บทนำ
ยัยบ้า! ทำไมต้องทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย... หัดดูแลตัวเองซะบ้างสิ... ฉันไม่ได้มีเวลาทั้งชีวิตเพื่อเธอหรอกนะ...
ภาพเลือนรางที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ.. สวนหย่อมตกแต่งสวยงามขนาดย่อมถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาตลอดทางเดินภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมืองไม่ห่างกรุงเทพมากนัก โอ๊ย เจ็บ เด็กหญิงชายในชุดนักเรียนระดับมัธยมต้นหลายคนกำลังจับกลุ่มมุงดูความซุ่มซ่ามของเพื่อนที่นั่งกองอยู่บนพื้น ตรงหัวเข่ามีเลือดไหลซิบผิวหนังถลอกเป็นรอยแดงเห็นเด่นชัดบนพื้นผิวขาวเนียนอมชมพู ใบหน้าใสมีรอยน้ำตาคลอรอบดวงตาแวววาวบวกกับเสียงเล็กหวานน่าทะนุถนอมร้องโอดโอยเจ็บปวด
เป็นไรมากไหมยัยโง่ เด็กชายวัยกำลังแตกหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวดูแข็งแรงทะมัดทะแมงถามพลางก้าวเท้ายาวหยุดยืนเบื้องหน้าเด็กหญิงที่ร้องครวญครางเป่าแผลด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
ทำไมซื่อบื่อจังล่ะโซ เดินยังไงให้ล้มได้ เด็กหญิงอีกคนพูดเชิงถามพร้อมหัวเราะชอบอกชอบใจพาเพื่อนรอบข้างขำคิกคักไปตามกัน
เดินอิท่าไหนถึงได้กลิ้งลงไปกองอยู่บนพื้นแบบนั้นล่ะ เสียงเซ็งแซ่โวกเวกเหล่าบรรดาผองเพื่อนที่ล้อเลียนตอกย้ำเด็กหญิงดวงตากลมโตปากแดงผมตรงปล่อยยาวสลวยระดับเอว บ่อยครั้งที่เธอเป็นตัวตลกในกลุ่มเพื่อนๆ ด้วยความที่ชอบเดินสะดุดหกล้มซุ่มซ่ามอยู่เป็นชีวิตประจำวัน
เมื่อไหร่จะเลิกเปิ่นซะที เด็กชายร่างสูงถอนใจใบหน้านิ่งคิ้วขมวดชนกันยืนมองอย่างไม่สบอารมณ์
คิดว่าโซอยากเป็นแบบนี้หรือไงล่ะ! เสียงหวานใสตะคอกใส่ด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองน้ำตานองแก้มหันไปทางกลุ่มเพื่อนที่เรียงรายล้อมวงอย่างรู้สึกอับอาย
คิทส์ให้โซขี่หลังสิ ฉันหิวข้าวจะแย่แล้วอยากถึงบ้านซะที เสียงเร่งเร้าจากเพื่อนอีกคนบ่นอุบเมื่อเห็นท่าปล่อยไว้คงไม่จบเรื่อง
ไม่ต้อง... โซเดินเองได้อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลังกันเลยมีแต่คนสมน้ำหน้าไม่มีใครรักโซสักคน เสียงสะอื้นระบายความอัดอั้นส่อแววน้อยใจตัดพ้อไม่ขอรับความช่วยเหลือจากใคร ยิ่งทำให้เห็นความไร้เดียงสาน่าเอ็นดู
มานี่ ยัยบ้า เด็กชายร่างสูงขยับเป้ที่สะพายส่งให้เพื่อนข้างตัวถือแทน เขาย่อตัวลงต่ำชันเข่าทรงตัวมั่นคงหันหลังให้คนขาเจ็บเตรียมรับร่างบอบบาง เด็กหญิงหน้าตาบูดบึ้งยอมพยุงตัวลุกขึ้นไม่เรื่องมากด้วยคราบน้ำตาบนใบหน้าแดงก่ำขยับก้มตัวคร่อมลงบนแผ่นหลังกว้างโอบกอดรอบคอซบหน้าลงบนบ่าของคนที่อาสาช่วยเหลือ
คิดถึง เวลาที่เลยผ่านมาเนิ่นนาน...
@ บริษัท Zone Design
มาโซนั่งเหม่ออะไรของเธอ ต้องรีบส่งโปรเจคไม่ใช่เหรอ หญิงสาวข้างโต๊ะดึงสติฉันให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันอ้างถึงงานที่วางคาอยู่บนโต๊ะด้วยความหวังดีเพราะถ้างานไม่เสร็จมีหวังคงได้อยู่ทำงานกันข้ามคืน
อื้อก็ต้องส่ง แต่ภาพเก่ายังจำติดอยู่ในโสตประสาทมันผลุบขึ้นมาให้หวนคิดถึง อยากย้อนเวลากลับไป ฉันเหลียวมองคนด้านข้างที่ยิ้มทะเล้นทำหรี่ตาเล็กตาน้อยอย่างมีเลศนัยแอบแฝง
คิดถึงคนสำคัญเหรอจ๊ะ
คนสำคัญที่ไหนเพื่อนต่างหาก ฉันหลบตาเลี่ยงคำถามแสร้งทำเป็นให้ความสนใจงานตรงหน้าจริงจังเกรงจะถูกจับเท็จได้ เพื่อนจริงเหรอ สายตาเพื่อนสนิทยังคงคาดคั้นเอาความจริง ฉันถอนใจพยายามสะบัดไล่ความคิดให้พ้นจากสมองโดยเร็ว
เคยได้ยินเรื่องพรหมลิขิตไหมมาโซ
เรื่องแบบนั้นมันไม่มีจริงหรอกนะเลิกฟุ้งซ่านดีกว่าแก้ว โซไม่คุยด้วยแล้ว ฉันแย้งความคิดเพื่อนตัดบทก่อนจะพาเตลิดไปไกล จริงอยู่ภาพเก่า คนสำคัญ ยังคงคอยตามติดเป็นเงายิ่งถี่ขึ้นทุกวันจนกลายเป็นหลอกหลอน เพื่อนสมัยเด็กอยู่ข้างกายไม่เคยห่างอาจผูกพันธ์จนรู้สึกเกินคำว่าเพื่อนแต่มันคงไม่มีเรื่องบังเอิญจากคนที่พลัดพรากจะกลับมาเจอกันดังคำเพื่อนอ้าง พรหมลิขิต
จ๊ะ งั้นก็รีบทำแล้วอย่าเหม่อให้แก้วเห็นอีกล่ะกัน เสียงหัวเราะคล้ายรู้ทันทำเอาฉันถึงกับเจอทางตันยกธงยอมแพ้หยุดโต้ตอบบทสนทนา พยายามเก็บความคิดฟุ้งซ่านให้กลับไปอยู่ในกล่องความทรงจำใส่กุญแจเอาไว้
-----------------------------------------
ไม่เคยเอามาลงในพันทิพเลย เป็นกระทู้แรกฝากตัวด้วยค๊าๆๆ
จากคุณ |
:
มาโซคิส
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ต.ค. 55 16:02:07
|
|
|
|