Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รักในรอยทราย ตอนที่ 11. เจ้าจันทร์ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 11

แสงแดดสีชาที่ลอดผ่านกระจกรถเข้ามาปลุกใบบุญให้ลืมตาตื่น หญิงสาวดูงัวเงียเมื่อมองเห็นเพดานรถเนื้อตัวปวดเมื่อยระบมไปหมด เธอขยับตัวหากพันธนาการหนักๆนั้น ทำให้หญิงสาวต้องนิ่งงัน ลมหายใจอุ่นๆหากสม่ำเสมอราดรดอยู่ใกล้ดวงหน้า

ใบบุญรู้สึกร้อนวูบไปทั่วร่าง เมื่อเห็นใบคล้ามคมของเขมราชอยู่ใกล้เพียง
ไม่กี่มิล…ตลอดทั้งคืนเธอหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของเขาหรือนี่ … ทั้งที่เบาะหลังรถอันแสนคับแคบนี้ไม่เหมาะที่คนสองคนจะเบียดกายแนบชิดกัน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หัวใจดูจะวูบวาบหนักขึ้น แน่ล่ะมันร้อนผ่าวมาถึงใบหน้า
เลยทีเดียว หญิงสาวขยับตัวจะลุกขึ้น นั้นทำให้เจ้าของอ้อมกอดอันอบอุ่นเมื่อคืนรู้สึกตัว

“เช้าแล้วหรือ…”

เสียงถามยังงัวเงียหากอ้อมแขนกลับรัดแน่น เหมือนจะหวงแหนความ
อบอุ่นที่แนบชิดมาทั้งคืน

“เช้า…เช้าแล้วค่ะ…”

ใบบุญบอกเสียงตะกุกตะกักดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดโดยการลุกขึ้น
นั่ง อาการงัวเงียเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง หญิงสาวรีบเปิดประตูรถก้าว
ออกมาขาแข้งดูไม่เป็นใจเพราะล้นลานจะหลีกหนีคนตัวโต สายลมเย็นยามเช้าพัดวูบเข้ามาปะทะดวงหน้า จนดับกระไอความร้อนของผิวแก้มลง เสียงเขมราชขยับตัวอยู่ภายในรถ สักพักเขาก็ก้าวลงมายืนเคียงข้าง  

“หนาวชะมัด…รออีกซักชั่วโมงนะผมจะโทรให้คนที่แคมป์เอารถมาเปลี่ยน หรือไม่ก็ต้องลองซ่อมดู”

ชายหนุ่มพูดพลางหันไปมองเสี้ยวหน้าของอีกฝ่าย เห็นดวงหน้าขาวของใบบุญเป็นสีระเรื่อแจ่มชัด…รอยละมุนอ่อนหวานจึงฉายชัดขึ้นในดวงตา
ของเขา

“ค่ะ”

ใบบุญรับรู้หากไม่กล้าหันหน้าไปมองเขาตรงๆ และเพียงไม่นานตามเวลาที่เขมราชบอกไว้ รถก็ถูกนำมาเปลี่ยนเมื่อคนงานบางส่วนเริ่มเข้ามาทำงานในตอนเช้า ทันทีที่เขมราชโทรศัพท์เข้าไปประสานงานในออฟฟิศ การเดินทางมุ่งตรงเข้าสู่กรุงโดฮาจึงเริ่มขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่ต่างจากพายุทะเลทรายยามพัดโหมกระหน่ำ ทั้งใบบุญและเขมราชไม่ได้กลับไปที่บ้านพัก หากทั้งคู่เดินทางเข้าตึกสำนักงานเพื่อเริ่มงานของวันนี้ในทันที…
**********************************************

เสียงโทรศัพท์มือถือดังกรุ๊งกริ๊งอยู่ใกล้หู มือเรียวขาวจึงคว้านเปะปะไปตามที่นอน ก่อนจะกดรับทั้งทีเจ้าตัวไม่ได้ลืมตาขึ้นมองด้วยซ้ำไป

“ใบบุญนี่ตัวกลับมาถึงบ้านพักหรือยัง?”

