Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สัญชาติญาณมรณะ ตอน 1 ติดต่อทีมงาน

สัญชาตญาณมรณะ



นักเรียนชายหญิงร้องเพลงโต้ตอบกันเสียงเจื้อยแจ้วบนรถ ครูแอ๋วยิ้มให้ครูผู้ชายสองคนที่กำลังปรบมือร้องเพลงประสานไปกับเด็ก ๆ เธอหลับตาเอาศีรษะพิงพนัก  ค่ายลูกเสือเนตรนารีของโรงเรียนก็จบลงด้วยความเรียบร้อย สองวันหนึ่งคืนกับความสนุกสนานและประสบการณ์ของ   เด็ก ๆ  รถบ่ายหน้าจากศรีราชามุ่งสู่กรุงเทพฯ ตอนสายวันนั้น



แม้จะหลับตาพริ้ม  แต่ครูแอ๋วรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเฉย ๆ  เธอรู้สึกว่ากำลังจะมีเหตุร้ายแรงที่เธอไม่เคยประสบมาก่อน  มันเป็นสัญชาตญาณหรืออาจเป็นความกลัวที่ไร้เหตุผลก็ได้
“อ้ายสัตว์  กูบอกแล้วอย่ากินเหล้าก่อนเริ่มงาน :-)ขับรถส่ายไปส่ายมา”



อ้ายรัตน์โวยวายอย่างหัวเสีย
“ไอ้ชูเองขับดี ๆ หน่อยได้มั้ย เดี๋ยวตำรวจ:-)ก็ตามมาทันหรอก”
อ้ายต้อมตะโกนโหวกเหวก
  ฉับพลันนั้นก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ไอ้ชูเหยียบเบรคตัวโก่งรถหมุนคว้างกลางถนนก่อนจะเหวี่ยงตัวไปชนก้อนหินใหญ่ข้างทาง
“กรี๊ดดด…” เด็ก ๆ และผู้หญิงบนรถบัสร้องเสียงหลง เมื่อเห็นภาพของรถกระบะที่นั่งสองตอนสีแดงซึ่งกำลังวิ่งสวนมาแต่ไกล หมุนคว้างกลางถนนแล้วชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ ครูแอ๋วลืมตาขึ้นขณะรถคันนั้นกระแทกหินก้อนใหญ่เสียงโครมเบ้อเริ้ม



“ไปดูกันหน่อยเร็ว  เผื่อใครเป็นอะไรจะได้ส่งโรงพยาบาลได้ทัน”
ครูแอ๋วตะโกนบอกลุงอี๊ดคนขับรถ
“อ้ายเวร!! กุหัวแตก ขับรถประสาเอี้ยอะไรของเองวะ”
อ้ายรัตน์สบถลั่น
“ยางรถมันแตก  เรารีบออกมาจากรถกันก่อนดีกว่า”
ไอ้ชูพูดระล่ำระลัก



ชายทั้งสี่ปีนหน้าต่างรถกระบะออกมา พร้อมกับถุงใบใหญ่สองใบกับอาวุธปืนครบมือ ขณะเดียวกันนั้นเสียงไซเรนรถตำรวจก็ดังแว่วมาแต่ไกล
“อ้ายเอี้ย กุไม่ควรไว้ใจเองเลย เดี๋ยวพ่อเองก็มาถึงแล้ว แล้วทีนี้จะหนีกันยังไงวะเนี่ย”
“ขึ้นรถบัสคันที่สวนมานี่แหละ”
ชายฉกรรจ์ทั้งสี่กรูกันมาขวางหน้ารถบัสที่กำลังชะลอ ลุงอี๊ดเห็นชายทั้งสี่ถือปืนวิ่งมาที่หน้ารถ เขาตัดสินใจเหยียบคันเร่ง  แต่รถชะลอตัวช้ามากเกินกว่าที่จะทำให้พุ่งไปข้างหน้าได้เร็ว
“เองหยุดรถ  ไม่งั้นกุยิงหน้าแหก  ไอ้ต้อมมเองไปไล่คนบนรถลงมา”



รัตน์ตะโกน  ต้อมกระโดดขึ้นรถที่กำลังชะลอตัว  ลุงอี๊ดยังไม่หยุดความพยายามที่จะเร่งความเร็ว
“เองจะไปไหน กุบอกให้จอด”
ต้อมวิ่งไปเอาท้ายปืนตบกกหูลุงอี๊ด หน้าฟาดขอบกระจกด้านคนขับ ลุงอี๊ดหน้าฟาดกระจกหน้าต่างแตกละเอียด ใบหน้าแตกยับเยิน
ชายทั้งสามกระโดดตามขึ้นมา  เสียงไซเรนยังคงดังแว่วมาแต่ไกล



