สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 10 ]
|
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 10 ] เจ็บ....
แสงอาทิตย์ทอประกายสีแดงแสดกำลังจะลาลับขอบฟ้า เวลาแห่งการเลี้ยงฉลองปิดกล้องโฆษณาใกล้เข้ามา มินตราและอธิปจับจูงมือกันเดินกลับมาที่บ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข ทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนเป็นสีชมพูไปหมดในยามที่รักกัน
การมีอธิปอยู่เคียงข้างในฐานะคนรัก เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ในชีวิตของมินตรา ความรู้สึกสดชื่นมีความหวังเริ่มเข้ามาในชีวิต อธิปคือหัวใจของหล่อนอย่างจริงแท้ตลอดไป มินตราไม่เคยเผื่อใจคิดเลยว่าอนาคตพวกเขาทั้งสองคนจะต้องเปลี่ยนไปในอีกไม่นานนับจากนี้
..
ห้องพักของมินตราอยู่บริเวณปีกซ้ายของตัวบ้าน ตรงข้ามกันกับห้องของอธิป บริเวณนั้นเป็นส่วนที่เงียบสงบที่สุดเพราะอยู่ใกล้บริเวณสวนสวย ชายหนุ่มต้องการให้คนรักหมาดๆของเขาได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบายที่สุดยามอยู่ที่นี่
ขอเข้าไปด้วยคนได้มั๊ย อีกตั้งสามชั่วโมงกว่างานจะเริ่ม พวกนั้นไปเที่ยวในตัวเมืองแล้วก็ซื้อของมาทำบาร์บีคิวยังไม่กลับมากันเลย อธิปใช้มือผลักบานประตูไว้หลังจากส่งมินตราที่หน้าห้อง น้ำเสียงออดอ้อนของชายหนุ่มทำให้มินตราถึงกับหรี่ตามองอย่างระแวง
ไม่ได้...โอมก็กลับไปเตรียมตัวได้แล้ว....เดี๋ยวไม่ทันนะ มินตราไม่มีทางยอมให้อธิปเข้ามาที่ห้อง เพราะสถานะที่เปลี่ยนไปทำให้หล่อนรู้สึกกระดากอายที่จะใกล้ชิดเขามากขึ้นกว่าเดิม
หึ...มินใจร้าย ... อธิปยู่ปากพูดประชดแบบไม่จริงจัง...น้ำเสียงกระเง้ากระงอดฟังดูมินตราก็รู้ว่าเขาคิดจะเอาเปรียบกันอีกแล้ว
เจอกันข้างล่างก็แล้วกันนะ....ที่รัก มินตราหยอดคำหวานใส่ จนอธิปถึงกับนิ่งไปไม่เป็นเลยทีเดียว
ที่รักงั้นเหรอ หึหึ อธิปลูบต้นคอตนเองอย่างขัดเขินในถ้อยคำแสดงออกของคนรัก แล้วหัวเราะออกมาเบาๆเดินกลับเข้าห้องของตนเองที่อยู่ตรงข้ามกัน
อธิปจากไปแล้วก็เป็นเวลาที่มินตราจะได้จัดการธุระของตัวเอง ยังเหลือเวลาอีกมากหญิงสาวจึงไม่ต้องรีบร้อนนัก หล่อนใช้เวลานั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งจัดการธุระส่วนตัวอยู่สักพักจึงไปอาบน้ำ เสียงฮัมเพลงเบาๆจากในห้องน้ำบ่งบอกให้รู้ว่าหล่อนมีความสุขแค่ไหนในเวลานี้
