Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
********คิมหันต์อนันตรม******** ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3 ติดต่อทีมงาน

วันนี้ติดงานค่ะ  ยังไม่ตอบกระทู้ ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ
_______________________________________________

ความเดิม ตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12748936/W12748936.html
________________________________________________


คิมหันต์อนันตรา
ตอนที่ 2  นิราศนาถอนงค์
            ระรอกคลื่นน้อยๆ กระเพื่อมเคลื่อนผิวน้ำให้ต้องแสงจันทร์นวลจนเกิดเป็นแสงสีเงินระยิบระยับไปทั่วทั้งคุ้งน้ำ  ผสาน กับริ้วเส้นแสงสีที่เกิดจากหลอดไฟฟ้าหลากสีสรรของตึกรางร้านค้าที่ตั้งอยู่ บริเวณริมแม่น้ำสะท้อนทอดลงมา ดั่งเส้นสายลายศิลป์ที่ถูกบรรจงวาดลงบนแผ่นพื้นแม่น้ำเจ้าพยายามค่ำคืน สิตาอินทร์ยืนมองเหม่อเพียงลำพัง ครุ่นคิดถึงความนัยที่แฝงในคำพูดของหลวงพ่อ
           “เป็นอะไรไปหรืออิน ถอนหายใจเป็นคนอมทุกข์หนักไปได้” อิงฟ้าถือจานผลไม้ที่ปอกและจัดลงจานเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาหายังบริเวณ ระเบียงห้องที่ทั้งคู่ช่วยกันจัดไว้เป็นที่สำหรับนั่งเล่น นับเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่พ่อและแม่ของเธอทิ้งสมบัติชิ้นนี้ไว้ให้ทำ ให้ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ทุกวัน
           “ฟ้า เคยคิดถึงใคร.........” เสียงของสิตาอินทร์คล้ายคนละเมอแผ่วเบาก่อนที่จะเปลี่ยนใจหยุดพูดไปเสียเฉยๆ นามนั้น ‘องค์รามราช’ เพียงแค่เธอได้ยินให้ห้วงแห่งภวังค์หากกลับรู้สึกติดตรึงตราในจิตใจนัก
           “อะไรนะ”
           “เปล่าๆ กำลังคิดว่าดีนะที่ถวายเพลได้ทันพอดี”
           “อ๋อ เรื่องเมื่อกลางวันวันนี้นะหรอ อินไม่ไปหาหมอจริงๆ หรือ อีกอาทิตย์เดียวก็ต้องเดินทางไปทำงานแล้วนะ ฟ้าชักเป็นห่วงแล้วซิ ยิ่งไปตั้งกองถ่ายละครกันในป่าอยู่ด้วย” อิงฟ้าทำหน้ามุ้ยยุ่งเหยิงเพราะความห่วงใย แต่สิตาอินทร์กลับเห็นขำจึงเผลอหัวเราะคิกออกมา อิงฟ้าค้อนใส่แล้วเปลี่ยนมาตีหน้ายักษ์แทนจนสิตาอินทร์สะดุ้งโหยง
