Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มายารักทะเลทราย ตอนที่ 1 ติดต่อทีมงาน

ผู้เขียนยังไม่เคยแต่งนิยายแนวนี้ แต่อยากลองหัดเขียนดูบ้างหากขาดบรรยากาศ หรือความเหมาะสมชี้แนะผู้เขียนได้เลยนะคะเพราะแต่งไปลงไปค่ะ ทะเลทรายผู้เขียนก็ไม่เคยไปได้แต่จินตนาการเอาตามข้อมูลที่หามาขาดตกบกพร่องอย่างไรก็ต้องขออภัยและขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยค่ะ




เรื่อง มายารักทะเลทราย


ตอนที่1

1 กรกฏาคม 255  



เช้าวันแรกของเดือนกรกฏาคม สายพิรุณเริ่มโปรยปรายเหมือนจะส่งสัญญาว่าย่างเข้าสู่หน้าฝนแล้ว หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง แต่ได้สัดส่วนผิวพรรณหมดจดแต่งตัวคล้ายชุดพนักงานออฟฟิศในเมืองหลวงทั่วไปเสื้อแขนยาวสีขาวผ้าชีฟองแบบทันสมัยและกระโปรงครอปสีน้ำเงินเหนือเข่าเล็กน้อยเดินลงจากรถเมล์ปรับอากาศสายประจำที่ใช้เป็นพาหนะมาทำงานทุกวัน ฝนตกหนักทำให้อุปสรรครออยู่ตรงหน้า หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมแม้ว่าจะใส่ส้นสูงประมาณสองนิ้วครึ่งก็ตาม เธอกระโดดข้ามน้ำที่ขังท่วมริมฟุตบาทซึ่งเกิดจากฝนตกหนักเมือคืนแม้ว่าท่อระบายน้ำจำทำงานย่างหนัก หลายคนในถนนฝั่งตรงข้ามลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าเธอข้ามผ่านไปได้หากกระโดดข้ามไม่พ้น น้ำสีคล้ำมีกลิ่นหมักของเชื้อแบคทีเรียคงทำให้หญิงสาวต้องกลับบ้าน


เธอยิ้มอย่างภูมิใจที่วันนี้รอดจากการมาสายอย่างหวุดหวิดถ้าไปลงป้ายหน้าและเดินย้อนกลับมาลัยลามั่นใจว่าเธอจะต้องเข้าทำงานสายอย่างแน่นอน สายตาคู่สวยที่เหมือนมีน้ำหล่ออยู่ในดวงตาเสมอนั้นมองไปเบื้องหน้าสำนักงานใหญ่อันเป็นสถานที่ทำงานของเธอ


หญิงสาวยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ“เหลือตั้งสิบห้านาทีแน่ะ วันนี้ทำเวลาได้ดี” เธอมองเห็นแผงขนมปังหน้าตาน่ารับประทานที่วางเรียงรายกันอยู่ มีน้ำส้มคั้นสดด้วย ลัยลา พาขาเรียวได้รูปเดินเข้าไปใกล้แต่หยุดชะงักเมื่อเห็นเด็กขายหนังสือพิมพ์เดินตัดหน้าเธอไป


“หยุดก่อนน้องชาย ขอซื้อหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับค่ะ” เธอล้วงมือไปในกระเป๋าสะพายใบน่ารักและค้นหาเศษสตางค์ยังไม่ทันจะเสร็จหนังสือพิมพ์พร้อมกับมือเหี่ยวย่นก็ยืนมาตรงหน้า


“ว้าย! ” ลัยลาตกใจจนทำให้เศษสตางค์ในมือล่วงหล่นลงบนพื้นปูน แต่เมื่อหญิงสาวตั้งสติและมองเด็กขายหนังสือพิมพ์อีกครั้งก็พบว่า ไม่มีอะไรผิดปกติสักนิด เด็กขายหนังสือพิมพ์คนเดิมหน้าตึกใหญ่ย่านสาธรที่เธอเคยเห็นเป็นประจำ เนื้อตัวก็ไม่ได้เหี่ยวย่น สงสัยเธอจะหิวข้าวจนตาลายไปเอง


