ตอนที่ ๑๖
หญิงสาวเบือนหน้าหลบเงามืดที่ขวางอยู่ตรงหน้า กะพริบตาซ้ำๆ เพื่อไล่อาการตาพร่า แต่ไม่ว่าจะลืมตาขึ้นกี่ครั้ง เงาดำนั้นก็ยังขวางดวงตาข้างหนึ่งอยู่ดังเดิม
โอย... สิมิลันครางเสียงแผ่ว รู้สึกถึงอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวราวกับเพิ่งถูกทุบมาจนน่วม แรงปวดหนึบๆ ตรงแนวไหปลาร้าและอาการจุกที่หน้าอกเบื้องซ้ายทำให้หวั่นใจนิดๆ
ฟื้นแล้วหรือยายตอง น้ำเสียงตื่นเต้นคุ้นหูดังขึ้นข้างตัว
สิมิบันเบือนหน้าไปทางเจ้าของเสียง ท่อนแขนซ้ายที่หนักอึ้งราวกับถูกทาบทับไว้ด้วยหินผาฝืนยกขึ้นแตะดวงตาข้างซ้ายเจ้าปัญหา พี่งาม...ทำไม...ตาข้างนี้ของตองมองไม่เห็นล่ะ
งามตาแตะแขนเธอเบาๆ ไม่ต้องตกใจนะตอง เธอแค่มีแผลแตกที่เหนือเปลือกตาน่ะ คุณหมอเย็บแผลให้แล้วก็เลยต้องปิดตาไว้ชั่วคราว ไม่งั้นเดี๋ยวแผลจะปริ ดวงตาเธอยังปกติดีทุกอย่างจ้ะ
สิมิลันเป่าปากอย่างโล่งอก แล้วนี่...ตองเป็นอะไรมากไหมคะ ทำไมปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวเลย
งามตายู่หน้า มากย่ะ! นอกจากหัวแตก ฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัวแล้ว เธอยัง...ข้อมือซ้นอีกด้วย
โธ่...พี่งามน่ะ ตองตกใจหมดเลย
แล้วพี่ไม่ตกใจหรือไง ทีมงานโทร.ไปบอกว่าเธอคว้าแจกันฟาดปัณณ์หัวแตก แล้วเขาก็ลากเธอขึ้นรถไป โทร.ติดต่อไม่ได้ทั้งคู่ มารู้อีกทีก็ตอนที่เธอเป็นข่าวว่อนอินเทอร์เน็ตว่าแอบหนีกองถ่ายไปจู๋จี๋กับปัณณ์ รัชนาถ จนประสบอุบัติเหตุ คนที่เห็นเหตุการณ์เอาคลิปไปโพสต์ พี่ คุณดา แล้วก็นักข่าวถึงตามกลิ่นมาถึงนี่ได้น่ะ
บ้าใหญ่แล้ว สิมิลันพึมพำอ่อนใจ
ไม่ต้องกังวลไปหรอกตอง พี่หนุ่มเขาแถลงข่าวแล้วเมื่อกี้นี้เอง บอกว่าปัณณ์หัวแตกเพราะเกิดผิดคิวระหว่างถ่ายทำนิดหน่อย เธอสองคนก็เลยออกไปซื้อยาทำแผล แล้วก็ประสบอุบัติเหตุอย่างที่เป็นข่าวนี่ล่ะ
แล้วนักข่าวเชื่อไหมคะ
ถุงใส่ยาที่ตกอยู่ในรถ กับเภสัชกรที่ร้านยืนยันว่าพี่หนุ่มพูดจริงจ้ะ
