สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 11 ]
ความสุขที่หายไป...
กว่าที่อรณีจะมาส่งมินตราถึงคอนโดเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนได้แล้ว ก่อนจากกันอรณียังไม่วายเอ่ยถึงเรื่องของสรินที่มีท่าทีพูดคุยถูกคอกันกับมินตราอย่างออกนอกหน้า หล่อนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของสรินที่ดูจะสนใจอะไรในตัวมินตราเป็นพิเศษ ซึ่งมันดูไม่ธรรมดาเลยในความคิดของหล่อน
ฉันว่าคุณสรินเค้าดูแปลกๆนะ อรณีพูดด้วยน้ำเสียงขบคิดหลังจากเห็นสายตาของสรินที่มองเพื่อนรักของหล่อนแปลกๆ จะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าร้ายก็ไม่ใช่อีก อยู่ๆหล่อนก็รู้สึกระแวงสรินขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่เห็นมีอะไรนี่ เค้าออกจะดูดี ทั้งสวย ทั้งมีเสน่ห์ จนฉันอิจฉาเลย มินตราหันไปพูดกับอรณีเพื่อนรักที่มีสีหน้าหวั่นวิตก
จ้า แม่นางฟ้า เพื่อนฉันนี่มองโลกในแง่ดีเกินไปรึเปล่า ไปลงไปได้แล้วฉันจะกลับแล้ว ง่วง อรณียู่หน้าอย่างขัดใจ
ขับรถดีๆนะ แล้วเจอกัน มินตราลงจากรถพร้อมทั้งโบกมือลาเพื่อนรัก
หลังจากยืนส่งอรณีจนลับตาไปแล้ว กำลังจะเดินเข้าไปในคอนโดมินตราก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆอธิปคนรักของหล่อนก็โผล่มาไม่ทันให้ตั้งตัว...
โอม!! นึกว่าใคร ตกใจหมดเลย...โอมรอฉันอยู่เหรอ มินตราส่งยิ้มหวานให้อธิปเต็มแก้ม แล้วยื่นมือน้อยไปสัมผัสกับมือของเขาเบาๆด้วยความคิดถึง
ฉันก็มาทันเห็นว่ามินหนีเที่ยวกับยัยอ้วนนั่นแหละ อธิปแกล้งหยอกเย้าลูบศรีษะมินตราเบาๆอย่างเอ็นดู เขาไม่ควรจะต้องคิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะคนที่มาส่งคนรักของเขาคืออรณีเพื่อนสนิทคนเดียวของมินตราไม่ใช่ผู้ชายที่ไหนสักหน่อย
ไป...ขึ้นบ้านกันเถอะ มินตราแนบศรีษะเข้ากับไหล่อธิปอย่างเอาใจ ออดอ้อนเขาคล้ายกับลูกแมวน้อยก็ไม่ปาน
อืม...ป่านนี้พี่รินรอแย่แล้ว อธิปโอบไหล่มินตราให้เดินตามกันเข้าไปในคอนโด....ทั้งสองต่างยิ้มแย้มหยอกล้อด้วยสีหน้าที่มีความสุขมากมาย
หากแต่ความสุขของมินตรา หาใช่ของอธิปไม่ เขาต้องฝืนยิ้มให้คนรักเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกไม่ค่อยดีที่เกิดขึ้นกับเขามาทั้งวัน วันนี้เขาได้รับคำสั่งจากบิดาให้กลับบ้าน พอเจอหน้ากันก็คุยกันได้ไม่นานไม่วายที่จะถกเถียงกันอีกตามเคย
พรุ่งนี้แกเตรียมตัวนะ ฉันจะนัดว่าที่ลูกสะใภ้มาเจอ ห้ามบิดพลิ้วเด็ดขาด อดิษว์เอ่ยคำขาดโดยไม่รอให้เขาปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ
ผมไม่ไป ผมมีแฟนแล้ว แล้วผมก็รักเธอ อธิปกระชากเสียงใส่บิดาที่คอยบงการชีวิตส่วนตัวของเขาทุกอย่าง
เรื่องอื่นยังพอทำเนา แต่เรื่องความรักเขายอมไม่ได้เด็ดขาด บิดาของเขาช่างคิดได้จะจัดให้เขาไปดูตัวกับลูกสาวของเพื่อนสนิทที่เพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษ เขาไม่ใช่เด็กแล้วจะมาบังคับความรักของเขาได้อย่างไร....
ที่หน้าคอนโดของมินตรา หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปในตัวตึกแล้ว สรินก็ก้าวลงมาจากรถสปอร์ตสีดำคันหรู หล่อนขับตามรถของอรณีมาตั้งแต่ที่งานเลี้ยงแล้วก็ได้พบเจอสิ่งที่ทำให้หล่อนรู้สึกสนใจเป็นที่สุด เมื่อพบว่ามินตราสนิทสนมถึงขั้นจับมือถือแขนกับผู้ชายคนหนึ่งราวกับเป็นแฟนกันก็ไม่ปาน ถ้าอย่างนั้นคงไม่ยากที่หล่อนจะเข้าไปแทรก ผู้ชายของมินตราคนนั้นดูดีมากเลยทีเดียว....
