Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลขาเนื้อทอง :: ยอแสงแข - 16 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12708964/W12708964.html

บทที่ 16

เรียกชื่อถูกแล้วทำไมหรือ คิดจะจับไอ้ปัทม์ไปซักฟอกเหมือนนายสมเกียรติ มันก็ยากหน่อยล่ะ เรื่องอะไรจะยอมสยบง่ายดายแค่โดนกระตุกขาแค่พรืดเดียว

ปัญปัทม์ไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยนัก เธอเป็นสาวปราดเปรียวมีไหวพริบและฉวยใช้ได้ทุกเมื่อตามแต่สถานการณ์นั้นๆ จะบัญชา เหมือนอย่างตอนนี้ที่เพลี่ยงพล้ำอยู่บนกายกำยำที่ร้อนขึ้นกับร้อนขึ้น

เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมอุณหภูมิในร่างกายของตรงฉัตรมันเพิ่มระดับได้เร็วได้สูงแบบนั้น แต่ก็เอาเถอะ เธอยินดีจะเก็บกลับบ้านไปวิเคราะห์หาสาเหตุเอง ส่วนตอนนี้หรือ ที่เธอกล้าทำอย่างบ้าบิ่นเพื่อไม่ให้ตัวเองสิ้นท่าก็คือ 'จูบ'

นั่นล่ะ คือสาเหตุที่กระตุ้นอุณหภูมิในร่างกายของพ่อเลขาเนื้อทองให้พุ่งกระฉูด ถ้าเป็นปรอทก็คงแตกไปแล้ว ด้วยว่าจูบไร้เดียงสาของทนายสาวจอมบ้าบิ่นมันก่อไฟวาบหวามให้ปะทุเต็มห้วงทรวง

ดังนั้น หากตรงฉัตรจะตะลึงจังงังและทำอะไรไม่ถูกไปบ้าง ก็อย่าไปตำหนิเขาเลย หรือถ้ามองไปอีกมุมก็ต้องบอกว่าน่าอิจฉาเขาเสียมากกว่า ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ เกิดมาเพื่อให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกปล้ำจูบอยู่เรื่อย คนแรกที่ประเดิมเจิมปากก็คือพลิ้วแพร เจ้าของจูบใจแตกนั่นล่ะ

"ฉันรู้ว่าไม่ควรทำ ขอโทษนะคะ ฉันสาบานได้ว่าไม่มีเจตนาล่วงเกินคุณสักนิด ฉันจำเป็น ท่องไว้นะคะว่าฉันจำเป็น แล้วฉันจะขอโทษหลังจากที่เหตุการณ์ระหว่างเรามันกลับสู่ภาวะปกติแล้ว"

ปัญปัทม์ละล่ำละลักพูดได้ยาวมา มันปรื๋อรัวจนตรงฉัตรจับความไม่ทัน เขาแค่รู้สึกว่าตัวเบาโหวงวูบหนึ่ง และทำท่าจะลุกทันทีตามประสาปราดเปรียว

แต่มันไม่ได้ดั่งใจหรอก เพราะปัญปัทม์ขยันพ่นพิษสงไม่หยุดหย่อน เธอมีสเปรย์พริกไทยด้วย แล้วตอนนี้ก็ฉีดใส่หน้าเขา แล้วก็ละล่ำละลักอีกว่า

"ขอโทษทีนะคะ ขอโทษทีค่ะ ฉันกล้าสาบานอีกว่าไม่มีเจตนาทำร้าย แค่ขัดขวางไม่ให้คุณวิ่งตามฉันไปทันเท่านั้น ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณตรงฉัตร"

'โอ๊ย ไอ้ปัทม์เอ๊ย ทำไมภารกิจของแม่มันทุลักทุเลแบบนี้ละแม่เอ๊ย' เธอครางโอดครวญกับใจตน สองเท้าก็ซอยปราดๆ ไปตามแสงไฟฉายลำจิ๋วที่ส่องจากโทรศัพท์

จะว่าไปแล้ว เธอเป็นสาวรอบคอบและเตรียมพร้อมมากคนหนึ่งทีเดียว เพียงแต่ว่าในช่วงแรกที่เธอพลาดท่าเพลี่ยงพล้ำแก่ตรงฉัตร มันเป็นเพราะเธอประมาท ชะล่าใจ และมองข้ามความแน่มากของเขาไป

