หมอปันนา vs หมอวิกรม
ที่โรงพยาบาลเพชรธานี
ห้องพักแพทย์ศัลยกรรม เป็นห้องสี่เหลี่ยมกว้าง ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของอาคารหน่วยธุรการทางการแพทย์ซึ่งอยู่ด้านหลังของโรงพยาบาล และยังมีทางเชื่อมกับลานจอดรถด้านหลังเกือบทุกชั้น เพื่อความสะดวกสำหรับแพทย์ที่เพิ่งมาถึงโรงพยาบาล จะได้เก็บหรือหยิบสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว ก่อนจะขึ้นไปทำงานบนหอผู้ป่วย
แผนกศัลยกรรมเป็นแผนกที่มีจำนวนผู้ป่วยมาใช้บริการมากกว่าแผนกอื่นๆ จึงมีจำนวนแพทย์มากเป็นอันดับหนึ่ง ของโรงพยาบาล รองลงมาคือแผนกอายุรกรรมซึ่งมีแนวโน้มว่าในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ไม่น้อยกว่าแผนกศัลยกรรม
เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้ซื้อเครื่องฉีดสี ขยายเส้นเลือดหัวใจมาแล้ว ทำให้ไม่ต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลซึ่งมีศูนย์โรคหัวใจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนหรือรัฐบาลก็ตาม
จึงสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนย้ายคนไข้ลงได้มาก ผู้ป่วยโรคหัวใจในอนาคตจึงน่าจะเพิ่มขึ้นชัดเจน และอาจจะทำให้ผู้ป่วยแผนกอื่น เพิ่มขึ้นอีกเช่นเดียวกับที่มีตัวอย่างมาแล้วในโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในกรุงเทพฯ
ช่วงบ่าย ที่ห้องพักแผนกศัลยกรรมมีงานประชุมเชิงวิชาการ โดยมีบริษัทยาเป็นสปอนเซอร์เลี้ยงอาหารกลางวัน กว่าจะประชุมเสร็จ ก็เกือบจะบ่ายสองโมงแล้ว แพทย์ส่วนใหญ่แยกย้ายไปทำงานในหอผู้ป่วย
กลุ่มแพทย์ที่เหลือนั่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องสัพเพเหระ หัวข้อการสนทนามีหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องที่เพิ่งประชุมไปเมื่อครู่นี้ หรือถกกันเรื่องเคสผู้ป่วยที่มีปัญหา เลยไปจนถึงเรื่องในตลาดหุ้น ซึ่งนับวันจะเป็นหัวข้อสนทนาหลักมากขึ้นทุกที
เนื่องจากแพทย์หันมาลงทุนด้านนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะความเสี่ยงน้อย เมื่อเทียบกับการทำงานด้านการแพทย์ หากถูกฟ้องร้องครั้งหนึ่ง
นอกจากเงินจำนวนมากมายที่ถูกเรียกร้องแล้ว ยังต้องเสียเวลาทำมาหากิน ขึ้นโรงขึ้นศาล เผลอๆอาจต้องติดคุกติดตะรางราวกับอาชญากรตัวฉกาจ เสียอนาคต เสียกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
แต่การซื้อขายหุ้น หากขาดทุน ก็เพียงแค่เสียเงิน ไม่ถึงขนาดต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับไหนมาประโคมข่าวถึงเม็ดเงินที่แพทย์ขาดทุนจากหุ้นไปมากมายเท่าไหร่ แต่ถ้าถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการรักษาพยาบาล
แพทย์มีสิทธิ์ได้ขึ้นไปโชว์หรา เป็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ พร้อมรายละเอียดค่าปรับเป็นจำนวนเงินมากมายมหาศาล ทำให้แพทย์คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องพลอยรู้สึกเสียวสะท้านไปด้วย
นายแพทย์ฉัตรมงคลหัวหน้าแผนกศัลยกรรม กำลังพูดคุยเรื่องแลกเปลี่ยนเวรกับแพรวาศัลยแพทย์สาวสวยประจำโรงพยาบาล
หากยังไม่ทันที่แพรวาจะตอบอะไร ประตูห้องพักแพทย์ศัลยกรรม ก็ถูกเปิดผลัวะเข้ามาโดยแรง พร้อมกับที่แพทย์หญิงปันนา สาวห้าวประจำแผนกสูตินรีเวชกรรม เดินจ้ำพรวดๆตามเข้ามา เห็นชายเสื้อกาวน์ปลิวไสว
สีหน้ากราดเกรี้ยว บอกอารมณ์ ณ เวลานั้นได้เป็นอย่างดี ลูกแก้วสีนิลมองกราดไปทั่วห้อง เพื่อหาบุคคลเป้าหมาย
แพทย์ทุกคนในห้องหันมามองเป็นตาเดียวกันด้วยความประหลาดใจ จะมีก็แต่ผู้ที่นั่งอยู่ริมโต๊ะด้านในสุดเท่านั้น ที่แม้จะไม่เห็นหน้าชัดเจน
เนื่องจากเจ้าตัวมัวแต่ก้มหน้าก้มตา แขนสองข้างวางราบอยู่บนโต๊ะ นิ้วกดรัวเร็วไปบนแป้นหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ในลักษณะของคนที่กำลังติดพันอะไรบางอย่างอยู่
ที่ไม่สนใจรับรู้สิ่งรอบตัวแต่อย่างใด และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว!