หึหึ...เป็นแฟนกันงั้นเหรอ ท่าทางเหมือนจะรักกันดีสินะ .... หญิงสาวแสยะยิ้มราวขบขันเสียไม่ปาน เมื่อพบจุดอ่อนของมินตราที่จะทำให้หล่อนจัดการได้โดยไม่ยาก
แม่คะ ใครที่ทำให้ครอบครัวเราต้องเจ็บปวดมันก็ไม่สมควรจะมีความสุขใช่ไหมคะ หนูจะทำให้เด็กคนนั้นเจ็บปวดเหมือนที่พวกเราเคยเจ็บ
สรินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าหมายจะส่งไปให้มารดาที่อยู่ไกลกันอีกซีกโลกหนึ่ง นึกถึงคำพูดที่ลั่นวาจาไว้เมื่อสักครู่พลันน้ำตาก็ต้องไหลริน หล่อนพบแล้วแม่รอดูความสำเร็จได้เลย ถึงจะรู้สึกถูกชะตากับมินตราตั้งแต่แรกเห็น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ใดใดในเมื่อไม่มีทางที่หล่อนจะยกโทษให้กับคนในครอบครัวนั้นได้....
.......................................
สายของวันถัดมาอธิปในชุดสูทเต็มยศนั่งหน้าตาบึ้งตึงอยู่ภายในภัตตาคารหรูของโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ปฏิเสธคำขอร้องแกมบังคับของบิดาไม่ได้ ทั้งที่เกลียดการถูกบังคับเป็นที่สุด เพราะสิ่งนั้นทำให้เขาต้องระเห็จออกมาอยู่คอนโดเพียงลำพังตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย แต่วันนี้เขากลับต้องยอมทนมานั่งรอคู่ดูตัวที่นี่ตามคำสั่งของพ่อ
เอาเถอะ สักครั้งจะเป็นไรไป อธิปครุ่นคิดอยู่ในใจ มินตราจะไม่รู้เพราะเขาจะไม่มีทางให้รู้เด็ดขาด เขารู้สึกกลัว...กลัวว่าคำขู่ของพ่อจะเป็นจริงถ้าหากเขายังขืนดื้อดึงต่อไป...
อธิปไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าการผูกสัมพันธ์กับใครคนหนึ่งในวันนี้ จะเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องจากมินตราไปนานถึง 4 ปี
ทางด้านหญิงสาวคู่ดูตัวของอธิป หลังจากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยจากที่นัดมากว่าครึ่งชั่วโมง สรินตัดสินใจว่าหล่อนจะลองมาพบอีกฝ่ายดูสักครั้งด้วยความเกรงใจลุงอดิษว์ ซึ่งเป็นเพื่อนรักของมารดา
โชคชะตาคงจะเล่นตลกกับชีวิตของคนเราจริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อชายหนุ่มคู่ดูตัวของหล่อน คือคนเดียวกับผู้ชายที่อยู่กับมินตราเมื่อคืนนี้ สรินค่อนข้างตกใจก่อนที่สีหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นสมใจเมื่อนึกได้ว่าคนที่จะเป็นหมากในเกมนี้ จู่ๆก็มาโดยที่หล่อนไม่ต้องลงแรงสักนิด นึกๆไปก็ชักจะสนุกเสียแล้ว
ขอโทษค่ะ.....คุณรอฉันนานมั๊ยคะ ฉันสรินค่ะ เสียงหวานของหญิงสาวทำให้อธิปที่กำลังหงุดหงิดได้ที่ ต้องหันกลับมามอง แล้วจึงพบว่าผู้หญิงสวยจัดตรงหน้าเขาคนนี้น่าจะเป็นคู่ดูตัวของเขาแน่นอน อธิปลุกขึ้นทักทายอย่างไม่ให้เสียมารยาทก่อนจะเชื้อเชิญให้หล่อนนั่ง สรินรู้สึกประหม่า หล่อนถูกใจในบุคลิกของผู้ชายตรงหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คำพูดประโยคถัดมาของเขาทำให้หล่อนแทบจะเปลี่ยนความคิดไปทันที
จะบอกว่าไม่นาน...ผมคงโกหก ผมอธิปครับ อธิปยิ้มน้อยๆพอไม่ให้เป็นการเสียมารยาท แล้วจึงเชื้อเชิญหญิงสาวให้นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกัน ต่างนิ่งเงียบกันไปสักครู่ใหญ่ ก่อนจะเป็นสรินที่เป็นฝ่ายชวนคุย
คุณอธิป เรียนหรือทำงานอยู่คะ คุณดูเด็กจัง หญิงสาวเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร ทำให้บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่เริ่มจะดีขึ้นมาเล็กน้อย