ซึ่งแน่นอน หลังจากที่มีบทเรียนหน้าแตกหงายเงิบซ้ำซากแล้ว เธอก็ตื่นตัวและรัดกุมมากขึ้น ดูได้จากเหตุการณ์ในคืนนี้ก็แล้วกัน จังหวะเพลี่ยงพล้ำที่เกิดขึ้น มันบอกได้ว่าเธอไม่น่ารอดจากกรงแขนใหญ่ที่โอบรัดอย่างกักขังบนบันไดได้เลยไม่ใช่หรือ

แต่ดูสิ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน บึ่งรถจักรยานยนต์คู่ชีพของน้องชายรูปหล่อปร๋ออยู่บนถนนสายโล่งแล้ว เป้าหมายข้างหน้าคืออะไร 'ก็บ้านยังไงล่ะ'




สาวทนายบ้าบิ่นจะถึงบ้านหรือยังก็ไม่รู้ล่ะ แต่ตอนนี้ในบริษัทสว่างโร่ด้วยแสงไฟทุกซอกทุกมุม ณพนาเท้าสะเอวหงุดหงิด วงหน้าสวยแดงก่ำด้วยไฟโทสะ พ่อเลขาคนเก่งไม่เคยพลาดท่าหมดสภาพแบบนี้มาก่อนเลย

มันหมายความว่ายังไง พันศิลป์สารเลวโชคดีสวรรค์เข้าข้างหรือ ศัตรูถึงได้เจอผู้ช่วยไร้ชื่อเสียงแต่ฝีมือฉกาจจนทำให้ตรงฉัตรของหล่อนต้องมาเดินหน้าดุร้ายกลางห้องได้ ปกติแล้ว เขาไม่ค่อยเผยความรู้สึกข้างในให้เห็นบ่อยนักหรอกนะ

"มันเล่นไม้นี้ ไอ้สารเลว ฉันจะโทรไปด่ามัน" หล่อนแว้ดขึ้น หลังจากที่สุดจะฝืนทนกับความเงียบขุมใหญ่

"โทรไปตอนนี้ ให้เขาหัวเราะเยาะหรือครับ คุณพลิ้วก็อยู่นะ ถ้าเขาลูกเล่นแพรวพราวขึ้นมา คุณนาจะทำยังไง"

ตรงฉัตรเสียงกระด้าง เขาปรายตามองอารมณ์ร้อนของเจ้านายสาวใหญ่แวบหนึ่ง ในร่างกายยังรุมๆ ด้วยพิษประหลาดที่แพร่มาจากจูบไร้เดียงสา

ปัญปัทม์ต้องนึกไม่ถึงแน่ว่าเขาอยากจับเธอพาดตักแล้วตีซ้ำตีซากให้ก้นช้ำ เธอก๋ากั่นสะบัดช่อเกินกว่าที่เขาจะคะเนไปถึง ก็ได้แต่หวังละว่าเธอจะใช้วิธีแจกจูบหนีเอาตัวรอดแบบนี้เฉพาะกับเขาคนเดียว ก็ไม่รู้สิว่าทำไมจู่ๆ ก็ไม่อยากให้เธอไปทำกับชายอื่นอีก

"น่ารำคาญ" เขาบ่นคล้ายคำรามอยู่ในลำคอ ตาขรึมกวาดมองแฟ้มที่เรียงเป็นระเบียงบนโต๊ะด้วยประกายดุๆ

"รำคาญอะไร"

ณพนาได้ยินเข้าก็ถามโพล่งด้วยเสียงหงุดหงิด พ่อเลขาก็ปิดปากเงียบ หล่อนเป็นเจ้าชีวิตก็จริง แต่ความรู้สึกบางอย่างมันก็ส่วนตัวเกินกว่าจะแพร่งพราย

อย่างเช่นว่าเขาทรมานลึกกับการไหลวนขึ้นวนลงของคลื่นอุ่นกำลังดีแถวหน้าท้อง วินาทีหนึ่งก็เสียวซ่านพิลึก อีกวินาทีก็วาบหวามแปลบ แล้ววินาทีนี้ก็เร่าร้อนพลุ่งพล่าน ใคร่ปลดปล่อยให้มันไหลออกไปจากร่างกาย