ทางด้านอธิปเมื่อกลับเข้ามาที่ห้องแล้ว...เขาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่....หลับตาฝันหวานพร้อมทั้งฮัมเพลงเบาๆ เขามีความสุข การมีความรักทำให้หัวใจมีความสุขได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน....ความรู้สึกอยากใกล้ชิดมินตราให้มากกว่าเดิมค่อยๆทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะอดใจไม่ไหว แต่เขาจะอดทนรออย่างใจเย็น ในวันที่หล่อนยินยอมพร้อมใจ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปลุกอธิปให้ตื่นจากความคิดฟุ้งซ่านถึงคนรักที่เพิ่งจากมาเมื่อครู่....ศรัณย์หน้าตื่นมาบอกว่ารถของทีมงานที่ออกไปเที่ยวในตัวเมืองพังงาประสบอุบัติเหตุ มีคนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีใครเสียชีวิต เนื่องจากหนทางจากตัวเมืองถึงบ้านอธิปค่อนข้างคดโค้งและสูงชัน ถ้าไม่รู้เส้นทางแล้วค่อนข้างจะอันตรายมากทีเดียว อธิปที่รู้เรื่องจากศรัณย์แล้วจึงรีบรุดออกไป โดยมีศรัณย์ติดตามไปด้วยอีกคน โดยไม่ได้สั่งความใดใดไว้กับมินตราที่ยังอยู่ที่บ้านพักตากอากาศเพียงลำพัง
หลังจากชำระร่างกายเสร็จ มินตราในชุดลำลองกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเพียงเล็กน้อย กำลังยืนหวีผมอย่างสบายๆอยู่ริมหน้าต่างหล่อนได้ยินเสียงรถกำลังสตาร์ทจึงได้แต่มองดูด้วยความอยากรู้
เอ๊ะ...รถโอม...ไปไหนกันค่ำป่านนี้ มินตรามองลงมาจากระเบียงชั้นสองเห็นท้ายรถไวไว...เกิดอะไรขึ้นกันทำไมอธิปถึงไม่บอกหล่อน ไม่รอช้ามินตรารีบวิ่งลงไปดูที่ชั้นล่าง ปรากฎว่าไม่พบใครสักคน....ไม่มีร่องรอยใดๆของงานปาร์ตี้ที่จะจัดขึ้นในคืนนี้ ทุกคนไปไหนกันหมดมินตราได้แต่คิดไปอย่างขวัญเสีย ปกติหล่อนเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว ทำไงดี...ติดต่อก็ไม่ได้...ฉันกลัวนะโอม มินตรากระวนกระวาย พยายามต่อสายหาอธิป แต่ปลายสายไม่รับโทรศัพท์ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หล่อนจึงได้แต่ผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร จู่ๆมินตราก็รู้สึกเหมือนมีใครมากอดรัดที่เอวของหล่อนไว้จากด้านหลัง มินตราตกใจสุดขีด พยายามดิ้นรนหาทางหนีให้พ้นจากอ้อมกอดที่โอบรัดอย่างรุนแรงจากใครบางคน
อย่า!! อย่านะ!!! มินตราตะโกนสุดเสียงอย่างหวาดกลัวเมื่อใครคนนั้นพยายามล่วงเกินหล่อนโดยการลูบไล้ไปมา
ชู่ว
น้องมิน...อย่าดิ้นสิครับ.... เสียงจากใครคนนั้นที่กำลังกอดรัดมินตรากระซิบเบาๆอยู่ข้างหูของหล่อนไม่พอยังขบเม้มติ่งหูของหล่อน เสียงคุ้น...คุ้นมาก จนหล่อนถึงกับชะงักไป พะ...พี่...พี่กฤช
.ทำไม มินตราพยายามดิ้นรนหมายจะให้หลุดจากการกอดรัดของคมกฤช แต่ไม่เป็นผลนัก เมื่อคมกฤชดึงดันกอดรัดหล่อนแน่นมากขึ้นกว่าเดิม พี่ชอบน้องมินมากนะ...ไม่สิ....พี่รักน้องมิน คมกฤชเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อยืดตัวสีขาวบางของมินตรา พลางลูบไล้จาบจ้วงอย่างหื่นกระหาย มินตราตกใจสุดขีดตาเบิกโพลง ไม่ยอม...หล่อนไม่ยอม...ไม่มีวันยอม