เสียงใสแจ๋วนั้นเป็นของลดาเพื่อนรัก ที่โทรทางไกลมาจากนิวซีแลนด์
การสื่อสารระหว่างเธอและเพื่อนสนิท ส่วนใหญ่จะเป็นอีเมล์เสียมากกว่า นานๆครั้งจึงจะมีโทรศัพท์ถึงกัน

“มาถึงแล้ว…”

หญิงสาวตอบเสียงงัวเงีย หลังเลิกงานเมื่อกลับมาถึงบ้านพักใบบุญเอนกายลงนอนพักทันที ความเหนื่อยล้าจากการติดอยู่กลางทะเลทรายเมื่อคืน
ทำให้หญิงเผลอหลับไปอย่างง่ายดาย

“มีอะไรหรือเปล่าลดา?”

ใบบุญถามย้ำเมื่อเสียงปลายสายเงียบไป

“เปล่า…จะโทรมาถามว่าลองจีบผู้จัดการดูหรือยัง?”

เสียงถามของเพื่อนรักเจือปนเสียงหัวเราะคิกคัก หากคนรับฟังรู้สึกอุ่นวาบ
ขึ้นมาทันที…รอยอุ่นจากอ้อมกอดยังอบอวลอยู่รอบตัว แต่น้ำเสียงที่ตอบออกไปนั้นดูต่างจากความรู้สึกภายใน

“บ้าซิจะไปจีบเขาทำไมกัน ไม่เอาหรอกอยู่อย่างงี้ก็ดีแล้ว สบายดี”

“ไม่ลองดูเหรอ หล่อเท่ห์ดีเหมือนกันนะ”

ปลายสายดูจะไม่ลดละ ใบบุญจึงแว้ดกลับไปว่า ‘เพื่อน’ เสียค่าโทรศัพท์
ทางไกลมาหาเธอ เพื่อจะยุให้เธอจีบผู้ชายก่อนแค่นั้นหรือ…สุดท้ายก่อน
วางสายเจ้าตัวจึงบอกย้ำถึงความตั้งใจเดิมอันแน่วแน่ เสมือนปฏิธาน
ประจำตัว

“ฉันจะอยู่บนคานทองอันทรงเกียรติหากต้องตามจีบผู้ชายก่อน”

ในห้องนอนที่มีแสงอ่อนละมุนของพระอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามานั้น
ดูจะคลอเคล้ากับเสียงสวดจากมัสยิดใกล้ๆดวงตาหรี่ปรืดของใบบุญเมื่อ
ครู่ บัดนี้กระจ่างชัด ความง่วงงุนความอ่อนเพลียของร่างกายเลือนหาย…
หากสิ่งที่เติมเต็มเข้ามา กลับเป็นความรู้สึกบางอย่างที่เธอปากแข็งปฎิเสธเพื่อนรักออกไป…ความรู้สึกหวั่นไหว อ่อนหวานยามเมื่อชิดใกล้…และว้าวุ่นเมื่อ ‘เขาคนนั้น’ ห่างจากสายตา

“บ้าแล้ว!เพ้อเจ้อ”

ถ้อยคำต่อว่าดังขึ้นในหัวใจเจ้าตัวสลัดความคิดออกทันใด พลางดีดตัวเอง
ลุกขึ้นจากเตียง กระเพาะเริ่มโหยหาอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย นั้นเป็นสัญญานบอกว่า…อาหารเย็นควรเริ่มประกอบได้แล้ว ใบบุญเปิดประตูห้องนอนเดินลงสู่ชั้นล่างของบ้านพัก ใครบางคนก็กำลังทำกับข้าวอยู่ด้วยกลิ่น
ไข่เจียวหอมกรุ่นนั้น อบอวลทั่วบ้าน หญิงสาวชโงกหน้าเข้าไปดูจังหวะ
เดียวกับคนในครัวหันมาพอดี

“ผมทำไข่เจียวให้คุณ  ข้าวก็หุงเสร็จแล้ว หิวหรือยังล่ะ”

คำบอกคำถามรัวเร็วพร้อมกับท่วงท่าเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วของ
พ่อครัว เขมราชหยิบจานตักข้าวเกือบพูนส่งให้หญิงสาวที่ยังยืนนิ่งเป็น
รูปปั้นอยู่หน้าประตู