"เงียบทำไม แพ้ชาวบ้านแล้วมาพาลแข็งข้อกับฉันหรือนายตรงฉัตร"

"เงียบสักประเดี๋ยวน่า จะซ้ำเติมกันเองให้ได้อะไรขึ้นมา สีหน้าคุณนาก็ดูว่าไม่มีความสุขเลยนี่"

"เอ๊ะ นายตรง"

"ประวัติผมหายไป คุณปัญปัทม์จะทำอะไร เธอจะสืบประวัติผม เธอต้องการอะไร เป็นความคิดของเธอ หรือเป็นแผนชั่วของคุณพันศิลป์กันแน่ คุณนาคิดว่ายังไงครับ"

เสียงตึงมันยังเครียดไม่พอหรือ เจ้าชีวิตถึงได้ทำตาแป๋วจ้องปากจ้องแก้มของเขาเหมือนอยากจิกพิรุธ เขาขอความเห็น หล่อนมีหรือเปล่าล่ะ มีก็ตอบออกมาสิ

"ฉันรู้สึกว่าแก้มนายแดงมากไป แต่มองยังไงก็ไม่รู้สึกว่ามันแดงเพราะโกรธ เหมือนอับอายหรือตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างเสียมากกว่า นายยังบอกอะไรฉันไม่หมดใช่ไหม เกิดอะไรขึ้นตรงบันได ทำไมนายถึงได้เสียท่าแม่คนนั้นง่ายๆ "

"ก็บอกไปแล้วนี่" ตรงฉัตรรีบเบนหน้าหนีสายตาคาดคั้น "เธอฉีดสเปรย์พริกไทยใส่หน้าผม"

"แค่นั้นหรือ" เสียงคาดคั้นดังขึ้นอีก ณพนาก้าวประชิดแล้วกระตุกแขนเร่ง สำทับหนักเข้มว่า "แค่นั้นหรือนายตรง"

"จะซักไซ้อะไรคุณนา ผมก็คนนะครับ เสียท่าบ้างมันผิดตรงไหน"

"นายตรง ฉันถามว่าแค่นั้นหรือ ถ้านายไม่ตอบ ก็ไสหัวไปเลย เพราะถ้านายรักฉันจริงอย่างปากกลิ้งกลอกละก็ นายไม่ปกปิด.. "

"ปกปิดอะไร ผมแค่ไม่อยากให้คุณนาไม่สบายใจ แต่ก็ตามใจ อยากไม่สบายใจใช่ไหม ผมบอกให้ก็ได้ คุณปัญปัทม์เธอจูบผม แล้วตอนนี้ผมก็เป็นอะไรไม่รู้ ผมควบคุมความว้าวุ่นของตัวเองไม่ได้ แต่ผมกำลังพยายามอยู่ พอใจหรือยัง"

โพล่งพรวดพรืดจบแบบไม่หายใจหายคอ หุ่นสูงเพรียวก็ค่อยย้ายฉับๆ อ้อมข้างโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ ก็นึกไว้แล้วเหมือนกันว่าคงปกปิดเจ้านายแสนฉลาดและช่างสังเกตได้ไม่นาน ดูสิ หล่อนอ่านพิรุธของเขาจากแก้มแดงๆ หรือ ให้มันได้อย่างนี้สิ

เขาสลัดความหัวเสียทิ้ง แล้วหยิบแฟ้มเปล่ามาเคาะบนหน้าขา ตาขรึมหรี่ลึกอย่างครุ่นคิด กลุ้มกับความรู้สึกว้าวุ่นก็เรื่องหนึ่ง วิตกกับปัญหาใหม่ที่ปัญปัทม์ก่อทิ้งไว้อย่างท้าทายก็อีกเรื่อง

เขาคงต้องระวังตัวให้มากขึ้น พันศิลป์ยังเล่นเกมเดิม แต่ย้ายเป้าหมายจากภรรยาศัตรูมาที่เขาที่พลิ้วแพร ใช่สินะ น้องสาวกับเลขาคนนี้ก็นับได้ว่าเป็นจุดอ่อนของสาวใหญ่ใจแกร่งพอๆ กันนี่นา




ความเงียบผุดขึ้น ทั่วห้องทำงานก็ไร้สุ้มเสียงใดๆ อีกเลย เจ้านายเลขาตรึงอิริยาบถครุ่นคิดกันอย่างขึงขัง

