********คิมหันต์อนันตรม******** ตอนที่ ๑๐ **********
|
|
โปรยยิ้มหวาน ^____^ ส่งตอบแก่มิตรไมตรี ผู้ใดเข้ามาอ่านสงสารก็โปรดส่งยิ้มมาให้กันเฉยๆ อีกก็ได้นะคะ เพราะมิเช่นนั้น ผู้เขียนก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนเข้ามาอ่านบ้างหรือไม่ ขอบพระคุณค่ะ
ได้ยินเรื่องที่บอกว่า ราวกับคนละคนเขียน นึกขึ้นได้ด้วยความตกใจ O_o!!!! เราลืมบอกไป นามปากกาข้าพเจ้า "มนต์อลัมพราย" ค่ะ หาใช่เป็นชื่อเดียวกับล็อกอินไม่ แต่ไม่มีใครทักเลย คงเป็นคนอ่านคนละกลุ่มกันใช่หรือไม่หนอ?
__________________________________________________ ความเดิม ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12748936/W12748936.html
ตอนที่ 2,3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12759954/W12759954.html#5
ตอนที่ 4,5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12774430/W12774430.html
ตอนที่ 6,7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12792791/W12792791.html
ตอนที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12799843/W12799843.html
ตอนที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12807288/W12807288.html ____________________________________________________
คิมหันต์อนันตรา
ตอนที่ ๑๐ เสน่ห์นางจอมหทัย
พื้นภาพฉาบสีฉานสลายหายวับดับเอาดวงขวัญของเจ้าสิตาไปด้วย น้ำตาอันควรจะไหลหลั่งรินตั้งแต่ความโศกสลดปรากฎเป็นภาพฝันเริ่มพรั่งพรูออก มาเป็นสายธารา ความรู้สึกเสียใจจากการสูญเสีย แม่ ที่ครั้งหนึ่งถูกความแข็งแกร่งของจิตใจทำให้หลับอยู่ในกระแสแห่งความทรงจำกลับเอ่อท่วมท้นหัวอกของคนเป็น ลูก ขึ้นมาอีกครั้ง
สิตาอินทร์สะอื้นไห้อยู่ในภวังค์แห่งความเศร้าโศกที่ติดตรึงตราดั่งพันธนาการ อันแน่นหนา ทำให้หญิงสาวมิอาจกลับไปสู่ความเป็นจริงได้ จึงตกอยู่ในความมืดขมุกขมัวก้นบึ้งแห่งหุบเหวห้วงฝัน เธอยังไม่ตื่น
เจ้าสิตา...ตื่นเถิด...เจ้าสิตา...ตื่นเถิด เสียงเพรียกขานนามดังแว่วเหมือนห่างไกลทั้งๆ ที่ต้นเสียงมาจากนางจงกลนีที่คอยเฝ้าดูแลอย่างอาทรชิดใกล้
ท่านพี่ ช่วยหลานด้วยเถิด ช่างน่าสงสารแท้ ทำอย่างไรจึงจักปลุกขึ้นมาได้เล่าเจ้าคะ
สีหน้าและแววตาของสองสามีภรรยาสบตากันต่างแสดงถึงความห่วงใย เมื่อเห็นร่างที่อยู่ในอาการหลับลึกสั่นเทิ้มด้วยแรงสะอึกสะอื้น มิวายนางจงกลนีจะเขย่าปลุกส่งเสียงเรียกขานอย่างไรก็มิเห็นผล จอมปราชญ์ขมวดคิ้วยุ่งพยายามคิดเค้นหาหนทางเข้าช่วยเหลือ มือใหญ่หนาแทบลงบนหน้าฝากกลมมนแล้วตามด้วยเสียงท่องบทมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ ผลแห่งอิทธิฤทธิ์อันวิเศษคือ เรียกขวัญ
