกับใครเป็นพิเศษนี่ มีแค่นัดเจรจากับลูกค้า?”

“ใช่ค่ะ แต่เธอบอกว่ายังไงวันนี้ก็ต้องเจอคุณให้ได้ค่ะ” เสียงปลายสายกระซิบเบาจนเจนภพต้องแนบหูกับโทรศัพท์มากขึ้น

“ชื่ออะไร ถามหรือยัง”

“คุณเนตรนภิสค่ะ”

“เขาเป็นใคร”

“คุณเนตรนภิสบอกว่าเธอเป็นคนที่ช่วยคุณพ่อของคุณเอาไว้เมื่อคืนค่ะ”

ทุกอย่างนิ่งไม่ไหวติงเมื่อเจนภพได้ยินคำนั้น ก่อนที่จะกรอกคำตอบโดยเร็ว

“บอกให้รอที่นั่น ผมจะไปด่วน”

ชายหนุ่มหันหลังกลับมาทางห้องทำให้ม่านมันเงาสีครีมอ่อนพริ้วไหวตามการพลิกตัว ใบหน้าหล่อที่ดูเย็นเยียบไร้ความรู้สึกเปรยกับบิดาที่ส่งสายตาเป็นคำถามมาทางเขา

“ผู้หญิงคนที่ว่ามาแล้ว ผมจะไปเคลียร์กับเขาหน่อย คราวหน้าจะยุ่งกับใครก็เลือกที่จะไม่ทำให้พ่อต้องเจ็บตัวแบบนี้อีกละกัน”

“มันไม่ใช่อย่างที่เจนคิด!”

แต่เสียงนั้นก็ตามไม่ทันลูกชายที่ก้าวเท้าฉับๆเปิดประตูห้องออกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 22:18:52

จากคุณ : Chanuikarn
เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:30:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com