ว่าไง หมอกล้วย สวยพุ่งหลาวมาแต่ไกลเลย มีอะไรให้รับใช้หรือ?
หมอหนุ่มหน้าตี๋ที่นั่งหันหน้ามาทางประตูกล่าวทักทายขึ้นอย่างอารมณ์ดี แต่แล้ว ก็คอหดเหลือสองนิ้ว เมื่อถูกตวาดแว้ดกลับมาทันทีว่า
ไอ้กรมกร๊วก... ไอ้ทุเรศ... อยู่ที่ไหน?
หนุ่มผู้นั่งเล่นเกมกดอยู่คนเดียวสะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้นมาทันที อย่างโกรธๆ หากครั้นพอเห็นว่าเป็นใคร ก็ปรับสีหน้าเป็นยิ้มระรื่น ทะลึ่งทะเล้น ทักทายเสียงอ่อนเสียงหวานทันที
กล้วยเองหรือ...มาหาถึงนี่เชียว... มีอะไรจ๊ะ? แล้วก็ต้องมีอันหัวหด คอหดอีกคน เมื่อฝ่ายนั้นกระชากเสียงตอบกลับมาว่า
เออ มีแน่ ไม่งั้นฉันจะมาเหยียบที่นี่ทำไม? ถ้าไม่เพราะอยากจะมาเฉาะกระบาลแก
เฮ๊ย เรื่องอะไร มีอะไรก็พูดกันดีๆก้ได้นี่
วันๆ แกเล่นเอากระบาลกลวงๆของแก ไปคิดแต่เรื่องเล่นเกม แก้อักษรไขว้ ดูหนังเอกซ์ ส่วนคนข้งคนไข้ ไม่สนใจ โยนโครมๆไปให้เดือดร้อนชาวบ้าน
หมอคนอื่นมองหน้าหมอสองคนนี้กลับไปกลับมา ด้วยความงุนงง ไม่มีใครถามหรือพูดอะไร เพราะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
เฮ๊ยๆ อะไรฟะ ฉันอยู่ของฉันดีๆ มากล่าวหากันเยี่ยงนี้ได้ยังไง
ปฏิเสธเสียงใสซื่อ ไร้เดียงสา เลยโดนคนที่อยากเฉาะกระบาลเล่นงานต่อ
แกส่งมาทำไม เคสปวดท้องไส้ติ่งแตกของแกน่ะ
คนถูกกล่าวหาทำท่านึก ก่อนจะระลึกชาติได้ว่าได้ส่งคนไข้ไปแผนกสูตินรีคนหนึ่งเมื่อเช้านี้ จริง
อ๋อ ฉันส่งไป ก็ปวดท้องใต้สะดือ ก็ต้องส่งให้นรีเวชเคลียร์ก่อนสิ เผื่อเป็นพีไอดี เอคโตปิก ซิสแตก ถ้าไม่ใช่ ก็ส่งคืนมาดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องมาดุกันด้วยจ๊ะกล้วยจ๋า
เสียงอ่อยๆ แสดงว่าฝ่ายชายน่าจะมีความเกรงกลัวฝ่ายหญิงมาแต่ดั้งเดิม
ถ้าคนที่แกส่งมาให้ฉัน เป็นเอคโตปิก ซิสแตก พีไอดี ได้ล่ะก็ ฉันก็เป็นณเดช ไปเล่นละครเป็นพระเอกไปแล้ว
คนพูดหยุดพักหายใจก่อนจะอบรมต่อ แกเบิ่งตาดูหรือเปล่าที่แกส่งมาน่ะ เป็นนายหรือนางสาว หา!.. แกน่ะดีแต่หายใจทิ้ง หายใจขว้างไปวันๆ ผอ.น่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่แรกเกิด
