Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ นิยายรักโรแมนติกวงการแพทย์ ตอนที่ 9 ติดต่อทีมงาน

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้





ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ หรือ ลิขิตรัก เสื้อกาวน์สีขาว

นิยายรักโรแมนติกในวงการแพทย์

เรื่องราวความรัก ความแค้นระหว่างอดีตนักศึกษาแพทย์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  ที่มีเหตุจำเป็นถูกใส่ร้ายจนเรียนไม่จบ ต้องจากไปต่างบ้านต่างเมือง จากหญิงคนรักที่ทำให้เขาเจ็บปวดสุดแสนสาหัส สิ้นรัก สิ้นอนาคต ชีวิตจะมีความหมายอะไร

หากหัวใจเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ

แต่แล้วสวรรค์ก็ลิขิตให้เขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในนามมหาเศรษฐีชาวจีน เพื่อกลับมาแก้แค้นหญิงคนรัก แต่บัดนี้ เธอกลายเป็นแพทย์อาชีพที่เขาเคยใฝ่ฝัน แต่เรียนไม่จบ
เพราะความผิดพลาดทางการแพทย์ ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เขาจึงฉวยโอกาสใช้ช่วงจังหวะนี่ กลับมาผูกพัน แก้แค้นเธอ

เขาจะทำให้เธอรักเขาอีกครั้งในสถานะใหม่ และทิ้งเธอไปเช่นที่เธอเคยทิ้งเขาไปในอดีต

แต่แล้วกลายเป็นว่า เขานั่นแหละกลับมาหลงรักเธออีกรอบ ไม่ใช่สิ เขาไม่เคยหยุดรักเธอเลยต่างหาก  และปมในอดีตที่ต้องการสะสางกลับค่อยเผยตัวมาทีละนิด

ขณะเดียวกันความเป็นหมอทั้งจิตวิญญาณของเธอกลับก่อความวุ่นวาย ทำให้เขาเดือดร้อน ต้องคอยตามช่วยเธอตลอด

แล้วนี่ เขาจะเอาเวลาที่ไหนมาแก้แค้นเธอกันล่ะ
แพทย์ไม่ใช่อาชีพ แต่แพทย์ต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์ ความเป็นแพทย์ไม่มีเวลาพักร้อน ไม่มีวันหยุด ไม่ใช่เป็นแพทย์เฉพาะในโรงพยาบาล

หมอจะไปไหน เมื่อเจอคนเจ็บ จะไม่ปิดบังสถานะภาพของตนเอง ต้องรีบรุดไปให้ความช่วยเหลือ โดยไม่ต้องมาคำนึงว่า
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง แต่ดันเอากระดูกมาแขวนคอ
ในกรณีที่การช่วยเหลือไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และอาจถูกฟ้องร้องได้

แต่ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาอย่างไร แพทย์ก็คือแพทย์ ต้องยืนหยัดทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด  





นิยายชุด เสื้อกาวน์สีขาว
ลิขิตรักเสื้อกาวน์สีขาว หรือยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์

ปาฏิหาริย์รักเสื้อกาวน์สีขาว


สายใยรัก เสื้อกาวน์สีขาว














ตอน เฉินฮ่าวหมิงไปเยี่ยมทอฝันที่โรงพยาบาลครั้งแรก




2 สับดาห์ผ่านไป นับตั้งแต่วันที่ทอฝันกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หล่อนก็อาการดีขึ้นเป็นลำดับ สัญญาณชีพคงที่ สามารถหายใจเองได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ ถึงแม้จะยังไม่รู้ตัว  แต่ก็นับได้ว่าฟื้นตัวเร็วกว่าที่คณะแพทย์คาดการณ์ไว้มาก


นั่นคงเป็นเพราะพื้นฐานสุขภาพของทอฝันเป็นคนแข็งแรงดีมาก่อน เวลานี้เฟอร์นิเจอร์หลายอย่าง ตั้งแต่เครื่องช่วยหายใจ สายน้ำเกลือเพื่อฉีดยาปฏิชีวนะ เครื่องมอนิเตอร์หัวใจถูกถอดออกไปหมดแล้ว
  

เจ้าหญิงนิทราแสนสวยจึงดูเหมือนคนกำลังนอนหลับสบายๆ ยิ่งเมื่อย้ายมาอยู่ในห้องพิเศษวีไอพี ยิ่งดูไม่ออกว่าเป็นคนป่วยคนหนึ่ง
  

ปันนาแวะมาเยี่ยมคนไข้และลูกของทอฝันเกือบทุกวัน บางวันก็มาหลายรอบ นอกจากบอดี้การ์ดหรือคนเฝ้าที่นั่งรออยู่หน้าห้องไอซียูและห้องวีไอพี เพื่อติดตามข่าวไปรายงานเจ้านายแล้ว หญิงสาวไม่เคยพบเจ้าของไข้ตัวจริงหรือมารุตอีกเลย