“ตกใจอะไรเหรอครับพี่สาวคนสวย” เด็กชายวัยสิบขวบยิ้มแหยเห็นฟันหน้าที่หายไปสองซี่


“เอ่อ...เปล่าจ้ะ แย่จริงพี่นี่ซุ่มซ่าม ทำเหรียญตกท่อระบายน้ำไปหลายบาท เดี๋ยวจะเอาให้ใหม่นะ” ลัยลากำลังล้วงไปในกระเป๋าถือเพื่อหยิบเงินให้เด็กขายหนังสือพิมพ์


“ไม่ต้องหรอกครับพี่สาว วันนี้ผมให้พี่ฟรี ขอให้โชคดีนะครับ” เด็กชายส่งยิ้มยัดหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งใส่มือหญิงสาว จากนั้นรีบวิ่งหายไปในฝูงชน


“เดี๋ยวสิน้องชายย่างเพิ่งไป เอาเงินไปด้วยสิ ของขายเอามาแจกฟรีแบบนี้ได้ยังไงเดี๋ยวแม่ก็ดุเอาหรอก” ลัยลาร้องเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะเด็กขายหนังสือพิมพ์คนนี้วิ่งไวเหลือเกิน เธอคิดว่าหากเจอเด็กคนนี้ในวันรุ่งขึ้นจะจ่ายค่าหนังสือพิมพ์ให้

++++++++++++++++++++++

“สาธุ สาธุ จะเปิดลุ้นแล้วนะ ขอให้โชคดีด้วยเถิดเจ้าประคุณ รางวัลอะไรก็ได้ จะเล็กจะใหญ่ ลัยลา เอาหมด ขอให้ได้ฟรีก็แล้วกัน”


ลัยลานักล่ารางวัลประจำออฟฟิศ สาวน้อยวัยยี่สิบสี่ช่างพูดช่างเจรจา ที่สำคัญอารมณ์ดีทั้งวันทำให้เธอเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน แต่นั่นแหละมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นเรื่องธรรมดา ลัยลาคว้ามาแทบหมดแล้วไม่ว่า มาม่า ปลากระป๋อง  ชาเขียว ยี่ห้อไหนเปิดชิงโชคเธอจะต้องส่งเป็นประจำ และเธอก็ดวงดีได้รางวัลแทบจะทุกครั้ง


“ไม่มี ทำไมถึงไม่มีล่ะ” กาแฟทรีอินวันยี่ห้อดังประกาศผลรางวัลวันนี้ เธอส่งเยอะเสียด้วยหลายร้อยซองเชียวล่ะ เพราะมีแหล่งของซองชิงโชคชั้นดี ในออฟฟิศนี้พนักงานแทบทุกคนจะดื่มกาแฟ ลัยลาก็แค่ขอร้องให้ทุกคนช่วยเก็บซองเอาไว้ให้เธอ ลัยลาเลื่อนนิ้วชี้ไปเกือบจะบรรทัดสุดท้ายของหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว แต่ยังไม่ปรากฏชื่อ นางสาว ลัยลา ดวงดีมาก เธอสงสัยหลายครั้ง บรรพบุรุษคนไหนในตระกูลของคุณแม่กันนะเป็นคนตั้งนามสกุลนี้  แม่บอกกับเธอว่าลัยลาเหมาะสมกับนามสกุลของท่านเพราะเธอมากับดวงจริงๆ  


กรี๊ดๆๆๆ เสียงหญิงสาวกรีดร้องอย่างดีอกดีใจ เพื่อนร่วมงานสาวใหญ่สองคนหันมามองเธอและหันไปสบตากันส่ายหน้า คงเดาได้ว่าเธอได้รางวัลอีกแล้ว มันเป็นสิ่งที่เห็นจนชินตาแล้วสำหรับออฟฟิศนี้