ใจดวงหนึ่งคิดว่าจูบนางโจรมันล้นอิทธิพลถึงขั้นไหน เลขาหนุ่มของตนถึงได้ว้าวุ่นจนแทบจะเสียกระบวน ส่วนอีกดวงก็พุ่งไปที่แผนร้ายในสมองโกงๆ ของศัตรูทางโน้น เป็นห่วงว่าแผนชั่วที่พลิกผันอาจส่งอันตรายมาเยือนชีวิตของเจ้านายที่รัก

"ตรง"

"ครับ"

เจ้านายสาวใหญ่หย่อนลงตักไขว่ห้างสบายอารมณ์ดีเหลือเกิน ไม่เกรงใจเลยว่าเจ้าของตักจะหนักบ้างไหม ใบหน้าสวยหล่อของเจ้านายเลขาอยู่ห่างกันแค่คืบเท่านั้น

ตาเรียวคมของณพนาก็จ้องประสานกับแสงขรึมในตาอีกคู่ หล่อนถอนใจระคนตื้นตันเมื่อพบละอองภักดีฟุ้งกระจายและหนาแน่นมากไม่เปลี่ยนเลย

"นายว้าวุ่นเพราะจูบของแม่คนนั้นหรือ"

"เอ้า คุณนา โอ๊ะ เหลวไหลเป็นบ้า มาถามเรื่องพวกนี้ทำไมครับ มันช่วย.. "

"เอาเถอะ ปัญหาระหว่างฉันกับพันศิลป์ คิดทั้งคืนนี้ คืนพรุ่งนี้ และอีกกี่สิบกี่ร้อยคืน มันก็ไม่เจอบทลงเอยง่ายๆ หรอก เราเว้นพักมาคุยปัญหาส่วนตัวของนายบ้างก็ได้นี่ ทำไม ปกตินายไม่ใช่คนที่หวั่นไหวอะไรง่ายแบบนี้นี่"

"ผมก็ไม่ได้บอกว่าหวั่นไหว แค่ว้าวุ่น"

"มันก็เหมือนกันนั่นแหละนายตรง จูบของแม่คนนั้นมีอิทธิพลขนาดนั้นเชียว อืม ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนฉันจูบนายครั้งแรก นายไม่มีทีท่าว้าวุ่นจนเกือบหมดมาดขรึมเหมือนคืนนี้เลย"

"คุณนา จะรื้อฟื้นทำไม มัน.. "

"ตรงกันข้าม นายลืมมันไปเลย เหมือนว่าจูบของฉันก็ไม่ต่างอะไรจากหมอนข้างที่นายพาหน้าไปซุกแล้วจูบมันเล่นก่อนหลับ"

"คุณนา พอน่า"

พอก็ได้ เจ้านายสาวใหญ่ก็ไม่ดื้อรั้นนักหรอก เข้าใจดีด้วยว่าทำไมชายหนุ่มถึงไม่อยากเท้าความแตะต้อง มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นหล่อนที่ฮึกเหิมต่อแรงคับแค้น

จูบนั้นคือบาปเดียวที่หล่อนอยากชดใช้ด้วยชีวิต เพราะมันทำให้ชีวิตของตรงฉัตรพลิกโฉมไปเลยนับแต่คืนนั้นมาจนถึงคืนนี้ แต่ก็เอาเถอะ ไม่รื้อฟื้นจูบคราวโน้นก็พออะลุ่มอล่วย แต่จูบหมาดๆ คราวนี้ หล่อนไม่ขอข้ามนะ

"นี่ ถามจริงๆ คิดลึกคิดตื้นอะไรอยู่หรือเปล่ายะ"

"คุณนา" ตรงฉัตรครางรำคาญ "ผมไม่พอใจแล้วนะ ถ้ายังซักไซ้ไม่เลิก เดี๋ยวผมอุ้มทุ่มพื้นนะจะบอกให้"

"นายกล้าหรือ ว้าย ตรงฉัตร ไอ้เด็กบ้า นี่ อย่านะ หยุด ไอ้บ้า ไอ้ตรงฉัตร ไอ้บ้าเอ๊ย"

