ความทรงจำที่ถูกลืม(18+)-บทนำ+คำโปรย
|
|
Vio Bli Sou: ความทรงจำที่ถูกลืม(18+)
เจ้าชายนา่สเกียแห่งแกรนเตลไม่เคยคิดหรอกว่าเขาจะต้องเห็นความสำคัญของสตรีนางหนึ่งซึ่งเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นจากการทดลอง ... สำหรับเขาแล้ว ... เธอเป็นแค่เครื่องจักรที่ใช้แล้วทิ้งเท่านั้น
เรื่องย่อ
มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายในแกรนติเนลระหว่างชามัลลีกับกลุ่มรัฐบาลแกรนติเนลซึ่งทำงานรับใช้พระราชาลานิน (พ่อบุญธรรมของชามัลลี)
ในระหว่างนั้นเอง มนุษย์เทียมสาวหมายเลข 602 ก็เข้ามาทำงานรับใช้ชามัลลีในพระราชวังอิลเลน
มีกำแพงขวางกั้นระหว่างเขาและเธอเนื่องด้วยความอคติของชามัลลีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์แท้จริง
แต่ทว่าความรู้สึกรักที่เกิดขึ้นในจิตใจของหญิงสาวไม่สามารถหยุดยั้งได้ ... แม้ว่าเธอจะไม่ใช่มนุษย์แท้ดังเช่นชามัลลี ... แต่เธอก็อยากจะให้เขารู้ว่าเธอคิดเช่นไร ...
และเธอก็หวังคำตอบจากเขาเช่นกัน
=============
ขอฝากนิยายที่ได้ตีพิมพ์กับอินเลิฟเมื่อเร็วๆนี้นะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่า
http://www.inlove-book.com/n_bookinfo.php?ide=501
+++++++++++++++++++++
บทนำ
บรรยากาศภายในเขตรั้วพระราชวังหลวงแห่งแกรนติเนลนั้นอบอุ่นทันทีที่แสงแรกของตะวันสาดผ่านหน้าต่างบนโดมสูง
บรรดาทหารรักษาพระองค์ต่างเดินเรียงแถวตรงเรียบไปตามเส้นทางถนนวกวนสู่เขตพระตำหนัก เสียงของรถม้าดังแว่วผ่านไปผ่านมาหน้ารั้วพระราชวังหลวงขณะที่ภายในสนามหญ้ากว้างรอบอาคารกลับเงียบสงบ
จิ๊บ จิ๊บ
เสียงของนกร้องยามเช้าข้างนอกหน้าต่างห้องทรงพระอักษรทำให้ชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายนาสเกียแห่งแกรนเตลต้องหันไปมอง
ในอดีตชายหนุ่มเคยเป็นเพียงบุตรชายของชนาเดล เยเรเอสและราฟี เยเรเอสเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถทางด้านความคิดที่สูงเกินวัยทำให้เขาได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายในเวลาต่อมา
ชายหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีบลอนด์ ใบหน้าเรียวภายใต้นัยน์ตาสีเทาคมเข้มรับกับจมูกโด่งสวยและริมฝีปากบาง เขาคือผู้ที่ประชาชนทั่วทั้งแกรนติเนลต่างเคารพบูชาสรรเสริญราวกับเทพเจ้า
ชายหนุ่มยกถ้วยชาจิบทีละน้อยก่อนจะหันไปจุ่มปลายปากกาลงบนหมึกสีดำข้น เขาพึมพำเสียงแผ่วขณะฟังนกน้อยขับขานเพลงเสียงใส
ชามัลลี
นั่นคือชื่อที่แท้จริงของเจ้าชายนาสเกียแห่งแกรนเตล ... เป็นชื่อที่หญิงสาวนางหนึ่งเรียกขานหลังจากเปิดประตูไม้และแง้มใบหน้านวลเข้ามาทักทายอย่างอารมณ์ดี
เรือนผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อนราวรากไม้รับกับดวงหน้างามและรอยยิ้มหวานนั้นแลดูสดใสรับกับบรรยากาศยามเช้ายิ่งนัก วันนี้เธอนุ่งชุดกระโปรงสีแดงยาวกรอมเท้า คุณทำงานตั้งแต่เช้าตรู่กล่าวพลางเดินเข้ามาหาเจ้าชายพร้อมกาน้ำชาใบโต วันนี้แทบบินส์ยื่นเอกสารด่วนมาให้คุณด้วย
จะด่วนสักแค่ไหนกันเชียวชามัลลียิ้มกริ่มขณะเหยียดมือรับเอกสาร สายตาของเขาจ้องมองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างพึงพอใจ
ด่วนที่สุดค่ะ
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ เขาวางเอกสารเอาไว้บนโต๊ะ มือหนึ่งโอบเอวดึงตัวของเธอให้มานั่งบนตักก่อนจะเลื่อนใบหน้ามอบจูบอุ่นละมุนให้แก่หญิงสาว ด่วนแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าคุณหรอกแอชลีย์ เสียงกระซิบเบาๆข้างใบหูทำให้หญิงสาวต้องหัวเราะคิกคัก
ทั้งสองประสานสายตากันครู่หนึ่งก่อนที่ชามัลลีจะเอียงใบหน้าหลับตาแนบริมฝีปากของตนกับริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาว ลมหายใจจากเธอทำให้เขารู้สึกร้อนผะผ่าว ทั้งสองแลกบทจูบอันดูดดื่มผ่านเรียวลิ้นซึ่งเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
ชามัลลีถอนริมฝีปากออกแล้วจึงเลื่อนมือคลึงแก้มของเธอ สบมองเธอในระยะใกล้อย่างอารมณ์ดี
ลองอ่านเอกสารดูก่อนสิคะหญิงสาวบอกด้วยพร้อมรอยยิ้ม
ชามัลลียักคิ้วหลิ่วตาก่อนจะเอียงใบหน้าจูบเธออีกครั้ง
ชามัลลี อ่านเอกสารก่อนสิคะเธอเตือนรอบที่สองพลางเลื่อนนิ้วทาบริมฝีปากของชายหนุ่ม เขาทำทีเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดแล้วจึงก้มหน้าพรมจูบนิ้วเรียวนั้นอย่างพออกพอใจจนหญิงสาวต้องแค่นหัวเราะให้กับความน่ารักน่าชังของเจ้าชาย
อ่านก็ได้ชามัลลีตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆก่อนจะหันไปคว้าเอกสารแล้วจึงเริ่มเปิด ไล่สายตาผ่านตัวอักษรทุกบรรทัดอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวข้างกายลุกออกจากตัก เธอไม่ต้องการรบกวนงานของแฟนหนุ่มอีก เธอจึงตัดสินใจเดินไปนั่งริมหน้าต่างหันไปมองดูนกตัวน้อยส่งเสียงเจื้อยแจ้วกังวานก้องราวระฆังทอง ดูเหมือนแทบบินส์ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
ใช่ชามัลลีเอ่ยเสียงแผ่ว เลิกคิ้วสูง ใบหน้าของเขาเริ่มแสดงความตรึงเครียดในทุกๆบรรทัดที่เขาอ่าน
มีอะไรหรือเปล่า?หญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบ
เมื่อชายหนุ่มอ่านเอกสารชิ้นนั้นจบลง เขาก็วางมันทิ้งเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืน แอชลีย์ ผมจะต้องไปที่เรือนจำ
เรือนจำที่ไหน?
เรือนจำพิเศษประจำเขตสี่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง
เมื่อหญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็ต้องเบิกตามองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจยิ่งนัก มีอะไรสำคัญที่นั่น?
ชามัลลียกถ้วยชาดื่มอีกครั้งก่อนจะตอบ แทบบินส์เจอของสำคัญ
ของ?