แค่นั้นเหรอคะ สิมิลันยังไม่เชื่อง่ายๆ
จ้า เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณหมอก่อนว่าเธอฟื้นแล้ว จะได้มาตรวจดูให้เรียบร้อยว่าเธอปลอดภัยแล้วจริงๆ งามตาแตะบ่าหญิงสาวอย่างให้กำลังใจแล้วเดินลับกายออกจากห้องไป
คนเจ็บหลับตาลงอย่างสิ้นแรง จากที่ฟังงามตาพูด เธอรู้ว่ากระแสข่าวในโลกข้างนอกนั่นน่าจะไปไกลและรุนแรงกว่าที่งามตาเอ่ยแน่นอน
ฟื้นตัวไวมากเลยนะครับ ถ้าดูจากสภาพร่างกายของคุณ เสียงนุ่ม ใจดีดังขึ้น
สิมิลันลืมตาขึ้นอีกครั้งอย่างยากเย็น เธอฝืนยิ้มเมื่อเห็นผู้ชายสูงวัยในเสื้อกาวน์สีขาวก้าวเข้ามายืนชิดเตียงคนเจ็บ ในมือเขามีกระดานเหน็บกระดาษปึกใหญ่อยู่ด้วย
มือเหี่ยวย่นเลื่อนมาแตะแอ่งชีพจรที่คอเธอพร้อมกับดูเวลาที่นาฬิกา
หัวใจเต้นเร็วไปนิด เขาบ่น คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าสภาพตัวเองไม่เหมาะจะอยู่ในรถสปอร์ตแบบนั้นเลย
สิมิลันกำผ้าห่มแน่น ดวงตาที่มองเห็นเพียงข้างเดียวชั่วคราวเขม้นมองคู่สนทนาด้วยอาการตื่นกลัว สีหน้าของนายแพทย์ชราทำให้สิมิลันรู้ทันที่ว่าเขารู้...
ผมอยากให้คุณตรวจร่างกายอย่างละเอียด
เธอเหลือบไปทางงามตาที่ยืนอยู่เบื้องหลัง แล้วโพล่งคำถามออกไประรัวเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน
ด้วยจรรยาแพทย์ คุณหมอไม่มีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูลของคนไข้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตใช่ไหมคะ
ก็ใช่ครับ แต่ว่า...
นั่นล่ะค่ะ ดิฉันไม่อนุญาตให้คุณหมอเปิดเผยอาการป่วยของฉันให้บุคคลที่สามทราบโดยเด็ดขาด ถ้ามีใครสักคนรู้เรื่องนี้ ฉันจะฟ้องคุณหมอค่ะ สิมิลันฝืนใจเอ่ยรวดเดียว โดยไม่หยุดหายใจ
คนผ่านโลกมามากกว่าส่ายหน้า พยายามประโลมด้วยน้ำเสียงปลอบโยน ผมรู้นะว่าคุณเป็นคนดัง และอาการป่วยที่คุณเป็นอยู่มันไม่ส่งผลดีกับชื่อเสียง แต่...คุณควรต้องได้รับการตรวจ และได้รับการดูแลเป็นพิเศษ มันอันตรายมากที่คุณจะ...