นับจากวันที่หล่อนไปหาเขาที่สำนักงาน มีแต่พยาบาลรายงานว่า เขามักจะมาเยี่ยมไม่เป็นเวลา และส่วนใหญ่มักจะเป็นยามดึก แต่เช่นเดิม ยังไม่เคยมีใครเห็นสามีของคนไข้ที่มีข่าวลือว่าเป็นมาเฟียฮ่องกงสักคนเดียว แม้แต่ผู้อำนวยการก็ได้ยินมาว่าต้องเจรจาผ่านคนกลางเช่นกัน       

“มีคนมาถ่ายวิดีโอคนไข้กับลูก สงสัยเอาไปให้สามีคนไข้ดู” พยาบาลประจำไอซียู และวอร์ดที่ดูแลทอฝันตั้งข้อสังเกต
  

ให้มันรู้ไป ว่าจะไม่เจอหมอนั่นเข้าสักวัน
 

วันนี้ปันนามีงานยุ่งทั้งวัน เวลาจะหายใจหายคอยังแทบจะไม่มี  ขึ้นไปเยี่ยมทอฝันคงไม่ไหว และหล่อนคงจะกลับบ้านไปแล้ว ถ้าพยาบาลวอร์ดสูติที่ชื่อชินานางไม่โทรมาบอกว่า
  

"หมอปันนา วันนี้ผอ.ให้คนเข็นงานมาทำที่วอร์ดแต่หัวค่ำเลย สงสัยต้องมีคนสำคัญมาแน่เลย"
  

หญิงสาวจึงเบนเข็มไปหาอะไรกินรองท้องรอบค่ำก่อน แต่ยังไม่ลืมสั่งว่า
  

"ถ้าญาติมาก่อน ช่วยโทรบอกหมอด่วนเลยนะ"
  

หากกว่าจะขึ้นมาบนวอร์ดได้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เพราะพอพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเห็นปันนาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในโรงพยาบาล ก็ฉวยโอกาสเรียกไปช่วยแพทย์เวรดูคนไข้ห้องฉุกเฉินเสียเลย
  

เป็นหมอ ถึงจะไม่ได้อยู่เวร แต่ถ้าโผล่หน้าให้พยาบาลเห็น ไม่ว่าดึกดื่นแค่ไหน ต้องมีงานให้ทำเสมอ
 

หมอวิกรมเคยบ่นให้ฟัง นั่งเล่นเกมเพลิน ยังไม่กลับบ้าน ปวดท้องแวะไปปลดทุกข์ให้พยาบาลเห็นหน่อยเดียว กลายเป็นเรื่องยาว ลากไปถึงเช้า 
  
  
ท่ามกลางกองเอกสารเป็นตั้ง บนโต๊ะทำงานหัวหน้าพยาบาลวอร์ด ผอ.ที่น่าสงสารของปันนานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เอามือกุมศีรษะข้างหนึ่งอ่านข้อความในแฟ้มด้วยท่าทางไม่สบายนัก
  

"สวัสดียามดึกค่ะผอ." หมอกล้วยยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่ก่อน
  

"มาราวด์วอร์ดหรือ" ผอ.เงยหน้าขึ้นถาม หน้าตาของท่าน ดูทรุดโทรมหมองคล้ำจนแก่เกินวัยไปหลายปี
  

ปันนาแอบนึก หมอที่ไหนอยู่เฉยๆ จะมาเดินเพ่นพ่านบนวอร์ดปลุกคนไข้ตื่นมาคุยกลางดึก เดี๋ยวได้เป็นเรื่อง
  

"มารอญาติคนไข้ค่ะ"
  

"งั้นก็เหมือนกัน...นั่งสิ" ผอ.ผายมือให้หมอกล้วยนั่ง
  

"ผอ.มานั่งรอเองแสดงว่าคราวนี้ตัวจริงมาแน่ใช่ไหมคะ?" หญิงสาวลองหยั่งเชิง
  

"ไม่รู้สิ" ผอ.ถอนใจ ท่าทางเนือยๆ "ได้ยินว่าญาติที่เมืองจีนจะมาเยี่ยม"
  

"ผอ.ไม่เกณฑ์คนมาตั้งแถวรอรับเลยล่ะคะ เค้าจะได้ปลื้ม"
  

ปันนาประชด
  

"พูดเป็นเล่นไป ยิ่งเครียดๆอยู่ รู้ไหม เขาโกรธเรามากนะ" ผอ.ไม่รับมุกด้วย "ถ้าไม่ตกลงตามที่เขาเสนอมา บางที..." หมอรักดีถอนหายใจยาวก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไปอย่างไม่เต็มใจนัก "โรงพยาบาลเราอาจถึงกับปิดเลยก็ได้"
  

"โอ้โห ความโกรธแค้นของคนมีเงินมากๆนี่มันรุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือคะ" ปันนาทำหน้าสยอง "มีการฟ้องร้องที่ประเทศไหนบ้างที่ต้องการให้ปิดโรงพยาบาลไปเลย ไม่มี นี่เป็นครั้งแรกที่กล้วยได้ยิน"
  

