Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ นิยายรักโรแมนติกเบื้องหลังวงการแพทย์ ตอนที่ 3 ติดต่อทีมงาน

ละครรักโรแมนติกสไตล์เกาหลี
เรื่องราวความรักความแค้นของชายหนุ่มอดีตนักศึกษาแพทย์ที่เรียนไม่จบ ต้องออกกลางคัน สิ้นอนาคต ซ้ำเสียสตรีอันเป็นที่รัก ให้ชายอื่น

ต้องพเนจรร่อนเร่ไปต่างแดน แต่แล้วสวรรค์กลับให้โอกาสเขากลับมาอีกครั้ง เพื่อแก้แค้นหญิงอันเป็นที่รักสุดหัวใจในอดีต ใ

ในสถานะใหม่ มหาเศรษฐีมาเฟียผู้ลึกลับ


เขาวางแผนล่อหลอกให้เธอหลงรักในสถานะมหาเศรษฐี และจะสลัดเธอไปเช่นที่เธอเคยทำกับเขา


แต่กลับพบว่า เขามีแต่ความห่วงใยให้เธอเพราะ ปัจจุบัน เธอกลายเป็นแพทย์ ที่มีจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์เต็มเปี่ยม ซ้ำก่อเรื่องวุ่นวายให้เขาเดือดร้อน ปวดหัวอยู่เสมอ


ที่สำคัญที่สุด

ถึงเขาจะรวยแค่ไหน เธอก็เชิดใส่

เขาจะทำอย่างไรกับเธอดี
อภัยให้เธอเรื่องในอดีตและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

พี่เตชิตยังรักน้องกล้วยอยู่เสมอ


หรือจะแก้แค้นเธอต่ออีกสักนิด




ความเดิม 2 ตอนที่แล้ว

อดีต
              คุณเตชินีมารดาของเตชิตหรือเตย วัย 5 ขวบได้แนะนำให้เด็กชายรู้จักกับเด็กหญิงปันนาหรือกล้วยที่กำลังนอนอ้าปากจิ้มลิ้มสีชมพูสดใสหัวเราะเอิ้กอ้ากบนเปลเด็กทารก

              และบอกว่าน้องกล้วยคือว่าที่เจ้าสาวของเด็กชาย ทันทีที่เตชิตได้สบตากับเด็กน้อยแก้มป่อง ตากลมโตใสแจ๋ว

              ศรรักก็พุ่งปักกลางดวงใจ จนถึงกับตั้งปณิธานว่า เด็กหญิงปันนาจะเป็นเจ้าสาวเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเขาเท่านั้น

ปัจจุบัน

ปันนา สูตินรีแพทย์สาวใจเด็ด

                 ปันนากลายเป็นหมอที่ กล้าหาญ ไม่กลัวใคร กล้าคิดกล้าทำแม้แต่การผ่าตัดเจาะคอคนไข้ในรถพยาบาลทั้งที่ไม่มีเครื่อมือพร้อม ทั้งที่เป็นสูตินรีแพทย์ ชำนาญการผ่าตัดระดับต่ำกว่าสะดือเท่านั้น

              แต่เพราะคนไข้อาการทรุดลงเรื่อยๆจากเนื้อเยื่อที่บวมจนกดทางเดินหายใจ เธอไม่มีทางเลือก จึงโทรปรึกษาฉัตรมงคลศัลยแพทย์ฝีมือขั้นเทพซึ่งกำลังทำผ่าตัดคนไข้อยู่ในห้องผ่าตัด

               ถามวิธีการและตำแหน่งที่ต้องลงมีด ทั้งที่ไม่มีเครื่องมือเจาะคอ แต่ปันนาก็ดัดแปลงสิ่งของที่มีอยู่ใช้แทนจนช่วยคนไข้รอดชีวิตได้

หมอและพยาบาลในห้องผ่าตัดคอยฟังข่าวช่วยลุ้นตัวโก่งกลัวปันนาพลาด ต่างดีใจกันถ้วนหน้า

แต่หมอฉัตรมงคลพอรู้ว่าปันนาเอาอะไรมาเจาะคอคนไข้ก็แทบลมจับ





พญามังกร เฉินฮ่าวหมิง

เมืองซีอานประเทศจีน

                วันนี้จะมีการประชุมเพื่อเข้าควบรวบกิจการอุตสาหกรรมเครื่องบินของบริษัทฉางเฟย อินดัสตรีโดย ซีเอ็มกรุ๊ป หน้าตึก ซีเอ็มทาวเวอร์

