F For Family
อย่าคิดมากเลยนะบี คิดมากไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก ข้าวสวยปลอบขณะช่วยกันเก็บร้านนำเก้าอี้ขึ้นมาคว่ำไว้บนโต๊ะ แต่คุกกี้เป็นหมาฉันนะ พ่อมีสิทธิ์อะไรถึงเอามันไปฆ่า เด็กหญิงบีพูด น้ำตาทำท่าจะไหลออกมาเมื่อนึกภาพตอนที่พ่อเหวี่ยงเธอออกไปและเดินเข้าไปปลดเชือกที่ล่ามเจ้าหมาออก คุกกี้ถูกจับใส่ถุงกระสอบโดยที่เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรมันได้ ทั้งที่มันต้องพบชะตากรรมอย่างนี้ก็เพราะช่วยเหลือเธอแท้ๆ พ่อจับหมาอย่างชำนาญ ไม่มีความสะทกสะท้านแม้แต่น้อย เด็กหญิงบีหวังว่าในจังหวะที่พ่อปลดโซ่ออก คุกกี้คงตระหนักถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา มันจะวิ่งหนีไปหรือไม่ก็...เด็กหญิงบีรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง...แต่เธอหวังว่ามันจะกัดพ่อเหมือนที่เคยกัดทิดแคน ทั้งนี้มันต้องทำเพื่อความอยู่รอดของมันเอง ทว่าคุกกี้กลับทำเพียงเหลียวมองเธอด้วยสายตาละห้อยก่อนครางหงืดๆ ขณะถูกถุงกระสอบครอบหัว คุกกี้ขัดขืนพ่อ แต่ไม่ต่อสู้ มันยอมจำนนแต่โดยดีเมื่อเห็นว่าหมดทางรอด บางทีที่มันไม่ต่อสู้อาจเป็นเพราะมันรู้ว่าบุคคลที่จับมันใส่กระสอบ คือคนที่เจ้านายของมันเรียกว่าพ่อ
เด็กหญิงบีผ่านวันเวลาของเมื่อวานกับวันนี้ไปอย่างเฉื่อยชา เธอตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดของตัวเองตลอดเวลา เด็กหญิงบีเกลียดพ่อ เธอไม่เคยรู้จักพ่อมากไปกว่าที่คนอื่นรู้ ตอนที่แต่งงานกับแม่ พ่อเป็นชายอายุสี่สิบสาม แก่กว่าแม่เธอถึงสิบแปดปี เคยแต่งงานมาหลายครั้งแต่ชีวิตครอบครัวทุกครั้งล้มเหลว สาเหตุบางส่วนมาจากนิสัยชอบทุบตีคู่ชีวิตของพ่อ
เด็กหญิงบีไม่เคยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิบสามปีก่อน ใครบางคนบอกเธอว่าพ่อกับแม่เจอกันโดยญาติที่เป็นเจ้าของไร่ข้าวโพดแนะนำให้รู้จัก เพียงพบหน้ากันไม่กี่ครั้งก็ตกลงปลงใจอยู่กินด้วยกัน ไม่นานต่อมาแม่ก็ตั้งท้อง
ชีวิตครอบครัวของเด็กหญิงบีไม่ใช่ชีวิตครอบครัวที่ดี เธอเติบโตมากับภาพที่เห็นแม่ถูกทุบตี แต่แม่ไม่เคยต่อสู้ แม่ยอมพ่อมาตลอด เด็กหญิงบีสงสัยว่าทำไมแม่ต้องยอมพ่อมากมายขนาดนั้น เธอเคยถามแม่ครั้งหนึ่งและแม่ก็บอกว่าคำตอบนั้นคือเธอ