ร่างบางค่อยๆ สงบลง ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มกลับมาสม่ำเสมอทันตาเห็น นางจงกลนีหันไปยิ้มกับจอมปราชญ์ผู้สามีด้วยความโล่งใจ รออยู่อีกอึกใจหนึ่งพอเห็นอาการของหญิงสาวปกติดีแล้วจึงเริ่มปลุกเรียกใหม่ อีกครั้ง
สิตาอินทร์กระพริบตาถี่ๆ อยู่หลายครั้ง สมองของเธอต้องทำงานอย่างหนักด้วยความตรึงเครียด เพื่อเรียบเรียงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ทั้งหลายให้ประติดประต่อกันเป็น เรื่องเป็นราวที่เธอควรจะเข้าใจ หากแต่กลับทำให้เธอรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง
โอ๊ย!! หญิงสาวเผลอร้องออกมาด้วยความทรมาน เป็นเยี่ยงไรไปเล่าเจ้า นางจงกลนีรีบเข้าประคองด้วยห่วงใย
อินปวดหัว โอ๊ย!! ปวดจังเลย...คุณยาย...หนูควรเรียกอย่างนั้นใช่ไหมคะ หญิงกลางคนผู้คงยังงามยิ้มให้อ่อนโยน เมื่อได้ยินน้ำตานางก็แทบไหลริน นั่นแสดงว่านางรับชาติภพแห่งศรีอุษาได้แล้วแท้
แม้หลานข้าได้ตายแท้แน่แล้ว หากแต่เจ้าคือภพใหม่แห่งศรีอุษา ตราบเจ้ายังคงอยู่ในภพอันควรเป็นของศรีอุษา เจ้าก็ยังคือหลานข้าแท้ เจ้าสิตา ข้าจักบอกให้ ศรีอุษา เรียกขานข้าว่าแม่ใหญ่ แลเรียกขานตาเจ้าว่า พ่อใหญ่ เอาดื่มนี่เสียก่อนอย่าเพิ่งว่ากระไรเลย
นางจงกลนียกขันน้ำจ่อจรดปากบางแกมบังคับให้ดื่ม ต่อให้ต้องการจะขัดขืนสิตาอินทร์ก็รู้สึกไม่มีเรียวมีแรงอีกแล้วจึงดื่มเข้าไปแต่โดยดี รสชาดฝาดขมอมหวานกลิ่นหอมประหลาดนักทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายจนคล้ายๆ กับว่าอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเมื่อครู่จะหายเป็นปลิดทิ้ง
จอมปราชญ์คาดการณ์เอาไว้ไม่ผิดการเร่งให้หญิงสาวรับรู้เรื่องราวทั้งหมด จะทำให้เธอเกิดความเครียดอย่างรุนแรงจนอาจถึงสติไม่สมประดีได้ จึงได้ให้นางจงกลนีปรุงยาสำหรับผ่อนคลายเอาไว้
เจ้าพักเสียก่อนเถิด เมื่อจอมปราชญ์เอ่ยสิตาอินทร์ก็พยักหน้ารับง่ายๆ และหลับลงไปอีกครั้ง จอมปราชญ์จึงได้หันมาสั่งความกับภรรยาตน
แม่จงกลนี ไปตามสายบัว มาดูแลนางเถิด
จักดีหรือเจ้าคะ สายบัวน่ะปากมากนัก ความลับที่นางเป็นหญิงจักปิดเอาไว้บ่อยู่
ฮึ..ฮึ.. เจ้าอย่างได้แกรงไป สักวาระหนึ่งเจ้ากับข้าก็จักต้องประกาศความจริงในข้อนี้ แล้วอย่างไรจักบอกผู้ใดไปได้หรือว่าเจ้ากูปดคนทั้งหลายอยู่ สู้ให้นางสายบัวมันพูดจักดีกว่า
