พ้นปีใหม่มา จนล่วงเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาแห่งสีสันอีกช่วงหนึ่ง นั่นคือ ช่วงเทศกาลตรุษจีน และงานตรุษจีนที่จัดได้ว่าคึกคักที่สุดในประเทศแห่งหนึ่ง ย่อมหนีไม่พ้นงานตรุษจีน บนถนนเยาวราช ซึ่งสองพี่น้อง พริกแกงและนายเล็ก ก็มาปรากฏกายอยู่ที่ถนนสายเศรษฐกิจซึ่งวันนี้ถูกปิดลง เพราะคนจำนวนมากมายมหาศาลที่ออกมาร่วมงานปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนกันอย่างคึกคัก
โห... พี่แกง ถึงขั้นตามมาคุมเลยเหรอ นายเล็กออกปาก เมื่อเขาได้รับมอบหมายภารกิจเขียนเรื่อง งานตรุษจีน เยาวราชประจำปีนี้ แต่พี่สาวคนสวยของเขาก็มางานนี้กับเขาด้วย
เปล๊า พริกแกงปฏิเสธเสียงสูง แค่อยากมาเดินเที่ยวหาอะไรอร่อย ๆ กิน แค่นี้เอง ไม่ได้หรือไง หญิงสาวถามกลับเสียอีก แต่นายเล็กสังเกตจากพฤติการณ์สอดส่ายสายตา พร้อมทั้งโพยบอกสถานที่และกำหนดการในมือของพี่สาวแล้ว ทำให้วางใจได้เลยว่า ที่เจ้าหล่อนพูด ๆ มานั้น มันไม่จริง
รับรองนะพี่แกงคราวนี้ ถ้าพี่บอดี้การ์ดเขามา ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง พริกแกงพยักหน้ารับ
เสียดายที่เขาให้บัตรแค่คนเดียว ไม่อย่างนั้นพี่แกงจะได้เข้าไปกับผมด้วย นายเล็กยังว่าต่อไป
ไม่เป็นไรหรอก เล็ก พี่อยู่ข้างนอกน่ะดีแล้ว จะไปถ่ายรูปมุมอื่น ๆ ด้วย แยกกันนะ ใกล้เวลาแล้วนี่เล็กไปเตรียมเข้าที่เถอะ เสร็จงานแล้วโทรมาหาพี่แล้วกัน พริกแกงเดินแยกจากนายเล็ก หายเข้าไปกับฝูงชนที่ออกมาเที่ยวงานตรุษจีน ที่ถนนเยาวราชอย่างคึกคัก คนเป็นหมื่นมาเบียดเสียดกันอยู่ตลอดเส้นทางการค้าแห่งนี้
วันต่อมาพริกแกงกลับมาที่สำนักงานพร้อมกับนั่งดูภาพที่ตัวเองถ่ายไว้ด้วยกล้องของโทรศัพท์มือถือ ภาพกางเกงขายาวสีดำสนิทกับรองเท้าหนังแก้วมันปลาบนั้น ได้มาตอนที่พริกแกงได้พบกับชายหนุ่มปริศนาของเธอ โดยไม่ทันตั้งตัวที่หน้าวัดมังกรกมลวาส หลังจากที่เธอเดินจนเบียดคนจนเหนื่อย จึงตัดสินใจไปนั่งปักหลักที่วัดแห่งนั้น จนในที่สุดเธอก็ได้พบเขา และไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว พริกแกงก็อดไม่ได้ที่จะต้องเก็บภาพเขาไว้แต่เธอไม่สามารถใช้กล้องตัวโตที่คล้องคอเอาไว้ได้ เธอจึงถ่ายภาพเขาด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือโดยเธอทำเป็นยกโทรศัพท์ขึ้นพูด ก่อนจะเดินเข้าไปในระยะหวังผลได้ แต่ดูเถิดภาพที่ได้นอกจากจะไม่ค่อยชัดแล้ว แทนที่จะได้เห็นหน้าเขาคนนั้น กลับเป็นแต่ขาเสียนี่ เพราะเธอกะระยะเอาเองว่า แค่ไหนที่เขาจะไม่ทันรู้ตัว แต่ก็ยังแอบพลาด ตรงที่เธอลืมปิดแฟลช ทำให้พอกดถ่ายปุ๊บ แสงแฟลชก็วาบขึ้นมาทันที ทำเอาพริกแกงรีบยกโทรศัพท์หนีพร้อมหายเข้าไปในกลุ่มคนบนทางเท้าแทบไม่ทัน