           “อู ย~ อย่าทำหน้าอย่างนั้นซิจ๊ะ ฟ้า อินแข็งแรงจะตายไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกน่า อีกอย่างเป็นป่าเสียที่ไหนเป็นไร่เป็นสวนแท้ๆ”
สิตาอินทร์ปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าหนีสายตาของอิงฟ้าเพื่อนรัก ที่ตั้งท่าเตรียมจะเอาเรื่อง แต่แล้วยังไม่ทันที่อิงฟ้าจะได้อ้าปากโต้ตอบกลับ อยู่ๆ ก็เกิดมีสายลมพัดแรงเข้ามาวูบ ในจิตคล้ายกับว่าตังเองกำลังจะลอยละล่อง ท่ามกลางเสียงทิพย์ดนตรีดังแผ่วกระทบโสตสัมผัสอ่อนโยนตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งฝัน หลังจากนั้นอิงฟ้าก็หาวนอนขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ระหว่างสองคนจึงมีความเงียบเกิดขึ้นเป็นอึดใจ ก่อนที่อิงฟ้าจะตัดบทขอตัวไปนอนเอาเสียดื่อ ๆ
           “ไม่ ไหวแล้วอิน วันนี้ฟ้ายกผลประโยชน์ให้จำเลย ฟ้าขอตัวไปนอนก่อนนะ”
           “อ้าวๆๆๆ...ยัย ฟ้า เดี๋ยวซิ อะไรกันนี่ กำลังคุยกันอยู่ดีๆ แท้ๆ เชียว” สิตาอินทร์มองตามหลังเพื่อนด้วยความงงงวย หญิงสาวผ่อนระบายลมหายใจออกมาอย่างเยือดยาวโล่งอก โดยมิได้เครงใจเลยว่ามีสิ่งหนึ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติบันดาลให้เกิดขึ้น เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
           เมฆทะมึนเคลื่อนทับดับดวงจันทราจนสิ้นสำแดง แห่งแสงสว่าง ยังผลให้พื้นพิภพปรากฎเป็นเงามืดหม่นกินบริเวณกว้าง หากแสงส่องสว่างดั่งความยุติธรรม วัตถุธาตุอันทึบแสงทั้งหลายนั้นก็คงเป็นเช่นความอยุติธรรม ด้วยเป็นเหตุทำให้แสงมิอาจส่องสว่างเข้าถึงยังจุดที่ถูกบดบังได้ ดั่งดวงวิญญาณหนึ่งซึ่งจมอยู่เพียงในเงามืดเดียวดาย
           สรีระ บอบบางของนางหนึ่งเป็นผู้ซึ่งไร้ตัวตนดั่งอากาศธาตุ ปรากฎเป็นรูปเงาจางๆ ยืนอยู่เคียงข้างสิตาอินทร์ ซึ่งกำลังตกอยู่ในภวังค์อย่างช้าๆ เพราะเริ่มมีอาการง่วงงุนเช่นเดียวกันกับอินฟ้า สายลมแผ่วเบาพัดพานำกลิ่นหอมหวานของดอกราตรีโชยมาแตะจมูก ทั้งๆ ที่ไม่มีต้นตอแห่งกลิ่นนั้น แต่หัวของสิตาอินทร์หนักอึ้งด้วยอำนาจลี้ลับบางอย่างจนเกินกว่าจะได้สงสัย ในที่สุดหญิงสาวก็ฟุบหลับอยู่ตรงนั้นเอง
           “ถึงเวลา ที่ข้าเพียรรอมานานเนิ่นแล้ว ศรีอุษา” เสียงเพรียก กังวานหวานเศร้าดังเข้ามาในภวังค์ฝัน เหมือนดั่งได้ยินอยู่ไกลๆ พลันภาพอันมืดมัวมนก็เกิดในนิมิตของสิตาอินทร์