ยังเรียนปริญญาตรีอยู่แต่ใกล้จบแล้วล่ะครับ แล้วคุณล่ะ
ฉันเพิ่งจบมาได้สองปีค่ะแต่อยู่ที่อังกฤษซะเป็นส่วนมาก ก็เลยเพิ่งกลับมาเมืองไทยกะว่าจะอยู่ต่อสักหน่อยค่ะ คิดๆอยู่ว่าจะทำโปรเจ็กอะไรสักอย่างเพราะตอนนี้ก็กำลังรับช่วงต่อบริษัทสาขาของคุณแม่ที่เมืองไทยค่ะ สรินอธิบายเสียยาวยืด อธิปยังคงนิ่งฟังอย่างเรียบเฉย
ว่าแต่คุณมีแฟนรึยังคะ สรินถามเข้าประเด็นที่หล่อนอยากรู้ทันที แต่สิ่งเดียวที่หล่อนอยากรู้ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายตรงหน้า แต่เป็นเด็กคนนั้นต่างหากที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้ หล่อนแค่อยากจะเช็คให้แน่นอนถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา
มีแล้วครับ อันที่จริงผมไม่ได้ต้องการจะมาที่นี่หรอกครับ เพียงแต่โดนคุณพ่อสั่งแกมบังคับน่ะครับ อธิปยักไหล่อย่างเซ็งๆ
รู้สึกแย่จังค่ะ แต่คุณนี่พูดตรงดีนะคะฉันชอบ ทำไมไม่บอกคุณพ่อคุณล่ะคะ ว่ามีแฟนแล้วจะได้ไม่ต้องลำบากมาพบฉัน สรินแสร้งยิ้มอ่อนหวานส่งไปให้อธิป
แล้วคุณสรินล่ะมีคนรักรึยัง
เพิ่งเลิกกันไปค่ะ...แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉันจะจัดการปฏิเสธท่านแทนคุณเอง เพราะฉันก็ไม่อยากจะยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน สรินพูดแย้มยิ้มตาเป็นประกายให้เขาคลายใจถือซะว่าหล่อนต่อให้ก่อนก็แล้วกัน...
ผ่านไปสักพัก หลังจากคุยกันไปทานอาหารไป บรรยากาศทำให้ตึงเครียดก่อนหน้าเริ่มเป็นกันเองมากขึ้น อธิปมีความหวังว่าเรื่องของเขากับมินตราจะมีทางออกที่ดีในไม่ช้า ในเมื่ออีกฝ่ายที่บิดาของเขาหมายมั่นปั้นมือไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขานัก...
ขณะเดียวกัน ที่หน้าโรงแรมลีมูซีนคันหรูจอดติดเครื่องอยู่ภายนอกโรงแรม อดิษว์แอบมองดูผลงานอยู่อย่างใจเย็น ถ้าเจ้าลูกชายของเขาไปได้ดีกับหนูสริน เขาคงสบายใจขึ้นมากทีเดียวอย่างน้อยเขาก็ยังจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับเพื่อนรัก ผู้หญิงที่เขาเคยหลงรักในอดีต ลูกสาวของ..มุทิตา..เขาอยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้เพื่อชดเชยความผิดพลาดในอดีต
ออกรถได้ อดิษว์สั่งการด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจบอกสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง เขาต้องการจะตกลงอะไรบางอย่างกับเด็กผู้หญิงคนนั้นคนที่เป็น...คนรักของเจ้าลูกชาย....คนที่เขาไม่หวังจะได้มาเป็นลูกสะใภ้แม้สักนิด คงต้องเจอกันสักหน่อยแล้ว....มินตรา ................................................................................................. เย็นวันเดียวกันมินตราเลิกเรียนเร็วกว่าปกติ หญิงสาวจึงไปรอรินลดาที่คณะ สองพี่น้องนัดกันไว้แล้วว่าจะกลับพร้อมกัน เพราะอธิปไม่ว่าง มินตราก็เลยมีเวลาว่างในช่วงเย็นอย่างเหลือเฟือ มินตราเป็นคนขี้เหงารินลดาก็รู้ดี พอได้มาคบกับอธิป หล่อนจึงดูมีความสุขมากขึ้น คงเพราะมีความรักคอยเป็นยาหล่อเลี้ยงหัวใจ
รอนานไหมมิน...พอดีพี่ช้าหน่อยน่ะ มัวแต่รอก้องเขาจะไปบ้านเราด้วย รินลดาวิ่งกระหืดกระหอบมาหาน้องสาว ก่อนจะชี้มือโบ้ยไปทางตัวการที่ทำให้หล่อนมาช้า
ขอโทษที...วันนี้พี่ไปส่งนะ น้องมิน วสุฉีกยิ้มกว้างทักทายมินตราเสร็จก็อาสาจะเป็นสารถีให้กับสองพี่น้อง
เกรงใจพี่ก้องจังค่ะ มินตรายิ้มหวานเอาใจใครจะไม่ชอบกัน อย่างน้อยหล่อนและพี่สาวก็ไม่ต้องเดินกลับคอนโดให้เหนื่อยแรง
