รักในรอยทราย ตอนที่ 11. เจ้าจันทร์
|
|
ตอนที่ 11
แสงแดดสีชาที่ลอดผ่านกระจกรถเข้ามาปลุกใบบุญให้ลืมตาตื่น หญิงสาวดูงัวเงียเมื่อมองเห็นเพดานรถเนื้อตัวปวดเมื่อยระบมไปหมด เธอขยับตัวหากพันธนาการหนักๆนั้น ทำให้หญิงสาวต้องนิ่งงัน ลมหายใจอุ่นๆหากสม่ำเสมอราดรดอยู่ใกล้ดวงหน้า
ใบบุญรู้สึกร้อนวูบไปทั่วร่าง เมื่อเห็นใบคล้ามคมของเขมราชอยู่ใกล้เพียง ไม่กี่มิล
ตลอดทั้งคืนเธอหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของเขาหรือนี่
ทั้งที่เบาะหลังรถอันแสนคับแคบนี้ไม่เหมาะที่คนสองคนจะเบียดกายแนบชิดกัน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หัวใจดูจะวูบวาบหนักขึ้น แน่ล่ะมันร้อนผ่าวมาถึงใบหน้า เลยทีเดียว หญิงสาวขยับตัวจะลุกขึ้น นั้นทำให้เจ้าของอ้อมกอดอันอบอุ่นเมื่อคืนรู้สึกตัว
เช้าแล้วหรือ
เสียงถามยังงัวเงียหากอ้อมแขนกลับรัดแน่น เหมือนจะหวงแหนความ อบอุ่นที่แนบชิดมาทั้งคืน
เช้า
เช้าแล้วค่ะ
ใบบุญบอกเสียงตะกุกตะกักดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดโดยการลุกขึ้น นั่ง อาการงัวเงียเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง หญิงสาวรีบเปิดประตูรถก้าว ออกมาขาแข้งดูไม่เป็นใจเพราะล้นลานจะหลีกหนีคนตัวโต สายลมเย็นยามเช้าพัดวูบเข้ามาปะทะดวงหน้า จนดับกระไอความร้อนของผิวแก้มลง เสียงเขมราชขยับตัวอยู่ภายในรถ สักพักเขาก็ก้าวลงมายืนเคียงข้าง
หนาวชะมัด
รออีกซักชั่วโมงนะผมจะโทรให้คนที่แคมป์เอารถมาเปลี่ยน หรือไม่ก็ต้องลองซ่อมดู
ชายหนุ่มพูดพลางหันไปมองเสี้ยวหน้าของอีกฝ่าย เห็นดวงหน้าขาวของใบบุญเป็นสีระเรื่อแจ่มชัด
รอยละมุนอ่อนหวานจึงฉายชัดขึ้นในดวงตา ของเขา
ค่ะ
ใบบุญรับรู้หากไม่กล้าหันหน้าไปมองเขาตรงๆ และเพียงไม่นานตามเวลาที่เขมราชบอกไว้ รถก็ถูกนำมาเปลี่ยนเมื่อคนงานบางส่วนเริ่มเข้ามาทำงานในตอนเช้า ทันทีที่เขมราชโทรศัพท์เข้าไปประสานงานในออฟฟิศ การเดินทางมุ่งตรงเข้าสู่กรุงโดฮาจึงเริ่มขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่ต่างจากพายุทะเลทรายยามพัดโหมกระหน่ำ ทั้งใบบุญและเขมราชไม่ได้กลับไปที่บ้านพัก หากทั้งคู่เดินทางเข้าตึกสำนักงานเพื่อเริ่มงานของวันนี้ในทันที
**********************************************
เสียงโทรศัพท์มือถือดังกรุ๊งกริ๊งอยู่ใกล้หู มือเรียวขาวจึงคว้านเปะปะไปตามที่นอน ก่อนจะกดรับทั้งทีเจ้าตัวไม่ได้ลืมตาขึ้นมองด้วยซ้ำไป
ใบบุญนี่ตัวกลับมาถึงบ้านพักหรือยัง?