โชคดีนะเนี่ย ที่เขาไม่รู้ตัว พริกแกงบอกตัวเอง เพราะตอนนั้น คุณบอดี้การ์ดเขากำลังพูดโทรศัพท์พอดี แต่ที่พริกแกงคิดนั้นไม่ค่อยถูกนักหรอก เพราะแสงขนาดนั้นมีหรือจะรอดสายตาเขา
ใครนะ แอบถ่ายรูปเราด้วย แต่พอเจ้าตัวจะมองหา ก็ไม่เห็นผู้ต้องสงสัยเสียแล้ว
นี่ เจ้าแกง อย่าไปบอกใครเชียวว่าทำงานอยู่นิตยสารของฉันน่ะ อายเขาตาย อาหนิงเดินมาชะโงกหน้าดูที่คอกทำงานของหลานสาวที่กำลังนำภาพลงในคอมพิวเตอร์ แถมท้ายด้วยรูปขากางเกงรูปนั้น
โธ่ อาหนิง ก็ระยะมันประชิดขนาดนั้น ใครจะกล้ายกกล้องขึ้นมาถ่ายล่ะคะ เห็นมั้ย แล้วมาว่าผม ว่าไม่ยอมถ่ายรูปเขามา นายเล็กได้ที
ไม่เหมือนกันนี่ ของนายมันทำงานอยู่ก็พอจะแถ ๆ ไปว่า ถ่ายเรื่องงาน ของพี่มันไม่ใช่นี่ เดี๋ยวเขารู้ตัว แล้วถูกจับได้ขึ้นมา อายกว่าอีก หญิงสาวแก้ต่างอ่อย ๆ
อ้าว ไม่อยากให้เขารู้เรอะ ว่าเราชอบเขาน่ะ
แกงไม่ได้พูดสักนิดเลยนะคะ ว่าชอบ พริกแกงพูดแบบอ้อมแอ้ม
ไม่ชอบแล้วไปตามถ่ายเขาอยู่ทำไมหา เจ้าแกง
ไม่รู้สิคะ มันอดไม่ได้น่ะ เห็นแล้วก็อยากเก็บไว้เห็นอีกวันหลัง หญิงสาวพูดเหมือนเพ้อแล้วก็อมยิ้ม ทำเอาสองพ่อลูก ส่ายศีรษะไปตาม ๆ กัน
เออ เอากับมันสิ คนเป็นอาพูดได้แค่นั้นแล้วเตรียมจะหันกลับไปที่โต๊ะทำงานของตน แต่ก่อนไปก็หันกลับมาสำทับกับหลานสาวว่า
เฮ้ย ทำงานด้วยนะ อย่ามัวแต่นั่งดูขากางเกงอยู่
ใครจะนั่งดูขากางเกงอยู่ล่ะคะ แกงกำลังดูว่างานหน้า เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ต่างหาก พริกแกงตอบกลั้วเสียงหัวเราะ
เออ ดี คราวนี้สบายแล้วพวกแก อานิรุทธิ์ บรรณาธิการใหญ่หันไปทางหนุ่ม ๆ ทั้งหลายในออฟฟิศ พวกแกไม่ต้องออกแดดให้ตัวดำแล้ว งานกลางแจ้ง เจ้าแกงมันเหมาหมด ใครอย่าไปแย่งมันนะ เดี๋ยวมันขวิดตาย
อาหนิง พริกแกงร้องเสียงลั่น พร้อมกับทำท่า แสนงอน
เอ้ย พูดผิด โทษที เดี๋ยวน้องแกงเขาจะงอนเอา อาหนิงพูดด้วยเสียงหัวเราะก่อนเดินจากไป
จากคุณ |
:
ธ.ศ.ร. (Thomket)
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ต.ค. 55 00:28:19
|
|
|
|