ไม่เป็นไร...พี่อยากไปส่งน้องมินเองนี่ครับ วสุเปิดประตูรถด้านหน้าจะให้มินตราขึ้นนั่งข้างกันกับเขา แต่รินลดาชิงตัดหน้าน้องสาวขึ้นไปนั่งเสียก่อน หล่อนยักคิ้วให้วสุนิดหนึ่งอย่างหมั่นไส้จนเขาถึงกับเก้อไป มินตราได้แต่อมยิ้มขำ
มินนั่งข้างหลังดีกว่าค่ะ... มินตราพูดจบก็เปิดประตูกำลังจะขึ้นนั่งที่เบาะหลัง หากแต่มีใครบางคนส่งเสียงเรียกหล่อนไว้เสียก่อน ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มก้าวเข้ามาหามินตรา ก่อนจะก้มศรีษะให้หญิงสาวตรงหน้าทั้งที่หล่อนดูจะอายุน้อยกว่าเขาสักนิด แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมากนักเพียงทำไปตามหน้าที่เท่านั้น
คุณมินตราใช่ไหมครับ รบกวนไปกับผมด้วยครับ ท่านประธานต้องการจะพบคุณครับ
ท่านประธานอะไร แล้วคุณเป็นใครคะ มินตราเอ่ยถามอย่างงงๆ หล่อนไม่เคยรู้จักท่านประธานอะไรที่ว่ามานี่เลย
เชิญคุณก่อนเถอะครับ อีกเดี๋ยวก็ได้รู้จักเอง ภัทรบอกพลางเดินนำมินตราไป
เดี๋ยวสิครับคุณ...มีเรื่องอะไรรึเปล่า วสุที่ยืนฟังอยู่เอ่ยขัดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ เดินเข้ามาขวางหน้ามินตราไว้
ท่านอยากจะคุยกับคุณ เอ่อ..คุณมินตราเรื่องคุณชายอธิป ลูกชายของท่านครับ ส่วนคุณ...ขอโทษนะกรุณาถอยไปด้วย ภัทรบอกอย่างสุภาพทั้งที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ที่ถูกขัดจังหวะเช่นกัน
มิน...อย่าไปนะ..พี่เป็นห่วง วสุเอาตัวเข้ามาขวางมินตราไว้ก่อนจะจับมือข้างหนึ่งของมินตราแน่นดึงไว้ไม่ให้หล่อนตามภัทรไป จนภัทรเริ่มจะรำคาญจึงเกิดยั้งอารมณ์ไม่อยู่ ทั้งสองคนแลกหมัดกัน รินลดาเข้ามาห้ามอย่างไรก็ไม่เป็นผล
หยุดนะ หยุด!!!.. มินจะไป ..พี่ก้องหยุดเถอะค่ะ กลับไปรอที่บ้านนะคะ เดี๋ยวมินกลับเอง ไม่ต้องห่วงนะ มินตราพยักหน้าให้พี่สาวและวสุเป็นเชิงว่าไม่ต้องห่วง แล้วตัดสินใจเดินตามภัทรไป หล่อนก็อยากรู้จุดประสงค์ของท่านประธานคนนั้นเหมือนกัน
วสุดึงข้อมือของมินตราไว้ จนหล่อนต้องหันมองมาตามแรงดึง ก่อนจะพบสายตาของวสุที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
รินลดาได้แต่มองมือของวสุที่ยังคงจับข้อมือของมินตราไว้ แล้วก้มลงมองดูมือตัวเองที่ดึงรั้งแขนวสุเอาไว้เช่นกัน หล่อนรู้สึกสะท้อนใจไม่ต่างกัน ขนาดมินตรามีอธิปแล้ว วสุยังคงไม่เลิกหวังในตัวน้องสาวของหล่อนอีกอย่างนั้นหรือ....
อดิษว์ยังคงนั่งอยู่ในลีมูซีนคันหรู รอคอยการมาถึงของมินตราอย่างใจเย็น เมื่อกี้เขาเห็นฉากสำคัญที่น่าสนใจ...ผู้ชายคนนั้นคงจะชอบคนรักของเจ้าลูกชายเขาไม่เบา ท่านประธานของวิสวัฒน์จะว่าอย่างไรกันนะถ้ารู้เรื่องนี้
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ตัวรถมากขึ้นเท่าไหร่ มินตราก็ยิ่งรู้สึกหนาวยะเยือกมากขึ้นเท่านั้น...พ่อของอธิปต้องการอะไรกันแน่ถึงกับต้องเรียกตัวหล่อนให้มาพบ
ภัทรเปิดประตูรถให้มินตราขึ้นไป หญิงสาวถึงกับชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นชายชราตรงหน้า อธิปมีเค้าพ่อของเขาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากขึ้นมานั่งตรงข้ามกัน มินตรารู้สึกประหม่าและเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อมองสบตาแล้วได้พบกับแววตาเย็นชาคู่นั้นที่จ้องมองมายังหล่อน โดยไม่ทันตั้งตัวชายชราก็เอ่ยขึ้นก่อน น้ำเสียงนั้นทำเอามินตราถึงกับขนลุกซู่
เธอชื่อมินตราสินะ ...
