ตอนที่ 4 พีระดากำลังก้มๆ เงยๆทำอาหารอยู่ในครัว เธอเป็นคนชอบทำอาหารและมีความสุขมากเมื่อคนที่เธอทำอาหารให้เขากินมันจนหมด
ว่าไงจ้ะ น้องสาวคนสวยวันนี้ทำอะไรกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้านเลย
สเต๊กพริกไทยดำค่ะ
อินทิรามองสเต๊กที่น้องสาวกำลังจัดลงในจานและตกแต่งอย่างสวยงาม
น่ากินจัง ใครได้เราไปเป็นภรรยานี่โชคดีจริงๆ นะ ใครจะไปเชื่อว่าสาวเปรี้ยวแบบเธอจะมีฝีไม้ลายมือในการทำอาหารกับเขาด้วย
นี่หลอกด่าหรือว่าชมกันแน่คะ พีระดาหันมายิ้มให้พี่สาว
ก็ทั้งสองอย่าง อินทิราหัวเราะเบาๆ
ว่าแต่คุกกี้ช็อคชิพวันนั้นเพื่อนว่าไงบ้างล่ะ ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของพีระดาเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที
มันกลายเป็นคุกกี้สีเลือดไปแล้วล่ะค่ะ อินทิราตีสีหน้าว่างง หมายความว่าไง?
พีระดานิ่งเงียบ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ช่างมันเถอะ เออ...พี่อินค่ะพี่มีความคิดเห็นยังไงบ้างที่มีโมเดลลิ่งดังมาติดต่อให้ดาเซ็นสัญญาไปเป็นนางแบบในสังกัดเขา
ถ้าชอบก็ทำเถอะ ชีวิตคนมันแสนสั้น ถ้าทำแล้วสบายใจทำไปเลย อีกอย่างจะว่าไปรายได้ของนางแบบก็ดีมาก แถมยังทำให้เธอมีโอกาสก้าวหน้าที่ดี พี่ไม่อยากขัดขวางดาหรอกจ้ะ งานที่สำนักพิมพ์พี่ก็มีคนช่วยตั้งเยอะอย่างกังวลไปเลย พี่เห็นด้วยที่เธอจะเป็นนางแบบอาชีพ
แต่น้องรักงานพิสูจน์อักษรมากนะคะพี่ก็รู้
งานพิสูจน์อักษรหาคนทำยากก็จริง เพราะต้องเป็นคนที่รักงานนี้ถึงจะทำได้ แต่พี่คิดว่าถึงเวลาก็คงหาคนทำแทนได้อีกอย่างตอนนี้เราเริ่มรับฟรีแลนซ์จ่ายค่าตอบแทนเป็นเล่มเข้ามาเพิ่มก็แบ่งเบางานไปได้พอสมควร หรือว่ากลัวไม่ได้พิสูจน์อักษรให้คุณเมาคลีเขาเหรอ
คนเป็นพี่หยอกเล่นไม่คิดว่าจะไปแทงใจดำ
พี่อินจำเอาไว้นะคะว่าถ้าเป็นต้นฉบับของนายเมาคลี น้องจะไม่พิสูจน์อักษรให้เป็นอันขาดให้คนอื่นทำแทนเถอะค่ะ น้ำเสียงกระเง้ากระงอด
ทำไมล่ะนักเขียนในดวงใจไม่ใช่เหรอ ตัวจริงเขาก็หล่อนะ พี่เคยเชิญเขามาแจกลายเซ็นในงานสัปดาห์หนังสือคิวขอลายเซ็นยาวแทบจะถึงสถานีรถไฟฟ้า
พี่พูดเวอร์ไปแล้วมั้งคะ ถึงจะให้หล่อแบบเทพบุตรลงมาจุติน้องก็ไม่ขอสนใจอะไรเกี่ยวกับไอ้ผู้ชายลัลลาคนนี้อีกแล้ว อินทิรางงกับท่าทีแปลกๆของน้องสาว
เป็นอะไรไปไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย
ช่างเถอะค่ะ อย่าพูดถึงนายคนนี้อีกเลยเดี๋ยวจะพาลกินอะไรไม่ลง จากนั้นหญิงสาวก็เดินถือจานสเต๊กออกไปจัดที่โต๊ะอาหาร เป็นอะไรมากไหม ยัยคนนี้ อินทิรามองตามร่างบางของน้องสาวคนสวย +++++++++++++++++++ สามเดือนผ่านไป