ใช่ ... ผมปล่อยของชิ้นนี้ไปนานหลายปีแล้วและตอนนี้แทบบินส์ก็หามันเจอเขาพูดพลางเดินฉับๆออกจากห้องทรงพระอักษร
เหล่าข้าราชบริพาลต่างโค้งคำนับ ส่วนเหล่าองครักษ์ก็เดินติดตามเจ้าชายในทันทีนั้น
เดี๋ยวก่อนนะชามัลลีหญิงสาวนามแอชลีย์รีบวิ่งมาหา ทำไมของถึงไปอยู่ในเรือนจำ?
ชามัลลีได้ยินเสียงแฟนสาวถามด้วยความสงสัยก็หยุดเดิน เขาคว้าแขนทั้งสองของแอชลีย์ก่อนจะกุมมือของเธอหลวมๆ คุณรออยู่ในพระตำหนักแล้วผมจะกลับมา
คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันแววตาค้อนขวับนั้นทำให้ใบหน้าเคร่งเครียดของชามัลลีคลายลง เขาเลื่อนมือเกี่ยวผมของเธอก่อนจะจูบแก้มของแอชลีย์
ของสำคัญน่ะ ผมจะกลับมาบอกคุณอีกครั้ง
แอชลีย์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมพยักหน้ารับ
ผมต้องไปแล้วพูดจบก็เรียกบรรดาองครักษ์ให้รีบติดตามเขาออกไปจากพระราชวังทันที ปล่อยให้หญิงสาวต้องส่ายหน้าให้กับความเห็นใจต่อภาระหน้าที่ซึ่งเจ้าชายคนดีของเธอได้รับ
ภายในแกรนติเนลไม่ค่อยมีประชาชนทั่วไปกระทำผิดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกมากนัก แต่เหล่านักโทษที่สังกัดในเรือนจำพิเศษนั้นล้วนแล้วแต่เป็นนักโทษซึ่งในอดีตคือเหล่าข้าราชการซึ่งพยายามโกงกินและทำงานให้แก่รัฐบาลแกรนติเนลทั้งสิ้น
ทันทีที่เดินทางมาถึงเรือนจำ บรรดาเจ้าหน้าที่เรือนจำและนายทหารออกมารับเสด็จเจ้าชายนาสเกียแห่งแกรนเตลพร้อมด้วยผู้คุ้มกันอีกนับร้อยชีวิตตลอดเส้นทางเดิน
ผมต้องการไปที่เรือนจำพิเศษพูดพร้อมยื่นเอกสารแสดงข้อความการเข้านัดพบนักโทษในเรือนจำของแทบบินส์ให้แก่เจ้าหน้าที่ แทบบินส์บอกผมว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์รับทราบเรื่องนี้แล้ว
บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างน้อมรับ แล้วสักครู่หนึ่งเหล่าเจ้าหน้าที่ก็เปิดทางให้ชายสูงวัยร่างกำยำเดินเข้ามาหาเจ้าชาย เขาเลื่อนมือทาบหน้าอกก่อนจะโค้งตัวน้อยๆแสดงความเคารพต่อชามัลลี
ข้าพระองค์คือเบนจามิน ครีฟรีต เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ของกลีตีโมนดีล(ทวีปเหนือ)
ชามัลลีมองชายเบื้องหน้าก่อนจะเหลือบหางตาเป็นเชิงออกคำสั่งแก่องครักษ์ให้ช่วยชี้แจงว่าพระองค์ทรงโปรดให้ท่านเรียกพระองค์ด้วยพระนามว่าคุณชายชามัลลี
ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า ... ข้าพระองค์มิควรเรียกด้วยพระนามสนิทสนมเยี่ยงนั้นเบนจามินก้มหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ
เรียกผมว่าชามัลลีเถอะครับ
แต่ว่าพระองค์ ...