                นักข่าวนับร้อยวิ่งกรูไปที่รถลิมูซีนคันใหญ่เพราะคิดว่าคนที่ลงมาจะต้องเป็น

                 เฉินฮ่าวหมิงหรืออลัน เฉิน

               ลูกชายเพียงคนเดียวของเฉินกวงหลินมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีนที่ไม่เคยปรากฏโฉมหน้าให้ใครเห็น แต่ชื่อเสียงทางด้านธุรกิจโด่งดังจนติดหนึ่งในสิบอันดับชายหนุ่มอายุน้อย ผู้ทรงอิทธิพลของนิตยสารฟอร์บ    

เพราะความสามารถและไหวพริบเชิงธุรกิจของเขาหาได้ด้อยไปกว่าผู้เป็นบิดาไม่ จนนักข่าวตั้งฉายา  

                             พ่อเสือ ลูก(พญา)มังกร

            แต่แล้วนักข่าวกลับผิดหวัง คนที่ลงมาจากรถกลายเป็นหลี่เทียนเซินมือขวาของเฉินฮ่าวหมิง เมื่อถามถึงเจ้านาย เขาชี้ขึ้นไปบนฟ้า เฮลิคอปเตอร์ทันสมัยกำลังส่ายหัวลงจอดเหนือดาดฟ้า ไม่มีใครเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาอีกตามเคย


               ตอนที่ 3
               เมื่อหมอปันนาหน้าแตกกกกก

               ภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัทซีเอ็มกรุ๊ปบนชั้นสูงสุดของอาคาร ชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฉางเฟยจีอินดัสตรีกำลังบรรยายสรุปการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยการแสดงแผนภูมิประกอบบนจอฉายภาพขนาดยักษ์

"จากที่ท่านได้เห็นนี้คืองบบัญชีที่คณะผู้ตรวจสอบบัญชีได้รับรองแล้ว ท่านจะเห็นได้ว่าแม้ว่าตลาดการขายเครื่องบินพาณิชย์จะแข่งขันกันดุเดือดในรอบปีที่ผ่านมา แต่เราก็ยังสามารถแบ่งยอดขายจากทางยุโรป อเมริกาได้ถึง 3% แต่จากตลาดเอเชีย ยอดขายเราเพิ่มขึ้นถึง 8% ทำให้เราสามารถรักษาผลกำไรจากการขายในระดับ 7% ได้"

“คุณเดวิดแน่ใจหรือครับว่า บัญชีที่แสดงให้ดูนี่ไม่มีจุดผิดพลาด”

              เสิ่นจิ้งหลงมือขวาฝ่ายบู๊ของเฉินฮ่าวหมิง เอ่ยถามหลังจากเจ้านายก้มลงกระซิบบอกอะไรบางอย่าง “ยอดลูกหนี้ที่ยังไม่มีการชำระ เงินค่าขายเครื่องบินกับบริษัทจากโอมาน ซึ่งยังไม่เรียบร้อยดี แต่กลับนำมาลงรวบยอดเป็นผลกำไรด้วย”

คนถูกตั้งกระทู้ถามหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย รีบชำเลืองมองไปที่ชายชราผมสีดอกเลาผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งก็หน้าเปลี่ยนสีไปแวบหนึ่งก่อนจะปรับสีหน้ารีบแก้ให้ลูกน้องได้ทันท่วงที

“เอ้อ ปกติปัญหาเรื่องนี้เกิดเพราะความล่าช้าในการชำระเงินของลูกค้า  เลยทำให้การลงบัญชีอาจจะคลาดเคลื่อน ไม่สิ คาบเกี่ยวกันไปบ้าง”

“ที่สายการบินจัสต้าร์ชำระเงินช้าก็เพราะการส่งสินค้าไม่เป็นไปตามกำหนดการ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรเอายอดขายที่ยังไม่เรียบร้อยกับเงินค้างชำระของลูกหนี้มาลงไว้ในงบด้วย"

“เรื่องผิดพลาดนิดหน่อยเอง ถ้าไม่พอใจ ทางเราจะแก้ไขให้ใหม่” ประธานฉางเฟยจีทำสีหน้าเหมือนกำลังเบื่อหน่ายกับเรื่องหยุมหยิม

“คงไม่อยู่ที่ว่าทางเราพอใจหรือไม่พอใจ แต่เป็นการบอกให้รู้ว่าการบริหารงานที่นี่ค่อนข้างหละหลวม คงเป็นเพราะใช้บริการครอบครัว ธุรกิจถึงไปไม่ได้ไกลเท่าที่ควร น่าเสียดายบริษัทที่มีศักยภาพที่จะบินได้กลับมัวแต่คลาน"
เสียงกร้าวประกอบกับถ้อยคำดูแคลนที่รุนแรงนั้นทำให้หลี่เทียนเซิน มือขวาฝ่ายบุ๋นของนายใหญ่รีบยกมือสะกิดรุ่นน้อง  

