Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 12 : หญิงสาวในห้องใต้ดิน) ติดต่อทีมงาน

ตอนก่อนหน้า (บทที่ 11 : STROKE)


...

...

...


นักนินเคยเลือดกำเดาไหล ตอนที่อายุ 16 ปี วันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนจัด คาบเรียนวิชาชีววิทยาซึ่งสอนภายในห้องปฏิบัติการ คาบวิชานั้นมีกำหนดส่งการบ้านซึ่งเป็นโจทย์ชีววิทยายาวเหยียดและให้เวลาทำมาร่วมสัปดาห์ นักนินทำเสร็จตั้งแต่สามวันแรก และมีคนมายืมสมุดการบ้านไปลอก อีกทั้งยังส่งต่อๆ กันไป ครั้นเมื่อถึงเวลาส่งงาน นักนินกลับตามหาสมุดจดการบ้านของตนเองไม่พบ นักเรียนที่เหลือก็ไม่มีใครรู้เห็น คำตอบที่ให้กับครูดูจะฟังไม่ขึ้นและเด็กสาวถูกลงโทษด้วยการให้ไปยืนนอกห้องจนกว่าจะหมดคาบหรือมีคนเอาสมุดมาคืนให้


นักนินออกไปยืนรอนอกห้องแต่โดยดี ทันทีที่ผลักประตูกระจกออกจากห้องปฏิบัติการที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ก็พบกับแดดร้อนร้อนจ้า นักนินเดินไปหาร่มเงาของเสาอาคารที่ทอดยาวลงมาเพื่อจะบังแสงแดดได้บ้าง ครูก็ผลักประตูตามออกมา มีข้างหนึ่งขยับแว่นตาส่วนอีกข้างเอาหนังสือเรียนตีผนังแล้วสั่ง


“นักนิน เธอมายืนตรงหน้าประตูเดี๋ยวนี้ ครูอยู่ข้างในมองหาเธอไม่เห็น”


“ขะ ค่ะคุณครู”


สตรีสูงวัยที่ถูกเรียกว่าคุณครูมองลอดแว่นตาของตน เหยียดยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูแล้วหันไปว่ากล่าวเด็กนักเรียนที่เหลือในห้อง


“พวกเธอเห็นไหม ว่าเพื่อนเธอยืนตากแดดอยู่ แล้วเมื่อกี้เขาบอกว่ามีหนึ่งในพวกเธอเอาสมุดการบ้านของเขาไปแล้วไม่คืน ก็เลยไม่มีส่ง ตอนนี้ครูก็อยากรู้ว่าใครโกหก”


คุณครูจอมเฮี้ยบขยับแว่นและมองกราดไปทั่วห้องด้วยสายตาคุกคามอีกครั้ง นักเรียนแต่ละคนต่างก้มหน้านิ่ง ไม่มีใครปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ เสียงกระซิบกระซาบกันของนักเรียนชายมุมหลังสุดของห้องดังแว่วมาแค่พอระคายหู ครูสมศรีก็พุ่งรังสีอำมหิตยิงตรงไปแบบไม่ให้พลาดเป้า


“เตชิต ภาคิม เธอสองคนซุบซิบอะไรกัน”


“เออะ เอ่อ คุณครูครับ”

ภาคิมพูดพลางเบ้ปากเหมือนคนกำลังท้องไส้ปั่นป่วน ฝ่ายเตชิตที่นั่งกระอักกระอ่วนอยู่ข้างๆ อดรนทนไม่ไหว เป็นฝ่ายลุกขึ้นและขานเสียงดัง

“ผมเป็นคนเอาสมุดการบ้านของนักนินไปเองครับ”

ทั้งห้องหันขวับไปที่นักเรียนชายคนที่ลุกขึ้นมายอมรับผิด เสียงฮือฮาดังขึ้นมาระลอกหนึ่งแล้วสงบลงไปด้วยรังสีอำมหิตของครูสมศรี

