xxxซีรี่ย์ ดอกไม้ หัวใจในควันปืน : ไฟซ่อนรัก..บทที่๑๖ xxx (กรณ์ วรรณกานต์)
|
|
ฉันทัชกวาดสายตามองฝ่าเปลวแดดร้อนระอุไปทั่วบริเวณเขตก่อสร้าง ที่กำลังจะกลายเป็นห้างสรรพสินค้าในอนาคต ชายหนุ่มมองความคืบหน้าของงานเพียงครู่ ก็หันไปสั่งกับคนงานคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้
ไปตามลูกพี่ของนายให้ไปหาฉันหน่อยนะ
ครับ
เมื่อคนงานรับคำแล้ว ฉันทัชก็เดินตรงไปยังตู้คอนเทรนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นสำนักงานชั่วคราว ซึ่งภายในมีความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศกระจายอยู่ทั่วห้อง จากทีมวิศวกรที่เพิ่งพากันเดินออกไป
ชายหนุ่มถอดหมวกนิรภัยวางบนหลังตู้ใส่เอกสาร ก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เปิดดูเอกสารที่วางบนโต๊ะได้ไม่กี่หน้า ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ ใบหน้ากร้านคล้ำแดดของหัวหน้าคนงานก็เปิดประตูก้าวเข้ามาภายใน
คุณทัชเรียกผมหรือครับ
ฉันทัชพยักหน้ารับพลางปิดเอกสาร นั่งก่อนสิ ผมมีเรื่องอยากจะถามนิดหน่อย
เรื่องอะไรครับ ผู้สูงวัยกว่าเลื่อนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานนั่งลงด้วยท่าทีนอบน้อม
ก็เรื่องปัญหาระหว่างคนงานของเรากับคนงานของพวกไพศาลกรุ๊ปน่ะสิ..ผมได้ข่าวว่า เมื่อคืนคนของเรามีเรื่องชกต่อยกับฝ่ายนั้นอีกแล้วเรอะ
..ครับ..
แล้วคราวนี้สาเหตุมันมาจากอะไร
คือ..ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ
ฉันทัชนิ่วหน้า หมายความว่าไง..จู่ๆคนของเราไปมีเรื่องกับคนอื่นโดยไร้เหตุผลเรอะ
มันก็ไม่เชิงว่าไม่มีเหตุผลหรอกครับ เพียงแต่เหตุผลของพวกมันฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่านั้นเอง หัวหน้าคนงานพยายามพูดเพื่อปกป้องบรรดาลูกน้อง แต่เมื่อเห็นสายตาคมกริบจ้องเขม็งของเจ้านายหนุ่ม ทำให้เขาต้องรีบอธิบายเพิ่มเติม คือ.. คุณก็รู้ว่าคนของเรากับฝ่ายนั้นน่ะเขม่นกันอยู่ก่อนแล้ว..แล้วเมื่อคืนคนของเรานั่งกินเหล้าอยู่ที่ร้านประจำของพวกมันนั่นล่ะ แต่มีคนของพวกนั้นเข้ามานั่งกินในร้านด้วย..ก็คงจะเหล่กันไปเหล่กันมา จนมีเรื่องกันนั่นล่ะครับ
สรุปก็คือ คนของเราตีกับพวกนั้นเพียงแค่ อีกฝ่ายเป็นคนของไพศาลกรุ๊ปใช่ไหม
มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ คุณทัช
ทำไมจะไม่ใช่ เวลาที่คนงานของเราเจอกับพวกคนงานของบริษัทอื่นไม่เคยเห็นมีเรื่องกันสักครั้ง แต่พอเจอกับพวกไพศาลกรุ๊ปกลับตีกันทุกที แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมคิดได้อย่างไง ว่าเราจ้องจะมีเรื่องกับฝ่ายนั้นน่ะ