สิมิลันไม่ยอมให้เขาพูดจนจบ แต่จงใจเปลี่ยนเรื่องด้วยการถาม คนที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ
ปลอดภัยครับ นายแพทย์สูงวัยตอบ ดวงตาที่เพ่งมองมาอย่างปรานีทำให้สิมิลันเบือนหน้าหลบสายตาคู่นั้นทันควัน
ถ้าคุณยืนยันว่าจะไม่ตรวจร่างกาย หมอก็จนใจนะ เอาอย่างนี้ ร่างกายคุณอ่อนแอมาก งั้น...หมอจะสั่งยานอนหลับให้คุณพักผ่อนมากๆ ก็แล้วกัน แต่ถ้าวันไหนที่เปลี่ยนใจ มาหาหมอได้ทุกเมื่อนะ
สิมิลันยกมือขึ้นพนมแสดงความขอบคุณอย่างยากเย็น ดวงตาบอกความซาบซึ้ง ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องมีคนไข้ดื้ออย่างหนู
นายแพทย์สูงวัยถอนหายใจด้วยความเวทนาเมื่อได้ยินสรรพนามที่เปลี่ยนไปในตอนท้าย เขาหันกลับไปสบตาคนเฝ้าไข้ แล้วส่ายหน้า ไม่เอ่ยอะไร
งามตาคอยจนคนนอกลับตาไปจากห้องแล้ว จึงมาเกาะขอบเตียง เค้นจะเอาคำตอบให้ได้
ที่เธอคุยกับหมออย่างนั้น ตกลงว่าตองรู้อยู่แล้วหรือว่าเธอท้องน่ะ
ตองไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย สิมิลันบ่ายเบี่ยงแล้วเปลี่ยนเรื่อง แม่กับเตยรู้เรื่องหรือยังคะพี่งาม
พี่โทร.บอกแล้วจ้ะ ทีแรกก็จะมาเยี่ยมกันให้ได้เลย แต่พี่ห้ามไว้เพราะเห็นว่านี่ดึกมากแล้ว แม่ตองเดินทางไม่สะดวกหรอก แต่พรุ่งนี้คงต้องรบเร้าให้พี่พามาเยี่ยมเธอแน่ๆ
นักข่าวเยอะแยะค่ะ แม่มาแล้วอาจจะอึดอัด
เธอโทร.คุยกับแม่สิ งามตาดึงโทรศัพท์มากดเรียกไปที่บ้านของสิมิลันแล้วส่งให้หญิงสาวพูดสาย เด็กสาวค่อยๆ รายงานอาการตัวเองให้มารดาฟังอย่างใจเย็น แล้วลงท้ายว่า
ตองปลอดภัยแล้วค่ะแม่ คิดว่าหมอคงให้กลับบ้านได้เลย แม่ไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมตองนะคะ พรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่ สิมิลันส่งโทรศัพท์คืนให้งามตาแล้วเปรยลอยๆ หนูชักปวดหัวยังไงไม่รู้ ขอนอนอีกหน่อยนะคะ
คนเจ็บเอาเหตุผลเช่นนั้นมาอ้าง แล้วก็ขยับนอนหันหลังให้กับผู้จัดการส่วนตัว ราวกับจะกีดกันอีกฝ่ายไว้จากโลกแห่งความลับที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้กับตัวเองตามลำพัง
ปริมเป่าปากอย่างโล่งอก เมื่อเห็นคนบนเตียงขยับตัวหลังจากหมดสติไปเกือบสามชั่วโมง ทว่าคำถามแรกของเขาหลังจากลืมตาขึ้น กลับเป็น
สิมิลันเป็นยังไงบ้างครับ
ใจคอจะไม่ถามถึงตัวเองก่อนหรือ ปริมยิ้มล้อๆ แน่ใจหรือว่าเธอเกลียดเขาอย่างปากว่าจริงๆ น่ะ
ปัณณ์ยันตัวขึ้นนั่ง โผเผทำท่าจะลงจากเตียงทั้งที่ยืนแทบไม่มั่นคงด้วยซ้ำ
นั่นเธอจะไปไหนน่ะปัณณ์ หญิงสาวปราดเข้ามาคว้าไหล่คนเจ็บรั้งเขาให้นั่งอยู่บนเตียง
ยายนั่นเจ็บเพราะผม
ปริมลูบศีรษะเขาเบาๆ อย่างเอ็นดู ปัณณ์ ปีนี้เธออายุเท่าไหร่แล้ว หัดโตซะทีสิ ยอมรับได้แล้วว่าเธอห่วงผู้หญิงคนนั้น