“ยัยลัยลา คราวนี้ได้อะไรล่ะ สร้อยคอทองคำ รถเก๋ง หรือว่าบ้านพร้อมที่ดิน”


หญิสาวทีสีหน้าฉงนจากที่ดีใจเมื่อครู่เมื่อเห็น “เปล่าค่ะพี่แป๋ม รางวัลใหญ่ที่สุดคือแก้วกาแฟทองคำหนัก 50 บาท”


“แล้วลัยลาคว้ารางวัลอะไรมาล่ะ ดวงดีจริงๆนะเราเนี่ย”

“เอ่อ...รางวัลนี้มันไม่เห็นมีเลยตอนที่ประกาศ”


ลัยลาพรึมพรำและมองบรรทัดสุดท้ายของผลประกาศรางวัล รางวัลพิเศษ ตั๋วท่องเที่ยวตุรกี พร้อมพ็อคเก็ตมันนี่  8 วัน 7 คืน  ฟรี 1 ท่าน



“ แล้วตกลงได้รางวัลอะไรล่ะ” สาวใหญ่ร่างอวบใบหน้าเปื้อนยิ้มมาหยุดตรงหน้าโต๊ะลัยลา และมองไปที่หนังสือพิมพ์


“เที่ยวฟรี ตุรกี 8 วัน 7  คืน พร้อมพ็อคเก็ตมันนี่ค่ะพี่แป๋ม”


“ก็ดีน่ะสิได้เที่ยวฟรี แถมได้เงินด้วย สงสัยรวมแล้วมูคค่าคงหลายแสน”


“แต่ถ้าลัยลา ลางานไปแปดเก้าวันด้วยเหตุผล ไปเที่ยวฟรีเพราะส่งชิงโชคได้เข้าจะไม่เชิญออกเหรอคะ”


“ก็อย่าไปบอกเข้าสิยัยลัยลา”
หญิงสาวหน้าสวยทำตาปริบๆกำลังงงกับรางวัลที่ได้ ที่จริงเธอไม่ค่อยชอบรางวัลแบบนี้เท่าไหร่นักไม่ใช่ว่าลัยลาไม่ชอบเที่ยว เธอชอบเดินทางมากเชียวล่ะแต่ว่ามันต้องใช้เงินมากซึ่งพ็อคเก็ตมันนี่ที่ได้รับอาจจะเป็นเงินขวัญถุงเล็กๆน้อยก็ได้ ลัยลาต้องรู้สึกแปลกมาขึ้นไปอีกเมื่อมองดูผลประกาศรางวัลชัด ฟรี 1 ท่าน


“อย่างนี้ก็แปลว่าเราต้องไปคนเดียวอย่างนั้นล่ะสิ รางวัลแบบนี้ก็มีด้วย”

+++++++++++++++++++++++++


บ้านหลังเล็กๆติดลำคลองที่แยกออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา รอบๆบ้านปลูกพืชผักสวนครัวรวมถึงผลประจำท้องถิ่นเช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงน้ำดอกไม้ กล้วยน้ำว้า และพักสวนครัวเช่น พริกขี้หนูสวน โหระพา กระเพา มะเขื่อพวง


“คุณแม่คะลัยลา ตัดใจแล้วค่ะแม่ว่าจะสละสิทธิ์ รางวัลพิเศษอะไรก็ไม่รู้ให้ไปเที่ยวคนเดียว หนูก็เหงาแย่สิคะ ไปประเทศไหนไม่ไป ไปตุรกี” หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้คนที่เรียกว่าแม่และช่วยเด็ดมเขือพวงอย่างคล่องแคล่ว


“ตุรกี!”