ที่หมอกล้วยอ้างถึงคือนายแพทย์รักดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพธานี บิดาบังเกิดเกล้าของนายแพทย์วิกรมนั่นเอง
อ้าว! เสียงอุทานนั้น เจ้าตัวน่าจะไม่รู้จริงๆ
ผู้ชายหรอกหรือ ใครจะไปรู้ ขาว สวย หมวย อึ๋ม บึบบับขนาดนั้น ให้คิดว่าแม่นั่นเป็นผู้ชาย เธอยังเหมือนกว่าเสียอีก
ถึงตอนนี้ ดูเหมือนหมอคนอื่นๆ ในห้องจะพอเดาได้แล้วว่า สองคนนี้มีเรื่องอะไรกัน จึงมีรอยยิ้มขบขันเกิดขึ้น
อย่างนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นความผิดพลาดทางการแพทย์อย่างหนึ่ง
ไอ้นี่.. นี่ ปาก ทีหลัง ก็หัดดูบ้างที่พยาบาลคอนซัลท์ ไม่ใช่โบ้ยมาให้คนอื่นเขาแบบนี้ ฉันไม่มีเวลาว่างพอจะมาช่วยสกรีนคนไข้ให้แกผ่าบ่อยๆนะ
อ๋อ คนไข้เมื่อเช้านี้เอง
หมอหนุ่มหน้าตี๋คนเดิม ที่ดูจะขาวที่สุดในห้อง แม้แต่แพรวา ผู้หญิงคนเดียวในห้อง ยังต้องชิดซ้าย ตายาวรี ไม่มีเหลาเต๊ง บ่งบอกชาติตระกูลบรรพบุรุษ ขยับแว่นสายตากรอบเงินวาววับ ยื่นหน้าแหลมเสริมขึ้นมาทันทีว่า
ไอ้กล้วย ฉันก็อยู่ด้วย ตอนพยาบาลเอาเด็กนั่นมาให้มันดู
โบ้ยปากไปทางผู้ก่อเหตุ ก่อนจะฟ้องต่อ โดยไม่สนใจการค้อนประหลับประเหลือกจากเพื่อน มันกำลังนั่งเล่นอักษรไขว้อยู่ ใกล้จะครบแล้ว พยาบาลบอกว่าคนไข้ปวดท้อง ส่งมาจากเมด มันแค่ชำเลือง แล้วก็โบ๊ยไปให้แกเลย
ไอ้บ่างช่างยุ เงียบๆเลยแก หมอวิกรมหันไปตวาดเพื่อน ถึงแกไม่พูด ก็ไม่มีใครเขาว่าแกมีแต่ตูดหรอก" พร้อมกับกล่าวอาฆาฒไว้ "ทีหลังอย่าแหยมมายืมพอร์เช่กูไปขับหลีสาวก็แล้วกัน"
หมอหนุ่มหน้าตี๋หุบปากทันควัน รู้ทันที ลาภลอยหลุดหายไปแล้ว
ว่าแล้วไหมล่ะ คิดไม่มีผิด วันๆ แกให้คนอื่นเขาไดแอกให้แกอย่างเดียวเลยนะ ไม่ต้องลำบากใช้สมอง เอาสมองมาทิ้งๆขว้างๆกับเรื่องไร้สาระ จะรอให้คนอื่นเขาเอาคนไข้ใส่พานมาให้แกผ่าตลอดหรือไง?...ไอ้กรมกร๊วก...
ชื่อเล่นของหมอวิกรมก็แค่ กรม พยางค์เดียว หากเวลาเจ้าตัวไปพ่นพิษใส่ใครไว้ ก็มักจะถูกเจ้าทุกข์ขานชื่อยาวเพิ่มอีกหนึ่งพยางค์
ตอนจับยายเด้กนั่นขึ้นขาหยั่ง จะตรวจภายใน มันคงคิดว่า ฉันเป็นหมอภาษาอะไร โง่ชิหาย แยกเพศยังไม่ถูก
เออๆ รู้แล้ว ขอโทษที วันหลังจะสกรีนอย่างดี เปิดดูกล้วยน้อยก่อน เพื่อความชัวร์ ก่อนส่ง....