ผมเนี่ยนะห่วงยายนั่น ไม่เลย ผมก็แค่รับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง
เรื่องไหนล่ะ เรื่องคราวก่อนนั้น หรือว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ชะรอยคำถามของเธอจะจี้โดนใจดำเข้าพอดี
พี่ปริมจะซักผมให้ได้อะไรขึ้นมานะ เขากระชากเสียงไม่พอใจเหมือนทุกครั้งที่ถูกต้อนเข้ามุม
ปัณณ์ ฟังพี่นะ...เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เธอแก้ไขไม่ได้ แต่...สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า เธอเลือกได้นะว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน ที่ทำปากแข็งใจแข็งอย่างทุกวันนี้น่ะ เธอโกหกได้แต่คนอื่นเท่านั้นแหละ ผู้ชายอย่างเธอไม่จำเป็นต้องตามตอแยใครเลย แต่เธอก็ทำไปแล้ว เธอไม่เคยสนใจสักนิดว่าใครจะรู้สึกยังไงกับตัวเอง แต่เธอแคร์เหลือเกินกับการที่สิมิลันมองผ่านเธอไปเหมือนอากาศธาตุ เธอหงุดหงิดที่ถูกผู้หญิงคนนั้นปฏิบัติด้วยอย่างคนไม่มีตัวตน ปัณณ์...รู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าเธอห่วงแล้วก็สนใจสิ่งที่เด็กคนนั้นคิดกับเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วไอ้ที่เหน็บแนมปราชญ์อยู่ทุกวี่ทุกวันก็เพราะความหึงหวงทั้งนั้น เลิกหลอกตัวเองเสียทีเถอะ เธอชอบเขา
บ้าไปแล้วพี่ปริม ยายนั่นเป็นสิบแปดมงกุฎ ผมไม่มีวันชอบผู้หญิงแบบนั้นเด็ดขาด
มือแบบบางโอบบ่าหนั่นแน่นดึงตัวเขามากอด แล้วเอ่ยประโยคถัดไปราวกับไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอีกฝ่าย ปัณณ์ ผู้หญิงน่ะชอบผู้ชายอ่อนโยนนะ ยิ่งเธอไปแสดงความรังเกียจ วางท่าข่มเขาตลอดเวลาอย่างนั้น เธอจะรอปาฏิหาริย์ที่ไหนมาเสกให้สิมิลันรักเธอหรือ ไอ้พระเอกโหดๆ ประเภทตบจูบน่ะ ทำให้นางเอกรักได้แต่ในละครเท่านั้นแหละ ผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อจริงๆ ไม่ทนกับคนหยาบคายหรอก เชื่อพี่สิ พี่เป็นผู้หญิงพี่รู้ใจผู้หญิงด้วยกันดี ปริมตบบ่าน้องชาย
เห็นเธอปลอดภัยพี่ก็เบาใจ เธอพักเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว พูดจบสาวใหญ่ก็หันไปคว้ากระเป๋าออกจากห้องพักฟื้นคนไข้ไปดื้อๆ ปล่อยให้คนเจ็บนั่งห้อยขาอยู่ที่เดิม
ปริมเหลือบมองประตูที่ค่อยๆ งับลงจนสนิทแล้วใบหน้าก็แต้มด้วยรอยยิ้ม
แน่ล่ะว่าทั้งหมดที่พูดไป เป็นไปเพราะอยากให้ปัณณ์รู้ใจตัวเอง แล้วก็เลิกโกหกตัวเอง
เธอคงดีใจที่สุด ถ้าปัณณ์จะเลิกเร่รอนเสเพลเป็นนกไร้รังอย่างนี้ แล้วก็รู้จักกับความรักที่แท้จริง มีใครสักคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจเสียที
ในฐานะของรัชนาถคนหนึ่ง ปริมรู้...ว่าวันที่เธอรอคอย กำลังใกล้เข้ามาถึงทุกที!