“กว่าจะไล่คนลงคงไม่ทันแล้วว่ะ  กลับรถแล้วรีบหนีเดี๋ยวนี้”
รัตน์สั่งการ  ต้อมซึ่งกระชากลุงอี๊ดจากที่นั่งคนขับ  เข้าประจำที่นั่งแล้วกลับรถบัสคันใหญ่ให้หันหัวไปอีกทิศทางหนึ่ง รถพุ่งไปโดยเร็ว
“เอ้า นี่เป็นช่วงนาทีทอง ใครกระโดดลงรถทันก็รีบกระโดดกันนะโว้ย”



ไอ้ชูหันมาตะโกนบอกกับครูและนักเรียนบนรถ
ครูผู้ชายสองคนรีบกระโดดออกจากรถทางประตูหลัง
“อย่าโดด…อันตราย!!”  ครูแอ๋วร้องเสียงหลง  เมื่อนักเรียนชายคนหนึ่งวิ่งมาที่ประตูหน้าแล้วกระโดดลงไป
“กรึ้มมมมม”  เสียงยางรถทับอะไรสักอย่าง ทั้งครูทั้งนักเรียนกรีดร้อง



“เด็กเปรต :-)พลัดตกจากบันไดไปก่อน :-)โดนล้อหลังทับหัวแบะเลย”
ต้อมตะโกน  เมื่อเห็นศพเด็กนักเรียนกลิ้งหลุน ๆ อยู่จากกระจกมองท้าย
“ครูผู้ชาย:-)กลัวจนขี้แตก รีบโดดรถก่อนเพื่อนเลยโว้ย ปล่อยครูผู้หญิงกับเด็ก ๆ ไว้ อ้อ เหลือที่หน้าเซื่องอยู่ตรงนี้ คนนึง” อ้ายใหญ่ตะโกนแล้วถือปืนกราดเดินไปตามที่นั่ง



“ใหญ่ เองบอกให้พวกมันนั่งเฉย ๆ แล้วไม่ต้องส่งเสียงร้อง กุรำคาญเสียงเด็ก ๆ ว่ะ”
รัตน์ตะโกนก้อง  เอาปลายปืนเขี่ยครูผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าให้กระเถิบแล้วล้มตัวลงแทนที่ เอาเท้าอีกข้างวางบนอกของลุงอี๊ด ซึ่งนอนหมดสติอยู่
“ขอโทษด้วย เป็นความซวยของพวกเราทั้งสองฝ่าย”
“พวกคุณเป็นใคร”



ครูแอ๋วถามชายคนที่นั่งข้าง ๆ
“พวกผมเป็นโจรปล้นแบงค์”
รัตน์บอกเสียงเรียบเฉย ๆ หน้าตาบ่งบอกทีท่ากวนอารมณ์
“คุณพอจะจอดสักสองสามนาทีให้เด็กลงจากรถไปก่อนได้มั้ย”
“อยากอยู่เหมือนกัน  แต่รถตำรวจมันตามกระชั้นเหลือเกิน  เดี๋ยวให้ไกลกว่านี้แล้วจะปล่อยให้ลง”



รัตน์บอก
“คนนี้สวยว่ะ อย่าปล่อยคนนี้ไปนะ”
ไอ้ชูเดินมาแล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าหมับเข้าที่อกของครูแอ๋ว
“ทำอะไรน่ะ”
ครูแอ๋วเอามือปัด
“จับแค่นี้ทำเป็นหวง”



ชูเอามือลูบไล้ที่ใบหน้าและต้นคอของครูสาว  ครูแอ๋วรั้งมืออ้ายโจรไว้  แล้วใช้อีกมือวาดหมัดเข้าเต็มใบหน้า ชูถึงกับผงะไปชนกับมือจับพนักเก้าอี้
“อีนี่วอนซะแล้ว”
“อย่านะ…นี่แหนะ”
ชูเงื้อท้ายปืนขึ้นจะฟาดครูแอ๋ว   ครูติ๋มพุ่งตัวเข้าชนเจ้าโจรล้มลงพื้นดังพลั่ก  ปืนกลเอ็ม สิบหก  ถูกกระแทกพุ่งออกไปนอกประตูรถ



“  ยุ่งแล้วละเอง  ไอ้ต้อมไม่ต้องจอดรถไปเก็บ เดี๋ยวไม่ทัน”
รัตน์ลุกขึ้นเดินไปที่ผู้หญิงท้วมกับลูกน้องตัวเองที่กอดปล้ำกันอยู่ที่พื้นรถ  แล้วใช้เท้ากระทืบไปตามลำตัวของครูติ๋ม
“อ้ายชู  เองเลิกเล่นได้แล้วกุรำคาญ เองสร้างปัญหาให้กุไม่หยุด…อีนี่ก็สู้ดีนัก”



อ้ายชูลุกขึ้นชักมีดออกจากรองเท้า  ครูติ๋มเกิดอาการเลือดเข้าตาไม่กลัวมีดที่อยู่ตรงหน้า พุ่งตัวเข้าใส่ไอ้ชูอีก  ทั้งคู่กระเด็นไปที่นั่งคนขับ
“เฮ่ย  กุขับรถอยู่โว้ย”
ต้อมตะโกน  รถส่ายไปมา  ชูกับครูติ๋มกอดปล้ำกันอยู่ตรงนั้น