“จะพูดยังไงก็ตาม ราคาที่ซีเอ็มกรุ๊ปเสนอมา ทางเราก็ยอมรับไม่ได้”

คำพูดของประธานฉางเฟยจีดูเหมือนจะพุ่งตรงไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำเข้มที่ตลอดเวลาในห้องประชุมแทบจะมิได้แสดงความเห็นอะไรเลย

              นอกจากใช้สายตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่เครื่องสื่อสารไฮเทคตรงหน้า ที่ดึงรายละเอียดจากจอภาพใหญ่ในห้องประชุมลงมาไว้ให้ดูบนโต๊ะ สลับกับการกระซิบสั่งงานกับมือขวาทั้งสองคนเป็นระยะ  
                นอกนั้นเขาแทบไม่มีตัวตนใดๆเลย
                แต่ทุกคนในห้องประชุมรู้ดี การประชุมวันนี้ ทุกอย่างมาจากสมองอันชาญฉลาดของชายหนุ่มผู้นี้แต่เพียงผู้เดียว

เฉินฮ่าวหมิงประธานซีเอ็มกรุ๊ปเงยหน้าขึ้นมองผ่านขนตาดกดำหนาไปยังชายชราผมสีดอกเลาที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว

“แต่ราคาที่ทางเราเสนอไปก็เต็มที่แล้วเหมือนกัน 75% ของราคาที่เสนอมา”

เสียงห้าวลึกแต่แฝงความเฉียบขาดเป็นครั้งแรกทำให้ห้องประชุมเงียบกริบ สายตาทุกคู่พุ่งตรงสลับกันไปมาระหว่างบุรุษทั้งสองที่มีความสำคัญที่สุดในการชี้เป็นชี้ตายทั้งหมด

ประธานวัยชราแห่งฉางเฟยจีกรุ๊ป และประธานหนุ่มแห่งซีเอ็มกรุ๊ป

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ประธานฉางเฟยจีก็ตัดสินใจทิ้งไพ่ตายใบสุดท้ายลงไปด้วยน้ำเสียงเนิบๆว่า

“ถ้าอย่างนั้น เราเห็นจะต้องกลับไปพิจารณาข้อเสนอของกองทุนโกลเด้นพลัสใหม่ เขาให้ราคาสูงกว่าที่ซีเอ็มกรุ๊ปเสนอให้เรา"

จุดดำกลางนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับเหมือนจะเดาเกมได้ถูกแต่แรก หากชายหนุ่มก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายอาวุโสกว่าพูดต่อไป

"ที่ผมเลือกทางซีเอ็มกรุ๊ปก็เพราะเป็นบริษัทคนจีน  ผมเองก็เป็นคนจีนคนหนึ่ง มีความใฝ่ฝันจะได้เห็นเครื่องบินสายหลักที่สร้างโดยคนจีน มีคนจีนเป็นเจ้าของได้บินว่อนเหนือน่านฟ้าทั่วโลก ไม่ใช่แค่นั้น ผมยังอยากให้เรากลายเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องบินสายหลักขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และผมมั่นใจในศักยภาพของซีเอ็มกรุ๊ปที่จะทำได้"

ฝ่ายบริหารสูงสุดผู้อาวุโสน้อยกว่านิ่งฟังจนอีกฝ่ายพูดจบ เขาก้มศีรษะให้เป็นเชิงขอบคุณพร้อมกับพูดว่า

"ขอบคุณท่านประธานที่ให้ความไว้วางใจซีเอ็มกรุ๊ป” เฉินฮ่าวหมิงหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้องคนหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “แต่ก่อนอื่น ผมมีขัอมูลบางอย่างที่อยากให้ท่านได้พิจารณาดูประกอบการตัดสินใจ"

แผนภาพปรากฏขึ้นบนจอภาพขนาดใหญ่ทันทีที่จบคำพูดของนายใหญ่แห่งซีเอ๊มกรุ๊ป

"ท่านทั้งหลายคงทราบดีว่า ประธานบริษัทกองทุนผู้เสนอชื่อรายต่อไป มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับประธานกลุ่มธนาคารไชน่าอินดัสตรีแชริตี้ และเงินทุนที่จะนำมาควบรวมกิจการกับฉางเฟยจีนั้น 75% มาจากธนาคารไชน่าแชริตี้"