ค่ะ...เอ่อ..หนูชื่อ...มินตราค่ะ
ไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันไม่มีอะไร ก็แค่อยากจะมาเตือนเธอก็แค่นั้น ชายชราแสยะยิ้มมุมปาก มินตราถึงกับอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน
เตือน....เรื่องอะไรคะ หล่อนรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยทีเดียว
เรื่องเธอ...กับลูกชายของฉัน...เจ้าโอม ชายชราบอกพลางถอนใจ เด็กผู้หญิงคนนี้กิริยามารยาทและหน้าตาสวยน่ารักดีทีเดียว เขาคงจะไม่ขัดสักนิดถ้าหากหล่อนจะไม่มีพื้นเพเป็นลูกของผู้หญิงแบบนั้น
เธอคงไม่รู้ใช่ไหม เจ้าโอมมันมีคู่หมายอยู่แล้ว ได้ยินว่าพวกเธอคบกันอยู่ ฉันถึงต้องมาบอกเธอว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเลิกกันซะ!! ชายชราสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด มินตราถึงกับสะดุ้งสุดตัว น้ำตาเจ้ากรรมพาลไหลเอ่อออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว....
แต่...แต่ว่า....ท่านคะ...เรา มินตราระล่ำระลักตอบ แต่สมองกลับเรียบเรียงคำพูดไม่ได้อย่างที่ใจคิด
ไม่มีแต่!! วันนี้ฉันมาเตือนเธอดีดี ถ้าพวกเธอไม่เลิกกันวันหลังจะไม่ใช่แค่นี้....
แต่ว่า ...หนูกับโอมเรารักกันนะคะ มินตราวิงวอนทั้งน้ำตา
ลงไป!! และฉันก็หวังว่าเราคงจะไม่ต้องพบกันอีก อดิษว์ยื่นคำขาด มินตราได้ฟังถึงกับหมดแรงจนภัทรต้องเข้ามาช่วยประคองหล่อนให้ลงจากรถ... ลีมูซีนคันหรูแล่นจากไปแล้ว ทิ้งไว้ก็แต่มินตราที่ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะทำสิ่งใด มีเพียงสติที่พอจะรับรู้อยู่บ้าง
พะ...พี่ก้องมารับมินทีนะคะ ได้โปรด ฮือ..ฮือ..
น้องมิน!! เกิดอะไรขึ้น วสุตกใจแทบช็อคเมื่อได้รับโทรศัพท์จากมินตรา เสียงของหล่อนบอกให้รู้มีบางอย่างเกิดขึ้น และมันคงจะไม่ใช่เรื่องดี เขาจึงรีบรุดไปทันทีอย่างไม่คิดชีวิต
.
เกือบสามทุ่มรินลดาเดินเป็นหนูติดจั่น หล่อนเป็นห่วงยิ่งกว่าห่วง มินตราเป็นคนอ่อนไหว จิตใจดีเกินไปอาจจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนบางคน ยิ่งคิดรินลดาก็ยิ่งกระวนกระวายสับสนในจิตใจเป็นอย่างมาก หลังจากมินตราโทรมาหาวสุด้วยน้ำเสียงที่น่าเป็นห่วง หล่อนอยากจะขอไปรับน้องสาวพร้อมกับวสุเช่นกัน หากแต่เขาปฏิเสธให้รออยู่ที่บ้านแทน ไม่รู้น้องสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง อธิปก็ยังไม่กลับคงยังไม่รู้เรื่องอะไร บางทีหล่อนน่าจะยุส่งมินตราให้กับวสุเพื่อนรักเสียให้รู้แล้วรู้รอด มินตราจะได้ไม่ต้องเสียใจเพราะรักกับอธิปที่เริ่มส่อเค้ายุ่งยาก เฮ้อ...เมื่อไหร่จะกลับมากันนะ รินลดาบ่นพึมพำกับตัวเอง หล่อนไม่น่าปล่อยน้องสาวให้ไปกับท่านประธานอะไรนั่นเลยจริงๆ คิดแล้วก็ให้นึกโมโหตัวเองนัก.... สักพักเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ด้วยอารามดีใจหล่อนจึงรีบไปเปิดประตูด้วยคาดหวังว่าจะเป็นมินตรา แต่ไม่ใช่ คนที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้องคืออธิปที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแถมยังดูอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน พี่ครับ...ขอผมเข้าไปหามินหน่อยนะครับ ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เย็น ผม... อธิปพูดยังไม่ทันจบประโยค รินลดาก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าปกติ ยัยมินยังไม่กลับ รินลดายืนเอาตัวขวางหน้าประตูไว้ หล่อนหมั่นไส้คนรักของน้องสาวเหลือเกินที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง อ้าวแล้วไปไหนครับ ไม่เห็นโทรบอกผมเลย สีหน้าอธิปงุนงง ปกติถ้ามินตราไม่อยู่หรือติดธุระหล่อนก็จะบอกเขาก่อนทุกครั้ง ทำไมน้องฉันต้องโทรรายงานความประพฤติให้นายรับทราบตลอดเวลาด้วยหรือไง รินลดาเริ่มตีรวนหน้าบอกบุญไม่รับ