ฉันทัชถามเสียงเข้ม หัวหน้าคนงานแค่นยิ้มแหย ก็..มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะครับ
มันเป็นเหตุบังเอิญที่ยอมรับไม่ได้..คุณก็รู้ว่าตอนนี้เรากำลังเป็นที่สงสัยของฝ่ายนั้นอยู่ แล้วผมก็เคยสั่งคุณแล้วนะ ว่าอย่าให้คนของเราไปก่อเรื่องอะไรอีก
พวกมันแค่ออกไปกินเหล้ากันตามประสานะครับ แต่พวกนั้นต่างหากล่ะที่เป็นฝ่ายมาหาเรื่องเรา
น้ำเสียงแข็งกร้าวที่โต้กลับของหัวหน้าคนงาน ทำให้ฉันทัชยิ่งหงุดหงิด ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอออกคำสั่งใหม่ ให้คุณไปกำชับพวกลูกน้องของคุณ ให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกไพศาลกรุ๊ปในทุกๆทาง..ไม่ว่าจะซื้อของหรือกินข้าว ถ้าเจอพวกนั้นเข้ามาในร้านเดียวกันให้เดินออกไปหาร้านใหม่ทันที และถ้าอยากจะกินเหล้า ก็ให้กินกันในแคมป์คนงาน ห้ามออกไปเพ่นพ่านข้างนอกเด็ดขาด
ซึ่งใจจริง ฉันทัชอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ดื่มเหล้ากันเสียด้วยซ้ำไป เพราะรำคาญกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้งที่มีเหล้าเป็นสาเหตุ แต่ขืนออกคำสั่งเช่นนั้น พวกคนงานคงพากันลงแดงตายหรือไม่ก็ลาออกกันหมด..ในเมื่อ เหล้า ได้เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคนงานจนตัดขาดจากกันไม่ขาดเสียแล้ว
ทำไมคุณต้องกลัวพวกนั้นจนยอมลงให้ถึงขนาดนี้ด้วย..คุณคณินยังไม่เคยตั้งกฎอะไรเข้มงวดขนาดนี้กับพวกเราเลย หัวหน้าคนงานโต้กลับอย่างหัวเสียต่อกฎข้อบังคับอันแสนขี้ขลาดของชายหนุ่ม
ฉันทัชลุกพรวดพร้อมตบโต๊ะเสียงดังสนั่นกับน้ำอดน้ำทนที่แทบไม่มีเหลือ ก็เพราะว่าคุณคณินไม่เคยทำอะไรเลยน่ะสิ เรื่องมันถึงได้เลยเถิดมาจนขนาดนี้..แล้วไอ้ที่ผมสั่งไปเนี่ยไม่ใช่ว่าผมจะขี้ขลาดตาขาวอย่างที่คุณคิด และผมก็ไม่สนใจด้วยว่า คำสั่งของผมมันจะทำให้ศักดิ์ศรีของพวกคุณถูกลดทอนลงไปแค่ไหน เพราะผมมองแต่ความอยู่รอดของบริษัท ซึ่งคุณอาจจะมองไม่เห็น ว่าในแต่ละครั้งที่เรามีเรื่องกับพวกไพศาลกรุ๊ปน่ะมันทำให้ชื่อเสียงของเราย่ำแย่ลงไปแค่ไหนในสายตาของคนทั่วไป ซึ่งตอนนี้เราก็มีแต่ข่าวพวกนี้ถี่ยิบ แล้วแบบนี้จะมีใครอยากจะจ้างเราทำงานให้ล่ะ ในเมื่อพวกเขามองเราเป็นแก๊งอันธพาลไปแล้ว..และเมื่อไม่มีงาน บริษัทก็ไม่จำเป็นต้องจ้างพวกคุณ คุณพอจะมองภาพออกรึยัง ว่าไอ้จุดเล็กๆที่คุณคิดว่าไม่สำคัญน่ะ แต่ที่จริงแล้ว มันสามารถทำให้เราจบเห่ได้ง่ายๆอย่างที่คุณคิดไม่ถึงเชียวล่ะ แล้วอีกอย่าง บริษัทนี้ไม่ได้มีสายป่านยาวเหยียดหรือยิ่งใหญ่อย่างพวกไพศาลกรุ๊ป มันจึงเป็นการกระทำที่โง่มาก หากคุณคิดจะพุ่งชนอีกฝ่าย ซึ่งฝ่ายเรานั่นล่ะที่จะถูกบดละเอียด ในขณะที่อีกฝ่ายอาจจะแค่ระคายผิวเท่านั้น..เพราะฉะนั้น หากไม่อยากกอดคอกันตายห่ายกแก๊ง ก็ขอให้ทำตามที่ผมสั่งซะ เข้าใจไหม