                ถึงคราวหลี่เทียนเซินอภิปรายบ้าง

"ผมก็ไม่เห็นว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาสำคัญอะไร" ผู้บริหารใหญ่คนหนึ่งของกลุ่มฉางเฟยจีอินดัสตรีขัดขึ้น

"ดูเผินๆก็ไม่น่าจะเกี่ยว ถ้าธนาคารไชน่าแชริตี้ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ ให้สินเชื่อวงเงินสูงถึงแปดหมื่นห้าพันล้านหยวนให้กับสามบริษัทนี้"

จุดแดงถูกเคลื่อนไปยังชื่อบริษัทเกี่ยวข้องกับ โรงงานอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี โรงงานถลุงเหล็ก บริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ที่ทุกคนในห้องประชุมรู้จักดี
               "คงจะไม่มีอะไร ถ้าบริษัททั้งสามนี้จะไม่อยู่ในสถานะที่ใกล้จะล้มละลายในไม่ช้านี้ โรงงานสองแห่งถูกพิษเอ็นจีโอ ที่นี่"                
                 เขาชี้ภาพประกอบก่อนจะบรรยายต่อไป

               "ถูกวางเพลิงเสียหายทั้งที่ก่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่มีใครยอมรับผิดชอบแม้แต่รัฐบาลของประเทศนั้นและยังถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเป็นเส้นเลือดใหญ่ของพรรคฝ่ายค้าน ส่วนบริษัทเดินเรือถูกกล่าวหาและกำลังสอบสวนในทางลับว่าได้รับกองทุนหนุนนอกระบบ และธนาคารถูกโยงเข้าไปเกี่ยวพันด้วย"

เสียงฮือฮาในห้องประชุมดังขึ้นทันที  คณะผู้บริหารฝ่ายเสนอขายหันมาซุบซิบกันเอง
 
"ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่คงไม่ยากสำหรับคุณเดวิดที่จะหาความจริงเรื่องนี้ได้เดี๋ยวนี้”

ไฟในห้องประชุมเปิดสว่างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังการเสนอแผนงานบนจอภาพสิ้นสุดลง

"เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป ธนาคารที่เป็นผู้ค้ำประกันบริษัททั้งหมดนี้คงถูกผลกระทบด้วยแน่นอน และหากมีการถอนเงินออกมาอย่างกะทันหัน ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

คณะผู้บริหารของฝ่ายฉางเฟยจีที่หลี่เทียนเซินอ้างอิงถึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยท่าทีร้อนรนหลังจากประธานของตนหันมาสั่งการอะไรบางอย่าง

ทุกคนพอจะเดาได้ว่าเขาออกไปทำอะไร

"ระหว่างที่นั่งรออยู่นี่ ผมก็มีเอกสารที่น่าสนใจมาให้ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายในห้องได้ดูประกอบการพิจารณา"

เพียงนายใหญ่ซีเอ็มกรุ๊ปพยักหน้า เสิ่นก็ลุกขึ้นยืน หอบกองเอกสารชุดหนึ่งเดินออกจากเก้าอี้ที่นั่ง เพื่อนำเอกสารไปแจกจ่ายให้กับผู้บริหารของฉางเฟยจีด้วยตนเอง

ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากผู้บริหารสำคัญแล้ว ไม่อนุญาตให้มีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการเจรจาเข้ามาร่วมแม้แต่คนเดียว เพื่อป้องกันข้อมูลละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 รั่วไหลออกไป

เสิ่นตรงไปยังโต๊ะท่านประธานบริหารของฉางเฟยจี ก่อน เหมือนจะตั้งใจให้เอกสารนี้แก่ท่านประธานเป็นคนแรกก่อนจะส่งต่อให้ผู้บริหารท่านอื่น

ทันทีที่แผ่นเอกสารของเสิ่น วางลงบนโต๊ะตรงหน้าที่นั่งของท่านประธานบริหาร เขาก็หน้าซีด ตาเบิ่งโตทันที

นี่คือรายงานงบการเงินส่วนตัวของเขา ‘การขายหุ้นบางส่วนทิ้งหลังการปล่อยข่าวการซื้อขายเครื่องบินกับสายการบินแห่งหนึ่งในดะวันออกกลาง’ หากเปิดเผยออกไป ไม่ใช่แค่ถูกผู้บริหารร่วมสำนักโจมตี แต่เขาอาจถูกสอบสวนครั้งใหญ่