“อีเอี้ยนี่วอน  ยิง:-)เลย”
รัตน์เล็งปืนไปที่ครูติ๋ม  ครูแอ๋วใช้เท้าเตะเจ้าโจรที่ยืนหันหลังให้ดังพลั่ก
“ตูมมมม”
“อ๊ากกกก”
“เฮ่ยๆ  ระวัง หลบ”
รัตน์ถูกครูแอ๋วเตะเสียหลัก  สาดกระสุนเข้าใส่ไอ้ต้อมแทนที่จะเป็นครูติ๋ม ลูกปืนพุ่งผิดเป้าไปเข้าไหล่ไอ้ต้อม  รถเสียหลักพุ่งออกข้างทาง ข้างหน้านั้นเป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่



ต้อมพยายามเบรค  แต่เบรคไม่อยู่ซะแล้ว
“เด็ก ๆ หมอบลงเร็ว”
ครูแอ๋วตะโกนบอกเด็กๆ แล้วรีบหมอบลง  รัตน์พยุงตัวขึ้นเตะเข้าที่ชายโครงครูสาวไปสองที
“เอี้ยดดดดดดดด”
“กรี๊ดดดดดดดด”



รถพุ่งเข้าใส่หินก้อนมหึมา  ครูสาวหลับตาปี๋ รัตน์ยืนมองตัวเองค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใส่แผ่นหินตาค้าง
ทันใดนั้น รถก็พุ่งผ่านหินทั้งก้อนเข้าไป ต้อมถึงกับตะลึง ใหญ่กระโดดออกทางประตูหลังแต่ไม่ทันซะแล้ว
“แอ๊ดดดดดด  ปุ้งงงงง”
รถวิ่งสวนทิศทางเดินออกมาชนรั้วเหล็กข้างทางแล้วจอดสงบอยู่



“เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย  รถวิ่งทะลุก้อนหินได้ไงวะ”
รัตน์ถึงกับงงงวย  ต้อมรีบกระโดดออกจากรถ  เด็ก ๆ รีบวิ่งลงจากรถ บางคนก็ช่วยพยุงครูแอ๋วกับครูติ๋มลงมา ทุกคนลงมายืนมองรถที่จอดสงบอยู่ด้วยความตกใจและประหลาดใจระคนกัน



“กุไม่เชื่อตัวเอง  นี่มันที่เดิมที่รถเรายางแตกนี่หว่า”
รัตน์ยังคงพูดกับตัวเองอย่างงงงวย
“แต่รถกระบะหายไปแล้วว่ะ เสียงรถตำรวจก็ไม่มี”
ชูหันไปมองรอบ ๆ แล้วก็เกิดอาการงงงวยบ้าง
ครูแอ๋วนั่งกุมท้องอยู่ข้าง ๆ ครูติ๋มที่นอนพังพาบอยู่  เธอรู้สึกแปลกใจไม่แพ้คนอื่น ๆ



“ทำงงกันอยู่ได้ กุเจ็บอยู่นี่ มาช่วยกูเร็ว”
ต้อมที่โดนกระสุนเข้าที่ไหล่ ตะโกนเรียกสติสัมปชัญญะของทุกคนให้กลับคืนมา
รัตน์มองไปที่ต้อมแล้วเดินมาสั่งครูสาวทั้งสอง
“เองทั้งคู่แสบดีนัก ไปดูเพื่อนกุหน่อย อย่าตุกติกนะ ตุกติกกุยิงนักเรียนไส้แตกทีละคน”



ครูแอ๋วกับครูติ๋มพยุงซึ่งกันและกันไปดูแผลต้อมตามคำสั่งแต่โดยดี
“อะไรดิ้นพราด ๆ อยู่ตรงนั้นวะ”
ชูชี้มือไปที่อะไรสักอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงแผ่นหินใหญ่ที่รถพุ่งออกมา
รัตน์เดินไปดูโดยมีชูเดินตามไป
คุณพระช่วย!…มันคือส่วนท้ายของร่างกายคนนับแต่ช่วงเอวลงมา



“นั่นอ้ายใหญ่นี่หว่า  ใหญ่มันตายขาดสองท่อนเลย”
ชูร้องเสียงหลง
“เฮ่ย ๆ ดูให้ดี  ไม่มีเลือดออกเลยว่ะ มันเหลือเชื่อว่ะ  นี่ ข้อมืออีกข้างของมันตกอยู่ตรงนี้”
ตน์เดินไปใช้ปืนเขี่ยที่ร่างคนครึ่งท่อน กับข้อมือหนึ่งข้างที่ตกอยู่ใกล้กัน

จากคุณ : patham
เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:56:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com