อย่างน้อยก็ตลอดวันนี้ที่ผมต้องขอปรึกษางานกับคุณ
เบนจามินมีท่าทีลังเล เขามองดูนัยน์ตาสีเทาเข้มของชายหนุ่มเบื้องหน้าแลดูจริงจังยิ่งนัก ในที่สุดเขาจึงโค้งรับคำสั่ง ถ้าเช่นนั้นเชิญพระองค์เสด็จ เอ้อ! ... เชิญคุณชายชามัลลีมาตามเส้นทางนี้เบนจามินกล่าวพลางผายมือโค้งตัวให้แก่ชามัลลี
ผมขอคนสนิทของผมแค่สองคนไปกับผมที่นั่น
ทุกคนทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายก่อนที่เบนจามินจะพาเจ้าชายนาสเกียและองครักษ์ของพระองค์สู่เรือนจำเขตพิเศษซึ่งบริเวณนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษประหารเท่านั้น
ชามัลลีเหลือบมองบรรดานักโทษในเรือนจำชายและสภาพห้องขังสีขาวสะอาด
ภายในเรือนจำพิเศษแห่งนี้แทบจะไม่เคยมีนักโทษพยายามหนีและทำร้ายผู้คุมเนื่องด้วยการป้องกันภัยที่เข้มงวดและหนาแน่น แม้ว่าห้องคุมขังจะไม่มีซี่กรงขวางกั้นแต่ก็มีแผงเลเซอร์พาดผ่านเป็นกำแพงหนาที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นและทุกครั้งที่มีนักโทษพยายามหลบหนี สัญญาณเลเซอร์ก็จะทำงานและปล่อยกระไฟฟ้าให้ไหลปกคลุมล้อมรอบพื้นที่ห้องคุมขังเอาไว้
เบนจามินเดินอย่างกระฉับกระเฉงผ่านเส้นทางแคบๆภายในคุกลงมายังชั้นล่างสุดของเรือนจำ ห้องขังที่นี่ยังคงใช้ระบบเก่าดังเช่นเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา มีระบบการป้องกันภัยที่สูง มีห้องน้ำและห้องนอนแคบๆ มีลูกกรงเหล็กล้อมห้องสี่เหลี่ยมติดกับผนังด้านหนึ่ง บรรดานักโทษต่างแง้มใบหน้ามองดูผู้มาเยือนด้วยแววตาดุดันราวกับเสือร้ายซึ่งจ้องเตรียมตะครุบเหยื่อ ตามช่องประตูต่างๆก็เต็มไปด้วยสองนัยน์ตาซึ่งเลื่อนจับมองเจ้าชายนาสเกียแห่งแกรนเตลไม่กระพริบ
ไม่นานนักพวกเขาก็เดินทางสู่ชั้นใต้ดิน บริเวณนี้มีกลิ่นอับชื้นและน้ำขัง บรรดาห้องขังว่างเปล่าไร้ซึ่งนักโทษ แต่มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังมาจากมุมหนึ่งของชั้นใต้ดิน บรรดาเหล่าทหารและชามัลลีต่างต้องมองหาต้นเสียงโดยไว
พวกเขาอยู่ที่นั่นเบนจามินบอกพลางเดินเลียบกำแพงไปจนถึงห้องขังแห่งหนึ่งซึ่งเปิดประตูทิ้งเอาไว้
ภายในมีพัศดีสองนาย คนหนึ่งถือแส้กำลังส่งเสียงขู่กรรโชกร่างซึ่งอาบไปด้วยเลือดของหญิงสาวซึ่งถูกตอกตรึงติดอยู่บนกำแพงในห้องขัง เธอร้องสลับหอบเสียงดังด้วยความเหนื่อยอ่อนเนื้อตัวสั่นเทา เสื้อผ้าสกปรก ผมเผ้ารุงรังสีดำสนิทนั้นปกปิดสีหน้าหวาดผวาของเธอเอาไว้จนหมดสิ้น
หญิงสาวปริศนาถูกแส้ฟาดนับครั้งไม่ถ้วน ลำตัวของเธอดิ้นเร่าเหมือนถูกไฟลน ปวดแสบปวดร้อนเจียนตาย ความทรมานทำให้เธอร้องโอดครวญกรีดเสียงจนปวดร้าวลำคอราวกับโดนน้ำร้อนลวก
หลีกทางให้คุณชาย!ทหารออกคำสั่งแล้วพัศดีทั้งสองนายจึงโค้งรับเดินถอยไปยืนที่มุมหนึ่งของห้องขังแล้วเจ้าชายของพวกเขาก็ย่างเท้าผ่านเข้ามาในกรงกักขังนักโทษแห่งนี้
เธอคือมนุษย์เทียมคนที่คุณชายพูดถึงนายทหารกล่าว
อืมมีเพียงแค่เสียงในลำคอของชายหนุ่มตอบเท่านั้น
หญิงสาวผู้โชคร้ายพยายามเหลือบมองคุณชายผ่านเส้นผมสกปรกซึ่งรกใบหน้าของเธอเอาไว้
ชามัลลีเองก็จ้องมองเธอตอบด้วยความแปลกใจ เขานิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะสะบัดหน้าเละเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ ผมเคยเจอคุณมาก่อน คุณจำผมได้ใช่ไหม?