ญาดานิ่งเงียบ มันเป็นเหตุบังเอิญหรื่อโชคชะตาพาให้ลัยลาต้องกลับไปที่นั่น แม้ว่าเรื่องราวชีวิตของเธอคนที่เรียกตัวเองว่าแม่และรักลัยลาประดุจลูกแท้ๆจะไม่เคยโกหกถึงที่มาของเธอก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเล่าลงไปในรายละเอียดเจาะลึกถึงเรื่องเมื่อเกือบยี่สิบห้าปีก่อนที่เธอได้ลัยลา เด็กน้อยผิวขาว ปากแดงน่ารักน่าชังมาอย่างโชคช่วย


“แม่เป็นอะไรไปคะเงียบกริบเชียว”


ญาดาฝืนยิ้มจะไม่ให้เงียบได้ยังไงล่ะ ก็เมื่อคืนนางเพิ่งฝันถึงที่นั่นอีกครั้งความฝันนั้นราวกับนางสัมผัสมันได้จริง


“ปะ ปะเปล่าจ้าลูก แม่คิดว่า...” ญาดาอยากจะพูดตามความรู้สึกคือไม่ต้องการให้ลูกสาวเดินทางไปตุรกีแต่ทว่านางกลับพูดตรงกันข้าม


“ทำไมลูกไม่ลองไปเที่ยวที่นั่นดูล่ะ ในเมื่อโอกาสทองมาถึงมือ ชาวบ้านอย่างเราใครบ้างที่มีโอกาสไปเที่ยวตุรกี”


ลัยลายิ้มหวานเห็นฟันขาวเรียงกันราวกับไข่มุก “ก็คุณแม่ไงคะ คุณเม่เป็นอดีตมัคคุเทศน์นำเที่ยวอยู่แถบนั้นนี่คะ”


“จริงสินะแม่เกือบลืมมันไปแล้ว”


ญาดานึกถึงสมัยวัยสาวของเธอ ญาดามีอาชีพเป็นมัคคุเทศน์พานักท่องเที่ยวไปทัวร์แทบตุรกีอยู่หลายครั้ง นับว่าเป็นประเทศหนึ่งที่เธอไปบ่อยมากที่สุดก็ว่าได้แค่หลับตาเธอก็นึกถึงภาพและบรรยากาศของคาบสมุทรอานาโตเลียได้ดี ช่องแคบตุรกีที่มีชื่อเสียง วังหลวงที่จะต้องจัดอยู่ในทริป ตลาดที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับโลกที่ใครๆต้องไปเยือนอย่างตลาดแกรนด์บาซาร์ซึ่งคราคร่ำไปด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ ตลาดนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญที่สุดที่หนึ่งในตุรกี ใบรรยากาศและไสตล์เตอร์กิช หรือตลาดเครื่องเทศอย่างสไปซ์มาร์เก็ต ซึ่งตั้งอยู่ในย่านกาลาตา ในเมืองอิสตันบูล ที่นี่นำเข้าสินค้าหลายอย่างจากเมืองไคโรและประเทศเพื่อนบ้าน


“ถ้าคุณแม่ไม่ไปด้วยลัยลาก็ไม่ไปหรอกค่ะ ไปคนเดียวเหงาแย่จะแจกทั้งทีให้สองคนก็ไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆเขาไม่คิดบ้างหรือไงคะว่าจะมีใครบ้างอยากจะไปเที่ยวคนเดียว”


“บางทีเขาอาจจะไม่ได้ต้องการให้ลูกไปเที่ยวก็ได้” ประโยคนั้นซ่อนความนัยเอาไว้ แต่ลัยลายังไม่เข้าใจในวันนี้หรอก


“หมายความว่ายังไงคะคุณแม่” สาวน้อยนันย์ตาดำสนิทมองหน้ามารดาอย่างใจจดใจจ่อ


หากความฝันประหลาดนั้นไม่เกิดขึ้นกับญาดานางคงไม่ผลักไสแก้วตาดวงใจให้เดินทางไกลไปในดินแดนที่เธอไม่เคยรู้จัก หรืออาจจะเคยรู้จักมันมาเมื่อนานแสนนานแล้วก็ได้