ร่างสูงเพรียวในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าครามของโรงพยาบาลยืนเกาะเสาน้ำเกลืออยู่หน้าประตูบานหนึ่ง ดวงตาคมกริบมองป้ายชื่อหน้าห้องเป็นนานสองนาน ปัณณ์ถอนหายใจ ยึดเสาน้ำเกลือกระย่องกระแย่งกำลังจะเดินกลับห้องอยู่แล้ว แต่เสียงเรียกจากเบื้องหลังก็ดังขึ้นเสียก่อน
คุณคะ จะมาเยี่ยมคุณสิมิลันหรือ
ปัณณ์เบือนหน้ากลับมาช้าๆ เอ้อ...ไม่ดีกว่าครับ เกรงใจ เธออาจจะไม่สะดวก
เธอหลับอยู่น่ะค่ะ คุณหมอให้ยานอนหลับไว้
ปัณณ์ขมวดคิ้ว สีหน้าเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว เธอเป็นอะไรมากหรือครับ
พยาบาลสาวใหญ่ยิ้มบางๆ เข้าไปดูอาการเธอด้วยกันสิคะ เด็กๆ ที่ห้องฉุกเฉินมาเมาท์กันให้แซดเลยว่าคุณประสบอุบัติเหตุด้วยกัน
ครับ...แล้วนี่นอกจากผมกับสิมิลันแล้ว มีคนอื่นบาดเจ็บอีกหรือเปล่าครับ
โชคดีค่ะที่คุณหักหลบรถเครื่องนั่นทัน ก็เลยไม่มีใครเป็นอะไร แต่คุณสองคนสิคะแย่หน่อย ข้างล่างนักข่าวเต็มไปหมดเลย คุณหมอก็เลยต้องสั่งห้ามเยี่ยม ถึงได้ไม่มีใครกล้าขึ้นมากวนคุณนี่ล่ะ
สตรีชุดขาวกอดกล่องอุปกรณ์ที่ถือมาด้วยไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง แล้วจึงเข้ามาช่วยประคองเขาอีกด้าน เธอเปิดประตูห้องคนเจ็บแล้วพยุงเขาเข้าไปในห้อง
ปัณณ์ยืนอ้าปากค้างเมื่อเห็นสภาพคนเจ็บอีกคน
สิมิลันหลับสนิทก็จริง แต่เห็นชัดว่าร่างกายเธอบอบช้ำไม่น้อย ดวงตาข้างซ้ายมีผ้ากอซขาวปิดเอาไว้ ขณะข้อมือขวาพันผ้ายางยืดสีหวานไว้จนคล้ายพอกด้วยก้อนปูนสีชมพูอ่อน ตามเนื้อตัวไม่มีริ้วรอยอื่นใดให้กังวล
ตาเธอ... ปัณณ์โขยกเขยกลากเสาน้ำเกลือแทบจะพุ่งเข้าไปหาคนที่หลับสนิทอยู่
ไม่เลวร้ายอย่างที่เห็นหรือน่ากลัวอย่างที่คิดหรอกค่ะ แค่แผลเย็บเหนือเปลือกตาเท่านั้นเอง โดนกระจกบาดน่ะค่ะ คุณหมอกลัวแผลปริเลยปิดตาไว้ชั่วคราว สองสามวันก็เอาออกได้ค่ะ ส่วนข้อมือนี้...เข้าใจว่าตอนชนเธอคงเอามือยันคอนโซลด้านหน้า กระดูกเคลื่อนนิดหน่อย พันไว้สักอาทิตย์หนึ่งก็น่าจะดีขึ้น
แล้ว... ปัณณ์กลืนน้ำลายยากเย็น อาการอื่นๆ ล่ะครับ
พยาบาลสาวใหญ่ส่ายหน้า ถ้าภายนอกก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ
แล้วภายในล่ะครับ
คนไข้ไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลทางการรักษาใดๆ กับใครทั้งสิ้นค่ะ ดิฉันต้องขอโทษด้วย คนพูดใช้อุปกรณ์ที่ถือติดมาด้วยลงมือวัดความดันของหญิงสาว จากนั้นตรวจถุงน้ำเกลือ หลอดหยดยา แล้วจดบันทึกรายละเอียดลงในชาร์ตคนไข้ตามหน้าที่เงียบๆ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจึงหันมาบอกเขา
คุณจะให้ดิฉันพากลับไปที่ห้องไหมคะ
ขอผมอยู่ที่นี่สักพักก่อนได้ไหมครับ