ตกลงอยู่ตรงไหนแล้ววะ ฉันรอแกอยู่ที่หน้างานนะไอ้ภาคินัย
ใจเย็นๆสิไอ้เวหา กำลังวนหาที่จอดรถอยู่
ภาคินัยตัดสายและบ่นอุบ เขาชอบผู้หญิงสวยๆ รวมถึงนางแบบก็จริงแต่เขาไม่ชอบดูการเดินแบบสักเท่าไหร่ สิ่งที่เขามองเวลาดูพวกนางแบบสาวๆขายาวๆสวยๆเดินก็คือเรือนร่างอรชรกับหน้าตาสวยแปลกของพวกหล่อนเขาให้ความสนใจไม้แขวนเสื้อมากกว่าเสื้อผ้าที่นางแบบสวมใส่ ไอ้พวกเสื้อผ้าสไตล์แปลกๆ แหวกแนวทั้งหลายจากห้องเสื้อดังๆราคาตัวละหลักหมื่นจนไปถึงหลักแสนหลักล้านก็ยังมี เขาอยากรู้นักว่าบางชุดมันสวมใส่ได้จริงๆหรือเปล่าขืนใส่ออกมาเดิมตามถนนคนคงจะมองด้วยสายตาแปลกๆ แต่คิดอีกทีเขาเองอาจจะตาไม่ถึงรสนิยมดีไม่พอก็ได้ ภาคินัยหัวเราะให้กับความคิด
ภาคินัยเดินเข้ามาในงานและมองเห็นเพื่อนแต่งสูทเสียโก้หรูยืนรออยู่ที่ทางเข้างาน และเอาแต่ก้มดูนาฬิกาข้อมือ
มาแล้วเพื่อน รอนานไหม ว่าแต่คิดยังไงถึงชวนฉันมางานเดินแบบ ถ้าชวนไปกินเหล้ามันค่อยเข้ากันหน่อย ภาคินัยตบไหล่เวหา
กว่าจะมาได้ฉันนึกว่าจะถูกนายเบี้ยวเสียอีกเวหาบ่น
แล้วนึกยังไงวะถึงชวนมางานนี้ ที่จริงภาคินัยจะไม่ยอมมาแต่เวหาขอร้องจนเขาตัดความรำคาญจึงยอมมาเป็นเพื่อน
ฉันก็ไม่อยากชวนแกมางานนี้หรอก ไม่อยากหาเหาใส่หัวตัวเองแต่โดนบังคับโว้ย เวหาบ่นอยู่ในใจท่ามกลางแขกเหรื่อในชุดหรูเลิศที่ต่างกำลังทยอยเดินเข้างาน หน้างานจัดโซนทางเข้าไว้สำหรับแขกวีไอพี และบุคคลทั่วไป ในมือของเวหามีบัตรเชิญระดับแขกวีไอพีอยู่สองใบ สายตาเขากวาดมองไปรอบๆ มีทั้งคนดัง ดารา นางแบบ รวมถึงพวกไฮโซงานนี้ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ
ไฟจากสปอร์ตไลท์บนเวทีค่อยๆดับลงก่อนที่แสงไฟจะสาดส่องมาบนรันเวย์ ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่แคทวอล์กราวกับว่ามันมีมนต์สะกด
ชวนมาดูอะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อจะตายไป ภาคินัยยังบ่นไม่เลิก แต่เขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังเดินมาตกหลุมพรางของใครบางคนที่มั่นอกมั่นใจว่าเขาจะต้องตกหลุมที่เธอขุดเอาไว้อย่างแน่นอน
นางแบบหุ่นบางแต่ละนางก้าวเดินด้วยท่าทางมั่นใจออกมาทีละคน แต่ทว่าสายตาของภาคินัยดูจะจับจ้องที่เรือนร่างของพวกเธอมากกว่าชุดที่พวกเธอสวมใส่
นี่ไอ้ภาคินัยใจคอแกจะมองแต่ไม้แขวนเสื้อ ไม่ยอมดูเสื้อผ้าที่เขานำเสนอบ้างเลยเหรอ นี่ห้องเสื้อดังเชียวนะมีเงินก็ไม่ใช่จะซื้อบัตรได้ง่ายๆ
ก็ชอบดูไม้แขวนเสื้อมากกว่าเสื้อผ้านี่หว่า ภาคินัยยักคิ้วให้เพื่อนรัก
ดูมันตอบ เจ้าของงานเขาคงปลื้มน่าดูหากได้ยินคำพูดของแก เวหาบ่น
แต่สักพักหนึ่งเมื่อการเดินแบบผ่านไปครึ่งทาง เวหาก็เห็นสายตาของภาคินัยค้างอยู่บนแคทวอล์ก เขาจ้องไปที่นางแบบนางหนึ่งอย่างตะลึงงัน