เสียงใสแจ๋วนั้นเป็นของลดาเพื่อนรัก ที่โทรทางไกลมาจากนิวซีแลนด์ การสื่อสารระหว่างเธอและเพื่อนสนิท ส่วนใหญ่จะเป็นอีเมล์เสียมากกว่า นานๆครั้งจึงจะมีโทรศัพท์ถึงกัน
มาถึงแล้ว
หญิงสาวตอบเสียงงัวเงีย หลังเลิกงานเมื่อกลับมาถึงบ้านพักใบบุญเอนกายลงนอนพักทันที ความเหนื่อยล้าจากการติดอยู่กลางทะเลทรายเมื่อคืน ทำให้หญิงเผลอหลับไปอย่างง่ายดาย
มีอะไรหรือเปล่าลดา?
ใบบุญถามย้ำเมื่อเสียงปลายสายเงียบไป
เปล่า
จะโทรมาถามว่าลองจีบผู้จัดการดูหรือยัง?
เสียงถามของเพื่อนรักเจือปนเสียงหัวเราะคิกคัก หากคนรับฟังรู้สึกอุ่นวาบ ขึ้นมาทันที
รอยอุ่นจากอ้อมกอดยังอบอวลอยู่รอบตัว แต่น้ำเสียงที่ตอบออกไปนั้นดูต่างจากความรู้สึกภายใน
บ้าซิจะไปจีบเขาทำไมกัน ไม่เอาหรอกอยู่อย่างงี้ก็ดีแล้ว สบายดี
ไม่ลองดูเหรอ หล่อเท่ห์ดีเหมือนกันนะ
ปลายสายดูจะไม่ลดละ ใบบุญจึงแว้ดกลับไปว่า เพื่อน เสียค่าโทรศัพท์ ทางไกลมาหาเธอ เพื่อจะยุให้เธอจีบผู้ชายก่อนแค่นั้นหรือ
สุดท้ายก่อน วางสายเจ้าตัวจึงบอกย้ำถึงความตั้งใจเดิมอันแน่วแน่ เสมือนปฏิธาน ประจำตัว
ฉันจะอยู่บนคานทองอันทรงเกียรติหากต้องตามจีบผู้ชายก่อน
ในห้องนอนที่มีแสงอ่อนละมุนของพระอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามานั้น ดูจะคลอเคล้ากับเสียงสวดจากมัสยิดใกล้ๆดวงตาหรี่ปรืดของใบบุญเมื่อ ครู่ บัดนี้กระจ่างชัด ความง่วงงุนความอ่อนเพลียของร่างกายเลือนหาย
หากสิ่งที่เติมเต็มเข้ามา กลับเป็นความรู้สึกบางอย่างที่เธอปากแข็งปฎิเสธเพื่อนรักออกไป
ความรู้สึกหวั่นไหว อ่อนหวานยามเมื่อชิดใกล้
และว้าวุ่นเมื่อ เขาคนนั้น ห่างจากสายตา
บ้าแล้ว!เพ้อเจ้อ
ถ้อยคำต่อว่าดังขึ้นในหัวใจเจ้าตัวสลัดความคิดออกทันใด พลางดีดตัวเอง ลุกขึ้นจากเตียง กระเพาะเริ่มโหยหาอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย นั้นเป็นสัญญานบอกว่า
อาหารเย็นควรเริ่มประกอบได้แล้ว ใบบุญเปิดประตูห้องนอนเดินลงสู่ชั้นล่างของบ้านพัก ใครบางคนก็กำลังทำกับข้าวอยู่ด้วยกลิ่น ไข่เจียวหอมกรุ่นนั้น อบอวลทั่วบ้าน หญิงสาวชโงกหน้าเข้าไปดูจังหวะ เดียวกับคนในครัวหันมาพอดี