ไอ้กร๊วก.... แกตายเสียเถอะ
แล้วห้องพักแพทย์ศัลยกรรม ที่เมื่อครู่แพทย์ต่างนั่งคุยกันอย่างสงบเสงี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็มีอันต้องแตกตื่นโกลาหลในบัดดล
เมื่อศัลยแพทย์มาดเฉียบ เนี้ยบทั้งหลาย ต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง เอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวจะโดนลูกหลง โดยเฉพาะบริเวณจุดสำคัญ เดี๋ยวจะเท่ไม่ออก เวลาคุยกับลูกค้า เอ๊ย...คนไข้
เพราะอะไรนะหรือ? ก็เพื่อหลบลูกกลมๆบ้าง รีๆบ้างของผลไม้จำนวนหลายสิบลูก ที่แต่เดิมวางกระจัดกระจายอยู่ในถาดหวายสีสดบนโต๊ะอาหาร ซึ่งเหลือจากการประชุมเมื่อครู่ใหญ่
แต่ตอนนี้ลอยละลิ่วสะเปะสะปะ มาเป็นระลอก ด้วยความเร็วสูง ราวกับห่าฝน จากฝีมือนักเขวี้ยงกิตติมศักดิ์
หมอปันนา สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่การใช้มือล้วงๆควักๆบริเวณต่ำกว่าสะดือของบรรดาสุภาพสตรีสาว และไม่สาวทั้งหลาย
ฉะนั้นจึงเชื่อขนมกินได้ว่า การปาแต่ละครั้ง เก้าในสิบครั้ง
พลาดเป้า
แต่ที่แย่กว่าคือ
ผิดเป้า
คนที่อยากให้โดน ดันไม่โดน
แต่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กลับโดนเข้าไปเต็มๆ ร้องโอดโอยระนาว จนต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดออกจากห้องไปในบัดดล
ประเภทรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางนั้น ศัลยแพทย์ถนัดกันอยู่แล้ว
จะหาว่าทิ้งเพื่อนร่วมวิชาชีพ ร่วมแผนก และร่วมห้อง ก็ต้องยอม แต่ไอ้ที่จะให้ร่วมเจ็บตัวฟรีๆ ไม่เอาแน่
ส่วนเจ้าตัว คนที่โดนปรามาสว่ากระบาลกลวงนั้น หาใช่ขี้ไก่ไม่ ยังมีความสามารถพิเศษอื่นๆอีก ที่นอกจากแชมป์เกมกด อักษรไขว้ เจ้าพ่อคลิปวีดีโอเอ็กซ์ วาย แซดแล้ว ยังว่องไว ปรู๊ดปร๊าด ซ้ำยังนกรู้ รู้ว่าควรจะไปหลบตรงไหนอีกด้วย
ก็หลบหลังหมอฉัตรมงคลนั่นแหละ ปลอดภัยที่สุด
คนที่น่าสงสาร กลายเป็นหมอรุ่นพี่ ผู้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่มาถูกจับเป็นโล่ ก็จำต้องเลยตามเลย ทำหน้าที่เป็นท้าวมาลีวราชช่วยว่าความให้หนุมาน เอ๊ย หมอวิกรมตามบทที่ยัดเยียดมาให้
"ระบายอารมณ์เต็มที่แล้ว หายโกรธได้หรือยัง?" หมอฉัตรมงคลถาม ด้วยมาดนิ่ง ท่าทางขึงขัง ถึงเวลานี้ หมอที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้อง นอกจากคู่กรณีแล้ว ก็คือหมอฉัตรมงคล อีกคนคือหมอแพรวา
"คิดถึงความดีที่เขาทำไว้บ้างสิ" คนพูดไม่ยอมเว้นช่วง
"เวลาที่เธอคอนซัลท์พี่ แล้วพี่ไม่ว่างมาทันที ใครที่เสนอตัวมาดูคนไข้ให้เธอก่อน โดยไม่คิดดีเอฟ" หมอฉัตรมงคลพยายามขุดแคะความดีที่ยังพอมีอยู่บ้างของหมอลูกน้อง
"เวลาที่เธอเอาเคสแอปเพนดิกรับเจอร์ไปผ่า เพราะคิดว่าเป็นเอ็นโดเมทรีโอซิสรับเจอร์ ระหว่างคนไข้คาอยู่ในโออาร์ ใครที่เป็นคนเข้าไปช่วยเธอผ่าตัด โดยไม่เคยบ่นว่าเธอเลยแม้แต่คำเดียว...แล้วใครที่ยอมเปลี่ยนเวรออกหน่วยแพทย์กับเธอ โดยไม่ให้เธอใช้คืน.."