           แรงน้ำค้างผสานสายลมเย็นที่ พัดผ่านทำให้หญิงสาวผู้ถูกศัตรูพันธะการเอาไว้อย่างแน่นหนา ค่อยรู้สึกตัวพื้นขึ้นมาในความมืด คืนเดือนดับซ้ำยังมีม่านเมฆามาบดบังจันทราจนสิ้นแสง แม้นดวงตาของนางมิได้มืดบอดแต่ศรีอุษาก็มิอาจมองเห็นสิ่งใด  ได้ ยินเพียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาหาร่างของนางอย่างเชื่องช้า แม้นว่าจิตใจอันคงเข้มแข็งอยู่แต่ก็อดที่จะประหวาดหวั่นขึ้นมามิใด
           “ผู้ใดฤา ข้าขอน้ำแม้นสักน้อยเถิด” น้ำเสียงของศรีอุษาแหบพร่ายิ่งนัก นางเพ่งแลไปยังร่างที่เป็นเงามืดเรือนราง เห็นว่ามีรูปร่างดั่งอิสตรีจึงร้องขอไปเผื่อจะได้ความเมตตาบ้าง หากแต่กลับมิมีการตอบรับใดมีเพียงเสียงของฝีเท้าที่ยังคงก้าวอย่างมั่นคงและ สม่ำเสมอ จนมาหยุดอยู่ห่างประมาณสักหกเก้าวัตถุสีเงินมันปลาบก็ถูกขว้างเข้าใส่ยัง ร่างของศรีอุษา โดยที่นางมิได้มีโอกาสที่จะต่อสู้หรืองร้องขอชีวิต กริชเล่มหนึ่งปักร่างเจ้างามอรชรจนกายสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด โลหิตหลั่นรินกระอักออกมาทางโอษฐ์งาม แต่ก็ยังเผือนที่จะเอื่อนเอ่ยวาจา
           “ด้วย เหตุไรฤา ข้าจึงต้องตายในคราวนี้”
           “ข้าจัก บอกให้เอาบุญ หากแม้นบ่แม้นเจ้าคนที่ข้ารักคงบ่แปรใจ ข้าชังเจ้า หญิงอย่างเจ้าจงตายๆ ไปเสีย” นางในความมืดร้องตอบด้วยความโกรธแค้น น้ำเสียงบ่งบอกถึงความชิงชังในตัวนางยิ่งนัก
           “น่า สมเพชนักศรีอุษาเอย ข้าฤาเหตุอันควรแค้น ตัวข้าเล่าหากบ่ตายจะได้สมในรักเยี่ยงนั้นฤา ฮ่าๆๆๆๆ บ่มีธรรม....บ่แม้นธรรม”
           ศรี อุษาพร่ำบอกด้วยความรวดร้าวทั้งกายและใจ ด้วยหัวใจนางมอบให้ไว้แต่ชายเดียวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยคือองค์รามราชแน่แท้ มิแปรผัน แต่เหตุด้วยกลอุบายขององค์ลักษมันทำให้นางพลาดพลั้งตกปากรับคำ รับขันหมากขององค์ลักษมันแทน นางเองก็เสียใจจนดวงหทัยแทบสลายแล้วนี่กระไรนางต้องมารับความตายเพื่อให้นาง หญิงคนนั้นสมหวังกระนั้นอีกหรือ......
ชีวิตังมัยหัง สังสาโร นิเกโตภวาภพ ตรีกาล
ปฏินิวัตตติ สโมธาเนติ วิสสัชเชติ ปาลนังปิยัง นเจตัง
ชีวิตแห่งข้า ผู้เวียนว่ายในภวาภพ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต
จงย้อนมาบรรจบเพื่อให้ความเป็นเธรรมเกิดแก่ข้าด้วย เทอญ....
           เสียง แห่งจิตราอธิฐานกังวานก้องร้อยเรียงออกมาเป็นคาถาบทหนึ่ง พลันบังเกิดสายลมพัดกรูเกรียวดั่งจะตอบรับสัตย์จาจากนางผู้มีลมหายใจอัน รวยริน ดอกเสลาพากันปลิดปลิวร่างหล่นออกจากขั้วโปรยปรายลงมาดั่งสายฝน
           "เจ้า!! บ่มีวัน ข้าฤาจักปล่อยให้ย้อนมาเป็นเสี้ยนแทงใจข้า" นางในความมืดตะโกนประกาศก้องด้วยความขัดเคืองวิ่งเข้ามากดกริชจนมิดด้าม แล้วกระชากออกโดยแรง เรือนกายอรชรกระตุกสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ความเจ็บปวดเล่นริ้วไปทั่วสรพางกาย โลหิตสีแดงฉานทะลักออกไหล่รินนองปฐพี
           โอ้ว่าชาตินี้ตัวข้า นาม ศรีอุษา บุญน้อยนัก ความรักก็บ่สมในหวัง ชีวาก็เพียงเท่านี้แล้วหนอหากว่าข้าได้เวียนว่ายเกิดใหม่ในกาลภพหน้า ข้าบ่เอาภพบ่เอาชาติเสวยบุญ หากแต่ขอกลับมาแก้กรรมในชาติภพนี้ด้วยเทอญ นางรำพึงได้เพียงเท่านี้ก็สิ้นลมหายใจลงทันที ม่านเมฆาผละจากจันทรา แสงนวลก็ส่องลงมาลูปไล้ ปลายเกศาเจ้าไหวพริ้วยามต้องลมพาพัด หากแต่ลมหายใจเจ้าสิ้นสูญดับแล้วชีวิน

จากคุณ : กิ่งพุทธชาติ
เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 13:32:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com