อย่านะ!! อย่าทำแบบนี้ มินไม่ได้รักพี่ มินรักโอม!! มินตราพยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ยังไม่พ้นจากอ้อมแขนแกร่งนั้น พี่รู้....พี่เห็นน้องมินอยู่กับมันเมื่อตอนเย็น....รู้ไหมว่าพี่ปวดใจแค่ไหน มันเจ็บนะ....พี่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เป็นของพี่เถอะนะน้องมิน มินตราตกตะลึงตาค้างไปเลย ทันทีที่พูดจบคมกฤชก็ผลักหล่อนลงมากองอยู่บนโซฟา มินตราจุกจนแทบจะลุกไม่ขึ้นเมื่อถูกผลักอย่างแรง พยายามดิ้นรนฮึดสู้คมกฤชที่กำลังใช้กำลังปลุกปล้ำ....มินตราพยายามปัดป้องตนเองอย่างสุดกำลัง น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่...ทั้งทุบทั้งข่วนแต่ก็ไม่เป็นผลจนคมกฤชทนไม่ไหว
เพียะ ได้ผลชะงัด คมกฤชตบเข้าที่แก้มขวาของมินตราอย่างแรงจนเลือดกลบปาก มินตรานิ่งไปอย่างคิดไม่ถึงตาเบิกกว้างมองคมกฤชอย่างไม่เชื่อสายตา
ฮืออออ .....ฮืออออ
ทำไมทำแบบนี้...พี่กฤชที่เคยใจดีหายไปไหนแล้ว อย่าทำมินเลยนะ มินขอร้อง มินตรายกมือไหว้ร้องขอความเห็นใจ
เป็นของพี่ดีๆตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง....เจ็บไหม...หืม คมกฤชใช้ปากเลียเช็ดคราบเลือดที่ไหลเยิ้มที่มุมปากของมินตรา หล่อนขยะแขยงผู้ชายคนนี้อย่างสุดประมาณ แต่เขากลับประกบจูบรุนแรงโดยที่หล่อนไม่ทันตั้งตัว มือซ้ายตรึงข้อมือของหล่อนไว้แน่น ส่วนมือขวาก็รุกล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ...มันน่ากลัวจนมินตรารู้สึกเหมือนจะตายเสียให้ได้ หล่อนพยายามฮึดเฮือกสุดท้าย สองมือปะป่ายไปทั่วหมายจะพบอะไรที่จะสามารถใช้ได้ จนควานไปจนเจอแจกันโบราณใบเขื่อง ไม่รอช้าหล่อนใช้มันฟาดลงใส่ศรีษะคมกฤชเต็มแรง จนเลือดไหลอาบใบหน้าหมดสติล้มลงไปกองกับพื้นทันที....
มินตราพยายามประคับประคองตนเองให้ลุกขึ้น พร้อมทั้งเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ค่อยๆเดินกึ่งวิ่งออกไปจากตัวบ้านอย่างทุลักทุเล จนออกมาได้ถึงหน้าถนนใหญ่....ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งสาดแสงไฟเข้ามาจนมินตราต้องยกมือขึ้นมาปิดตา....ก่อนสติจะดับวูบล้มลงไปกองอยู่กับพื้น.....
อธิปวิ่งพรวดพราดลงจากรถทันทีที่เห็นว่าคนที่วิ่งมาขวางหน้ารถของเขาคือมินตรา เขาขับรถกลับมาคนเดียวเพราะศรัณย์อาสาตามไปกับรถพยาบาล เพื่อไปดูแลสต๊าฟทั้งหมดที่ประสบอุบัติเหตุ ตัวเขาเองอยู่ๆก็นึกเป็นห่วงมินตราที่อยู่ที่บ้านพักของเขาเพียงลำพัง ที่นั่นสงบจนค่อนข้างวังเวง คนรักของเขายิ่งเป็นคนขี้กลัวอยู่ด้วย
และอย่างหนึ่งซึ่งอธิปลืมไปก็คือ คมกฤช....เขาไม่ได้อยู่ในคณะเดินทางที่ประสบอุบัติเหตุด้วย เดิมทีอธิปยังนึกสงสัยอยู่ว่าคมกฤชหายไปไหน...แต่เพราะความวุ่นวายจึงไม่ได้ถามเอาความจากใคร.....
