ราชาวดีและคู่หูใช้เวลาวันที่สองกระเตงกันไปทั่วเมืองโบราณกาฐมาณฑุ และ ปาตัน สองหล่อนตื่นตากับสถาปัตยกรรมงดงามยามย่างเท้าเข้าไปที่ ย่านเดอบาร์สแควร์ แห่งเมืองกาฐมาณฑุ เมียงมองส่องหากุมารีแห่งเมืองหลวง
และแถวย่านเดอบาร์สแควร์ของกาฐมาณฑุนี้เอง ที่มีของดีที่ราชาวดีตั้งใจอย่างยิ่งที่จะต้องลากไอ้กุนเพื่อนซี้ไปพิสูจน์ให้ได้ว่ารูปปั้นองค์พระศิวะที่วิหารศิวะปาราวตีนั้น พระหัตถ์ขององค์พระศิวะท่านโอบเอาทรวงงามของมิ่งมเหสีเอาไว้จริงหรือไม่
เรื่องนี้จำได้ว่าไอ้กุนคนดีบ่นหล่อนน่าดู ว่าสู่รู้และทะเล้นไม่เข้าท่า แต่ราชาวดีก็จำได้ว่าไอ้กุนนั่นแหละที่ลั่นชัตเตอร์เก็บรูปตรงนั้นไว้หลายมุม!
นอกจากนี้ยังใช้ความเพียรอย่างยิ่งที่จะผละหนีปฏิเสธไกด์ชาวเนปาลีที่พยายามชักชวนให้ใช้บริการนำชมสถานที่ หนุ่มๆไกด์เนปาลีมีวาจาหวานคารมคมจนอยากจะใจอ่อน แต่บังเอิญ สองสาวยึดมั่นในหลักการที่จะไม่เสียทรัพย์ยามไม่จำเป็น และหัวสมองขี้เลื่อยของสองหล่อนก็บอกว่าแค่อ่านข้อมูลเล็กน้อยในคู่มือนำเที่ยวที่เตรียมมาก็เพียงพอแล้ว ทั้งคู่ไม่อยากรับรู้รายละเอียดอะไรมากนัก เพราะเดี๋ยวเดินออกมาก็ลืมหมด (แหะ แหะ) ในเมื่อไม่อยากเสพข้อมูลเท่าไหร่ ก็ใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปก็แล้วกัน สองสาวถ่ายมันดะ ตะลุยถ่ายกันอย่างเมามันด้วยเมมโมรี่การ์ดที่เตรียมไปเต็มพิกัด สองคนสี่ขาพากันเดิน ที่ไหนเปิดให้เข้าพวกหล่อนก็เข้า ที่ไหนไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าก็ไปด้อมๆมองๆเอา
......................................................................................
ที่เมืองปาตัน นอกเหนือไปจากสถาปัตยกรรมงดงามเปี่ยมคุณค่าอันควรแก่การเป็นมรดกโลกที่สองสาวถ่ายรูปกันไม่ยั้งแล้ว ที่นี่ทั้งคู่ได้สัมผัสกับการชุมนุมประท้วงทางการเมืองอย่างสงบของกลุ่มผู้นิยมและสนับสนุนกลุ่มกบฏเหมาอิสต์
เป็นประสบการณ์ตรงที่เห็นเหล่าผู้ชุมนุมกลุ่มโตเดินขบวนชักชวนชาวเมืองมาฟังการขึ้นเวทีของเหล่าผู้นำ
ริ้วธงแดงมีรูปค้อนและเคียวประดับโบกสะบัดไปทั่วเดอบาร์ สแควร์แห่งเมืองปาตัน สองสาวตัดสินใจถอยห่างออกไปสังเกตการณ์อยู่ที่ร้านกาแฟบริเวณชายขอบ หลังจากเล็งทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว
เสียงปราศัยภาษาพื้นเมืองดูดุดันเร่งเร้าอารมณ์มวลชน เสียงเชียร์กระหึ่มต่อเนื่องเป็นระยะๆ บอกว่าการปราศัยดุเด็ดเผ็ดมันโดนใจผู้ฟังไม่น้อย ยิ่งตกเย็น ฝูงชนยิ่งหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมดูแล้วน่าตื่นตาหากก็ทำเอาสองสาวใจไม่ดี ตัดสินใจเผ่นกลับไปตั้งหลักที่ย่านทาเมล และนับจากนั้นราชาวดีสังเกตได้ว่าธงแดงรูปค้อนเคียวมีปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไป
ในวันนั้นสองสาวกลับถึงย่านทาเมลก่อนค่ำเล็กน้อย และคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้ ที่จะไปปร๋ออยู่ที่เมืองโพคารา หากแต่ทุกอย่างก็ผิดแผนเมื่อเดินไปติดต่อที่สำนักงานรถประจำทางไปเมืองโพคาราที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการ
หนูดี พี่รูปหล่อคนนั้นเค้าว่าไงวะ ชั้นฟังไม่ทัน เสียงไอ้กุนถาม
หากอีกคนทำหน้าคว่ำด้วยความอึดอัดคับข้องเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีรถไปโพคารา
ทำไมวะ ตั๋วเต็มเหรอ เห็นมั้ย ชั้นบอกแกแล้ว ว่าให้ซื้อตั๋วไว้ก่อน แล้วไง เป็นเรื่อง เห็นมั้ย แล้ววันถัดไปล่ะ มีป่ะ เสียงไอ้กุนรัวมาอีกเป็นชุด ในขณะที่อีกฝ่ายยกมือยกไม้ห้ามปรามให้หุบปากด้วยความหงุดหงิด
ไม่มีรถไปโพคาราเว้ย ไม่ใช่ตั๋วเต็ม
ไม่เข้าใจ ไอ้กุนสะบัดเสียง
หมายความว่า เมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้ และอาจจะต่อเนื่องไปถึงมะรืน มะเรื่องนี้ จะไม่มีรถวิ่งไปโพคารา
ทำไมวะ
พี่รูปหล่อของแก เค้าบอกว่า พวกเหมาอิสต์ปิดถนนช่วงกลางทางระหว่างไปโพคารา รถผ่านไม่ได้ สาวน้อยตอบเซ็งๆ
อ้าว เวร โธ่เหวย บ้าจัง เสียงไอ้กุนรำพันก่อนจะพากันเดินออกมาจากสำนักงานแห่งนั้นอย่างหงอยๆ .....................................................................................
วันรุ่งขึ้นทั้งคู่ตัดสินใจเดินไปคอนเฟิร์มตั๋วเที่ยวกลับที่สำนักงานการบินไทยที่ตั้งอยู่บนถนนหลักของย่านสำนักงานหรู เมื่อเสร็จภารกิจก็สอดส่ายสายตาหาร้านอาหารและตั้งใจจะใช้ช่วงเวลานั้นเพื่อปรึกษากันแก้เกมส์แผนที่ล่มไป
ตัดสินใจเลือกฝากท้องไว้กับร้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่ขึ้นป้ายว่าให้บริการอาหารพื้นเมือง ในขณะที่ศกุนตลาละเลียดอยู่กับชุดเนปาลีมังสวิรัติ และราชาวดีถูกขัดจังหวะระหว่างการสาวเส้นโชวเหมี่ยนเข้าปากโดยชายหนุ่มหุ่นสมาร์ทผู้ตัดผมสั้นเกือบจะเป็นสกินเฮด
ผู้ชายหน้านวลนุ่งยีนส์ทรงเท่ห์คนนั้นทักทายหล่อนด้วยประโยคมาตรฐานที่ได้ยินจนชินหูตลอดสองวันที่ผ่านมา ตอนนั้นราชาวดีคิดอยู่แต่ว่าหนุ่มเนปาลีทั้งหลายช่างใช้มุขทำความรู้จักเพื่อนใหม่ได้ ซ้ำซาก เหลือทน และช่างน่าหงุดหงิดสำหรับแบคแพคเกอร์สาวชาวไทย ที่ไม่เคยมีใครเดาที่มาของพวกเธอถูกเลย แม้แต่รายเดียว ทำไมนะ? ทั้งๆที่คนไทยก็เดินทางมาเที่ยวที่นี่กันตั้งเยอะ เฮ่อ เดาอยู่ได้ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวันอะไรเทือกนั้น ทั้งๆที่หล่อนและเพื่อนตาออกจะคม ไม่ได้ตี่หรือหางตาชี้เสียหน่อย สาวน้อยค่อนแคะในใจ