ไม่หรอก ตรงฉัตรไม่กล้าอุ้มทุ่มพื้นอย่างปากว่าแน่ หล่อนต้องเจ็บมากเลยถ้าทำอย่างนั้น เขาก็แค่อุ้มแล้วพาเหวี่ยงเป็นวงให้หล่อนหวาดเสียวแผดเสียงแว้ดๆ จนเหนื่อย แล้วค่อยไปทุ่มใส่โซฟาแทน

โอ๊ะ แต่ดูเหมือนว่าหล่อนฉุนเฉียวร้อนแรงดีจัง ฉีกแข้งฉีกขามาถีบ เดือดร้อนให้น่องฟาดผางเข้ากับขอบโต๊ะ ร้องโอดโอยเจ็บปวดไปอีก เขาเห็นแล้ว แต่ก็ไม่นึกสงสารอะไร นอกจากหัวเราะละเหี่ย ก่อนจะย้อนกลับไปนั่งหนักใจหน่วงจิตหลังโต๊ะดังเดิม

พอเห็นแฟ้มเปล่าทีไร ภวังค์ว้าวุ่นมันก็ลอยออกไปจากห้อง ทะลุม่านสายลมดึก แล้วไปจมจ่อมอยู่กับวงหน้าใสของเจ้าของจูบไร้เดียงสา

ก่อนจะผละหนีไป ปัญปัทม์รัววาจาอะไรออกมานะ สาบานได้ว่าไม่มีเจตนาล่วงเกินใช่ไหม ให้ตายสิ มันช่างเป็นคำสาบานที่ 'สุดแสนห่วย' สิ้นดี




พันศิลป์ยิ้มเยาะในหน้าเมื่อเห็นเจ้านายเลขากลับบ้านมาอวดสภาพอิดโรย ตาสองคู่ดูหมองมากเหมือนแทบไม่ได้นอน โดยเฉพาะเลขาแมงดาปีกทอง เห็นชัดแม้กระทั่งเส้นเลือดฝอยหงิกงอ

หากจะล้มภรรยาตัวแสบให้ดิ้นพล่านๆ แทบเท้าให้สำเร็จละก็ เขาต้องกำราบผู้ช่วยตัวร้ายให้สิ้นฤทธิ์เสียก่อน ไม่ใช่สิ้นฤทธิ์แบบธรรมดาเสียด้วย เขาจะกำจัดให้หายไปชีวิตของณพนา และ 'โลก'

"เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน หักโหมอะไรกันหรือ"

"ไอ้.. "

ตรงฉัตรรีบกระตุกข้อมือเพราะทันเห็นพลิ้วแพรออกมาสมทบ หล่อนยังสวมชุดนอน แต่หน้าตาเบิกบานเหมือนคนได้นอนเต็มอิ่ม

มีความสุขจริงๆ ชั่วชีวิตของหล่อนมันถูกห้อมล้อมด้วยความพรั่งพร้อม บิดาประเคน พี่สาวก็ปรนเปรอ หล่อนสะกดคำว่าอุปสรรคไม่เป็น ผิดหวังก็น่าจะเขียนผิดๆ ถูกๆ คำที่หล่อนเขียนเก่งอ่านออกคล่องที่สุด คงจะเป็น 'ต้องได้'

"อรุณสวัสดิ์ค่ะหนุ่มๆ สาวๆ อุ๊ย ทำไมตาแดงก่ำเหมือนเมาค้างอย่างนั้นละคะพี่ตรง"

ณพนาเม้มปาก ใจมันแปลบแกมแป้วลงยังไงก็ไม่ทราบเมื่อน้องสาวแทรกกลางกระเด้งสะโพกมาผลักหล่อนถอยห่าง เพื่อให้ตนได้คล้องแขนออดอ้อนเลขาเนื้อทองในดวงใจได้ถนัดถนี่สักหน่อย

ทำไมน้องสาวไม่แสดงความรักความผูกพันแบบนั้นกับพี่สาวคนนี้บ้าง มองไม่เห็นหรือว่าพี่สาวคนนี้ทุ่มเทความรักให้หมดทั้งชีวิตเชียวนะ

"โอ้ เราปล่อยให้คู่รักเขาหวานแหววกันไปดีกว่า ที่รักจ๋า มากับผมเถอะ เราเองก็ต้องเพิ่มความหวานให้กันและกันเหมือนกันนะ"

"ไอ้.. "