พอขับมาใกล้ถึงปากทางเลี้ยวเข้าบ้านพัก ก็เจอเข้ากับมินตราที่เหมือนกับวิ่งหนีอะไรบางอย่างกระเซอะกระเซิงออกมาพอดี มันกระชั้นชิดมากจนเขาเกือบจะเบรกรถไว้ไม่ทัน กว่าจะทันได้รู้ตัวมินตราก็ล้มลงไปก่อนจะถึงหน้ารถของเขาแค่เพียงเสี้ยวสัมผัสเท่านั้น
มิน!! มิน!! อธิปประคองร่างที่เป็นลมไม่ได้สติของคนรัก ก่อนจะเอามือเสยเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้าของมินตรา ภาพที่ได้เห็นทำให้เขาถึงกับตกตะลึง....ใบหน้าของหล่อนมีรอยช้ำห้อเลือดที่มุมปากมีเลือดไหลซึม....
ใคร...ใครมันบังอาจมาทำร้ายเธอ...มินตรา...
..................................................................................................................................................................
ช่างเป็นวันที่แสนยาวนานสำหรับอธิปเหลือเกิน...หลังจากที่เขาตัดสินใจพามินตราที่ยังไม่ได้สติออกมาจากอาณาเขตบริเวณบ้านแล้ว รอเวลาจนดึกจึงได้โทรติดต่อกลับไปหาศรัณย์ถามความคืบหน้าจนรู้ว่าคนที่ทำร้ายมินตราคือคมกฤช ที่ตอนนี้ดูจะฟื้นคืนสติแล้ว อธิปไม่อยากจะเชื่อเลยในสิ่งที่คมกฤชทำกับมินตรา นี่เขาปล่อยคนรักให้อยู่กับคนเลวเพียงลำพังโดยไม่ทันได้ฉุกใจคิดได้อย่างไร อธิปสะบัดศรีษะขับไล่ความมึนงง เขาไม่มีเวลาจะสนใจคมกฤชมากนัก เพราะถึงอย่างไรมินตราก็สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด รอจนกว่าจะกลับกรุงเทพก่อนเถอะค่อยว่ากัน...
ใจหนึ่งก็เป็นห่วงมินตราแต่อีกด้านก็อยากจะชำระความกับคนเลวที่ทำร้ายคนรัก อธิปเหลือบมองมินตราที่กำลังหลับอยู่ที่เบาะด้านข้างเขาแล้วก็ได้แต่ถอนใจ.... นี่ถ้าเขามาไม่ทัน หล่อนจะเตลิดไปถึงไหนก็ไม่รู้ หรืออาจจะเกิดเรื่องที่เลวร้ายกว่านี้ก็เป็นได้ บางทีอาจจะเป็นเขาเองก็ได้ที่ขับรถชนหล่อน ...
อธิปหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน ข้างๆกันคือมินตราที่ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เขาขับมาไกลถึงที่นี่ได้อย่างไรยังไม่รู้ตัวเลย ความรู้สึกหวงแหนกลัวสูญเสียสิ่งสำคัญมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
อธิปรู้ซึ้งถึงมันดีแล้ว
.................................................................................................................................................................. ท้องฟ้าเริ่มทอแสงประกายต้อนรับอรุณรุ่งบรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ มินตราที่หลับอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่าภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นทะเลที่ไหนสักแห่งที่แสนคุ้นตา เมื่อมองหาไม่เห็นอธิปจึงลงจากรถไปดู หล่อนพบว่าเขานั่งอยู่ที่ริมชายหาด ไม่รู้อธิปคิดอะไรอยู่แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้มินตราถึงกับน้ำตาคลอ อธิปดูเศร้าเสียใจอย่างไรพิกล หล่อนเห็นเขาถอนหายใจอยู่หลายครั้ง จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังของเขา อย่างเงียบเชียบแล้วเอ่ยคำพูดบางอย่าง...