ปันนาซึ่งหยุดขว้างปาข้าวของทันที ที่เห็นหมอฉัตรยืนจังก้าต่อหน้า หลังวิ่งไล่วนรอบห้อง เล่นเอาเถิดกับหมอวิกรมจนเหนื่อย ยืนหอบแฮ่กๆ เติมแก๊สออกซิเจนชั่วคราว ก่อนจะตอบด้วยเสียงหอบๆว่า
"ก็มันอดโมโหไม่ได้ วันนี้กล้วยตรวจคนไข้ไปเกือบ 50 คน" เสียงหล่อนอุทรณ์ เหมือนขอความเห็นใจกลายๆ ข้าวเช้า ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กินเลย
งั้นก็กินที่นี่เลยสิ อาหารที่ประชุมเมื่อตอนบ่ายยังเหลืออยู่ตั้งเยอะ เดี๋ยวไปอุ่นให้ แพรวารีบอาสาตัวเพื่อช่วยลดดีกรีความร้อนของเพื่อนลง
หมอฉัตรมงคลเอี้ยวตัวไปพยักหน้าให้หมอวิกรมที่ยืนหลบอยู่ข้างหลัง
หมอรุ่นน้องก็เข้าใจสัญญาณนี้ดี รีบเดินคอตก หน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม เข้ามาใกล้หมอกล้วย พลางยกนิ้วก้อยขึ้นเป็นสัญญาณขอคืนดี แต่หมอกล้วยไม่บ้าพอจะเอานิ้วไปเกี่ยวด้วย
"กล้วย ฉันขอโทษที่ล้อเธอเล่น ไม่คิดว่า เธอจะโกรธมากขนาดนี้ ต่อไป สัญญาว่าฉันจะระวังปาก ไม่พูดอะไรที่มันระคายเคืองแก้วหูเธอ..."
"เห็นแก่พี่ฉัตร กล้วยยกโทษให้
หมอกล้วยบอกหมอฉัตรมงคลแล้วก็หันไปข่มขู่หมอวิกรมต่อ
แต่ถ้าคราวหลังพูดจาสัปดนกับฉันอีก ฉันเอาแกตาย ยัยแพรเธออยู่แผนกเดียวกัน ก็ช่วยๆ ดูแลให้มันทำงานทำการเหมือนชาวบ้านบ้าง ฝีมือผ่าตัดก็ไม่เลว ถ้าจะขี้เล่นน้อยกว่านี้หน่อย ก็จะดี
หมอวิกรมแอบนึกในใจ ยายกล้วยนี่ ถ้าไม่เป็นหมอ ไปเล่นละครวิทยุ รับรองรุ่งแน่
ก็เล่นเปลี่ยนโทนเสียงรวดเร็วในชั่วพริบตา กับหมอฉัตร เสียงอ่อนเสียงหวาน พอหันมาทางเขาเท่านั้น กระโชกโฮกฮากราวกับจะขบหัวเอา
"ได้เลยกล้วย จะช่วยดูๆให้" แพรวาซึ่งถูกโยนลูกมาให้ช่วยรับปาก ก่อนจะเลี่ยงออกไปอุ่นอาหารให้เพื่อน แต่ยังไม่ทันจะเปิดเตาไมโครเวฟ
เสียงประกาศโคดด่วนตามเครื่องกระจายเสียงก็ดังแทรกเข้ามาในห้อง ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่าง ฟังอย่างตั้งใจ
ทีมซูเปอร์แมนกรุณาเตรียมพร้อมที่ดาดฟ้า ทีมซูเปอร์แมนกรุณาเตรียมพร้อมที่ดาดฟ้า ทีมซูเปอร์แมนกรุณาเตรียมพร้อมที่ดาดฟ้า
เสียงประกาศเรียกทีมแพทย์ฉุกเฉินตามเฮลิคอปเตอร์ดังติดๆกันสามครั้ง กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่งทุกตารางนิ้วภายในโรงพยาบาล
ฉะนั้นแพทย์จึงไม่มีข้ออ้างว่าไม่ได้ยินเสียงประกาศ แม้ในเวลากำลังปลดทุกข์ฉุกเฉิน อยู่ในที่ลับตาคน
วันนี้ใครอยู่ทีมซูเปอร์แมนคู่กับพี่ ฉัตรมงคลเอ่ยถามด้วยเสียงรัวเร็ว
ปันนารีบยกมือขึ้น กล้วยเองค่ะ
หมอวิกรมตาลุกวาว ลอบยิ้มอย่างมีเลศนัย
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:40:12
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:28:37
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:26:28
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:24:02
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:22:19
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 22:17:09