เวหาลอบยิ้มและตบไหล่เพื่อนเบาๆ ถึงกับตะลึงขนาดนั้นเชียวเหรอเพื่อน
สายตาเจ้าเล่ห์ของภาคินัยยังคงจับจ้องที่เรือนกายนางแบบคนสวยอย่างไม่ลดละ ชุดราตรีเข้ารูปสีทองแวววับดูสว่างไสวโดดเด่นไปทั่วเวที คอเว้าลึกอวดอกอวบขาวโผล่พ้นคอเสื้ออย่างพองาม
คุณเขมมิกาสวยจริงๆ สวยกว่าใครบนแคทวอล์คเหมือนนางแบบสาวจะมองเห็นภาคินัยเข้า แม้หล่อนจะเดินแบบอยู่บนเวทีแต่ก็ไม่วายส่งสายตามามองภาคินัยเขารู้แล้วว่าหลังจบงานนี้เขาควรจะทำอะไรดี ใช่สิเขาควรโทรนัดเขมมิกา และชวนเธอไปหาความสุขที่คอนโดหรูของเขา รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อทันที เวหามีแววประหวั่นใจ เขมมิกานางแบบชื่อดังมาในงานนี้ด้วย แล้วเขาก็พอจะรู้ว่าเจ้าหล่อนแอบกิ๊กกับเจ้าภาคินัยอยู่ลับๆ แล้วงานนี้จะสำเร็จตามที่ใครบางคนคาดหวังไว้หรือเปล่าเขายอมรับว่าเขมมิกาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่พีระดาก็ไม่ได้ด้อยหรือน้อยกว่าเธอเลย ใหม่สดกว่ามากเพราะอายุน้อยกว่าเขมมิกาหลายปีและกำลังเป็นดาวเด่นบนเส้นทางนางแบบ
นายไม่บอกฉันวะว่างานนี้คุณเขมมิกามาร่วมเดินแบบด้วย ฉันจะได้เตรียมช่อดอกไม้มาให้เธอ
แต่เมื่อการเดินแบบผ่านไปสักพักจนถึงโชว์ชุดสุดท้าย ชุดฟินาเล่ ที่ใครๆ ต่างรอคอย นางแบบสาวสวยหน้าใหม่ที่ห้องเสื้อดังต้องการจะปั้นเธอให้ดังขึ้นแท่นเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการ เธอเดินออกมาด้วยท่าที่มั่นใจทุกท่วงท่าราวกับนางพญา สะกดทุกสายตาให้จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าและชุดที่เธอสวมใส่แต่เพียงผู้เดียวใบหน้าสวยล้ำหวานละมุนละไมแต่แฝงด้วยความคมอย่างประหลาดซึ่งความสวยแบบไม่มีที่ติของเธอนับว่าหาตัวจับยากยิ่ง ยามเธอเดินชายกระโปรงผ้าเนื้อนุ่มจะพลิ้วไหวไปรอบๆเรียวขายาว ชุดราตรีสีมรกตที่ประดับด้วยมรกตแท้เม็ดงาม เนื้อผ้ารัดรึงเรือนร่างสมส่วนหาที่ติไม่ได้ยิ่งส่งเสริมให้พีระดางดงามดุจนางพญา บรรดาแขกในงานต่างปรบมือเสียงดังให้กับเธอและชุดของเธอ ก่อนที่นางแบบทั้งหลายจะเดินออกมารวมตัวกันอีกครั้ง
เวหายิ้มกว้างเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตาค้างไปเลยเหรอเพื่อน เหมือนนายภาคินัยจะไม่ได้ยินคำพูดใดๆที่ออกจากปากเวหา
ไอ้ภาคินัย จะตาค้างอีกนานไหมวะเพื่อน เวหากระซิบและสะกิดภาคินัย