ผมทำไข่เจียวให้คุณ ข้าวก็หุงเสร็จแล้ว หิวหรือยังล่ะ
คำบอกคำถามรัวเร็วพร้อมกับท่วงท่าเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วของ พ่อครัว เขมราชหยิบจานตักข้าวเกือบพูนส่งให้หญิงสาวที่ยังยืนนิ่งเป็น รูปปั้นอยู่หน้าประตู
ตอนกลางวันคุณกินข้าวไปนิดเดียว ผมรู้ว่าคุณไม่ชินกับอาหารพื้นเมือง
รอแป๊บนะแกงจืดกำลังเดือด
ฉัน
ใบบุญพูดได้เพียงเท่านั้นถ้อยคำอื่นๆก็ล่าถอยออกไป เมื่อดวงหน้าคมเข้มของเขาหันมามองเต็มตา แววตาคู่นั้นดูอ่อนโยน แกมเว้าวอน
ไม่ต้องค้าน รับจานข้าวไปเดี๋ยวผมจะยกต้มจืดกับไข่เจียวไปให้
คนที่รับจานข้าวมาหัวใจดูเต็มตื้นอย่างประหลาด ไข่เจียวสีเหลืองกรอบ กับต้มจืดมื้อนั้นดูอร่อยลิ้นนักหนาข้าวที่มองว่ามากล้น พร่องหายไปเกือบหมด
คุณใบบุญคงชอบกินอาหารจืดๆกินข้าวหมดจานเลย
คนในวงข้าวเอ่ยขึ้น นั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง คนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ที่ทอดมองมาอยู่ก่อนแล้ว ********************************************
วันทำงานดูจะดำเนินต่อไปตามปกติหากหัวใจของใบบุญกลับเริ่มอ่อนไหวมากขึ้น มีคนเคยพูดไว้ว่าการหลงรักเจ้านายตัวเองนั้น ช่างไม่ต่างจากการ นำตัวเองเข้าสู่หลักประหาร เพราะทุกย่างก้าวจะถูกจับตามองจากเพื่อนร่วมงาน ยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบชั่วคราวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อายุการทำงาน สั้นลงอย่างน่าใจหาย
เธอพยายามดึงตัวเองออกจากความรู้สึกเหล่านั้น ด้วยการทำตัวให้ยุ่งเข้า ไว้ และบางครั้งเจ้าตัวก็เฝ้าถามตัวเองว่า
เธอจะเหนี่ยวรั้งหัวใจตัวเองไม่ ให้รักเขาทำไมกัน
เธอกลัวอะไร กลัวความผิดหวังหรือกลัวว่าจะรักเขา จนไถ่ถอนหัวใจตัวเองออกมาไม่ได้
คุณเงยหน้ามองใครมั้งเนี่ยวันนี้ เห็นก้มอยู่ทั้งวันไม่เมื่อยคอมั้งหรือไงนะ
เสียงทุ้มของท่านผู้จัดการเอ่ยถาม สำเนียงนั้นไม่ได้จริงจังเท่าไรนัก
หากเหมือนจะหยอกล้ออีกฝ่ายเสียมากกว่า
ฉันกำลังงานยุ่งค่ะ อย่ากวนนะ
ใบบุญบอกเสียงเรียบ วางหน้าเฉย มือไม้สาระวนหยิบโน้นนี้บนโต๊ะทำงาน ไปเรื่อยเปื่อย
ผมสั่งงานเยอะไปหรือ?