อ้อ...เจ้าค่ะ ฟังคำสามีนางก็ยิ้มออก จอมปราชญ์มักมีความคิดถี่ถ้วนนัก
เจ้าเตรียมปรุงยารักษาไข้ไว้ด้วยหนา แม่นา
หลานจักได้ไข้ฤาเจ้าคะ
แท้ นางจักได้ไข้เป็นแน่
เยี่ยงนั้นข้าจักได้เตรียมข้าวปลาเอาไว้ให้ด้วยเสียเลยนะเจ้าคะ คงทันเพลาเพลพอดี
เมื่อลับร่างสองสามีภรรยาแล้วดวงวิญญาณของแก้วโกสุมจึงค่อยปรากฎเป็นรูปร่างยืนอยู่ข้างตั่งนอนของหญิงสาว
นับแต่นี้ข้าจักคอยคุ้มครองป้องภัยแก่เจ้าเอง เจ้าสิตา
ณ กาลแห่งภพชาติปัจจุบัน ผู้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ภายในห้องไอ.ซี.ยู ก็คืออิงฟ้า หญิงสาวเฝ้ามองเพื่อนรักด้วยความห่วงใยเสมอ วันนี้เธอไม่มีแก่จิตแก่ใจจะทำงานใดๆ จึงได้ขอลาหยุดเสียให้รู้แล้วรู้รอด อีกสองวันก็จะถึงวันพระอย่างที่หลวงพ่อได้บอกเอาไว้ สิตาอินทร์ จะฟื้น
สวัสดี ครับ น้องฟ้า เสียงหนึ่งทักทายมาจากทางเบื้องหลัง ทำให้อิงฟ้าต้องละสายตาจากเพื่อนรักหันไปมอง และพบว่าเป็นภูริชย์นั่นเอง เพียงแต่วันนี้เขาพาหญิงสาวคนหนึ่งมาด้วย
สวัสดี ค่ะ ขอชั้นเยี่ยมคุณอินด้วยคนนะคะ ปาจารีย์ส่งยิ้มเก๋ไก๋มาให้อิงฟ้าก่อน รอยยิ้มเช่นนี้เองที่ใครๆ ต่างพากันหลงนิยมชมชอบนัก แต่แววตาอันเหี้ยมโหดกลับถูกซ่อนไว้หลังแว่นกันแดดสีดำอย่างมิดชิด เป็น ผู้หญิงคนนี้จริงๆ เสียด้วยซิ ที่คนของเธอมารายงานพร้อมรูปถ่ายมาว่าภูริชย์ยังคบผู้หญิงอีกคน หน้าจืดขนาดนี้ขู่ทีเดียวก็ขวัญกระเจิงแล้ววกระมัง
เอ๋...คุณ!?!!?
ชั้นเองค่ะ จำได้บ้างไหมคะ หญิงสาวยังคงยิ้มอย่างสดใสถอดแว่นตากันแดดที่สวมอยู่ออก เผยให้เห็นดวงตาอันหวานซึ้งทำเอาอิงฟ้าอึ้งตะลึงมองเป็นอึดใจ
คุณแหม่ม...ปาจารีย์ เห็นหน้าตาตื่นเต้นของอิงฟ้าแล้วปาจารีย์ก็นึกสมเพชแต่ก็ยังตีหน้าอ่อนหวาน น่ารักได้อย่างแนบเนียน ต้องขอบคุณโรงเรียนสอนแอคติ้งจริงๆ ที่ทำให้เธอสวมบทบาทแสนดีจนไม่มีใครจับได้
ค่ะ พอดีวันนั้น แหม่มก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย...ก็เลยอยากจะมาเยี่ยมคุณอินตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้โอกาสเสียที พอดีวันนี้บังเอิญพบพี่ภูที่กำลังจะมาเยี่ยวคุณอิน แหม่มก็เลยขอตามมาด้วยค่ะ แล้วนี่คุณอินเป็นอย่างไรบ้างคะ
ยังหลับไม่ยอมตื่นเสียทีนะคะ ขี้เซาจังเพื่อนฟ้าคนนี้ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นแล้วล่ะคะ อิงฟ้าพูดพร้อมหันไปสบตากับภูริชย์เหมือนจะเป็นที่รู้กันเพียงสองคน ปาจารีย์ตาวาววาบอย่างนางสมิงขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะสะกัดกั้นทำน้ำเสียงและสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว
อย่างนั้นก็ดีซิคะ แหม่มไม่สบายใจเลย เพราะคุณอินแล่นเป็นตัวแทนของแหม่มแท้ๆ
เป็นงานของอินเขาน่ะค่ะ รับรองว่าอินไม่โกรธคุณหรอก
ปาจารีย์ยิ้มให้อิงฟ้านิดๆ ดั่งจะขอบคุณที่ช่วยพูดให้เธอสบายใจ แต่สายตาคอยมองปฏิกิริยาของภูริชย์ ที่ฉวยโอกาสตอนที่เธอกำลังคุยกับอิงฟ้า เข้าไปเยี่ยมไข้เสียจนแทบขึ้นไปนั่งเกยอยู่บนเตียงคนป่วยด้วยความขัดเคือง แทบอยากจะกระโจนเข้าไปกระชากเขาออกมา แต่ภาพลักษณ์ของนางเอกทำให้เธอต้องสงบใจและใช้วิธีอื่นแทน
พี่ภูค่ะ นี่ใกล้จะเที่ยงแล้วนะคะ เราไปทานข้าวกันก่อนดีไหมคะ เชิญคุณฟ้าด้วยนะคะ ปาจารีย์หันไปแตะแขนของชายหนุ่มและรั้งให้ออกห่างจากเตียงคนไข้อย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ยังสามารถแสดงความเป็นเจ้าของให้อิงฟ้าเห็นอีกด้วย แต่...
พี่มีธุระกับน้องฟ้าต่อนะครับ ต้องขอโทษคุณแหม่มด้วยนะครับ เอ่อ...
ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ พี่ภูต้องพาแหม่มไปเลี้ยงข้าวเป็นการแก้ตัวที่มื้อนี้ปล่อยให้แหม่มต้องกลับ ไปทานข้าวคนเดียวตกลงไหมคะ ปาจารีย์ฉลาดพอที่จะเลือกปล่อยโอกาสนี้ไป เพื่อให้ได้โอกาสที่งามกว่านี่คือความน่ากลัวอีกอย่างหนึ่งของหล่อน
ได้ครับ ตกลง
เมื่อได้รับคำตอบดั่งที่ใจหวังหญิงสาวก็ยกแว่นตาขึ้นมาสวมไว้ตามเดิม ก่อนจะส่งยิ้มหวานโปรยปรายโบกมืออำลาทั้งสองคนเดินจากมาอย่างสง่างาม หากแต่แววตาเต็มไปด้วยความแค้นที่ส่งความมุ่งร้ายไปให้ทั้งสองสาวซึ่งเป็น เสี้ยนหนามของหัวใจ เมื่อเดินกลับมาถึงที่รถของหล่อนก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขที่ ต้องการทันที
ครับคุณหนู เสียงปลายสายรับและตอบกลับมาอย่างนอบน้อม
ช่วยหาคนที่ปลอมตัวเป็นพยาบาลได้เนียนๆ ให้ชั้นสักคนซิ
ได้ครับคุณหนู
ดี!! แล้วชั้นจะติดต่อกลับไป
รอยยิ้มเหี้ยมปรากฎที่มุมปากสีแดงสดที่มาจากลิปสติกราคาแพงลิบ ก่อนจะตัดสายและโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเบาะที่นั่งข้างๆ อย่างไม่แยแส
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงตื่นอย่างนั้นหรือ น่าจะเป็น...หลับไปตลอดกาลมากกว่า..ฮึ..ฮึ
ทีนี้ก็เท่ากับยิงนัดเดียวได้นกถึงสองตัว กำจัดสิตาอินทร์เพื่อขู่ให้อิงฟ้ากลัวจนหัวหด แล้วเธอก็จะจัดฉากให้เป็นฝีมือแฟนคลับของภูริชย์ แม่หน้าจืดนั่นไม่กลัวก็ให้มันรู้ไป
จากคุณ |
:
กิ่งพุทธชาติ
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ต.ค. 55 14:43:31
|
|
|
|