จนชายหนุ่มได้สติแต่ก็ไม่วายจับจ้องหญิงสาวในชุดฟินาเล่บนเวที ไม่ใช่เพราะเธอสวยสะดุดตาเกินใคร ไม่ใช่เพราะค่ำคืนนี้เธอโดดเด่นในชุดฟินาเล่ แต่ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเขาหรอกว่าเมื่อได้พบ ผู้หญิงในฝันที่เขาเคยเห็นเธอที่ร้านขายร้องเท้าในห้างดังครั้งเดียวจนเก็บไปจินตนาการให้เป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกที่เขาลงมือเขียน และก็เป็นจุดกำเนิดให้เขาเข้ามายืนอยู่บนเส้นทางนักเขียนอย่างเช่นทุกวันนี้ ล้วนมาจากผู้หญิงบนเวทีคนนี้คนเดียว
เวหา นางแบบในชุดฟินเนเล่ เธอเป็นใคร นายรู้ประวัติของเธอบ้างไหมวะ เวหายิ้มพราย
ทำไม นายสนใจเธอเหรอไหนบอกว่าบนแคทวอล์คไม่มีใครสวยเกินคุณเขมมิกาแล้วไงล่ะ ที่จริงเขาไม่เคยสนใจเรื่องดารา นางแบบเลยไม่รู้ว่าเธอคือนางแบบที่กำลังมาแรงและมีกระแสว่าค่าตัวในการเดินแบบแต่ละครั้งของเธอแพงพอๆกับเขมมิกาเลยทีเดียว ดูเหมือนภาคินัยจะใจร้อนขึ้นมาทันที
อย่ามาเล่นลิ้น ตอบฉันมาว่านายรู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้าง เวหาไม่ตอบแต่อมยิ้มแทน ปล่อยให้ภาคินัยกระวนกระวายใจอยู่สักพัก ปล่อยให้ความอยากรู้จักนางแบบสาวคนสวยของเขาเพิ่มขึ้นจนสุดขีด
ว่ายังไงวะตอบมาสักทีสิ นายมีบัตรวีไอพีเข้างานมาได้ ก็แสดงว่าต้องรู้จักกับคนสำคัญในงานบ้างไม่ใช่เหรอ ภาคินัยถามอย่างร้อนใจ อยากรู้จริงๆเหรอ ถ้าอยากรู้คืนนี้ไปงานปาร์ตี้ด้วยกันสิ เขารู้สึกอยากจะบีบคอไอ้เพื่อนรักนักคงเห็นว่าเขาอยากรู้จักกับเธอคนนั้น เลยอมพะนำไม่ยอมบอกเสียอย่างนั้น
ปาร์ตี้อะไรวะ ก็บอกแล้วไงฉันถามว่านายรู้จักกับนางแบบคนนั้นไหมไม่ได้อยากไปงานปาร์ตี้ เวหาไหวไหล่
ก็ตามใจไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป แต่นางแบบคนนั้นเขาไปงานปาร์ตี้คืนนี้ด้วยนะ ภาคินัยยิ้มกว้าง ตบบ่าเพื่อนรัก
แล้วก็ไม่บอกอมพะนำอยู่ได้ เวหาลอบยิ้มเป็นไปตามแผนที่พีระดาวางไว้ แต่ก็รู้สึกอึดอัดหากภาคินัยรู้ว่าเขาร่วมแผนการด้วยมันจะโกรธเขามากแค่ไหนหากรู้ว่าพีระดากับเขานั้นรู้จักกันดีเพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
++++++++++++++++++++
ปาร์ตี้ริมสระน้ำหรูหราของไฮโซคนดัง เวหาและภาคินัยพาความหล่อเหลาคนละแบบมาในงานๆ สาวๆมากหน้าหลายตามาจากหลายๆ วงการ มีทั้งไฮซ้อ ไฮโซ ดารา นางแบบ หรือแม้แต่เซเลบคนดังใช่ว่าไม่มีใครรู้จักภาคินัยแต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้สนิทกับเขาเป็นการส่วนตัวจะรู้จักเขาในนามนักธุรกิจเจ้าของคอนโดหรู ที่มีคอนโดทั้งขายและให้เช่าในทำเลทองอยู่หลายโครงการ แต่ที่คนส่วนใหญ่แทบจะไม่รู้ก็คือนายภาคินัยคนนี้แหละคือคนเดียวกับนักเขียนดังเจ้าของนามปากกาเมาคลี
คุณภาคินัย สาวไฮโซทายาทเสื้อผ้าส่งออกเข้ามาทักทายเขาทันที
มางานนี้ด้วยเหรอคะแวนด้าไม่ค่อยเห็นคุณออกงานเลย หญิงสาวยิ้มหวานและส่งสายตาเย้ายวน