เขมราชย้อนถามสุ้มเสียงเหมือนไม่แน่ใจนัก เพราะมองเอกสารบนโต๊ะแล้ว ก็ไม่ได้มากมายอะไร
ไม่เยอะ แต่ฉันต้องมีความละเอียดรอบคอบต่องานค่ะ ก็ต้องตรวจทาน อย่างถี่ถ้วน
คนตอบมีเหตุผลน่าสนใจนั้นทำให้ คนตั้งคำถามต้องเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ดั่งเดิม ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกพร้อมกับร่างท้วมของวิศวกรโยธา ประจำทีมงาน
คุณเขมคนงานไทยมีเรื่องทะเลาะกันที่แคมป์ ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด
คุณนิพลรายงานต่อหัวหน้าทีมสีหน้าดูตื่นตระหนก ชายหนุ่มซักถามสาเหตุและสถานการณ์อย่างรวบรัด สีหน้าของเชมราชเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาโทรศัพท์ถามไถ่กับผู้คุมหน้างานสองสามคำ ก่อนจะพูดขึ้นว่า
ผมจะออกไปที่แคมป์ คุณนิพลไปกับผม เราต้องควบคุมสถานการณ์ ให้อยู่เร็วที่สุด ไม่งั้นทางการเอาเรื่องเราแน่
เขาคว้าเสื้อกันหนาวที่พาดบนเก้าอี้ทำงาน พลางหันไปมองใบบุญซึ่งยัง นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ใบหน้าของหญิงสาวดูตื่นตกใจไม่น้อย คุณกลับบ้านพักกับรถบริษัทนะ แล้วผมจะโทรหา
เมื่อจบประโยคนั้นร่างสูงใหญ่ของเขมราชก็ก้าวยาวออกไปนอกห้องทำงานทันที ปัญหาคนงานไทยที่ทำงานในตะวันกลางทะเลาะกัน มักจะเกิดขึ้น บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างเล่นการพนันหรือแอบ ดื่มเหล้าในเวลางาน หากครั้งนี้อาจมีเรื่องราวหนักหนากว่าครั้งอื่นกระมัง เมื่อเวลาเลิกงานได้สิ้นสุดลง ใบบุญก็นั่งรถบริษัทกลับตามปกติ บ้านพักดูเงียบพอสมควรสองสามีภรรยาชาวฟิลิปปินส์ไปเดินเล่นซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้าม คุณนิพลนั้นก็ไปกับเขมราชที่แคมป์ ส่วนคนอื่นๆก็คงนอนเล่นพักผ่อนในห้องส่วนตัว หญิงสาวทำอาหารเย็นง่ายๆให้กับตัวเอง และทำเผื่อเอาไว้สำหรับคนที่ยังมาไม่ถึง
ทานข้าวด้วยกันไม๊คะ?
เธอเอ่ยชวนเพื่อนร่วมบ้านพักเมื่อยกออกมานั่งทานในห้องรับแขก
ตามสบายเลยครับคุณใบบุญ
หญิงสาวยิ้มอ่อนกับคำปฏิเสธอย่างสุภาพ นั่งทานอาหารเย็นของตัวเอง เงียบๆเก็บล้างจานตามปกติ แล้วจึงเดินขึ้นห้องพัก เฝ้ารอเสียงโทรศัพท์
ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะรอไปทำไมด้วยเวลานั้นล่วงเลยมาเกือบค่อนคืนแล้ว หากเธอก็ยังนอนไม่หลับ เสียงรถยนต์ดังอยู่หน้าบ้านพักหญิงสาวผุดลุก ขึ้นนั่ง ก้าวเท้าลงจากเตียงสัมผัสกับพื้นเย็นเฉียบ ใบบุญเดินไปเปิดประตู ห้องนอน กวาดสายตามองภายนอกที่ดูสลัวลางจากแสงไฟบนท้องถนนที่สาดส่องเข้ามา เงาดำของใครคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นมา
ใบบุญ
เสียงเรียกชื่ออ่อนโยน พร้อมกับเงาดำนั้นก็เดินเข้ามาใกล้
ยังไม่นอนอีกเหรอดึกแล้วนะ ผมรีบเคียล์ปัญหาในแคมป์ให้จบเพราะ ไม่อยากนอนค้างที่โน้น
เสียงของเขมราชสม่ำเสมอร่างสูงใหญ่ของเขาก็ยืนอยู่ใกล้
ก็หน้าห้อง นอนของเขากับหน้าห้องนอนของเธอประตูก็แทบจะติดกันอยู่แล้ว
ฉันกำลังจะนอนค่ะพอดีได้ยินเสียงรถ...แล้ว
เรียบร้อยดีไม๊คะ?