  คณะกรรมการคนอื่นจากฝ่ายขายต่างรีบก้มลงอ่านเอกสารที่ได้รับแจก ในขณะที่ท่านประธานฉางเฟยจีหน้าตาซีดเซียว เหงื่อเม็ดโตผุดพราวเต็มใบหน้า

หากยังไม่ทันที่ใครจะอ่านรายละเอียดชัดเจน พลันไฟในห้องประชุมก็ดับเสียก่อน อาจเป็นโชคดีหรือเป็นฝีมือของใครบางคนที่ต้องการให้ท่านประธานเห็นเอกสารนั้นเพียงคนเดียว

"อ้าว ไฟดับเสียได้"

เสียงอุทานราวกับสุดแสนจะเสียดายของเฉินฮ่าวหมิง ทว่านัยน์ตาพราวระยับนั้นช่างตรงข้ามกับความรู้สึกที่พูดเสียจริง
 
ปกติระหว่างการประชุมสำคัญ ทุกอย่างต้องมีการเตรียมพร้อมอย่างดี ซีเอ็มกรุ๊ปมีหรือจะพลาด

ขณะที่หลี่ลุกขึ้นไปตรวจดูที่ห้องวงจรไฟฟ้าที่อยู่ด้านข้าง ผู้บริหารทางฝ่ายฉางเฟยจีที่เดินออกไปเช็กข่าวเมื่อครู่ ก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดมากกว่าตอนออกไปอีกหลายเท่าตัว เขาก้มลงกระซิบข้างหูบอสใหญ่ของเขา        
                สักครู่ประธานฉางเฟยจีที่หน้าซีดอยู่แล้วกลับขาวโพลนยิ่งขึ้น แม้ว่าห้องประชุมจะมืดสลัว แต่ก็ยังเห็นใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนั้นได้อย่างดี
               
               ชายชราตัดสินใจทำให้การประชุมถึงจุดสำคัญที่ทุกคนรอคอย เฉกเช่นคนที่หงายไพ่บนหน้าตักหมดสิ้นจนไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว หนำซ้ำกำลังจะถูกคนอื่นช่วยหงายไพ่ที่ตนเองไม่ต้องการจะให้เปิดเผยออกมาอีกด้วย นี่สิ ที่ยอมไม่ได้

"ตกลงทุกอย่างเป็นไปตามข้อเสนอของคุณเฉินฮ่าวหมิง" เขาเน้นเสียงที่ชื่อของเฉินฮ่าวหมิง

ถึงภายนอกจะยินยอม แต่ในใจนั้น มีหรือที่เสือเฒ่าประสบการณ์ยาวนานจะยอมให้เด็กอมมือที่อ่อนกว่าเกินสองรอบสอนมวยง่ายๆ

เมื่อการเจรจาสิ้นสุดลง ไฟในห้องประชุมก็กลับสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ทันที่เสิ่นจะลุกขึ้นเก็บเอกสารที่เพิ่งจะแจกไปกลับคืนมา ท่ามกลางความโล่งอกของประธานฉางเฟยจีกรุ๊ป

  แต่ชายชราหาได้รู้สึกขอบคุณนายใหญ่แห่งซีเอ็มกรุ๊ปไม่ แม้แต่น่อยนิดก็ไม่มี ที่ผู้อาวุโสน้อยกว่าจงใจช่วยเขาไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงของฉางเฟยจีคนอื่นได้อ่านรายงานเกี่ยวกับงบรายได้ของเขา

               นายใหญ่ซีเอ็มกรุ๊ปอาจหวังใช้ข้อมูลลับนี้บีบเขาในอนาคต
               วันนี้เขาพ่ายแพ้ เฉินฮ่าวหมิงจับจุดอ่อนของเขาได้ แต่วันข้างหน้า

               สักวันหนึ่ง เขาจะต้องรู้จุดอ่อนของเฉินฮ่าวหมิงให้ได้เช่นกัน และเมื่อวันนั้นมาถึง มังกรหนุ่มผู้ยโสโอหังจะต้องคุกเข่าสยบลงแทบเท้าของเขา

ดูท่าแล้ว สุภาษิตจีนที่ว่า อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม ใช้ไม่ได้กับนายใหญ่แห่ง ฉางเฟยจีกรุ๊ป
                เฉินฮ่าวหมิงไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า การเจรจาตกลงในวันนี้จะมีผลร้ายแรงต่อเขาในวันข้างหน้า โดยเฉพาะกับสตรีนางเดียวที่เป็นสุดยอดดวงใจของเขา

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 18:19:45

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 18:17:13

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 18:05:54

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 18:05:08

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 18:03:41

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 17:58:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com