โธ่...พี่...ผมก็แค่ถามเฉยๆ อธิปยังคงออดหน้ายุ่งอยู่หน้าประตู กลับห้องไปเลยไปฉันจะนอนแล้ว รินลดาผลักอธิปที่ยืนคาประตูอยู่ให้พ้นทางและกำลังจะปิดประตู แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นวสุที่ประคองมินตราเข้ามาพอดี
อธิปที่กำลังจะกลับห้องของตนเองจึงหันไปมองตาม สายตาของรินลดา จู่ๆอารมณ์หึงหวงก็พุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาพอจะรู้มาบ้างว่าวสุแอบชอบคนรักของเขา แต่ทำไมถึงขั้นต้องประคองโอบกันเลยทีเดียว จึงเดินตรงรี่เข้าไปหาทั้งสองทันที มิน!! เกิดอะไรขึ้น อธิปเอ่ยถามมินตราด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง จะเข้าไปแย่งประคองมินตราให้ห่างออกมาจากวสุ .. ไม่ต้อง!! มินตราปฏิเสธเสียงเขียว หล่อนขืนตัวไว้ไม่ให้อธิปจับพลางแกะมือวสุที่ยังจับอยู่บนแขนของหล่อนออกอย่างเบามือ ขอบคุณพี่มากนะคะ มินดีขึ้นมากเลย มินตราหันไปยิ้มให้วสุอย่างอ่อนล้า ไม่เป็นไร แค่น้องมินนึกถึงพี่เป็นคนแรก พี่ก็ดีใจแล้วล่ะ วสุยิ้มตอบอย่างใจดี สบตาตอบมินตราด้วยแววตาเป็นประกาย ยัยมินพี่ว่าเข้าห้องกันเถอะ... รินลดารีบขัดจังหวะ เมื่อเหลือบมองเห็นอธิปที่กำลังกำหมัดฮึดฮัดอย่างขัดใจ หล่อนกลัวเรื่องจะบานปลายจึงเลือกที่จะตัดบท ก่อนเข้าห้องมินตราเหลือบไปมองอธิปนิดหนึ่งด้วยแววตาตัดพ้อ อธิปซึ่งไม่รู้อะไรเลยถึงกับงง เขาไปทำอะไรให้มินตราไม่พอใจตอนไหนกัน หรือจะเป็นเรื่องที่เขาไปดูตัวกับสริน..มินตราก็ไม่น่าจะรู้นี่ มินจ๋า...ฉัน อธิปเรียกมินตราเอาไว้ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่หล่อนหาได้สนใจไม่ กลับเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดัง นายโอม เรามีเรื่องต้องคุยกัน วสุที่ยืนมองคนทั้งคู่อยู่เงียบๆ จึงเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน อธิปหันมองวสุด้วยสายตามีคำถาม อธิปเดินนำวสุเข้ามาในห้องของตนเอง ก่อนจะไปหยิบเบียร์เย็นเฉียบจากในตู้เย็นยื่นให้วสุที่นั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง ขอบใจ...แต่ฉันไม่ดื่ม วสุวางกระป๋องเบียร์ไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันมองไปรอบห้อง พลันสายตาสะดุดเข้ากับภาพถ่ายในกรอบสวยหรูที่ตั้งอยู่บนชั้นโชว์ ภาพของอธิปกำลังหอมแก้มมินตราที่ยิ้มเสียเต็มแก้ม ทำให้เขารู้สึกเคืองอยู่ในใจ
มีอะไรก็ว่ามา อธิปนั่งลงฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะเปิดประเด็นถึงเรื่องที่วสุต้องการจะพูดคุย ได้ยินว่านายมีคู่หมั้นแล้ว วสุเอ่ยขึ้น คู่หมั้นอะไร....ใคร อธิปคิ้วขมวดมุ่น ผุดขึ้นนั่งตัวตรงท่าทางเป็นงานเป็นการมากขึ้น วันนี้เขาแค่ไปดูตัวมาซึ่งก็ตอบปฏิเสธไปแล้ว....และตอนนี้เขากับสรินก็เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน ที่วันนี้ต้องกลับมาค่ำขนาดนี้ ก็แค่พาหล่อนไปดูคอนโดหลายแห่งเพราะสรินตั้งใจว่าจะอยู่เมืองไทยสักพักหนึ่ง... เขาก็แค่ไปในฐานะเพื่อนเท่านั้นเอง วันนี้พ่อนาย ไปหามินที่มหาวิทยาลัย วสุสีหน้าเคร่งเครียด หา!!!! พ่อฉัน... อธิปถึงกับอึ้งไปที่บิดาของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไหนว่าจะไม่ยุ่งกับมินตรา ขอแค่ให้เขาไปดูตัววันนี้นี่นา ที่มินเค้าเป็นแบบนี้ก็เพราะพ่อนาย ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม...ถ้านายอยากรู้ก็ลองไปถามพ่อนายดูสิ แล้วก็ ...