“ไปเถอะนะลัยลาไปเที่ยวตุรกี ลูกมีพักร้อนนี่นา และขากลับอย่าลืมซื้อขนม โลคุม มาฝากแม่ด้วยนะ” ขนมชนิดนี้ทำมาจากแป้งเหนียวใสเป็นก้อนสี่เหลี่ยมและนำไปคลุกกับแป้งสีขาว หรือมะพร้าว มีรสหวานจัดมักจะรับประทานควบคู่กับชากาแฟ เป็นขนมขึ้นชื่อที่ใครมาตุรกีมักจะซื้อกลับเป็นของฝาก


“ดูเหมือนแม่อยากจะให้หนูไปตุรกีมากเลยนะคะ” สีหน้าหญิงสาวประหลาดใจ ปกติคนเป็นแม่จะห่วงมากยามเธอต้องเดินทางไกลแม้ไปแค่จังหวัดใกล้ๆถ้าหากต้องค้างคืน แม่ก็จะโทรหาเธอแทบตลอดทั้งวัน


ใครจะรู้ถึงหัวอกคนเป็นแม่ที่เจ็บปวดมากขนาดไหนทั้งรักทั้งห่วงลูกเลี้ยงคนนี้นัก ไม่อยากจะให้เธอเดินทางไปที่นั่นเลยแต่เพราะญาดาเชื่อมั่นและมีบางอย่างเตือนเธอให้รู้ว่า ลัยลา ต้องกลับไปที่นั่นมันถึงเวลาของเธอแล้ว



++++++++++++++++++++++
           

  หญิงสาวร่างบางกำลังเดินเข้าไปในประสาทหรือพระราชวังอันกว้างใหญ่โอ่อ่า แต่ลัยลากลับรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง เศร้าและหนาวเย็นยะเยือกอยากจะออกไปจากที่นี่ให้รวดเร็วที่สุดจนลัยลาเปลี่ยนจากการเดินเป็นเดินเร็วขึ้น และเร็วมากขึ้นจนเปลี่ยนเป็นวิ่ง มีห้องมากมายหลายร้อยห้องเรียงรายต่อกันราวกับอพาร์ทเม้นต์ นี่มันห้องอะไรที่ไหนกันลัยลาคิดขณะที่วิ่งเพื่อหาทางออกไป แม้ว่าระหว่างทางเดินที่ทอดตัวยาวจนหาที่สุดไม่ได้นั้นฝาผนังจะประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบรวดลายวิจิตรแต่ในเวลานี้ลัยลากลับไม่อยากจะเหลียวมองมันสักเสี้ยววินาทีเดียว เบื้องหน้าคือช่องแคบที่เหมือนจะเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อไปที่ไหนสักแห่ง สองฝากฝั่งยังเต็มไปด้วยห้องแต่ละโซนที่เธอวิ่งผ่านมาแม้จะเต็มไปด้วยห้องต่างๆก็จริงแต่ความงามในแต่ละโซนต่างกันมากแม้จะเห็นแค่เพียงผ่านตาแตลัยลาก็แยกออกได้จากบานประตูทางเข้าห้องเธอเหนื่อยหอบและหยุดพักเหนื่อยเหมือนเท้าของเธอมันจะก้าวไม่ออก


“นี่มันอะไรกัน ที่นี่มันที่ไหน”


“จับมันเร็วเข้า  จับมันให้ได้และเอามันไปถ่วงน้ำ” เสียงนั้นดังสนั่นลัยลาลืมตาขึ้นไปภาพตรงหน้าหญิงสาวสวยจัดรูปร่างหาที่ติไม่ได้อยู่ในชุดคล้ายสาหรีสีทองอร่าม ชุดนั้นคงจะถักทอด้วยทองคำแท้ถึงได้ส่องแสงเป็นประกายเข้าตาเธอ”