ได้ค่ะ แต่ดิฉันแนะนำว่าไม่ควรนานเกินไปนะคะ คุณเองก็ควรพักผ่อนมากๆ เหมือนกัน
ครับ ปัณณ์รับคำพอแค่พ้นๆ ตัว แลตามจนร่างท้วมลับกายออกไปแล้ว จึงลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงคนเจ็บ เขามองคนที่หลับไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ยาด้วยความสับสน
เขามั่นใจว่าตัวเองเกลียดผู้หญิงคนนี้ เธอผยอง อวดดี ปากร้ายอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าปฏิบัติกับเขามาก่อน นิสัยก็ไม่น่ารัก พูดจาก้าวร้าวตลอดเวลา ยิ่งการแต่งเนื้อแต่งตัวเปิดโน่นนี่วับแวม ดูยังไงก็ไม่มีทางเป็นผู้หญิงดีๆ ได้เลย
ปัณณ์ถอนใจ จำต้องยอมรับความจริงว่าผู้หญิงที่เขาคิดว่าไม่ดีกลับเป็นสาวบริสุทธิ์จนมาถึงมือเขา แถมเธอผู้นี้ก็กำลังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ด้วย
เป็นอีกครั้งที่ถ้อยคำนั้นปักลงกลางใจ
ลูก...ลูกอย่างนั้นเหรอ ปัณณ์ รัชนาถ กำลังจะมีลูก!
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปแตะหน้าท้องที่แบนราบของคนเจ็บบนเตียงแผ่วเบา รอยยิ้มแต้มขึ้นบนใบหน้านิดๆ โดยไม่รู้ตัว
ความคิดเรื่องนี้ไม่เคยผ่านเข้ามาในสมองเขามาก่อนเลยก็จริง แต่เพียงครั้งแรกที่นึกถึง ปัณณ์ก็กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จะดีแค่ไหนถ้าจะมีเด็กเล็กๆ ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขามาเป็นสมาชิกอีกคนในบ้าน จะมีคนมาเรียกเขาว่าพ่อ
แม่บ้านคงต้องเก็บแจกันกังใสจากเมืองจีนเข้าตู้ใส่กุญแจ ปริมอาจต้องเนรมิตปราสาทเทพนิยายไว้ให้หลานเก็บของเล่น ห้องนอนสมัยเขายังเด็กก็ยังสวยอยู่ เขาน่าจะเรียกช่างมาตกแต่งห้องใหม่ด้วยนะ เอ...จะสั่งรื้อสวนญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่นดีไหม
ปัณณ์เริ่มใช้จินตนาการอย่างเพลิดเพลิน เขาจะสอนลูกอ่านหนังสือ จะเล่านิทานให้ลูกฟัง ถ้าลูกเป็นผู้ชาย หวังว่าจะหล่อเหมือนเขานะ ความคิดต่างๆ พร่างพรูเข้ามาในสมองไม่ขาดสาย
ทุกสิ่งอันล้วนแล้วแต่ทำให้หัวใจพองโตอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ความอิ่มเอิบซ่านไปทั้งใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปัณณ์หยุดถามตัวเองว่าเขาต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ เขามีแล้วทุกอย่าง ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเรียกร้องความสนใจ อยากอยู่กลางแสงไฟอย่างนี้
ปัณณ์นึกภาพตัวเองเลี้ยงลูก มีครอบครัวเล็กๆ เรียบง่าย และมีความสุข
ไม่แน่นะ...เขาอาจจะเลิกอาชีพนักแสดง และกลับไปบริหารงานที่แอบโซลูตเจมส์เสียที การทำงานเป็นหลักแหล่งมีเวลาชัดเจน เลิกงานก็จะได้กลับบ้านไปหาลูกเมีย...
เมีย...ผู้หญิงคนนี้น่ะหรือจะเป็นภรรยาของเขา...เป็นรัชนาถอีกคน!