ขอบคุณนะโอม.. มินตราเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา สองแขนโอบกอดรอบคออธิปจากด้านหลังก่อนจะซบอยู่กับแผ่นหลังของเขาเนิ่นนาน....ถ้าเมื่อคืนอธิปไม่มาเจอไม่รู้ป่านนี้หล่อนจะเป็นอย่างไรบ้างจะเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนก็ไม่รู้ ไม่อยากจะคิดเลย....
ฉันกลัว...มิน...นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เห็นเธอเจ็บ ฉันยิ่งกลัว...ทั้งเรื่องที่เธอโดนทำร้าย...และที่ฉันเกือบจะขับรถชนเธอเข้าแล้ว อธิปใช้สองมือกุมข้อมือทั้งสองของมินตราที่ยังโอบกอดเขาไว้จากด้านหลัง
ชีวิตนี้ของฉันไม่เคยมีใครที่ทำให้หัวใจฉันอบอุ่นได้เหมือน...เธอ
ถ้าเธอเป็นอะไรไป....ฉันจะอยู่ได้ยังไง มินตราที่รับฟังอยู่เงียบๆถึงกับน้ำตาไหลซึมผ่านลงมายังแผ่นหลังของอธิป
ฉันจะไม่เป็นไร โอมดูสิตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว มินตราฉีกยิ้มเต็มแก้ม ถึงแม้นัยน์ตาเศร้านั้นจะมีแววหม่นหมอง แต่ก็ดูเหมือนจะว่าปรับให้ดีขึ้นได้เพียงเสี้ยววินาที
โอม....บ้านฉันน่ะจากที่นี่ไปใกล้นิดเดียวเอง... ไปกันมั๊ย มินตรากวาดตามองไปรอบๆ รีบลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นทรายอย่างกระตือรือร้น พลางยื่นมือมาดึงอธิปให้ลุกขึ้นเดินไปด้วยกัน
จะดีเหรอมิน...ฉันยังไม่ได้เตรียมใจมาเจอแม่เธอเลย อธิปสีหน้าหวาดๆ ทำให้มินตราถึงกับอมยิ้มขำคนขี้กลัว
เดี๋ยวนายก็รู้เอง... มินตราบีบแก้มอวบของอธิปเบาๆ อย่างจะหยอกล้อ ความสดใสกลับคืนมาสู่มินตราอีกครั้ง..... ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงยังสถานที่แห่งหนึ่งในภูเก็ตจังหวัดบ้านเกิดของมินตรา...เมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามชื่อเสียงก้องโลก บ้านของมินตราอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก บ้านสีขาวชั้นเดียวหลังย่อมตั้งอยู่อยู่บนเนินเขา ตัวบ้านหันหน้าออกทะเล....บริเวณโดยรอบเป็นต้นไม้นานาพรรณ....ให้ความรู้สึกร่มรื่นแสนสบาย...