เธอรู้ดีว่าบางส่วนของคำพูดคือการกล่าวอ้าง
ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ พรุ่งนี้ต้องคุยกันอีกรอบ...มีปัญหาเรื่องคนจดโอที ขาดบ้างเกิดบ้าง
เสียงของเขมราชดูอ่อนใจกับปัญหาดังกล่าว
ฉันจะไปนอนก่อนนะคะ
หญิงสาวขอตัวถอยหลังจะเข้าห้องตัวเอง หากเขมราชดึงข้อมือไว้
คุณรอผมใช่ไม๊ใบบุญ
คุณเป็นห่วงผม
ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงดูแจ่มใสกว่าเมื่อครู่ นึกถึงเหตุการณ์ที่ติดอยู่ กลางทะเลทรายด้วยกันในคืนนั้น ความมั่นใจหลายอย่างเริ่มก่อเกิดขึ้น กระแสจากหัวใจของเขาและเธอ
เคลื่อนผ่านกาลเวลามาตรงกัน ยังจำ ได้ถึงความอ่อนนุ่มของเรือนร่างเล็กบาง เมื่อโอบกอดยามลมหนาวอันร้ายกาจแทรกซึมเข้าสู่เนื้อกาย
เปล่าค่ะไม่ได้รอ
หญิงสาวให้คำตอบที่ช่างทรยศหัวใจตัวเอง
ไม่จริงใบบุญ
คุณรอ
เขายืนยันแขนอีกข้างโอบรัดร่างบางเข้ามากอด ก่อนจะประทับริมฝีปาก อุ่นจัดลงบนกลีบปากอิ่มนั้นอย่างนุ่มนวล
อ่อนโยนและนิ่งนาน
ใบบุญ สั่นสะท้านกับความรู้สึกอันแปลกใหม่นั้น ไม่คิดว่าเขมราชจะกล้าจูบเธอ เช่นนี้ หญิงสาวพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงดึงตัวเองออกจากอ้อมกอด แต่ก็ไร้ผลเพราะอ้อมกอดเหมือนจะรัดแน่นมากขึ้น
รอยจูบเริ่มหนักหน่วงมากขึ้น ใบบุญรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก จูบแรก ในชีวิตสาวโสดทำไมไม่ยักเหมือนในนิยายที่เธอชอบอ่าน ที่พระเอกมัก พรมจูบจนนางเอกเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสนั้น และจำต้องยอมจูบตอบด้วยความเต็มใจ แล้วให้ทุกอย่างเลยตามเลยไปตลอดทั้งเรื่อง แต่
จูบที่เธอกำลังประสบ อาจทำให้เธอขาดอากาศหายใจ
คุณเขม
ปล่อยได้แล้ว
ประโยคแรกหลุดออกไปอย่างกระท่อนกระแท่น เมื่อชายหนุ่มถอนริมฝี ปากออก
ใบบุญ
เขมราชกระซิบเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
อารมณ์อันอ่อนไหว และร้อนรุ่มระคนกันยังอบอวลอยู่รอบตัว แม้อ้อมกอดก็ยังไม่อยากจะ คลายออกจากร่างนุ่มหอมกรุ่นนั้น ปล่อยค่ะ!
เสียงบอกย้ำสั่นเครือหญิงสาวดึงตัวเองออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ถอยหลังผลุบเข้าห้องตัวเองปิดประตูล๊อกลูกบิดราวจะปิดกั้นความรู้สึกที่สับสน ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเธอแว่วๆ
ก่อนจะเงียบลง ใบบุญรู้สึกขอบ ตาร้อนผ่าวขึ้นมาสลับกับความอุ่นวาบในหัวใจ
มันคืออะไรระหว่างความรักและความรู้สึกดี แท้จริงคาบเกี่ยวกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น **********************************************
ในตอนเช้าเมื่อใบบุญเดินลงมาจากห้องพัก เธอไม่เห็นเขมราชในห้องรับแขกดังเช่นทุกวันเข้าใจว่าเขาคงตื่นสายหรือไม่ก็ไม่อยากเผชิญหน้าด้วย