หัวหน้าคนงานอ้าปากค้าง นิ่งงันกับอารมณ์เกรี้ยวกราดของเจ้านายหนุ่ม และรีบพยักหน้าหงึกหงัก คะ..ครับ..เข้าใจครับ
ฉันทัชพ่นลมหายใจฟืด ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาหัวหน้าคนงานใหม่
คนฟังกล้ำกลืนน้ำลายลงคอ เข้าใจแบบแจ่มแจ้งเลยครับ คุณทัช
ผมมีเรื่องกับคุณเท่านี้ล่ะ ไปได้แล้ว
ครับ ร่างสูงใหญ่รับคำ พร้อมรีบลุกออกไปจากห้อง
ฉันทัชทิ้งตัวพิงหลังกับพนักเก้าอี้พลางถอนใจอีกเฮือก เมื่อไหร่ไอ้เรื่องบ้าๆนี่ถึงจะจบเสียทีวะ แล้วก็เปิดเอกสารที่อ่านค้างเมื่อครู่มาดูต่อ โดยไม่รู้ว่า หลังจากที่หัวหน้าคนงานเดินออกมาแล้ว เขาก็เหลียวมองหามุมสงบเพื่อต่อโทรศัพท์รายงานเรื่องนี้กับก้องภพ
คุณทัชสั่งแบบนั้นกับนายเรอะ ก้องภพไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หัวหน้าคนงานเพิ่งรายงานมา
จริงๆครับ ถ้าผมไม่ทำตามคำสั่ง คุณทัชคงไล่ผมออกแน่ๆ
คุณทัชก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นเองล่ะมั้ง ก้องภพยังพยายามปลอบไว้
แต่ท่าทางที่ผมเห็นเมื่อกี้ ผมเอาหัวเป็นประกันเลยนะครับ ว่าคุณทัชเอาจริงแน่..ผมก็เลยโทรมาบอก ว่าคงทำตามที่คุณขอไม่ได้แล้วล่ะครับ
นายจะยอมทิ้งเงินก้อนที่ได้มาฟรีๆเรอะ..ไม่เอาน่า นายคงไม่คิดจะทำอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม
หัวหน้าคนงานลังเลด้วยความเสียดาย เมื่อคิดถึงเงินหมื่นที่จะได้จากก้องภพเป็นค่าตอบแทนในแต่ละครั้งที่เขาสามารถทำให้ลูกน้องไปมีเรื่องกับคนงานของไพศาลกรุ๊ป ซึ่งก้องภพยื่นข้อเสนอให้เมื่อหลายปีก่อน โดยชายหนุ่มบอกว่า สิ่งที่เขาทำจะทำให้ชนาธิปเห็นความสำคัญของคณินมากขึ้น ซึ่งเขาก็มองไม่ออกว่าหากเขาทำเช่นนั้นมันจะเป็นการช่วยเหลือคณินตรงไหน แต่ก้องภพก็สามารถพูดจนเขามองข้ามความสงสัยนั้น และยอมทำตามคำแนะนำของก้องภพ โดยการให้เขาเป่าหูบรรดาลูกน้องให้มองคนงานของพวกไพศาลกรุ๊ปเป็นอริ เมื่อบรรดาคนงานฟังคำพูดลวงล่อ ชักจูงของเขากรอกหูอยู่ทุกวัน จนในที่สุด อคติภายในใจค่อยก่อกำเนิดจนชักนำไปสู่เหตุทะเลาะเบาะแว้งสมใจ และเขาก็ได้รับรางวัลจากก้องภพทุกครั้ง ซึ่งเงินที่ได้รับถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะทีเดียวสำหรับเขา นับจากนั้นเขาจึงแอบทำตามคำสั่งของก้องภพเรื่อยมา เพราะไม่เห็นถึงผลกระทบใดๆ ก็แค่เรื่องทะเลาะวิวาทกันธรรมดาๆ แล้วอีกอย่างก็สามารถช่วยเหลือคณินผู้ที่เป็นเจ้านายคนเก่าคนแก่ตั้งแต่ก่อนที่ ฉันทัชจะเข้ามาคุมงานร่วมกับคณินเสียอีก