ครับ ผมมาเป็นเพื่อนเวหาน่ะครับ เขาจิบไวน์เล็กน้อยดูเหมือนไม่อยากสนทนากับหญิงสาวมากนัก ก่อนจะเดินเลยไป
หยิ่งนัก ถ้าไม่หล่อ ไม่รวย ก็ไม่ลดตัวลงมาทักหรอกย่ะ หญิงสาวเบ้ปากจากนั้นเดินไปทักเจ้าของธุรกิจส่งออกเพชรชื่อดังแทน
ภาคินัยมองหาเพื่อนรัก เวหาบอกเขาว่าจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็หายตัวไปนานเกือบครึ่งชั่วโมงทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับงานปาร์ตี้นี้เหลือเกิน แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่หลายนางแอบส่งสายตาทอดสะพานมาให้แต่ค่ำคืนนี้ภาคินัยไม่มีสายตาเอาไว้มองผู้หญิงคนไหนนอกจากนางแบบผู้สวมชุดฟีนาเล่สีมรกต
หายไปไหนของมัน ตกห้องน้ำตายไปแล้วมั้ง ภาคินัยบ่นอย่างหัวเสีย และรู้สึกผิดหวังที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่เขาต้องการพบหน้า ภาคินัยเดินมาถึงหน้าห้องน้ำและเข้าไปตามเวหาถึงในห้องน้ำแต่ก็ไร้วี่แวว มันยังไงกันนะ เจอตัวล่ะน่าดูจู่ๆก็หายไปไม่บอก ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะหยิบโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อน เมื่อปลายทางกดรับสาย อยู่ไหนวะ ฉันเดินหาแกจนทั่วงานแล้ว เบื่อจะตายอยู่แล้วเนี่ย ภาคินัยบ่นใส่โทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันไม่ใช่เจ้าของโทรศัพท์ แต่พอดีดิฉันพบมันตกอยู่ในงานปาร์ตี้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นเพื่อนกับเจ้าของโทรศัพท์รึเปล่าคะ ปลายสายส่งเสียงหวานและแสดงตัวว่าเธอเป็นพลเมืองดีที่เก็บโทรศัพท์ได้
ชายหนุ่มรีบปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง
ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนของเจ้าของโทรศัพท์ที่คุณเก็บได้
ไม่ทราบว่าคุณมาในงานปาร์ตี้นี้ด้วยรึเปล่าคะ พอดีดิฉันได้ยินเพลงที่กำลังเปิดอยู่ในงานดังผ่านมาจากโทรศัพท์ด้วย
ถ้าคุณหมายถึงงานปาร์ตี้ริมสระน้ำคฤหาสน์ของคุณวิกรมก็ใช่ครับ ถ้าอย่างนั้นไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ตรงไหนคะ ดิฉันจะได้นำโทรศัพท์ฝากไปคืนให้เจ้าของ
ตรงห้องโถงริมบันไดของคฤหาสน์ครับ
หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปคุณช่วยรอดิฉันอยู่ตรงนั้นสักครู่นะคะ
ได้สิครับ ด้วยความยินดี ภาคินัยพูดจากนั้นปลายสายก็กดวาง
ทำโทรศัพท์หาย แล้วตัวมันหายหัวไปไหนเนี่ย ไม่ใช่ว่าถูกใจสาวในงานแล้วพากันไปต่อที่ไหนทิ้งเพื่อนอย่างเรา