“ฉันเหรอ” ลัยลาตกใจเมื่อเธอเห็นสาวสวยมากมายหลากหลายเชื้อชาติเดินออกมาจากห้องทั้งชั้นบนชั้นล่างบ้างก็แอบมองเพียงเปิดประตูห้องแง้มและลอบมองด้วยท่าทีตื่นกลัว ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่เธอแทบจะเป็นตาเดียวกันก่อนที่กลุ่มฉายฉกรรจ์ผิวเข้มพร้อมหากในมือจะวิ่งมาและตรงเข้ามาฉุดรั้งเธอเอาไว้


“ปล่อยๆฉันนะพวกคุณเป็นใคร” ลัยลามีสีหน้าหวาดกลัว นี่มันอะไรกันเธอกำลังฝันหรือเปล่า


“นังแพศยาวันนี้ล่ะคือวันตายของแกนังลัยลา” หญิงสาวในชุดสีทองลักษณะเหมือนหญิงสูงศักดิ์ชี้นิ้วมาที่เธอและมองด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้ามาหาและข้าทาสบริวารของนางก็ตามติดมาทุกคนมองเธอราวจะกินเลือกินเนื้อ  ลัยลาได้ยินเสียงสวดมนต์แต่ไม่ใช่ภาษาไทยมันเป็นภาษาที่เธอไม่รู้จักแต่คิดว่าเป็นภาษแขกอย่างแน่นอนลัยลารู้สึกหน้ามืดเหมือนกำลังจะเป็นลม จากนั้นได้ยินเสียงหนึ่งแทรกมาในอากาศ

“กลับมายอดรักของข้า ลัยลาจะกี่ภพกี่ชาติข้าจะรักแต่นางเดียวชั่วนิจนิรันด์ ลัยลา ลัยลา ”


ลัยลาสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นมานั่งหน้าซีดเผือดเมื่อคนเป็นแม่เข้ามาปลุกเพื่อให้ตื่นนอนและลงไปใส่บาตรก่อนที่จะไปทำงานตามปกติ


“ลัยลาเป็นอะไรไปลูกทำไมเหงื่อเต็มหน้าเต็มตัวแบบนี้ล่ะ” ญาดาปาดเหงื่อที่หน้าผากและหอบเหนื่อยเหมือนกับว่าเธอได้ไปวิ่งในพระราชวังเก่าแห่งนั้นมาจริงๆ


“แม่ลัยลาฝันร้ายค่ะ มันน่ากลัวมาก น่ากลัวเหลือเกิน”

ญาดาดึงลูกสาวเข้ามากอดและปลอบด้วยการจุมพิตมอบความรักความห่วงใยให้กับแก้วตาดวงใจของนาง



“ฝันร้ายจะกลายเป็นดีลูก”


เมื่อพูดจบ ญาดาแทบผงะและปล่อยมือจากลัยลาทันทีเมื่อแวบหนึ่งเธอเห็นลัยลาในชุดแขกสวยงามสีเขียวมรกต สวมเครื่องประดับงดงามราวกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์อย่างน้อยก็ไม่ใช่ชุดของคนสามัญทั่วไป และไม่ใช่ชุดนอนลายกระต่ายเหมือนในเวลานี้


“เป็นอะไรไปคะแม่”ลัยลาเห็นอาการของคนเป็นแม่แปลกไป



“ไม่มีอะไรหรอก ลูกรีบอาบน้ำเถอะเดี๋ยวไปทำงานสาย” นางพูดเบาจากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนของลัยลาและแวะเข้าไปที่ห้องพระ


++++++++++++++++++++++++++++++++++

เทพเจ้าอาร์เทมีส จงเป็นพยานต่อคำสัตย์สาบานแห่งข้า ข้าจะยอมสละนางทั้งพันสี่ร้อยนาง เพื่อมีหัวใจมอบไว้เพียงหนึ่งนางเดียว ลัยลา นางผู้สดใสร่าเริง นางคือกลางวัน และกลางคืนของข้า คือดวงตาแห่งสวรรค์ที่เทพเจ้าประทานแก่ข้านะบีล

แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 16:55:47

จากคุณ : อัปสราน่ารัก
เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 13:05:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com