เมืองมายา มนตราอลเวง บทที่ 12
|
|
ราวกับชาวบ้านในดินแดนแถบชานป่าได้เคยสร้างความพิโรธใดแก่พระแม่แห่งสายน้ำหรือเทพแห่งขุนเขา ความพินาศที่บังเกิดจึงเลวร้ายได้อย่างน่าใจหาย มีผู้คนมากมายเสียชีวิต บ้านเรือนพังราบเพราะดินโคลนที่ถล่มโถมทับลงมาจากภูผาใกล้เมืองในชั่วข้ามคืน
ตอนที่สการ์เล็ตมาถึง ผืนน้ำที่ทะลักไหลบ่าจากยอดเขาได้แห้งเหือดไปแล้ว เหลือเพียงคราบความเสียหายกับเสียงร่ำไห้ของชาวเมืองที่สูญเสีย...ไม่ว่าจะทรัพย์สินหรือบุคคลอันเป็นที่รัก เจ้าหญิงใหญ่ไม่รอช้ารีบวางแผนแล้วสั่งการดำเนินงานช่วยเหลือและฟื้นฟูเมืองโดยอาศัยความร่วมมือจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมันไม่ใช่งานในสายที่นางถนัด จึงไม่คิดอิดออดที่จะขอคำปรึกษาจากใครก็ตามที่น่าจะมีความรู้ ไม่เว้นแม้แต่พ่อมดแว่นที่ยอมให้ความร่วมมือโดยดีแม้จะมีหยอดคำกวนประสาทแถมท้ายให้เสมอ ผิดกับอีกคน
เจ้าชายต่างถิ่นได้แต่เดินวนไปเวียนมาหยิบนั่นมองนี่อย่างเบื่อหน่ายจนสการ์เล็ตอดเสียสมาธิไม่ได้ ต้องเป็นฝ่ายเชิญให้เขาไปพักผ่อนเสียก่อน
“ถ้าเหนื่อยนักจะพักบ้างสักหน่อยไหมครับ”
คาอิลถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวถอนหายใจแล้วหลับตาลงด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
“ไม่ล่ะ ข้ายังจัดการงานไม่เรียบร้อยดี”
“หากอ่อนล้าเกินไปอาจทำให้การตัดสินใจบางอย่างผิดพลาด พักสักนิดเถิดครับ สมองท่านจะได้ปลอดโปร่ง”
สการ์เล็ตรู้สึกไม่สบายใจนักหากจะทิ้งงานไปกลางคัน ทว่านัยน์ตาที่เริ่มพร่ามัวก็ทักท้วงให้นางจำต้องปล่อยวางความคิดอันหนักอึ้งลงเสียบ้าง
เปลถักจากเถาวัลย์ในท้องถิ่นกลายเป็นที่นอนอันผ่อนคลาย น้ำชาสมุนไพรร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมกับขนมพื้นเมืองถูกจัดเตรียมง่าย ๆ ไว้บนโต๊ะริมระเบียง สการ์เล็ตลุกจากเปลที่งีบหลับอยู่เมื่อครู่พลางรับผ้าร้อนมาซับหน้า นางลุกไปนั่งบนเก้าอี้ไม้จิบชาอึกหนึ่งก่อนปรายมองไปยังชานเมืองอีกฝั่งซึ่งเสียหายยับเยิน ต่างจากบริเวณที่พักของข้าราชการแห่งเมืองหลวงที่ไม่ได้รับผลกระทบเท่าใด นึกเสียดายอารยธรรมและวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ถูกภัยธรรมชาติทำลายลงได้อย่างง่ายดายนัก
“ข้าเคยได้ยินว่าผู้ใช้เวทมนตร์บางคนมีอำนาจแก่กล้าขนาดบังคับดินฟ้าอากาศได้ เจ้าเคยคิดไหมว่าหากมีอำนาจเพียงนั้นแล้วอยากใช้มันเปลี่ยนแปลงแก้ไขเภทภัยให้แก่ผู้คน” เจ้าหญิงกล่าวโดยไม่หันมองคู่สนทนาที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก “ถ้าทำได้...ข้าก็อยากช่วยเหลือประชาชนในอาณาจักรของข้าให้หลุดพ้นจากสภาพความสูญเสียเหล่านี้”
“อย่างที่ข้าเคยบอกครับ เมื่อท่านปรารถนาในสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมต้องแลกด้วยอีกสิ่งที่มีค่าเท่าเทียมกันหรือมากกว่า หากให้ข้าเปลี่ยนแปลงลบความสูญเสียของพวกเขา ผลกระทบนั้นย่อมอาจตกไปสู่ใครก็ตามที่อยู่ไม่ไกลจากที่แห่งนี้ ด้วยความเสียหายที่ไม่น้อยไปกว่ากันหรืออาจจะมากกว่า ท่านทำใจได้หรือครับที่จะเป็นเช่นนั้น”
สการ์เล็ตหันมา สายตานางบ่งบอกว่าไม่อาจทำได้ แต่ที่แปลกใจกว่าคือสิ่งที่ได้ฟัง
“ผู้ใช้เวทมนตร์ใช่ว่าจะใช้อาคมตามปรารถนาได้เสียทุกอย่าง เพราะมีอำนาจเราจึงต้องไตร่ตรองให้มากว่าการใช้เวทมนตร์แต่ละครั้งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งใด”