“แล้วไหนล่ะ สมุด”

น้ำเสียงซักค้านอย่างมุ่งมาดจะได้คำตอบทำเอาเตชิตเองก็ปั่นป่วน

“ผะ ผมลืมไว้ที่บ้านครับ”

“อ้อ เอาของเพื่อนไปลอก แล้วทิ้งไว้ที่บ้าน แต่ของตัวเองมีมาส่งอย่างนั้นเรอะ”

“คะ ครับ”

เตชิตก้มหน้ายอมรับผิด

“งั้นก็ออกไปยืนข้างนอกด้วยกันทั้งสองคนจนกว่าจะหมดคาบ โทษฐานที่คนหนึ่งลอกการบ้าน และอีกคนก็ยังไม่ต้องเข้ามา เพราะเป็นคนให้ลอกการบ้าน”

“ครับ”

เตชิตออกมายืนทำหน้าประหลาดพิกล เหมือนคนกึ่งดีใจ กึ่งเสียใจ อย่างไรอย่างนั้น นักนินซึ่งยืนอยู่ก่อนแล้ว เห็นเตชิตเดินออกมาบ้างและเอาไหล่เบียดให้เธอได้ขยับไปที่ร่ม เด็กสาวทำหน้าค้อนเลิ่กลั่ก

“นายไม่ใช่คนยืมสมุดการบ้านเราสักหน่อย”

“เออน่า ก็ยืมต่อๆกันมา”

เตชิตแก้ต่างแบบไม่เต็มเสียงนัก

“แน่ใจนะ”

“อื้ม”

“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ”

“หน้ายังไง”

“ก็ สำนึกผิดก็ไม่ใช่ ดีใจก็ไม่เชิง”

“ก็ สำนึกผิดนิดหน่อย ที่ทำให้นิ่มต้องถูกลงโทษ แต่ดีใจที่ได้มายืนตากแดดด้วยกัน มั้ง”

เด็กหนุ่มทำเป็นพูดหยอกให้หัวเราะ และนักนินเองก็อารมณ์ดีขึ้นจริงๆ เด็กสาวส่ายหน้ายิ้มไม่ทันไรก็รีบก้มหน้า โยกตัวเหมือนคนจะจามแต่จามไม่ออก นักนินเอามือมารองจมูกไว้แล้วรีบเงยหน้า


“อ้าว เป็นอะไรนิ่ม”

“ไอ้ อ่า อู (ไม่ อย่าดู)”

เด็กสาวยังคงเอามือปิดจมูกแล้วเดินหนี เตชิตเดินตามและพยายามชะโงกหน้าดูถึงได้เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากร่องนิ้ว

“อ้าว นิ่ม เลือดกำเดาไหลนี่นา มานี่ก่อน”

คุณครูสมศรีมัวแต่สอนเพลินและเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเด็กสองคนหายไปจากหน้าประตูจึงผลักประตูออกมาดู


“นั่น เธอสองคน เดินตามกันไปไหน กลับมาเลยนะ อยากโดนไม้เรียวใช่ไหม”


ครูสมศรีรีบจ้ำอ้าวทิ้งห้องปฏิบัติการมาเดินตามเด็กนักเรียนสองคน ความสูงวัยบวกกับอารมณ์รีบร้อนทำให้ครูสมศรีหอบแฮ่กๆ พอก้าวทันก็คว้าแขนทั้งเตชิตและนักนินให้หันมา อาจารย์ผู้สูงวัยแทบจะละความสนใจจากเตชิตไปในทันทีเมื่อเห็นสภาพของนักนินที่เมื่อดึงมือออกและเด็กสาวหันหน้ามาตามแรงกระชาก เลือดก็หกรดลงมาบนปกเสื้อ


“อ้าว นี่เธอ เลือดกำเดาออกก็ไม่บอกครู นายเต้ เธอ วิ่งไปหาน้ำแข็งกับผ้าชุบน้ำมา ด่วนเลย”