แม่ยอมถูกพ่อทำร้ายเพราะไม่อยากให้เด็กหญิงบีมีครอบครัวที่แตกแยกหรือกลายเป็นลูกไม่มีพ่อ บี เหม่อจังเลย ไหวป่ะเนี่ย? ข้าวสวยเรียก เด็กหญิงบีสะดุ้ง หา ข้าวสวยคุยกับเราหรอ? โอ้ อาการหนักแฮะเพื่อนเรา ข้าวสวยเบิกตาโต ที่ถามไปเมื่อกี้ไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ย? จ้ะ ขอโทษนะ แต่เมื่อกี้ข้าวสวยถามอะไรเราหรอ? เด็กหญิงบีพบว่าตนเองกับข้าวสวยเสร็จสิ้นจากการช่วยลูกจ้างคนอื่นเก็บร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ขณะนี้พวกเธอกำลังเดินมาที่ลานจอดรถเพื่อรอแม่ซึ่งกำลังยืนรับเงินค่าแรงจากป้าต้อย ถามว่าคืนนี้จะนอนที่ไหน? ยังไม่รู้เลย ยังไงมานอนบ้านเราก็ได้นะ เช้าจะได้ไปโรงเรียนพร้อมกัน อ๊ะ นั่นรถตำรวจกับรถพยาบาลนี่นา วิ่งไปไหนกันน่ะ เด็กหญิงบีเหลียวมองตามสายตาของเพื่อนสนิท รถตำรวจสองคันกับรถพยาบาลอีกหนึ่งคันวิ่งไล่กันไปบนถนนที่ทอดนำไปทางขวามือ
นั่นลูกน้องของเถ้าแก่เตรียนนี่นา ขี่รถหน้าตื่นมาเชียว ข้าวสวยเอ่ยอย่างประหลาดใจเป็นคำรบสองเมื่อชายร่างผอมนามว่าไผ่ ผู้มีอาชีพดูแลคอกสุนัขให้เถ้าแก่ใหญ่ชาวเวียดนาม ขี่รถมอเตอร์ไซค์มุ่งตรงเข้ามาทางร้านลาบ สวนทางกับรถตำรวจและรถพยาบาลที่แล่นลับสายตาไปไม่ถึงสองนาที ขอเหล้าขวดสิเจ๊ นายไผ่พูดหลังจอดรถและก้าวพรวดๆ เข้าไปในร้านอย่างร้อนรน ไม่ขายจ้า ไม่เห็นรึไงว่าร้านปิดแล้ว เจ้าของร้านตอบกลับขณะแม่ของเด็กหญิงบีและแม่ของข้าวสวยกำลังจะเดินออกมา เห็นจ้ะว่าร้านปิดแล้ว แต่เจ๊ขายให้ฉันเถอะนะ ภาพสยองยังติดตา ฉันไม่รู้จะตั้งสติยังไง บางทีได้สักกรี๊บสองกรึ๊บคงดีขึ้นมาบ้าง คำตอบของนายไผ่หยุดทุกคนที่ได้ยินให้ยืนอยู่กับที่ ภาพสยองอะไร ไหนขยายความหน่อยซิ เฮียธง สามีป้าต้อยพูดขณะเดินออกมาจากหลังร้าน โอ้ย จะอะไรล่ะเฮีย ก็ศพของเถ้าแก่เตรียนน่ะสิ ฉันเห็นมากับตาตัวเอง เละไปหมด นี่ยังไม่รู้จะอธิบายกับตำรวจยังไง โทรแจ้งปุ๊บก็เผ่นมาตั้งสติที่ร้านนี้ก่อนล่ะ ทุกคนยืนมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกจากเฮียธง พูดอะไรเอาให้ชัดเจนหน่อยสิโว้ย ศพเถ้าแก่เตรียนที่ไหน แกตายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ตายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนฉันกำลังจะเอาข้าวไปให้ไอ้หมาพวกนั้น แต่เดินเข้าไปดันเจอแต่คอกเปล่า ไม่รู้ไอ้หมาเวลตะไลเป็นร้อยๆ ตัวหายไปไหนหมด ใจฉันคิดว่าคงมีคนมางัดคอกขโมยหมาไปแน่แล้ว ฉันเลยกะจะวิ่งไปบอกข่าวเถ้าแก่เตรียนที่บ้านแก พอฉันเข้าไปในบ้าน ก็เจอศพแกนอนตายอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ทั่วตัวงี้ถูกรุมขย้ำยับเยินเลือดกระจายเต็มห้อง แต่ที่ร้ายกว่านั้นนะเฮีย บนพื้นบ้านน่ะมีแต่รอยตรีนหมาเต็มไปหมด พวกตำรวจต้องคิดว่าฉันปล่อยหมาไปกัดเถ้าแก่แน่ๆ เลย