ภาคินัยยืนมองภาพสีน้ำมันบนผืนผ้าใบซึ่งเจ้าของบ้านคงชื่นชอบกับภาพวาดแนวนี้ด้วยความสนใจและแอบบ่นในใจที่เพื่อนรักมาหายตัวไป เท่านั้นยังไม่พอยังทำโทรศัพท์หล่นหายอีกทำให้เขาไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ของภาคินัยดังขึ้นอีกครั้ง เขากำลังจะรับสายแต่ทว่า
ไม่ต้องกดรับหรอกค่ะ ดิฉันโทรเข้าเบอร์ของคุณเองเพื่อจะได้แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับที่พูดสายด้วยกันเมื่อครู่นี้
ภาคินัยรีบหันกลับมามองเจ้าของเสียงไพเราะและพบว่าเส้นขนตามร่างกายของเขาต้องลุกชันไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เพราะเธอคือนางแบบในชุดฟินเนเล่คนเดียวกับเมื่อหัวค่ำที่ทำให้เขาตัดสินใจมางานนี้ เธอสวยหมดจดผุดผาดหยาดฟ้ามาดินและที่ไม่มีใครรู้นอกจากเขาก็คือเธอคนนี้คือสาวนักศึกษาวันนั้นที่เขาเห็นในร้านขายรองเท้าแบรด์ดัง
คุณเองเหรอครับ เขาพูดช้าๆ ใบหน้าจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยล้ำของเธออย่างไม่วางตา เหมือนกลับว่าการตามหาของรักที่หายไปนานแสนนานได้สิ้นสุดลงสักที
พีระดาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคืนนี้เขาอยู่ในชุดสูทสากลที่หล่อมาก ผู้ชายไทยน้อยคนนักที่จะสวมใส่มันแล้วดูดีในความคิดของเธอ ริมฝีปากอ่อนนุ่มเหยียดยิ้มออกอย่างเป็นมิตร พูดเหมือนกับว่าเคยพบดิฉันมาก่อน ทั้งที่จริงพีระดารู้ดีว่าเขาและเธอเคยพบกันแล้วและเธอนี่แหละทีเอาโหลคุกกี้ฟาดหัวเขาจนต้องเย็บถึงยี่สิบเข็ม
ภาคินัยรู้สึกพูดไม่ออกจะให้บอกได้อย่างไรว่าเขาเคยพบเธอแล้วมาสองครั้ง ครั้งแรกที่ร้านขายรองเท้าและเธอทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปกลายมาเป็นนักเขียนดัง อีกครั้งเมื่อช่วงหัวค่ำของคืนนี้เขาเห็นเธอเดินแบบชุดฟินเนเล่และครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอีก
เออ...เอ่อ ผมไปงานแสดงแฟชั่นโชว์เมื่อหัวค่ำ เห็นคุณเดินแบบในชุดฟินเนเล่ คุณสวยมากเลยนะครับ ภาคินัยรู้สึกว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง มือแข็งแกร่งรู้สึกสั่นนิดๆ มันอยากจะคว้าร่างอรชรนั้นเข้ามากอดแนบอก อยากจูบให้สมกับความโหยหานางในฝันที่อยู่ในความทรงจำไม่เคยลืม
ขอบคุณค่ะ คุณทำให้ฉันเขินรู้ตัวไหมคะ นัยน์ตาแสนหวานส่งสายตายั่วยวนเหมือนไม่ตั้งใจแต่เจตนา
พีระดาวางแผนอยู่ในใจเงียบๆ เธอจะจัดการสั่งสอนผู้ชายเย่อหยิ่ง อวดดี นิสัยแย่อย่างเขา และสักวันเถอะเธอจะทำให้เขามาอ้อนวอนขอขึ้นเตียงกับเธอให้ได้ จากนั้นเธอก็จะเขี่ยเขาลงมาให้ตกเตียง อยากรู้นักว่านายนักเขียนคนเก่งจะทำหน้าแบบไหนเวลาถูกปฏิเสธ
++++++++++++++++++++++++++
จากคุณ |
:
อัปสราน่ารัก
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ต.ค. 55 12:49:31
|
|
|
|