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบ ศีรษะของหญิงสาวสั่น สายตาเบิกกว้างมองชามัลลีอย่างตกตะลึง
ชายหนุ่มมองดูร่างเล็กๆซึ่งอาบไปด้วยเลือดของหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก่อนที่นิ้วหยาบกร้านจะสัมผัสใบหน้าเย็นของเธอเบาๆ ครั้นแล้วชายหนุ่มจึงเชยคางขึ้นแล้วผมเผ้ารุงรังซึ่งปรกหน้าก็เลิกออก
... ชะ ... ชา
ชู่วชามัลลีทำท่าจุ๊ปากด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เขาเลื่อนมือลูบผมสีดำพันกันยุ่งเหยิงของเธอเบาๆ ไม่เจอกันหลายปีแล้ว อย่ากลัว ... อย่ากลัวเลย
ตัวของเธอสั่นระเทิ้ม แก้มเย็นๆเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ชามัลลี ...
อืมเจ้าชายนาสเกียส่งเสียงขานแผ่วๆ เขาต้องอดทนฟังเสียงสั่นพร่าของหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขารู้ดีว่าเธอคือใครและเขารู้ดีว่าเขาควรทำเช่นไรกับเธอ
เธอไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการวิจัยบนเกาะโดดเดี่ยวมุนเตียวเพียงสักอย่างเดียวหลังจากที่แทบบินส์พาเธอมาที่นี่ขอรับคุณชายพัศดีหนุ่มรายงาน
แทบบินส์เจอเธอที่ไหน?
หมู่บ้านชนเผ่าไอม์ขอรับ
โกหกน่าชายหนุ่มหัวเราะเบาๆขณะหันไปมองพัศดีทั้งสองซึ่งจ้องเขาตอบด้วยความกังขา ฉันปล่อยเธอให้วิ่งเล่นในเมืองหลวงเมื่อเจ็ดปีก่อน เธอจะไปอยู่ที่หมู่บ้านไอม์ได้อย่างไร?
ดูเหมือนเกเบรียลจะเป็นคนพาเธอไปดูแลเองขอรับ
ชามัลลีเลื่อนสายตามองทหารซึ่งยืนบริเวณประตูลูกกรงพลางเลิกคิ้วสูง หัวหน้าชนเผ่าไอม์ทำอย่างนั้น?