แต่ในขณะนี้..ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำลงไป มันจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างที่ก้องภพบอกเขาเสียแล้ว
ไอ้เงินน่ะ ผมก็เสียดายอยู่หรอกครับ แต่ถ้าขืนผมยังทำต่อไป คุณทัชต้องรู้แน่ๆว่าผมเป็นคนยุยงเจ้าพวกนั้น..ผมไม่อยากเสี่ยงหรอกครับ
ก้องภพนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง แย่จริงๆ ฉันนึกว่านายจะภักดีกับคุณคณินมากกว่านี้เสียอีก
ก็เพราะว่าผมภักดีต่อคุณคณินยังไงล่ะครับถึงยอมทำตามที่คุณบอก..แต่จนป่านนี้ผมก็ยังไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันช่วยคุณคณินได้อย่างไร มีแต่ทำให้เรื่องมันแย่ลงเสียมากกว่า
มันสมองระดับนาย ไม่มีทางรู้หรอกว่าเรื่องนี้มันช่วยอะไรได้บ้าง ก้องภพพูดน้ำเสียงดูหมิ่น
หมายความว่าอย่างไง..นี่คุณจะด่าว่าผมโง่เรอะ หัวหน้าคนงานถามกลับอย่างฉุนเฉียว
อย่าหาเรื่องกันน่า เอาล่ะ..ถ้านายไม่อยากทำแล้วก็ตามใจ แต่อย่าพูดเรื่องนี้กับใครล่ะ เพราะยังไงก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก มันรังแต่จะทำให้นายเดือดร้อน
ผมรู้แล้วล่ะน่า งั้นแค่นี้ล่ะ พูดจบ หัวหน้าคนงานตัดสัญญาณทันที ไม่คิดจะกลัวคำพูดที่แฝงคำข่มขู่แม้แต่น้อย เพราะหากก้องภพคิดกลั่นแกล้งเขาล่ะก็ เขาจะนำความลับนี้ไปบอกฉันทัช และเชื่อแน่ว่าฉันทัชที่มีอคติกับก้องภพจะต้องเชื่อในคำพูดของเขา และถึงแม้จะไม่เชื่อ ก็คงต้องมีระแวงกันบ้างล่ะ
เมื่อคิดได้ดังนั้น หัวหน้าคนงานก็เดินสบายใจกลับไปทำงานของตนต่อ ในขณะที่ฝ่ายก้องภพต่อโทรศัพท์หาสิทธิโชค พี่โชค เรามีปัญหานิดหน่อย
หวังว่าคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่นะ
ม้าใช้ของเราตัวนึงมันเกเร ไม่ยอมทำงานครับ
สิทธิโชคหัวเราะในลำคอ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่..แค่หาตัวใหม่มาทำงานก็หมดเรื่อง
แล้วตัวเก่าล่ะครับ
ก็กำจัดมันทิ้งเสียสิ !
และในเช้ามืดวันต่อมา.. เด็กหนุ่มคนงานเปิดประตูห้องพักของหัวหน้าคนงานเข้าไปหลังจากที่ตะโกนเรียกอยู่หลายนาที และอึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็แหกปากลั่น เมื่อเห็นร่างของลูกพี่นอนแข็งทื่อบนเตียงเล็กที่ค่อนข้างรกรุงรังด้วยกองเสื้อผ้า ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลงเนื้อตัวเย็นเฉียบไร้ลมหายใจ แขนข้างหนึ่งห้อยตกข้างเตียงโดยมีขวดเหล้าขาวที่เหลือครึ่งขวดล้มหกเรี่ยพื้น..ความโกลาหลบังเกิดขึ้นในฉับพลัน เมื่อบรรดาคนงานต่างพากันมามุงดูศพและส่งเสียงถามกันดังแซงแซ่ จนในที่สุดก็รู้ถึงสาเหตุการตายของลูกพี่ว่า ถูกงูพิษกัด!
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ต.ค. 55 14:52:19
|
|
|
|