“เจ้าสนใจในข้อนั้นด้วยหรือ” เจ้าหญิงแกล้งขัด หากแววตาที่ไหวระริกวูบหนึ่งก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็วอดทำให้นางติดใจไม่ได้
“นั่นสินะ ถ้าไม่ใช่ผลกระทบที่จะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่หรือความเสียหายมากมายจนถูกกิลด์เมสทิคลงโทษเอาได้ ข้าคงไม่สนหรอกครับ”
พ่อมดหนุ่มแว่นขยับยิ้ม ทว่าหญิงสาวยังไม่ละโอกาสที่นาน ๆ จะหาได้
“เจ้าเคยคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างงั้นหรือ”
“ข้ายังไม่คิดเปลี่ยนอะไรครับ”
“งั้นเจ้าคงคิดอยากจะเปลี่ยนให้ใครในอนาคตสินะ”
สการ์เล็ตไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้หาเรื่องกลบเกลื่อน หากพ่อมดหนุ่มกลับเลิกคิ้วแล้วยิ้มเหมือนนางต่างหากที่เป็นคนมาชี้ทางให้เขา
“นั่นสินะครับ ถ้าสักวันได้เจอใครที่สำคัญพอสำหรับข้าล่ะก็ ข้าคงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนคนนั้นมีความสุข ยอมเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งหากจะปกป้องคนคนนั้นให้พ้นจากอันตราย ถึงอาจต้องปล่อยให้คนมากมายหรืออาณาจักรใดต้องพบกับหายนะก็ตาม”
“เป็นข้าคงไม่ดีใจถ้าความสุขของตัวเองต้องแลกกับความโชคร้ายของใคร” สการ์เล็ตเบะปาก นางไม่ได้รักษากิริยานักเวลาอยู่กับคาอิล “และข้าคงไม่ทุ่มเทให้คนที่ตนพึงใจจนทอดทิ้งผู้อื่นขนาดนั้น”
“นั่นก็เป็นความเห็นแก่ตัวของข้า ข้าทำให้ตัวเองพอใจเท่านั้นนี่ครับ ถึงคนคนนั้นจะไม่พอใจอย่างไรก็ตาม” เขาตอบพร้อมกับยิ้มสุภาพหากในสายตาสการ์เล็ตนั้นดูยียวนเป็นอย่างยิ่ง
หญิงสาวส่ายหน้าอย่างระอาพลางทอดสายตาออกไปยังขอบฟ้าที่ตัดกับผืนป่าอันเขียวครึ้ม
“ข้าขอให้เจ้าได้พบคนที่จะสำคัญต่อตัวเองในเร็ววันและขอให้คนคนนั้นช่วยดัดนิสัยกับความคิดของเจ้าเสียหน่อยเถอะ”
*/*/*/*/*
เสียงของพุ่มไม้ที่สั่นไหวเรียกนัยน์ตาสีเขียวคมให้หันขวับ เจ้าชายต่างถิ่นจ้องมองสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังกิ่งไม้และใบเขียวเข้มพลางเลื่อนจับกระชับอาวุธมั่น เผื่อเวลาใช้มันจะได้ถนัดมือ
ได้ยินว่าแถบนี้เป็นถิ่นอาศัยของสุนัขจิ้งจอกจำนวนมาก พวกมันไม่ดุร้ายและมักไม่ย่างกรายเข้าใกล้หมู่บ้าน แต่ใครเล่าจะรับประกันว่าพวกมันจะไม่เข้ามาทำร้ายใคร
ลมหายใจอันตึงเครียดพ่นระบายออกมาเฮือกใหญ่ ครั้นได้เห็นว่าสิ่งที่โผล่หน้าออกมาจากพุ่มไม้เป็นเพียงสัตว์เลื้อยคลานตัวหนึ่ง เฟร์นานโดสบถคำหยาบคายแล้วเขวี้ยงมีดสั้นพุ่งออกไปปักบนลำคอของมันอย่างแม่นยำด้วยความโมโห
“เจ้าสัตว์ชั้นต่ำ! ”
มีดสั้นถูกชักออกออกจากซากสัตว์ผู้โชคร้าย เจ้าชายป้ายเช็ดคราบเลือดบนผิวหนังหยาบกระด้างแล้วเหยียบขยี้ศีรษะของมันจนบี้แบนจมดิน
ในความสะใจนั้นหาได้เป็นความรู้สึกที่มีต่อเจ้าสัตว์น้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่ หากไพล่ไปถึงอีกบุคคลหนึ่งซึ่งทำตัวเป็นที่รบกวนจิตใจของเขาอยู่เสมอตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ
เป็นแค่นักทำนายกระจอกแท้ ๆ ทำไมจึงเลื่อนขั้นมาเป็นที่ปรึกษาของสการ์เล็ตได้ และไม่ว่ามันผู้นั้นจะกระทำสิ่งใดก็ขัดแข้งขวางตาเขาไปเสียหมด ที่ยิ่งกว่านั้นคือมันช่างได้จังหวะเหมาะทุกครั้งราวกับจงใจ
น่าโมโหนัก!