แทบบินส์เจอเธอที่นั่นและชี้แจงกับเกเบรียลโดยตรงว่าจะพาเธอมาดูแลในเมืองหลวงขอรับ
ได้ยินเช่นนั้นชามัลลีก็ส่ายหน้า เขาหันมาจับจ้องมองแววตาอันหวาดกลัว ตัวของหญิงสาวสั่นผวา คุณได้ยินไหมว่าแทบบินส์พูดว่าอะไร? ไม่ต้องกลัว
ชะ ... ชะ ... ชา ชามัลลีแววตาประหวั่นพอๆกับน้ำเสียงของเธอ หญิงสาวกลัวจนเธอหอบหายใจไม่หยุด
คุณเคยเป็นผู้หญิงร่าเริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพบบนเกาะโดดเดี่ยวมุนเตียว ตอนนี้คุณเปลี่ยนไปมาก ... แต่ก็นั่นล่ะ ... ความกดดันทำให้คุณต้องเป็นแบบนี้
หญิงสาวก้มหน้าหนีฝ่ามือซึ่งคอยประคองเอาไว้
คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณไม่ใช่คน?
หญิงสาวไม่ได้ตอบ เธอไม่ชอบคำถามนี้ ... เธอกำลังโดนดูถูกเหยียบย่ำ
บอกผมหน่อยได้ไหม? เมื่อเจ็ดปีก่อนนักวิจัยวางแผนอะไรเอาไว้?
เธอฝืนส่ายหน้า
บอกผมดีกว่านะครับ ... ผมไม่อยากให้คุณต้องโดนลูกน้องของผมทำร้ายเขากำลังขู่
หญิงสาวเหลือบสายตามองสองพัศดีแล้วจึงส่ายหน้า ไม่ ... ไม่รู้ เรา ...
บอกผม
เธอส่ายหน้าอีกครั้งแล้วน้ำตาก็ร่วงลงบนพื้นห้องซึ่งชโลมด้วยเลือดสีแดงข้น
ชามัลลีมองอีกฝ่ายนิ่ง รอคอยคำตอบ ... ทุกอย่างเงียบสนิทนานนับนาทีแล้วชายหนุ่มจึงเผยยิ้มบางๆ เขาเลื่อนนิ้วสัมผัสกลางหน้าผากของหญิงสาวผู้น่าสงสารจนทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว
จู่ๆเขาก็เลื่อนนิ้วมือออกก่อนจะใช้ปืนประกบบนหน้าผากของเธอแทน
มะ ไม่! ... ได้โปรด!หญิงสาวตะโกนพลางส่ายหน้ามองปลายกระบอกปืนในระยะเผาขน
บอกผม
เราขอร้อง ร้องขอชีวิตต่อท่าน!
คุณรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นบนเกาะเมื่อนานมาแล้ว
ไม่ค่ะ ระ... เรา เราไม่ เราไม่รู้หญิงสาวร้องไห้ออกมาจนเบ้าตาช้ำ
เธออาจจะยังไม่สมบูรณ์พอชามัลลีหันไปบอกกับลูกน้องของตนเองก่อนจะหันมามองดูหญิงสาวด้วยสีหน้าปวดร้าวใจ บางครั้งชีวิตก็ไม่สวยหรูจริงไหม?
ได้โปรด ชามัลลี ... ฟังเราก่อน เราไม่รู้อะไรเลยค่ะ! เราไม่ได้โกหกคุณ! ชามัลลี!
สีหน้าของชายหนุ่มยังคงสงบนิ่งขณะเหนี่ยวไกปืน
คุณไม่ต้องกลัว
ชามัลลี ได้โปรดเถอะค่ะ!
ชายหนุ่มฟังอีกฝ่ายพร่ำย้ำร้องขอชีวิตต่อเขาด้วยความอดทน
รู้ไหม ผมอยากจะบอกอะไรแก่คุณอย่างหนึ่ง ... คุณไม่ควรจะเกิดมาเลย คุณไม่ควรจะเกิดเป็นมนุษย์เทียมเลยด้วยซ้ำ เพราะผมไม่เคยเห็นค่าของสิ่งที่เรียกว่าเครื่องจักรซึ่งคนอื่นสร้างคุณขึ้นมา กล่าวจบชายหนุ่มก็กดโกร่งไก
ชามั ...!
ปัง!
จากคุณ |
:
Pakkie Davie
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ต.ค. 55 22:26:09
A:58.8.112.35 X: TicketID:318829
|
|
|
|