โอม...แม่ของฉันไม่ดุหรอก เร็วสิชักช้าอยู่ได้ มินตราลงจากรถก่อนจะเดินนำคนขี้กลัวเข้าไปก่อน อธิปได้แต่รีรออยู่ไม่เดินตามไปสักที
ฉันไม่ได้กลัวนะ...แค่ยังไม่ได้เตรียมใจมาน่ะ อธิปเอามือลูบท้ายทอยอย่างเขินๆแก้เก้อ
อืม...ฉันจะเชื่อโอมก็แล้วกัน ...คิคิ มินตราเดินตัวปลิวเข้าไปในตัวบ้าน ทิ้งอธิปให้รั้งท้ายอยู่ไม่ไกล
แม่....แม่จ๋า.... มินตราส่งเสียงเรียกมารดามาแต่ไกล
อินทิรา...หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีกำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัวถึงกับสะดุ้ง...เมื่อลูกสาวคนเล็กวิ่งเข้ามาพร้อมกับกอดที่เอวหนาของหล่อนอย่างไม่ทันตั้งตัว
มิน...มาได้ยังไงลูก....ไม่เห็นบอกแม่ก่อนเลย อินทิราลูบศรีษะลูกสาวสุดที่รักอย่างคิดถึงนักหนา
หนูมากับเพื่อนค่ะ...เขาชื่อโอม... มินตราโบ้ยมือไปทางอธิปที่เดินตามมาทันกัน แต่ยังรั้งรออยู่ไม่กล้าเข้ามา
สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ...ผมโอมครับ...คุณแม่ อธิปแนะนำตัวเองอย่างเก้อเขิน
อ้อ...จ้ะ..ขอบคุณนะที่อุตส่าห์พาหนูมินมาเยี่ยมแม่ อินทิรายิ้มอย่างใจดี หล่อนรู้สึกสะดุดใจนิดหนึ่งกับคำเรียกที่เพื่อนลูกสาวเอ่ยแทนตัวเธอ ว่าแต่หน้าลูกไปโดนอะไรมาจ้ะ...ทำไมช้ำอย่างนี้ล่ะ อินทิราสำรวจหน้าตาของลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่...แค่เรื่องเล็กน้อยเอง มินตราบอกปัดไปอย่างไม่อยากจะสนใจแผลนั้น ก่อนจะให้อธิปนั่งรอที่ห้องรับแขก ส่วนตัวเองขอตัวเข้าครัวกับแม่เพื่อเตรียมอาหารเย็น วันนี้หล่อนมีอธิปมาเป็นแขกคนแรกในรอบเกือบสามปีตั้งแต่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ
อธิปมองดูสองแม่ลูกหยอกล้อกันไปพลางทำอาหารไปพลางด้วยความรู้สึกอิจฉานิดๆ....ไม่เคยมีวันไหนที่มารดาของเขาจะยิ้ม หยอกล้อเล่นกับเขา หรือทำอาหารให้กับเขา เช่นที่มารดาของมินตราทำเลย บางทีบ้านน้อยหลังนี้ คงจะอบอุ่นกว่าบ้านใหญ่ของเขามากนัก....
ระหว่างทำอาหารไปอินทิราก็ชวนมินตราคุยไปด้วย หล่อนพอจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ลูกสาวคนเล็กมีต่อเพื่อนชายคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นแววตาเศร้าที่พอพูดถึงอธิปกลับทอประกายสดใสอย่างประหลาด หรือจะเป็นท่าทีที่กระตือรือร้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น....
โอมเขาดูดีเหมือนกันนะลูก
ค่ะแม่...มินก็ว่างั้น ว่าแต่...เขาเป็นแค่เพื่อนจริงรึเปล่าลูก .... อินทิราถามย้ำจนมินตรารับรู้ในน้ำเสียงนั้นได้ นี่หล่อนทำให้แม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้วสินะ....
แม่จะว่าอะไรไหมคะ....ถ้าหนูจะบอกว่าคิดกับโอมมากกว่าเพื่อน มินตราถามอย่างหยั่งเชิง ตอนนี้หล่อนอยากรู้จริงจังว่าแม่จะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้.....จะยอมรับอธิปไหมหรือจะปฏิเสธ มินตรารู้ดีรักในวัยเรียนอาจจะยังไม่เหมาะ แต่เมื่อตกลงคบกับอธิปแล้วทำให้หล่อนมีความสุขมีกำลังใจขึ้นมากมาย แล้วมินตราก็ต้องแปลกใจแม่ของหล่อนไม่ได้ตกใจอย่างที่คิดนัก
แม่น่ะ...รักลูกเสมอไม่ว่าลูกจะรักใครแม่ก็จะรักเขาด้วย....แต่ว่าชีวิตจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะลูก ค่อยๆเรียนรู้กันไปอย่ารีบร้อน อย่าชิงสุกก่อนห่าม
อนาคตข้างหน้าของลูกจะเป็นยังไง....แม่เป็นห่วงที่สุดเลยนะมิน
...............................................................................................
ดึกๆมาต่ออีกนิดค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ ^ ^ ขอลงรูปตัวละครในเรื่องด้วยนะคะ
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ต.ค. 55 20:09:59
|
|
|
|