เพราะเหตุการณ์เมื่อคืน
หากรอยสัมผัสอันอ่อนหวานนั้นมันทำให้หัวใจของเธออบอุ่นเหลือเกิน ใบบุญชงกาแฟและทำแซมวิชง่ายๆเป็นอาหารเช้าให้ตัวเองก่อนไปทำงาน เสียงเปิดประตูห้องพักพร้อมกับเสียงทักทายจากคุณนิพลดังแว่วเข้ามา
ตื่นเช้าจริงคุณใบบุญ วันนี้หนาวจนไม่อยากจะตื่น
หญิงสาวเอ่ยชวนผู้สูงวัยกว่าดื่มกาแฟพร้อมกับสอบถามสถานการณ์ที่แคมป์คนงานเพิ่มเติม
แคมป์คนงานไทยที่ไหนๆก็มีมาเฟียทั้งนั้น เอารัดเอาเปรียบเรื่องชั่วโมง โอทีกัน จนหลายคนทนไม่ได้ก็ต้องลุกขึ้นมาประท้วง คราวนี้คุณเขมจัดการเด็ดขาดใครไม่ทำตามกฏจะส่งกลับเมืองไทยทันที
นี่ก็ออกไปแต่เช้าจะเรียกประชุมหัวหน้าแคมป์อีกครั้ง วางนโยบายให้ปฏิบัติเลยทำไม่ได้ก็ลง โทษเด็ดขาด
ใบบุญรู้สึกเห็นใจเขมราชอยู่ไม่น้อย ปัญหาเรื่องงานดูจะมีมาให้เขาแก้ไข ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องคน ทั้งเรื่องระบบ
คุณนิพลต้องไปแคมป์ที่อาร์รอยยันอีกไม๊คะ
ไปครับแต่ผมต้องเข้าสำนักงานก่อน สายๆถึงจะออกเดินทาง
คุณใบบุญ มีอะไรหรือเปล่าครับ
หนุ่มใหญ่ย้อนถาม พร้อมกับรับถ้วยกาแฟจากหญิงสาวที่ยื่นส่งให้
อ๋อ
เปล่าค่ะ
ใบบุญปฏิเสธแม้ในส่วนลึกอยากฝากอาหารเช้าไปให้คนที่เดินทางล่วงหน้าไปแล้ว เมื่อดูแล้วว่าไม่ค่อยสะดวกนัก หญิงสาวจึงเตรียมแซมวิชทูน่าใส่กล่องพลาสติกไปที่ทำงานด้วย
เผื่อเขากลับมาแล้วยังไม่ได้ทานอะไร แล้วก็เป็นอย่างที่ใบบุญคาดเดาเอาไว้เขมราชกลับเข้ามาพร้อมอาการ หิวโซ ชายหนุ่มบ่นพึมว่าตั้งแต่เช้าเพิ่งได้กาแฟถ้วยเดียวเท่านั้น
มีแซมวิชทูน่าคุณเขมจะทานไม๊คะ
หญิงสาวพูดพลางหยิบกล่องพลาสติกขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน คนบ่นหิว ดวงหน้า แววตาอ่อนละมุนขึ้นมาทีเดียว
ถ้าจะกรุณากาแฟอีกแก้วก็ดีนะครับ
คำร้องขอแกมอ้อนวอนนั้น ทำให้เจ้าของร่างเล็กบางที่นั่งอยู่โต๊ะติดกัน ปฏิบัติตามอย่างไร้ข้อกังขา กาแฟถ้วยโปรดกับแซมวิชทูน่ายามสาย สำหรับเขมราช
จึงอร่อยและกลมกล่อมนักหนา
ไม่รู้ว่าคุณทำแซมวิชอร่อย รู้งี้ให้ทำทุกวันก็ดี
เขาเอ่ยชื่นชม ดวงตาสีเข้มดูพริบพราย
ห้องทำงานที่มีเพียงเธอและเขมราชดูเงียบสงบ แสงแดดสีชาจากภายนอกที่ส่องกระทบเข้ามา ทำให้ห้อง แลดูอบอุ่นแม้อากาศรอบตัวจะเย็นเยือก
ไม่มีเวลาขนาดนั้นเหรอคะ
ต้องทำงาน
ใบบุญบอกปัดเพราะสงสารกลัวว่าจะหิวเหรอนะ เธอถึงทำมาให้ถ้าเป็นเวลาปกตินะเหรอ
คงไม่หรอก แค่เขาใช้ให้ทำงานก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว
เอาน่าทำมาเถอะผมกินได้หมดแหละ ถ้าคุณทำ
เขมราชยืนยันดวงตาสีเข้มมีริ้วรอยวิบวับ แม้ดวงหน้าก็ยังมีรอยยิ้มประดับ
จากคุณ |
:
เอริชา
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ต.ค. 55 21:16:44
|
|
|
|