คิดอะไรบ้าๆ ตำรวจที่ไหนจะสันนิษฐานอย่างนั้น เฮียธงว่า
สองวันหลังจากนั้น ข่าวการตายอย่างแปลกประหลาดของเถ้าแก่เตรียนก็โด่งดังไปทั่วประเทศ ผลการชันสูตรศพออกมาว่าเถ้าแก่เตรียนเสียชีวิตเพราะถูกสุนัขรุมกันไม่ต่ำกว่าสี่ตัว ไม่มีใครบอกได้ว่าสุนัขพวกนั้นหลุดออกมากัดเถ้าแก่เตรียนได้อย่างไร คนที่ถือกุญแจคอกมีเพียงนายไผ่กับตัวเถ้าแก่เตรียนเองเท่านั้น
นายไผ่ถูกตำรวจกักตัวไว้สอบสวน แต่ก็พ้นข้อกล่าวหาเพราะไม่พบแรงจูงใจที่นายไผ่ต้องฆ่าเถ้าแก่เตรียน ดังนั้น ชาวบ้านทุกคนจึงโจษจันกันว่ามันเป็นเรื่องของเวรกรรม สุนัขเหล่านั้นคงสามารถหลุดออกมาจากคอกได้ด้วยเหตุผลบางประการและมันก็บุกเข้าไปขย้ำเถ้าแก่เตรียนในบ้านเพื่อล้างแค้นให้พวกพ้องที่ต้องตายไปอย่างไร้ทางสู้
ความตายของเถ้าแก่เตรียนสร้างผลกระทบให้เกิดกับบรรดาคนจับหมาในวงกว้าง เด็กหญิงบีรู้สึกดีใจเหลือเกิน เธอไม่ต้องหนีไปนอนบ้านของคนอื่นเพราะพ่อไม่มีเงินพาเพื่อนมาเลี้ยงฉลองที่บ้านอีกและเพื่อนของพ่อแต่ละคนก็ไม่ค่อยมาให้พ่อเห็นหน้าอีกเช่นกัน โดยเฉพาะทิดแคน เด็กหญิงบีได้ข่าวว่าหลังจากคอกสุนัขเถ้าแก่เตรียนล่มสลาย ทิดแคนกับรถกระบะป้ายแดงก็หายหน้าไปจากชุมชนทันที
เด็กหญิงบีใช้เวลาถึงสองสัปดาห์กว่าจะทำใจให้คุ้นชินกับความว่างเปล่าใต้แคร่ไม้หน้าบ้าน เธอพยายามหลีกเลี่ยงขนมคุกกี้หรืออะไรก็ตามที่เจ้าหมาเคยชอบ บางครั้งขณะขี่รถพาแม่กลับบ้านตอนค่ำ สายตาของเด็กหญิงบีก็ยังเห็นสุนัขสีขาวสภาพมอมแมมนั่งอยู่ที่ปากทางเข้าไร่ข้าวโพด มันชะเง้อคอรอคอยเธออยู่ตรงนั้น แต่เมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ แสงไฟสาดจับพบเพียงความว่างเปล่า เด็กหญิงบีก็ตระหนักในวินาทีนั้นว่าสิ่งที่เธอเห็น เป็นเพียงภาพที่สมองของเธอจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่ง...
เด็กหญิงบีและแม่เดินทางกลับจากร้านลาบในค่ำวันนี้และพบรถกระบะของทิดแคนจอดอยู่หน้าบ้านของพวกเขา
หาความchipหายอะไรมาอีกล่ะคนพวกนี้ แม่เปรยอย่างอ่อนใจขณะลงจากท้ายรถมอเตอร์ไซค์และสั่งให้เด็กหญิงบีรออยู่ด้านนอก
เด็กหญิงบีคิดว่าสิ่งที่ทิดแคนมาชักชวนให้พ่อเธอไปทำต้องไม่ใช่การค้าขายสุนัขอีก เพราะขณะนี้สื่อมวลชนและองค์กรต่างๆ กำลังให้ความสนใจกับประเด็นนี้มาก ยังไม่มีนายทุนจากเวียดนามคนไหนกล้ายื่นมือเข้ามาเปิดคอกสุนัขอีกและนายหน้าค้าสุนัขชาวไทยก็ให้ราคาที่ต่ำเกินไปสำหรับผู้ขายที่ไม่ใช่พรรคพวกของตัวเอง
ว่าไงน้องสาว นั่งคอยใครอยู่รึจ๊ะ?
เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นด้านหลังอย่างกะทันหันทำให้เด็กหญิงบีสะดุ้งโหยง ไม่ทันจะเหลียวมองกลับไป มือสากหนาของทิดแคนก็เอื้อมมาปิดปากเธอ เด็กหญิงบีพยายามดิ้นรน เธอชนรถมอเตอร์ไซค์ล้มโครม คิดว่าแม่ต้องได้ยินและวิ่งออกมาดู แต่แม่ก็ไม่ได้ออกมา
เด็กหญิงบีขืนตัวสุดชีวิต เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นของทิดแคนบอกเธออย่างชัดเจนว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ทิดแคนพยายามลากเธอเข้าไปในไร่ข้าวโพดด้านหลังพลางกระซิบ
อย่าคิดว่าวันนี้มรึงจะรอดเงื้อมมือกรูไปได้เหมือนวันนั้นนะ อีคนสวย คืนนี้มรึงต้องสนุกกับกรูก่อน ถ้ามรึงยอมกูดีๆ กรูจะไม่พามรึงไปขาย
เด็กหญิงบีตกตะลึงในสิ่งที่ได้ยิน ไม่นับพละกำลังของทิดแคนที่มากกว่าพละกำลังของเด็กหญิงรูปร่างบอบบางอย่างเธอ ไม่ถึงนาที ทิดแคนก็ลากเธอเข้ามาอยู่ในดงข้าวโพดได้สำเร็จ มันต่อยท้องเธอจนลงไปนอนจุกบนพื้นดินก่อนถือโอกาสนั้นปลดเข็มขัดและรูดกางเกงตัวเองลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่เจ็บและจุก แต่เด็กหญิงบีก็พยายามกระเถิบถอยหนี ทิดแคนตวัดเข็มขัดในมือฟาดเธอ แล้วจึงกระโจนเข้ามาขึ้นคร่อมและพยายามปลดตะขอกางเกงของเธอ
ไอ้ทิดแคน! เอ็งจะทำอะไร!
เสียงตวาดของพ่อดังลั่นพร้อมกับไม้หน้าสามด้ามหนึ่งแตะลงบนไหล่ของทิดแคน
ทิดแคนหน้าถอดสี ยืดตัวขึ้น รีบดึงกางเกงขึ้นมาสวมดังเดิมและหันขวับกลับไป ฉันเปล่าทำจ้ะพี่เพชร
นายเพชรหัวเราะหึๆ ชี้ไม้หน้าสามด้ามโตในมือขวาไปที่เป้ากางเกงของหนุ่มรุ่นลูก ถอดกางเกงเรียบร้อยเนี่ยนะ ไม่ได้ทำ?
ทิดแคนไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงยืนทำหน้าฝืดฝืน เด็กหญิงบีน้ำตาไหลพราก เธอยันตัวลุกขึ้นและโผเข้าไปกอดพ่อ เธอรู้สึกผิดที่เคยเกลียดพ่อ ถึงอย่างไรพ่อก็เป็นพ่อของเธอ ในยามที่คับขันเช่นตอนนี้ พ่อก็เข้ามาช่วยเธอ
เอ็งนี่ไม่ไหวเลยนะไอ้ทิดแคน ไหนตกลงกันไว้ว่าคืนนี้จะให้ข้าได้เอาก่อนไง ส่วนเอ็งน่ะต้องต่อจากข้า ชิชะ เผลอแวบเดียว ลากมาแดรกเองซะแล้ว คราวก่อนก็ทีนึงแล้วนะ ไอ้นี่
คำพูดและมือของพ่อที่กำแน่นรอบต้นแขนของเธอส่งผลให้เด็กหญิงบีตะลึงงัน
พ่อ...พ่อพูดอะไร...ฉันเป็นลูกพ่อนะ เธอผงะถอยหลังออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
ใครบอกว่ามรึงเป็นลูกกรู พ่อยังคงบีบมือรอบต้นแขนเธอแน่นเพื่อไม่ให้เธอวิ่งหนี มรึงน่ะเป็นลูกใครก็ไม่รู้ แม่มรึงมันสำส่อน ท้องไม่มีพ่อ ไอ้ญาติที่เป็นเจ้าของไร่ข้าวโพดห่านนี่น่ะ จับแม่มรึงใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วให้มาแต่งงานกับกรู ทีนี้รู้ความจริงแล้วก็ยอมเสียดีๆ อย่าให้ต้องทุบตีกันถึงขั้นสลบแบบที่แม่มรึงเพิ่งโดน ถึงยังไงพรุ่งนี้มรึงกับแม่ก็ต้องถูกพวกกรูประเดิมอาชีพใหม่ขายให้ซ่องอยู่แล้ว เจอไปก่อนสักดอกสองดอกจะเป็นไรไป เอ้า ล็อคไว้ให้ดีไอ้ทิดแคน อย่าให้หลุดไปได้
นายเพชรเหวี่ยงเด็กหญิงบีไปให้ทิดแคน ทิดแคนล็อคสองมือของเด็กหญิงบีไพล่หลัง จงใจให้มือของเด็กหญิงบีอยู่ระดับเป้ากางเกงของตัวเอง เด็กหญิงบีร้องไห้อย่างคุมสติไม่อยู่ เธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังมากที่สุดเท่าที่จะดังได้ นายเพชรปลดกางเกงออกเรียบร้อยก็รู้สึกหงุดหงิดที่เสียงกรีดร้องของเธอทำให้เสียอารมณ์ เขาจึงมองหาอะไรบางอย่างมายัดปากเด็กหญิงบี