ระหว่างที่คุณครูหันไปสั่ง นักนินก็รีบเงยหน้าอีก หวังว่าเลือดจะไหลย้อนกลับไป ไม่ทะลักออกมา


“ไม่ใช่แล้วนิ่ม เธอ อย่าเงยหน้า เดี๋ยวเลือดลงคอ มานั่งนี่ โน้มตัวลง ครูจะบีบปีกจมูกให้”


ครูสมศรีประคองพาเด็กสาวไปนั่งตรงม้าหินอ่อน น้ำเสียงของครูยังดุ เนี้ยบ และเฉียบขาดเหมือนเดิม แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเด็กนักเรียนอย่างจริงใจ


ระหว่างนั้น เตชิตไปหาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมาให้ และนั่งมองดูครูเช็ดเลือดให้นักนินโดยไม่มีสีหน้าท่าทางรังเกียจแต่อย่างใด พอเลือดหยุดไหล เด็กสาวเสียอีกที่เอาแต่อายแทบแทรกแผ่นดินหนี นักนินไม่รู้จะเดินกลับเข้าห้องอย่างไรในเมื่อเสื้อผ้ายังมีคราบเปรอะเปื้อน ทันใดนั้น ภาคิมก็เดินออกมาพร้อมกับถอดเสื้อแจ็คเก็ตสีดำมาคลุมให้ 


“เป็นอะไรมากไหมนิ่ม”


ภาคิมย่อตัวลงถามเด็กสาวที่นั่งอยู่อย่างร้อนรน เด็กนักเรียนคนอื่นๆ พากันชะเง้อชะแง้ออกมาจากห้องปฏิบัติการ ครูสมศรีต้องโบกมือไล่ให้ทุกคนกลับเข้าห้อง


“เอ้า นายเต้ นายคิว พายายนิ่มไปนอนพักที่ห้องปฐมพยาบาล แล้วห้ามเกเรกันอีกล่ะ”

“ครับ คุณครู”


เตชิตกับภาคิมรับปากแทบจะพร้อมกัน นักนินก้มหน้างุดเดินตามเพื่อนสองคนไปส่งที่ห้องปฐมพยาบาล คุณครูในห้องปฐมพยาบาลจัดเตียงให้นักนินล้มตัวลงนอนและไล่ให้นักเรียนชายทั้งสองคนกลับไปเรียนต่อ เด็กชายทั้งสองคนกลับไปโดยไม่รู้หรอกว่า นักนินจะผลุนผลันลงมาจากเตียงและเดินตามมาเพราะจะเอาเสื้อคืนให้กับภาคิม แต่ก็หยุดเดินเสียดื้อๆ เมื่อได้ยินบทสนทนาส่วนตัวของเพื่อนชายทั้งสอง


“ขอบใจมากว่ะเพื่อน”

“เออ แล้วเย็นนี้กลับบ้านไปเอาสมุดนิ่มมาคืนให้เราเลยนะ ถ้าไม่ใช่นาย เราไม่ช่วยหรอกนะโว้ย”

“เออน่า ก็ขอบใจแล้วไง เราอายนี่นา ที่จะให้นิ่มรู้ว่าเราเป็นคนทำ เราอยากเป็นฮีโร่ในสายตานิ่มให้ได้ตลอด”


“เออๆ เรารู้ เราเข้าใจว่ะ”


เตชิตยกแขนขึ้นมากอดคอเพื่อนแล้วเขย่าและพากันเดินไปด้วยกัน นักนินหยุดยืนอยู่เบื้องหลังและตัดสินใจไม่เรียกให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนหันกลับมา จากนั้น เรื่องราวเหล่านั้นก็ถูกลืม ไม่สิ แกล้งทำเป็นลืมตลอดเวลาที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

จากคุณ : รุริกะ
เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 17:42:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com