"เอาสิ แหกปากด่าฉันออกมาเลย อยากให้แม่น้องน้อยสงสัยอะไรบ้าง ก็แว้ดออกมา"

ณพนาบดกรามแน่น ขยะแขยงสัมผัสจากมือใหญ่ที่กดคุกคามข้างเอว แม้แต่สีข้างที่เสียดสีกันจนเกิดไอร้อนตอนจำใจเดินเข้าห้องโถงด้วยกัน หล่อนก็สะอิดสะเอียน

มันทำให้อดที่จะระลึกถึงคืนเข้าหอนรกไม่ได้ หล่อนเกลียดพันศิลป์ เกลียดทุกจังหวะกามที่ถาโถมและจ้วงกระหน่ำราวกับสัตว์ป่า หล่อนเจ็บปวดแต่เขาหัวเราะก้องห้อง ซ้ำเติมและเยาะเย้ยทั้งปากทั้งกามทารุณ

"แกมันสารเลว"

"แหม คำก็สารเลว สองคำก็สารเลว ก็ไม่เพราะสารเลวหรอกหรือ เราสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันดีจนชาวบ้านอิจฉาน่ะ เอ้อ แต่ชาวบ้านเขาไม่รู้หรอกนะว่าภรรยานางพญาอย่างเธอโสมมกว่ามากแค่ไหน"

"ไอ้พันศิลป์"

"โอ๊ะ เรียกไอ้ หยาบคายจัง จูบหน่อยซิ"

ตรงฉัตรสะดุดขากันเองทันที เขาไม่ได้ยินหรอกว่าสามีภรรยาคู่แค้นสนทนากระซิบกระซาบอะไรกันบ้าง

แต่ที่เห็นกิริยาขัดขืนระคนเกร็งแขนเกร็งตัวตลอดเวลาของเจ้านายสาวใหญ่ ก็พอทราบว่าหล่อนไม่เต็มใจให้ศัตรูโอบเอว บังคับให้ออกเดิน รังเกียจกับการจู่โจมจับหมุนไปประกบร่างซาตาน แล้วจูบขยี้ไม่อับอายสาวใช้ที่ยกถาดอาหารเช้าผ่านมา

"คุณทำอะไร" ตรงฉัตรสลัดแขนน้องสาวใจแตก แล้วสาวเท้ายาวๆ ไปส่งเสียงขวางคลื่นตัณหาหยาบ

"เอ้า ไร้เดียงสาด้วยหรือคุณเลขา สามีภรรยาเขาจูบกันไง นานทีเราสองคนจะได้เจอกัน ก็ต้องแสดงความคิดถึงกันให้ดูดดื่มหน่อย จริงไหมที่รัก"

"อะไรนะคะ" พลิ้วแพรถามขึ้น เพราะไม่เข้าใจถ้อยความที่แฝงความนัยคุกคามสองเจ้านายเลขา "พี่พันหมายความว่ายังไงคะ นานทีได้เจอกัน ทำเหมือนว่าพี่พันกับพี่นาไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนั้นแหละ"

"อ้อ ก็ไม่ได้อยู่.. "

"อาหารเช้าตั้งโต๊ะเสร็จแล้วล่ะ เราไปห้องอาหารกันเถอะ มาจ้ะแม่ยอดชู้ของพี่ เราสองพี่น้องไม่ได้กินอาหารร่วมโต๊ะกันตั้งหลายปีแล้วนะ"

ณพนาข่มกลั้นความชิงชังไม่ให้พลุ่งพล่าน มันจะเข้าทางศัตรูเสียเปล่าๆ เท่าที่เสียท่าเล็กๆ น้อยๆ แค่ไม่กี่นาทีนี้ ฝ่ายโน้นก็พรายยิ้มเย้ยหยันจะแย่อยู่แล้ว

ขณะปรี่มาควงแขนน้องสาวแม่ยอดชู้ ตาหวั่นเจือคับแค้นก็ลอบสบกับตาขรึมของตรงฉัตรแวบหนึ่ง อยากขอบคุณที่เขาส่งเสียง ไม่อย่างนั้น หล่อนก็คงตกเป็นเหยื่อจูบหยาบนานกว่านั้นแน่

"มาค่ะ หนุ่มๆ รีบตามสาวๆ มา"