“ตอนกลางวันคุณกินข้าวไปนิดเดียว ผมรู้ว่าคุณไม่ชินกับอาหารพื้นเมือง
…รอแป๊บนะแกงจืดกำลังเดือด”

“ฉัน…”

ใบบุญพูดได้เพียงเท่านั้นถ้อยคำอื่นๆก็ล่าถอยออกไป เมื่อดวงหน้าคมเข้มของเขาหันมามองเต็มตา แววตาคู่นั้นดูอ่อนโยน แกมเว้าวอน

“ไม่ต้องค้าน รับจานข้าวไปเดี๋ยวผมจะยกต้มจืดกับไข่เจียวไปให้”

คนที่รับจานข้าวมาหัวใจดูเต็มตื้นอย่างประหลาด ไข่เจียวสีเหลืองกรอบ
กับต้มจืดมื้อนั้นดูอร่อยลิ้นนักหนาข้าวที่มองว่ามากล้น พร่องหายไปเกือบหมด

“คุณใบบุญคงชอบกินอาหารจืดๆกินข้าวหมดจานเลย”

คนในวงข้าวเอ่ยขึ้น นั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
คนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม…ที่ทอดมองมาอยู่ก่อนแล้ว
********************************************

วันทำงานดูจะดำเนินต่อไปตามปกติหากหัวใจของใบบุญกลับเริ่มอ่อนไหวมากขึ้น มีคนเคยพูดไว้ว่าการหลงรักเจ้านายตัวเองนั้น ช่างไม่ต่างจากการ
นำตัวเองเข้าสู่หลักประหาร เพราะทุกย่างก้าวจะถูกจับตามองจากเพื่อนร่วมงาน ยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบชั่วคราวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อายุการทำงาน
สั้นลงอย่างน่าใจหาย

เธอพยายามดึงตัวเองออกจากความรู้สึกเหล่านั้น ด้วยการทำตัวให้ยุ่งเข้า
ไว้ และบางครั้งเจ้าตัวก็เฝ้าถามตัวเองว่า…เธอจะเหนี่ยวรั้งหัวใจตัวเองไม่
ให้รักเขาทำไมกัน…เธอกลัวอะไร กลัวความผิดหวังหรือกลัวว่าจะรักเขา
จนไถ่ถอนหัวใจตัวเองออกมาไม่ได้

“คุณเงยหน้ามองใครมั้งเนี่ยวันนี้ เห็นก้มอยู่ทั้งวันไม่เมื่อยคอมั้งหรือไงนะ”

เสียงทุ้มของท่านผู้จัดการเอ่ยถาม สำเนียงนั้นไม่ได้จริงจังเท่าไรนัก…หากเหมือนจะหยอกล้ออีกฝ่ายเสียมากกว่า

“ฉันกำลังงานยุ่งค่ะ อย่ากวนนะ”

ใบบุญบอกเสียงเรียบ วางหน้าเฉย มือไม้สาระวนหยิบโน้นนี้บนโต๊ะทำงาน
ไปเรื่อยเปื่อย

“ผมสั่งงานเยอะไปหรือ?”

เขมราชย้อนถามสุ้มเสียงเหมือนไม่แน่ใจนัก เพราะมองเอกสารบนโต๊ะแล้ว
ก็ไม่ได้มากมายอะไร

“ไม่เยอะ แต่ฉันต้องมีความละเอียดรอบคอบต่องานค่ะ ก็ต้องตรวจทาน
อย่างถี่ถ้วน”

คนตอบมีเหตุผลน่าสนใจนั้นทำให้ คนตั้งคำถามต้องเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
ดั่งเดิม ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกพร้อมกับร่างท้วมของวิศวกรโยธา
ประจำทีมงาน

“คุณเขมคนงานไทยมีเรื่องทะเลาะกันที่แคมป์ ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด”

คุณนิพลรายงานต่อหัวหน้าทีมสีหน้าดูตื่นตระหนก ชายหนุ่มซักถามสาเหตุและสถานการณ์อย่างรวบรัด สีหน้าของเชมราชเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาโทรศัพท์ถามไถ่กับผู้คุมหน้างานสองสามคำ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ผมจะออกไปที่แคมป์ คุณนิพลไปกับผม เราต้องควบคุมสถานการณ์
ให้อยู่เร็วที่สุด ไม่งั้นทางการเอาเรื่องเราแน่”