ระหว่างการสนทนา เมื่อถึงตอนที่มีการพาดพิงถึงประเทศอินเดียโดยบังเอิญ ราชาวดีเสียท่าไปหน่อย เมื่อเผลอเจรจาออกแนวเปรียบเทียบว่าคนเนปาลที่หล่อนได้พบส่วนใหญ่จะน่ารักและไม่ทริคกี้ สำนวนของหล่อนอาจชวนตีความไปได้ว่าคนอินเดียอาจไม่ไนซ์ ไม่น่ารักเท่า และชวนให้คิดว่าคนอินเดียอาจทริคกี้ ด้วย
เป็นคราว ซวย เล็กๆ ที่บังเอิญพ่อหนุ่มตาคมคนนั้นดันเป็นคนอินเดียเข้าให้
ราชาวดีจำได้ว่าไอ้กุนเพื่อนซี้ยื่นเท้ามาเขี่ยหน้าแข้งหล่อนอยู่ยิกๆ แล้วเร่งให้จ่ายตังค์
โธ่! ไอ้กุนตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก เอะอะก็จะเผ่นท่าเดียว ยิ่งตอนมันเหลียวไปเห็นเขาเม้มปากน้อยๆตาเข้มจัดจ้า ไอ้กุนก็ยิ่งหน้าไม่ดี
แต่ในฐานะแบคแพคเกอร์สาวชาวไทย หล่อนต้องไว้ลาย ไม่ให้ใครมาดูหมิ่นหรือตำหนิเอาได้ ว่าคนไทยอย่างหล่อน ปากเสีย ตอนนั้นจึงเร่งคิดว่าจะพูดแก้เก้ออย่างไรไม่ให้หนุ่มตาคมลุกขึ้นมาเขกกบาลเอา หล่อนไม่อยากเป็นปฏิปักษ์กับใคร ยิ่งหน้านวลหล่อเข้มตาคมออกอย่างนั้นมันน่าเสียดาย ถ้าความประทับใจแรกพบมันจะติดลบเอา
ในที่สุดก็ตัดสินใจปั้นยิ้มสยามออกไปจนเต็มเหนี่ยว เรื่องเกี่ยวกับอินเดียนั้นพอมีติดอยู่ในหัวสมองบ้างเพราะอยากไปเหลือเกิน จนร่ายยาวฟุ้งออกไป หวังใจว่าหนุ่มตาคมจะหายเคือง โชดดีที่เจอคนใจดีไม่ถือสาหากชวนสนทนาต่ออย่างอบอุ่น และลงท้ายสองสาวชาวไทยก็เดินตามก้นเขาต้อยๆรับคำเชื้อเชิญให้ไปดื่มชาที่ร้านขายเครื่องประดับของเขาในละแวกใก้ลเคียง
แถไปจนได้นะแก ไอ้กุนกัดฟันชมเบาๆ ในขณะที่หล่อนยักคิ้วแผล็บ ก่อนส่งยิ้มหน้าแป้นแล้นให้ชายหนุ่มเมื่อเขาเปิดประตูร้านรอให้สองสาวก้าวผ่านเข้าไปก่อน
และในวันนั้นเอง ที่ราชาวดีได้พบกับใครคนหนึ่งซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อหัวจิตหัวใจ ใครคนหนึ่งซึ่งหยุดความคิดจิตใจของหญิงสาวเอาไว้ให้เฝ้าแต่วนเวียนคิดถึงเขายาวนานต่อเนื่องตลอดมาอีกหลายปี ใครคนที่ทำให้ราชาวดีไม่เคยมีไมตรีตอบต่อน้ำใจของชายหนุ่มคนอื่นๆอีกเลยแม้แต่คนเดียว
ยังจำได้ว่าก้าวแรกที่สืบเท้าเข้าไปในร้านเครื่องประดับแห่งนั้น คืออาการชะงักไปชั่วครู่ของหนุ่มนุ่งยีนส์ ก่อนที่เขาจะยิ้มกว้างอย่างยินดี และพูดภาษาที่หล่อนไม่เข้าใจรัวเร็ว ขณะรี่เข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่ละมือจากถ้วยชาแล้วลุกขึ้นยืนช้าๆรออยู่ตรงมุมรับแขก
เสียงทุ้มนุ่มเบาของผู้ชายหุ่นโปร่งที่ตอบข้อซักถามรัวเร็วของเจ้าบ้าน ดูเข้ากันดีกับบุคคลิกที่ปรากฏ
ชายหนุ่มในเสื้อเชิ๊ตสีขาวสะอาด และกางเกงแสลคผ้าเนื้อดีสีเข้ม ดูเหมาะเจาะสมตัว เข็มขัดและรองเท้าหนังที่เขาสวม ส่งผลให้ราชาวดีที่แอบเอียงคอน้อยๆมองผ่านออกมาจากด้านหลังของเจ้าบ้านผู้นุ่งยีนส์ลงความเห็นว่าเขาแต่งตัวสุภาพหากดูดีเป็นที่สุด