พลิ้วแพรกระดิกนิ้วด้วยลีลาสาวเจ้าชู้ ตรงฉัตรมองบุคลิกเปรี้ยวของหล่อนด้วยใจสังเวช ช่างแตกต่างกับมาดนางพญาของณพนาโดยสิ้นเชิงทีเดียว

หล่อนทำให้เขาต้องคิดอีกจนได้ว่าทำไมต้องมาเกิดเป็นพี่เป็นน้องกับเจ้านายสาวใหญ่ด้วย เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หล่อนก็ไม่เคยแสดงให้เขาเห็นว่าหล่อน 'คู่ควร'

"หึงหรือ ถือสิทธิ์ไม่เบานะ" พันศิลป์ย้ายมาถากถางเสียงยียวน รอยยิ้มก็กรุ้มกริ่มเจือครึกครื้น

"ผมเข้าใจที่คุณพูดทุกอย่างครับ" ตรงฉัตรตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคงและขรึมมาก

"อ้อ อย่างนั้นหรือ เข้าใจแต่ไม่ละอายใจ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ไอ้แมงดาทาสีทองหมดปีก แอบลักกินขโมยกินกามชาวบ้าน แต่ยังมีหน้ามาหึงหวงเจ้าของ นายกับเจ้านายของนายมันช่างสกปรกเหมาะสมกันจริงๆ อาจมจมปลักโคลน"

"อาจมก็มีเกียรติของมัน ปลักโคลนก็มีเกียรติของมัน ที่มันสกปรกก็เพราะคุณลักษณะการเกิดของมันเป็นอย่างนั้น ทุกคนยอมรับได้ และหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้มัน ไม่ใช่รังเกียจมัน แค่ว่ากลัวตัวเองจะเปื้อน"

"อ้อ อย่างนั้นหรือ"

"อย่างนั้นครับ มันต่างกับคุณนะ เพราะคุณลักษณะการเกิดของคุณเป็นผู้ชาย หรือถ้ายกย่องให้หรูหน่อยก็ต้องว่าสุภาพบุรุษ สถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็สูงส่งระดับมาเฟียใหญ่"

"นี่นายยกย่องชื่นชมฉันด้วยหรือ โอ้ ประหลาดแท้"

"เปล่าครับ ผมกำลังชี้ให้เห็นความจริงที่คุณอาจไม่เคยมอง อย่างเช่นว่าคุณลักษณะการเกิดของคุณมันดูดีมาก แต่ก็แปลก ที่สถานะสุภาพบุรุษระดับมาเฟียใหญ่อย่างคุณ กลับไม่เหมาะกับชุดสูทเท่ๆ เลย กระโปรงเก๋ๆ ของคุณนาก็ยังไม่เหมาะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นผ้าถุงผ้าซิ่น ผมก็ว่าพอกล้อมแกล้ม"

เป็นการตบหน้าแบบสุภาพเรียบร้อยโดยที่พันศิลป์ก็ได้แต่ยืนกำหมัดสำลักคลื่นแค้นแทบกระอักไปตามลำพังตรงนั้น เขาโกรธมากที่โดนสบประมาทรุนแรง แต่ด้วยทุกวลีนั้นมันกลับนุ่มนวลยิ่ง

ตรงฉัตรสารเลวจริงๆ คารมยังล้นความคมคาย ทั้งกรีดทั้งเชือดได้แสบแสนแสบ ไม่สะทกสะท้านว่าทุกคำนั้นจะสร้างความเคียดแค้นและพานส่งผลร้ายภัยมืดมาคุกคามตนในภายหลังเสียบ้างเลย

ดูซิ พอทิ้งรอยคมไว้ให้ศัตรูดูต่างหน้าจนหนำใจแล้ว ตัวเองก็ก้าวเนิบผละไปอย่างมาดเทพบุตร

พันศิลป์บดกรามหรี่ตาอำมหิต ใจก็พยาบาทร้อนกล้าทำนองว่าคอยดูไปเถอะ สบช่องนาทีกำชัยวันไหน เขาจะเป็นคนลงมือเฉือนเนื้อไอ้แมงดาปีกทองตัวนี้ด้วยมือที่ร้อนฉ่าคู่นี้เอง ไม่ต้องรีบด้วยนะ ขอแบบละเมียดละไม 'ทีละชิ้นๆ '

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:12:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com