แต่พริบตานั้นเอง เสียงฝีเท้าของสัตว์บางชนิดก็ดังขึ้น ต้นข้าวโพดด้านข้างแหวกลู่เป็นทาง
บังเกิดเสียงคำรามใกล้เข้ามา
นายเพชรและทิดแคนพากันเหลียวมองไปยังต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ
แล้วสุนัขสีขาวเนื้อตัวมอมแมมก็กระโจนออกมาอย่างไม่มีใครคาดคิด!
มันโถมตัวใส่ทิดแคนและฝังเขี้ยวลงไปบนต้นคอจนเลือดพุ่งกระฉูด ทิดแคนล็อคแขนเด็กหญิงบีอยู่ เด็กหญิงบีจึงล้มไปบนพื้นด้วยอีกคน เธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงคำรามเพิ่มเติม เสียงคำรามนั้นดังมาจากนายเพชรที่เงื้อไม้หน้าสามเข้ามาหมายตีไปที่กลางหลังของเจ้าสุนัขสีขาว
ทว่า สุนัขอีกสามตัวก็โผล่มาจากหมู่ต้นข้าวโพดด้านข้างและกระโจนใส่นายเพชรด้วยความดุดัน นายเพชรล้มลงไป เด็กหญิงบีได้แต่นั่งตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ด้านขวาของเธอเป็นร่างของทิดแคนที่สุนัขสีขาวกำลังสะบัดหัวขย้ำลำคอเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนด้านซ้ายเป็นร่างที่ดิ้นทุรนทุรายเพราะถูกสุนัขรุมกัดทึ้งของนายเพชร
เด็กหญิงบีหลับตา ยกมืออุดหูและกรีดร้องออกมาสุดเสียง
สติของเธอแตกกระเจิง
ผ่านไปอึดใจหนึ่ง เสียงคำรามกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก็หยุดลง เด็กหญิงบีได้ยินเสียงครางหงิงๆ ที่คุ้นหูดังขึ้นข้างตัว เธอปรือตาขึ้นและพบสุนัขสีขาวที่เธอรู้จักนั่งกระดิกหางมองเธอด้วยสายตาละห้อย
ปากของมันยังคงเปรอะไปด้วยเลือด คุกกี้... เด็กหญิงบีพึมพำ เจ้าหมาขยับกายเข้ามาใกล้ เธอเอื้อมมือลูบหัวมันด้วยความดีใจ ...แกยังไม่ตายจริงๆ ด้วย สุนัขต่างถิ่นอีกสามตัวเดินมาหยุดยืนด้านข้างเด็กหญิงบีและคุกกี้ พวกมันมีทุกอย่างคล้ายคลึงสุนัขบนโลกมนุษย์ แต่ถ้าหากมีใครสังเกตให้ถี่ถ้วน เขาคนนั้นก็จะพบว่า นอกจากสุนัขเหล่านี้จะมีนิ้วเท้าที่มากกว่าสุนัขทั่วไปเท้าละสองนิ้วแล้ว ฟันของมันยังมีความแหลมคมเหมือนมีดโกนและดวงตายังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาวะอารมณ์อีกด้วย แกหายไปอยู่ที่ไหนมา หนีออกจากคอกหมานั่นได้ทำไมไม่กลับบ้านเรา เด็กหญิงบีมองดวงตาสดใสของอดีตคู่หูและพูดต่อ ฉันดีใจที่แกกลับมานะ ฉันคิดเสมอว่าแกต้องไม่ตาย แกเป็นหมาฉลาด ต้องหาทางเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว คุกกี้หลับตาและครางหงิงๆ สุนัขต่างถิ่นผู้มีขนสีดำและท่าทางเป็นจ่าฝูงส่งเสียงเห่าเบาๆ เหมือนต้องการบอกอะไรบางอย่าง เด็กหญิงบีชำเลืองมองสุนัขต่างถิ่นทั้งสามตัว ปากและเขี้ยวของทุกตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แต่น่าแปลกที่เด็กหญิงบีกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวพวกมันเลย เธอเอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าตัวสีน้ำตาลท่าทางเป็นมิตรซึ่งนั่งอยู่ด้านซ้ายของจ่าฝูง จิตใจเริ่มสงบขึ้น ทันใดนั้น เด็กหญิงบีก็นึกได้ว่าแม่ยังอยู่ในบ้าน นายเพชรบอกว่าทุบแม่จนสลบไปแล้ว เด็กหญิงบีลุกขึ้นยืนและหันมาบอกอดีตคู่หู เข้าบ้านไปดูแม่กันเถอะคุกกี้!