ในวาระที่แอบยื่นศรีษะออกไปประเมินชาวบ้าน สาวน้อยสบตาเขาเข้าพอดี ผุ้ชายคนนั้นส่งยิ้มบางๆพลางเตือนเป็นภาษาอังกฤษให้เจ้าของสถานที่ระลึกถึงหน้าที่ในการที่จะแนะนำเขาต่อสุภาพสตรีทั้งสอง อีกทั้งยังออกตัวว่าเขามาโดยมิได้นัดหมายไว้ก่อน
สีหน้าเจ้าบ้านดูสำราญแจ่มใส เมื่อเอื้อนเอ่ยขำๆ ว่าตนเองก็มารยาทแย่ เพราะเขาแน่ใจว่ายังไม่ได้แนะนำชื่อต่อสองสาวชาวไทยเหมือนกัน เจ้าบ้านหนุ่มแนะนำตัวเองง่ายๆว่าชื่อ จิมมี่
ส่วน ราช เป็นเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเป็นนายแพทย์ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลกลางของเมืองกาญมาณฑุ
และสำหรับราชาวดีนั้น จิมมี่ยกโพยกระดาษชิ้นเล็กในมือขึ้นอ่านอย่างช้าๆ มิสซิส รา ชา วา ดี แล้วเขาก็หัวเราะบอกกับราชว่า ราชาวดีพึ่งเขียนให้เขาพร้อมอีเมลล์แอดเดรสที่ร้านอาหารเมื่อสักครู่นี้เอง ราชดูมีแววตาแปลกใจน้อยๆ ในขณะที่จิมมี่ยิ้มตาพราว เอ่ยเบาๆว่าราชาวดียังดูเด็กเหลือเกิน
ด้วยสีหน้าเก้อๆ ราชาวดี รับหน้าที่แนะนำศกุนตลา
ณ ช่วงเวลาที่สบตากับราช และสัมผัสมืออบอุ่นของเขาเบาๆ หล่อนนึกอยากเขกศรีษะตัวเองขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นว่า ไม่น่าทะเล้น เขียนคำนำหน้าตัวเองว่า Mrs เลย
.................................................................................................
ด้วยคำแนะนำจากเจ้าถิ่น ราชาวดีและเพื่อนตัดสินใจ เอางบประมาณสำหรับโพคารา มาเปลี่ยนเป็นตั๋วเครื่องบินเล็กชมเทือกเขาหิมาลัยในวันรุ่งขึ้นแทน
การซื้อตั๋วเม้าเท่นไฟล้ท์นั้นราคาค่อนข้างสูงและไม่รับประกันว่าเครื่องบินจะสามารถขึ้นบินได้ทุกวัน เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ นักบินอาจไม่ได้รับอนุญาตให้นำเครื่องขึ้น
และในกรณีที่ไม่ได้บิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ ว่าจะใช้บริการใหม่ในวันถัดไปจนกว่าจะได้บิน หรือจะขอเงินคืนก็ได้
สำหรับสองสาวนั้นวันแรกของทั้งคู่โชคไม่ดีที่ท้องฟ้าปิด ทั้งๆที่พยายามแข็งใจสลัดตัวเองออกจากถุงนอนอบอุ่นมาเรียกแท๊กซี่ตั้งแต่ฟ้ายังมืดจัด มาแกร่วรออยู่หลายชั่วโมงที่สนามบินแต่ก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง
..................................................................................................
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 55 13:18:51
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 55 12:50:54
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 15:31:40
จากคุณ |
:
หนอนแบกเป้
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ต.ค. 55 14:59:46
|
|
|
|