ปัณณ์เลื่อนสายตาไปมองสิมิลันด้วยความสับสน ดวงหน้าเผือดซีดที่จมอยู่กลางกลุ่มผมสีน้ำตาลทองนุ่มดุจแพรไหม และเสื้อผ้าหลวมๆ ของโรงพยาบาลทำให้เธอแลคล้ายตุ๊กตาแก้วเจียระไนที่น่าทนุถนอม จนไม่เหลือเค้านางอิจฉาสุดเซ็กซี่แห่งยุคสักนิด
ปัณณ์นึกย้อนไปถึงค่ำคืนแสนหวานนั้น แล้วยอมรับกับตัวเองว่าเขาไม่เคยจำจดสตรีใดไว้ในหัวใจมากเท่านี้มาก่อนเลย ที่เที่ยวตามแขวะ ตามหาเรื่องอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นไปจากความต้องการที่เขาไม่เคยหยุดหาเหตุผลเลยสักครั้ง
เขาหลอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเกลียดสิมิลัน แต่...เพิ่งตระหนักชัดในวินาทีนี้เอง ว่าเกลียดอย่างที่สุดกับรักที่สุด บางครั้งก็ห่างกันเพียงแค่เส้นกั้นบางๆ เท่านั้น
เขาหรือจะเกลียดผู้หญิงที่เคย แนบซบเนาว์เคล้าคลอพ้อพรอดภิรมย์ ในราตรีนั้นได้ลง นับจากเกิดเรื่อง ปัณณ์ก็ไม่เคยเรียกหาสตรีใดอีกเลย ลึกที่สุดในใจแล้ว...เขารู้ดีว่าสิมิลันติดตรึงอยู่ในหัวใจตลอดมา
ทั้งความรู้สึกผิด ทั้งฤทธิ์เสน่หา ทั้งกรุ่นกลิ่นรสชาติหวานละมุนจากเนื้อตัวเธอ เขาเพิ่งรู้ก็คราวนั้นแหละว่าการได้เป็น คนแรก ของผู้หญิงสักคน มันให้ความภาคภูมิเช่นนี้เอง
เธอเป็นผู้หญิง ของ เขา!
ทุกสิ่ง...หลอมรวมเป็นความรู้สึกลึกซึ้งที่มีต่อสตรีผู้นี้อย่างมิมีผู้ใดเสมอเหมือน
เหตุผลแท้จริงของเรื่องทั้งหมด เกิดจากความตื้นเขินที่เขามองคนแค่เปลือกนอก ตัดสินผู้หญิงคนนี้จากการแต่งกาย จากงานที่ทำ แล้วก็เลือกเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
ชายหนุ่มเพิ่งกล้ายอมรับว่าแท้จริงแล้วเขาผิด...ที่เชื่อมั่นในตัวเองจนเกินไป ภาคภูมิในรูปโฉม เสน่ห์ของตน และอำนาจของน้ำเงินจนคิดว่าซื้อได้ทุกอย่าง และคนที่ถูกกล่าวขานกันว่า เงินมาผ้าหลุด ก็ต้องยินดีที่จะขาย
ปัณณ์ไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบใบหน้าของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนตามความรู้สึกในใจ ไม่ต้องโกหกหรือหลอกตัวเองอีกต่อไป
จากเหตุการณ์ใน คืนนั้น สิมิลันมีเหตุผลสมควรที่จะผลักไส และรังเกียจเขา
ขณะที่เขาเองก็มีคำอธิบายอันชอบธรรมที่จะเข้าใกล้เพื่อรับผิดชอบเธอเช่นกัน
ไม่ว่าจะมีอะไรคอยอยู่ข้างหน้า
จากนี้ไป...เขาจะปกป้องลูกและเมียด้วยสองมือของเขาเอง!
จากคุณ |
:
เวฬา (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ย. 55 15:51:37
|
|
|
|