เธอสาวเท้าออกเดินอย่างร้อนรน คาดว่าเจ้าคุกกี้จะเดินตามมา แต่พอชำเลืองมองข้างตัวกลับไม่พบอะไร จึงเหลียวหน้ากลับไปและก็ต้องตกตะลึง ตรงที่เกิดเหตุเมื่อสักครู่ หลงเหลือเพียงศพของนายเพชรและทิดแคน เหล่าสุนัขทั้งหมด อันตรธานหายไปแล้ว!
G For Good Bye
คุกกี้นั่งซุ่มอยู่หลังหมู่ต้นข้าวโพด มันจ้องมองแผ่นหลังเด็กหญิงบีหายเข้าไปในบ้านด้วยความคิดถึง Xkuy#98 Zfobf#96 Lixret#102 ยืนอยู่ด้านหลังคุกกี้ สุนัขสีดำนาม Xkuy#98 พูดกับคุกกี้ จำได้ใช่ไหมว่าถ้าคุณรับหน้าที่ที่พวกเรามอบให้ คุณจะต้องไม่กลับมาหาเจ้านายเป็นครั้งที่สองอีก คุกกี้ถอนหายใจและผงกศีรษะ ผมเข้าใจ ผมจะเป็นผู้นำกองพันสุนัขแห่งอิสรภาพ คอยเดินทางช่วยเหลือสุนัขที่ตกเป็นเหยื่อมนุษย์ทั่วอาเซี่ยน ผมจะไม่กลับมาที่บ้านนี้อีก ผมเห็นใจคุณนะ Zfobf#96 ผู้เป็นสุนัขสีน้ำตาลเอ่ย แต่ช่วยไม่ได้ที่จากการทดสอบของเรา คุณคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ คุกกี้ยิ้ม ขอบคุณที่ชม Lixret#102 สุนัขสีด่างโพล่งขึ้น เราต้องรีบไปแล้วนะครับกัปตัน ได้กำหนดการที่ Komew#88 และ Tciph#90 จะนำเครื่องขึ้นพอดี ระหว่างเส้นทางกลับยาน คุกกี้ถามขณะเดินมาส่ง พวกคุณจะไปช่วยเผ่าพันธุ์พี่น้องเราที่ไหนต่อ? เป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ เรียกว่าประเทศจีน งานหนักกว่าที่นี่หลายเท่าตัว Xkuy#98 ตอบและถามกลับเมื่อเดินมาใกล้พ้นไร่ข้าวโพด ไม่บอกลาเจ้านายหน่อยหรือ? ท่าทางเธอจะเป็นเจ้านายที่ดีนี่นะ จริงสิ ขอบคุณที่เตือน คุกกี้หยุดเท้า หมุนตัวกลับ หันหน้าไปยังทิศทางที่บ้านของเจ้านายตั้งอยู่ Xkuy#98 Zfobf#96 Lixret#102 หยุดเท้ายืนเป็นเพื่อนคุกกี้ในความมืด แล้วเสียงหอนอำลา ก็ดังกระหึ่มไร่ข้าวโพดในวินาทีต่อมา
-----------------------------------------
จากคุณ |
:
ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ย. 55 09:55:31
|
|
|
|