เขาคว้าเสื้อกันหนาวที่พาดบนเก้าอี้ทำงาน พลางหันไปมองใบบุญซึ่งยัง
นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ใบหน้าของหญิงสาวดูตื่นตกใจไม่น้อย
 
“คุณกลับบ้านพักกับรถบริษัทนะ แล้วผมจะโทรหา”

เมื่อจบประโยคนั้นร่างสูงใหญ่ของเขมราชก็ก้าวยาวออกไปนอกห้องทำงานทันที ปัญหาคนงานไทยที่ทำงานในตะวันกลางทะเลาะกัน มักจะเกิดขึ้น
บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างเล่นการพนันหรือแอบ
ดื่มเหล้าในเวลางาน หากครั้งนี้อาจมีเรื่องราวหนักหนากว่าครั้งอื่นกระมัง
เมื่อเวลาเลิกงานได้สิ้นสุดลง ใบบุญก็นั่งรถบริษัทกลับตามปกติ บ้านพักดูเงียบพอสมควรสองสามีภรรยาชาวฟิลิปปินส์ไปเดินเล่นซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้าม คุณนิพลนั้นก็ไปกับเขมราชที่แคมป์ ส่วนคนอื่นๆก็คงนอนเล่นพักผ่อนในห้องส่วนตัว หญิงสาวทำอาหารเย็นง่ายๆให้กับตัวเอง และทำเผื่อเอาไว้สำหรับคนที่ยังมาไม่ถึง  

“ทานข้าวด้วยกันไม๊คะ?”

เธอเอ่ยชวนเพื่อนร่วมบ้านพักเมื่อยกออกมานั่งทานในห้องรับแขก

“ตามสบายเลยครับคุณใบบุญ”

หญิงสาวยิ้มอ่อนกับคำปฏิเสธอย่างสุภาพ นั่งทานอาหารเย็นของตัวเอง
เงียบๆเก็บล้างจานตามปกติ แล้วจึงเดินขึ้นห้องพัก เฝ้ารอเสียงโทรศัพท์
…ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะรอไปทำไมด้วยเวลานั้นล่วงเลยมาเกือบค่อนคืนแล้ว
หากเธอก็ยังนอนไม่หลับ เสียงรถยนต์ดังอยู่หน้าบ้านพักหญิงสาวผุดลุก
ขึ้นนั่ง ก้าวเท้าลงจากเตียงสัมผัสกับพื้นเย็นเฉียบ ใบบุญเดินไปเปิดประตู
ห้องนอน กวาดสายตามองภายนอกที่ดูสลัวลางจากแสงไฟบนท้องถนนที่สาดส่องเข้ามา เงาดำของใครคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นมา

“ใบบุญ”

เสียงเรียกชื่ออ่อนโยน พร้อมกับเงาดำนั้นก็เดินเข้ามาใกล้

“ยังไม่นอนอีกเหรอดึกแล้วนะ ผมรีบเคียล์ปัญหาในแคมป์ให้จบเพราะ
ไม่อยากนอนค้างที่โน้น”

เสียงของเขมราชสม่ำเสมอร่างสูงใหญ่ของเขาก็ยืนอยู่ใกล้…ก็หน้าห้อง
นอนของเขากับหน้าห้องนอนของเธอประตูก็แทบจะติดกันอยู่แล้ว

“ฉันกำลังจะนอนค่ะพอดีได้ยินเสียงรถ...แล้ว…เรียบร้อยดีไม๊คะ?”

เธอรู้ดีว่าบางส่วนของคำพูดคือการกล่าวอ้าง

“ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ พรุ่งนี้ต้องคุยกันอีกรอบ...มีปัญหาเรื่องคนจดโอที
ขาดบ้างเกิดบ้าง”

เสียงของเขมราชดูอ่อนใจกับปัญหาดังกล่าว

“ฉันจะไปนอนก่อนนะคะ”

หญิงสาวขอตัวถอยหลังจะเข้าห้องตัวเอง หากเขมราชดึงข้อมือไว้

“คุณรอผมใช่ไม๊ใบบุญ…คุณเป็นห่วงผม”

ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงดูแจ่มใสกว่าเมื่อครู่ นึกถึงเหตุการณ์ที่ติดอยู่
กลางทะเลทรายด้วยกันในคืนนั้น ความมั่นใจหลายอย่างเริ่มก่อเกิดขึ้น กระแสจากหัวใจของเขาและเธอ…เคลื่อนผ่านกาลเวลามาตรงกัน ยังจำ
ได้ถึงความอ่อนนุ่มของเรือนร่างเล็กบาง เมื่อโอบกอดยามลมหนาวอันร้ายกาจแทรกซึมเข้าสู่เนื้อกาย

“เปล่าค่ะไม่ได้รอ”

หญิงสาวให้คำตอบที่ช่างทรยศหัวใจตัวเอง

“ไม่จริงใบบุญ…คุณรอ”

เขายืนยันแขนอีกข้างโอบรัดร่างบางเข้ามากอด ก่อนจะประทับริมฝีปาก
อุ่นจัดลงบนกลีบปากอิ่มนั้นอย่างนุ่มนวล…อ่อนโยนและนิ่งนาน…ใบบุญ
สั่นสะท้านกับความรู้สึกอันแปลกใหม่นั้น ไม่คิดว่าเขมราชจะกล้าจูบเธอ
เช่นนี้ หญิงสาวพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงดึงตัวเองออกจากอ้อมกอด
แต่ก็ไร้ผลเพราะอ้อมกอดเหมือนจะรัดแน่นมากขึ้น
…รอยจูบเริ่มหนักหน่วงมากขึ้น ใบบุญรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก จูบแรก
ในชีวิตสาวโสดทำไมไม่ยักเหมือนในนิยายที่เธอชอบอ่าน ที่พระเอกมัก
พรมจูบจนนางเอกเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสนั้น และจำต้องยอมจูบตอบด้วยความเต็มใจ แล้วให้ทุกอย่างเลยตามเลยไปตลอดทั้งเรื่อง แต่…จูบที่เธอกำลังประสบ อาจทำให้เธอขาดอากาศหายใจ

“คุณเขม…ปล่อยได้แล้ว”

ประโยคแรกหลุดออกไปอย่างกระท่อนกระแท่น เมื่อชายหนุ่มถอนริมฝี
ปากออก

“ใบบุญ…”

เขมราชกระซิบเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า …อารมณ์อันอ่อนไหว
และร้อนรุ่มระคนกันยังอบอวลอยู่รอบตัว แม้อ้อมกอดก็ยังไม่อยากจะ
คลายออกจากร่างนุ่มหอมกรุ่นนั้น
 
“ปล่อยค่ะ!”

เสียงบอกย้ำสั่นเครือหญิงสาวดึงตัวเองออกจากอ้อมแขนแข็งแรง
ถอยหลังผลุบเข้าห้องตัวเองปิดประตูล๊อกลูกบิดราวจะปิดกั้นความรู้สึกที่สับสน  ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเธอแว่วๆ…ก่อนจะเงียบลง ใบบุญรู้สึกขอบ
ตาร้อนผ่าวขึ้นมาสลับกับความอุ่นวาบในหัวใจ…มันคืออะไรระหว่างความรักและความรู้สึกดี แท้จริงคาบเกี่ยวกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
**********************************************

ในตอนเช้าเมื่อใบบุญเดินลงมาจากห้องพัก เธอไม่เห็นเขมราชในห้องรับแขกดังเช่นทุกวันเข้าใจว่าเขาคงตื่นสายหรือไม่ก็ไม่อยากเผชิญหน้าด้วย
…เพราะเหตุการณ์เมื่อคืน…หากรอยสัมผัสอันอ่อนหวานนั้นมันทำให้หัวใจของเธออบอุ่นเหลือเกิน
ใบบุญชงกาแฟและทำแซมวิชง่ายๆเป็นอาหารเช้าให้ตัวเองก่อนไปทำงาน เสียงเปิดประตูห้องพักพร้อมกับเสียงทักทายจากคุณนิพลดังแว่วเข้ามา

“ตื่นเช้าจริงคุณใบบุญ วันนี้หนาวจนไม่อยากจะตื่น”