เจ้าชายหนุ่มกระทืบเท้าก่อนก้าวต่อไปยังจุดหมายอย่างระแวดระวังทั้งที่ในใจยังรู้สึกคุกกรุ่นขุ่นเคือง
สการ์เล็ตเองก็เถอะ เขาอุตส่าห์ตั้งใจใช้โอกาสนี้สร้างความสนิทสนมให้สมกับสายสัมพันธ์ฉันท์คู่หมั้น เผื่อว่าอาจไม่ต้องมองนางในฐานะตัวขัดขวางความทะเยอทะยายของตนอีกต่อไป
แต่สการ์เล็ตก็ยังคงเป็นสการ์เล็ต นางเป็นผู้หญิงสวยที่ไม่คิดใช้ประโยชน์จากความสวยของตนเอาเสียเลย ทำตัวเป็นคนบ้างาน ไม่รู้จักทำตัวอ่อนหวานออดอ้อนเขาเหมือนสาวอื่นใด แต่ก็นั่นแหละ...ที่ทำให้บางครั้งก็นึกอยากเอาชนะนางอยู่บ้าง
ทั้งที่ควรเป็นอย่างนั้น...นางกลับไปทำตัวสนิทสนมกับเจ้านักทำนายกระจอกนั่น
ช่างน่าโมโหเสียจริง!
ได้...ในเมื่อไม่อาจเบี่ยงเบนจิตใจใครให้เป็นไปตามความต้องการของเขา เช่นนั้นแล้วก็จงหายไปให้หมดเสียเถอะ
หลังย่ำเท้าอยู่ในป่าครึ้มเพียงไม่นาน เบื้องหน้าเจ้าชายจากต่างแดนบัดนี้คือเนินดินที่กลบฝังร่างผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติ สายฝนพร่ำลงมาตั้งแต่เช้าทำให้ผืนดินเหลวเละจนเป็นโคลน องค์ประกอบทั้งมวลช่างเหมาะสมอย่างยิ่งกับสิ่งที่พ่อมดของเขาต้องการ
เถ้าจากกระดาษที่เฟร์นานโดไม่อาจรู้ว่ามันเคยถูกลิขิตเขียนมนตร์ใดไว้ถูกจัดใส่ถุงหนังขนาดย่อม กระนั้นมันก็ยังมีจำนวนมากพอที่เขาจะโปรยลงได้ทั่วผิวพสุธา
เฟร์นานโดก้าวถอยจากที่แห่งนั้นพลางจ้องมันไม่กระพริบตา ชั่วครู่หนึ่งที่เขารู้สึกว่าเห็นผิวดินขยับได้
ต้องรีบไป!
นั่นเป็นคำเตือนจากดีรอส ว่าจงไปให้ห่างจากสถานที่ต้องมนตร์ของเขาที่สุด หากยังอยากอยู่รอดอย่างปลอดภัย
ไม่รอช้า เฟร์นานโดสับขาอย่างรวดเร็วออกจากป่าพลางคิดว่าดีรอสจะทำอย่างไรให้ไม่ถูกสืบสาว เขาไม่อยากเป็นที่สงสัย ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
ม้าถูกเตรียมไว้ไม่ไกลนัก เขาจักทำทีว่าแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนเมืองข้าง ๆ
เจ้าชายถีบตัวขึ้นคร่อมบนหลังอาชามองป่าอันเงียบสงัดอย่างผิดปรกติวิสัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนชักสายเบี่ยงม้ามุ่งหน้าสู่อีกเมือง
จากคุณ |
:
AMA-chun
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 55 03:20:03
|
|
|
|