ถ้านายยังจัดการอะไรไม่ชัดเจน ก็ไม่ต้องมาให้เค้าเห็นหน้าอีก วสุสีหน้าเครียดเอ่ยบอกอธิปเสียงเข้มก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งอธิปที่มีสีหน้าซีดเผือดครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น..... ด้วยความอยากรู้เหลือเกินเรื่องที่พ่อของเขาคุยกับมินตรา อธิปจึงตัดสินใจกลับไปที่บ้านหมายจะคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ปรากฏว่าพ่อของเขาบินไปญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว อธิปคิดว่าบิดาของเขาอาจจะหลบหน้า แต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีก
............................................................................................................................................. หลายวันมานี้มินตราคอยหลบหน้าอธิปอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอธิปก็ยังไม่มีเวลาปรับความเข้าใจกับมินตราสักที เพราะสรินเพื่อนใหม่คอยโทรตามกวนให้เขามาบริการอยู่เรื่อย ช่วงเวลายุ่งยากเหล่านั้นทำให้อธิปลืมเรื่องที่มินตราโกรธเขาอยู่ได้สักพักใหญ่ ความรู้สึกลึกๆเขาก็กลัวอยู่ว่าบางทีมันอาจจะนานเกินจนทำให้ห่างกันไป วันนี้จึงตัดสินใจว่าจะคุยกับมินตราให้รู้เรื่องให้ได้.... อธิปเดินงุ่นง่านอยู่แถวหน้าประตูในห้องของตนเอง เขากำลังรอเวลาที่มินตราจะออกจากห้องไปมหาวิทยาลัยอย่างใจจดใจจ่อ สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงประตูห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออก แทบจะไม่ต้องเสียเวลาคิด อธิปรีบออกจากห้องตรงรี่ไปหามินตราทันที เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมองคนรักของเขาจากด้านหลังอธิปได้แต่สะท้อนใจ เขาไม่รู้เลยว่าหมู่นี้มินตราผ่ายผอมลงไปมากทีเดียว...ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาจู่โจมหัวใจอย่างรุนแรง แต่ยังตัดสินใจทำใจดีสู้:-)้าวเบาๆเข้าไปหาคนตัวเล็กไม่ให้รู้ตัว มินจ๋า ...คิดถึงจังเลย อธิปกอดด้านหลังคนตัวบางที่กำลังปิดประตูห้อง จนอีกฝ่ายสะดุ้งตกใจ โอม!! มินตราสะดุ้งสุดตัว หันมาประจันหน้าเขา น้ำเสียงหวานสั่นไหวจนเขารู้สึกได้
มินยังโกรธเรื่องพ่อของฉันอยู่อีกเหรอ อธิปใช้สองแขนกางกั้นมินตราเอาไว้จนแผ่นหลังบางแนบติดกำแพงหนีไปไหนไม่ได้
เปล่า ถอยไป ฉันจะไปเรียนแล้ว มินตราผลักอกอธิปเบาๆให้ถอยออกห่างก่อนจะแทรกตัวออกจากอ้อมกอด
มิน!! โกรธอะไรฉันนักหนา ฉันอยากรู้จนจะบ้าตายอยู่แล้ว อย่าเอาแต่หลบหน้ากันได้ไหม วันนี้อธิปตัดสินใจแล้วว่าต้องเคลียร์กับมินตราให้รู้เรื่องให้ได้ เป็นไงก็เป็นกันเถอะ
เรื่องอะไรล่ะที่นายอยากรู้ มินตราน้ำตาคลอเต็มสองตาเอ่ยออกมาเสียงแข็งก่อนจะกลั้นใจพูดประโยคบาดใจ
เรื่องที่พ่อนายมาสั่งฉันให้ห้ามยุ่งกับนาย หรือเรื่องที่นายมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้วแต่ยังมาคบกับฉัน ห๊า !! มินตราเริ่มจะโกรธ หล่อนตะโกนใส่หน้าชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักอย่างหมดความอดทน
ฟังฉันก่อนนะ...มิน ฉันอธิบายได้...ทั้งหมดนั่นแหละ อธิประล่ำระลักบอกออกไป
ไม่!!!! ฉันไม่อยากฟัง...ไม่ฟัง มินตรายกสองมือขึ้นปิดหู น้ำตายังคงไหลพรากไม่หยุด
เราเลิกกันเถอะ ประโยคสำคัญที่อธิปไม่เคยคิดว่าจะได้ยินออกจากปากของคนที่เขารักนักหนา ความรู้สึกผิดหวังปนขุ่นเคืองใจสั่งการให้เขาต้องกระทำการบางอย่างที่หักหาญน้ำใจคนรัก เขาจะไม่มีวันเลิกกับมินตราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...