หญิงสาวเอ่ยชวนผู้สูงวัยกว่าดื่มกาแฟพร้อมกับสอบถามสถานการณ์ที่แคมป์คนงานเพิ่มเติม

“แคมป์คนงานไทยที่ไหนๆก็มีมาเฟียทั้งนั้น เอารัดเอาเปรียบเรื่องชั่วโมง
โอทีกัน จนหลายคนทนไม่ได้ก็ต้องลุกขึ้นมาประท้วง คราวนี้คุณเขมจัดการเด็ดขาดใครไม่ทำตามกฏจะส่งกลับเมืองไทยทันที…นี่ก็ออกไปแต่เช้าจะเรียกประชุมหัวหน้าแคมป์อีกครั้ง วางนโยบายให้ปฏิบัติเลยทำไม่ได้ก็ลง
โทษเด็ดขาด”

ใบบุญรู้สึกเห็นใจเขมราชอยู่ไม่น้อย ปัญหาเรื่องงานดูจะมีมาให้เขาแก้ไข
ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องคน ทั้งเรื่องระบบ

“คุณนิพลต้องไปแคมป์ที่อาร์รอยยันอีกไม๊คะ”

“ไปครับแต่ผมต้องเข้าสำนักงานก่อน สายๆถึงจะออกเดินทาง…คุณใบบุญ
มีอะไรหรือเปล่าครับ”

หนุ่มใหญ่ย้อนถาม พร้อมกับรับถ้วยกาแฟจากหญิงสาวที่ยื่นส่งให้

“อ๋อ…เปล่าค่ะ”

ใบบุญปฏิเสธแม้ในส่วนลึกอยากฝากอาหารเช้าไปให้คนที่เดินทางล่วงหน้าไปแล้ว เมื่อดูแล้วว่าไม่ค่อยสะดวกนัก หญิงสาวจึงเตรียมแซมวิชทูน่าใส่กล่องพลาสติกไปที่ทำงานด้วย…เผื่อเขากลับมาแล้วยังไม่ได้ทานอะไร
แล้วก็เป็นอย่างที่ใบบุญคาดเดาเอาไว้เขมราชกลับเข้ามาพร้อมอาการ
หิวโซ ชายหนุ่มบ่นพึมว่าตั้งแต่เช้าเพิ่งได้กาแฟถ้วยเดียวเท่านั้น

“มีแซมวิชทูน่าคุณเขมจะทานไม๊คะ”

หญิงสาวพูดพลางหยิบกล่องพลาสติกขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน คนบ่นหิว
ดวงหน้า แววตาอ่อนละมุนขึ้นมาทีเดียว

“ถ้าจะกรุณากาแฟอีกแก้วก็ดีนะครับ”

คำร้องขอแกมอ้อนวอนนั้น ทำให้เจ้าของร่างเล็กบางที่นั่งอยู่โต๊ะติดกัน ปฏิบัติตามอย่างไร้ข้อกังขา กาแฟถ้วยโปรดกับแซมวิชทูน่ายามสาย
สำหรับเขมราช…จึงอร่อยและกลมกล่อมนักหนา

“ไม่รู้ว่าคุณทำแซมวิชอร่อย รู้งี้ให้ทำทุกวันก็ดี”

เขาเอ่ยชื่นชม ดวงตาสีเข้มดูพริบพราย… ห้องทำงานที่มีเพียงเธอและเขมราชดูเงียบสงบ แสงแดดสีชาจากภายนอกที่ส่องกระทบเข้ามา ทำให้ห้อง
แลดูอบอุ่นแม้อากาศรอบตัวจะเย็นเยือก

“ไม่มีเวลาขนาดนั้นเหรอคะ…ต้องทำงาน”

ใบบุญบอกปัดเพราะสงสารกลัวว่าจะหิวเหรอนะ เธอถึงทำมาให้ถ้าเป็นเวลาปกตินะเหรอ…คงไม่หรอก แค่เขาใช้ให้ทำงานก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว

“เอาน่าทำมาเถอะผมกินได้หมดแหละ ถ้าคุณทำ”

เขมราชยืนยันดวงตาสีเข้มมีริ้วรอยวิบวับ แม้ดวงหน้าก็ยังมีรอยยิ้มประดับ

จากคุณ : เอริชา
เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 21:16:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com