อธิปกึ่งลากกึ่งจูงมินตราให้เข้ามาภายในห้องของเขาจนได้มินตราน้ำตานองหน้าทั้งทุบทั้งข่วนจนอธิปเจ็บไปหมด จึงตัดสินใจดันมินตราไปจนชิดกำแพงก่อนจะก้มลงประกบจูบอย่างหนักหน่วงเพื่อจะหยุดอาการขัดขืนของหล่อน ซึ่งก็ได้ผลนัก มินตรานิ่งไปจนเขาคาดไม่ถึง ยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนริมฝีปากนุ่มของมินตราจะยั่วยวนเขาจนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง ปล่อย!! ไอ้คนบ้า คนเลวทำอย่างนี้ทำไม!! มินตราที่ตั้งสติได้ถึงกับตะโกนออกมาจนสุดเสียง รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีผลักอธิปออกไปอย่างแรง ก่อนจะทรุดนั่งพิงกำแพง หล่อนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป อธิปทรุดนั่งลงตรงข้ามกัน ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้มินตราต้องใจสั่นอีกจนได้
ก็เพราะรักไง มินฉันขอโทษนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั๊ย อธิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ก่อนจะใช้ปากจูบไล้น้ำตาที่หยดหยาดเต็มสองแก้มของมินตราอย่างแผ่วเบา
มินตราคนโง่แพ้สัมผัสและคำว่ารักจากเขาอีกแล้ว หมดทางหลีกเลี่ยงหล่อนกำลังแพ้อธิปอย่างราบคาบ ริมฝีปากบางเผยอรอรับจูบที่อ่อนโยนจนใจละลายจากอธิปอย่างเต็มใจ สองมือโอบต้นคอของเขา ก่อนที่เขาจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นวางลงบนโซฟาตัวโตกลางห้อง แล้วปล่อยตัวทาบทับลงไปเหนือเรือนร่างของหล่อน อธิปอยากมอบสัมผัสร้อนแรงให้ยัยตัวยุ่งของเขาอย่างแทบจะยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่
ถ้าไม่บังเอิญที่จู่ๆประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นหญิงวัยกลางคนท่าทางดูดีหอบหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาภายในห้องของอธิปเสียก่อน รัตนา...แทบช็อคเมื่อมาเห็นสิ่งที่ลูกชายสุดที่รักของเธอกำลังทำกระทำ พวกแกทำอะไรกัน !! รัตนาตะโกนเสียงดังพร้อมทั้งเข้ามากระชากลูกชายสุดที่รักให้ออกห่างจากมินตราอย่างแรง หญิงสาวได้โอกาสจึงรีบลุกขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยด้วยมือไม้อันสั่นเทา
หนู ขะ..ขอโทษค่ะ มินตราไหว้มารดาของอธิป ก้มหัวต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้อง หากแต่แม่ของอธิปกลับดึงแขนหล่อนไว้แล้วกระชากกลับมาอย่างแรง จนมินตราเสียหลักล้มลงไปกับพื้นห้องศรีษะกระแทกมุมโต๊ะชุดรับแขก จนเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
มิน!! อธิปรีบเข้าไปประคองมินตรา ก่อนจะปัดปอยผมเส้นเล็กๆ ที่กรุยกรายเต็มใบหน้าออก จนสังเกตุเห็นเลือดไหลออกมาเป็นทางเล็กๆบริเวณหน้าผาก อธิปถึงกับตะลึงงัน แม่!!ทำไมต้องรุนแรงถึงขนาดนี้ด้วย!! อธิปที่ยังคงประคองมินตราอยู่ตวาดสุดเสียง
ก็แล้วจะทำไม!! มันสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้ว ลุกขึ้นมาเลยนะ ไม่ต้องมาทำเป็นสำออยอ้อนลูกชายฉัน มินตราค่อยๆลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า รู้สึกปวดร้าวไปหมดทั้งกาย หล่อนยังมึนกับแผลที่ได้รับเมื่อครู่ จนแทบจะกลั้นความเจ็บไว้ไม่ไหวน้ำตาเริ่มคลอจะหยาดหยด ..... เพียะ ..... จำไว้...อย่ามายุ่งกับลูกชายของฉัน มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น แล้วก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีกเด็ดขาด
มินตราเจ็บปวดจนแทบจะยืนไม่อยู่ ค่อยๆเดินออกไปอย่างอ่อนล้า อธิปหมดแรงที่จะเหนี่ยวรั้งคนรักเอาไว้ ตอนนี้เขาคงต้องปล่อยมินตราให้ออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย และเขาจะต้องตกลงกับมารดาเรื่องนี้ให้เด็ดขาด
แม่...กลับไป ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก ทั้งพ่อกับแม่เลย อธิปเอ่ยเสียงเย็นเยียบไม่แม้แต่จะสบตามารดา เขาสะกดกลั้นอารมณ์ไว้อย่างถึงที่สุดจนกลัว...กลัวว่ามันจะระเบิดออกมาเสียก่อน ไอ้ลูกบ้า...แก!!!! รัตนากระฟัดกระเฟียด มองหน้าลูกชายด้วยสายตาผิดหวังแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้อง ก่อนไปยังไม่วายกระแทกประตูปิดดังปังอย่างขัดใจ
อดิษว์....คุณเคยรู้บ้างหรือเปล่า เรื่องลูกชายของเรากับเด็กคนนั้น ต้องรีบจัดการอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไปแล้ว ฉันไม่ยอมเด็ดขาดเป็นไงก็เป็นกัน
.
****ขอบคุณที่ติดตามอ่านและเมนท์นิยายค่ะ ^____^ ยังไม่จบพาร์ทอดีตค่ะ ขอรวบยอดเป็นตอนหน้านะคะ
แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 00:23:30
แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 00:12:17
แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 00:00:45
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 55 23:58:15
|
|
|
|