"ไม่ใช่อย่างนั้น ความโกรธแค้นของคนจนคนรวยไม่ต่างกันหรอก เพียงแต่การตอบโต้ของคนจนมีข้อจำกัด หรือบางทีก็ทำอะไรไม่ได้เลย" เจ้านายปันนาแก้ความเข้าใจ "คนจนคงไม่สามารถซื้อตัวพยาบาล ซื้อพนักงานประจำห้องประชุม ซื้อเจ้าหน้าที่ช่างซ่อมบำรุงไว้ได้หมด"
  

ปันนาถึงบางอ้อ นี่เองเป็นเหตุให้มีการดักถ่ายวีดีโอในห้องประชุมได้โดยไม่มีใครระแคะระคาย
  
"พนักงานพวกนี้ยกทีมลาออก" เสียงหมอรักดีเล่าต่อไป "ทุกคนมีธุรกิจของตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ลำบาก ไม่สิ อยู่อย่างสบายกันเลยแหละ...จตุพร..." หมายถึงหัวหน้าช่างแอร์ประจำโรงพยาบาลซึ่งบัดนี้เป็นอดีตไปแล้ว "เปิดร้านขายแอร์นำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนพยาบาลก็กลายเป็นเจ้าของร้านเฟรนไชส์โดนัทที่คนเข้าแถวรอคิวอย่างกับแจกฟรี หนึ่งในกิจการเล็กๆของซีเอ็มกรุ๊ปแต่ทำให้โดนัท..." ผอ.บอกชื่อโดนัทยี่ห้อดังที่คนทั่วไปรู้จักดี "หนาวไปเลย"
  

"เขาลงทุนทำถึงขนาดนี้เชียว"
  

"นี่ไงถึงบอกว่า เงินไม่สำคัญสำหรับเขา เขามีเหลือเฟือ แจกให้คนทั้งโลกก็ยังไม่หมด" ทำท่าหนักใจเมื่อพูดประโยคต่อไป "เขาแค่ต้องการความสะใจ ชี้นิ้วบงการให้เราทำตามที่เขาต้องการ เพียงแค่นี้กล้วยก็น่าจะยอมๆไปเสีย เรื่องจะได้จบ ไม่อย่างนั้น เกิดเขาไม่พอใจขี้นมา จะเกิดเรื่องอะไรอีกก็ไม่รู้"
  

"ฟังผอ.พูดแบบนี้ กล้วยยิ่งกลัว คนอะไรเพื่อบรรลุความต้องการของตัวเอง ทำได้ทุกอย่าง พวกมาเฟียชัดๆ ให้ไปอยู่กับคนแบบนี้ แค่คิดก็หนาวแล้ว"
  

อย่างปันนายังกลัวเลย ไม่ธรรมดาเสียแล้วล่ะ
  

เกิดไม่พอใจขึ้นมา จากยายกล้วยกวน มิกลายเป็นยายกล้วยทอดไปหรอกหรือ เผลอๆเป็นกล้วยตากแห้งอย่างหมอวิกรมว่า 
  

""ผมก็เข้าใจ แต่ในเมื่อทางโน้นยืนยันมาอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง" หมอรักดีถอนใจ “จะให้เอาหมอสมองอย่างโอภาสไปแทน เจ้าตัวก็คงไม่ยอม เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
  

"แล้วคนอื่นล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง" ปันนาหมายถึงคณะแพทย์และพยาบาลที่อยู่เวรวันนั้น
  

นายแพทย์รักดียกมือปิดปากหาวก่อนจะตอบว่า "คนอื่นเขายอมรับข้อเสนอหมดแล้ว"
  

หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ไม่น่าเชื่อ รับกันง่ายๆอย่างนี้หรือ แต่ละคนอีโก้สูงๆกันทั้งนั้น "คนอื่นต้องทำอะไรบ้างคะ?"
  

"ทางโน้นเสนอให้หมอวิจิตรงดผ่าตัดทำคลอดตลอดชีวิต แต่ยังให้รักษาทางนรีเวชได้ ตรวจรักษาคนไข้โอพีดีได้"
  

"หมอวิจิตรก็ยอม?"
  

"แน่นอนสิ ก็เขาผิดเต็มๆอยู่แล้วตั้งแต่เรื่องสั่งยาไม่ชัดเจน และตอนอยู่ในห้องผ่าตัด หมอกล้วยก็ทักเรื่องเลือดดำแล้ว แต่หมอวิจิตรไม่สนใจเองต่างหาก ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยก็ไม่ดีกับตัวเขา  และได้ยินมาว่าฝ่ายโน้นไปได้ข้อมูลเคสผิดพลาดของหมอวิจิตร มาอีกหลายเคส รื้อคดีเมื่อไหร่ หมอวิจิตรหมดตัวแน่"
  

ปันนาทำหน้าไม่เชื่อถือ ผอ.จึงย้ำอีกครั้งว่า
  

"เงินถึงเสียอย่าง อยากรู้อะไร แค่กระดิกนิ้วก็ได้มาแล้ว"
  

"แล้วพี่อัมพรล่ะคะ?" ปันนาถามถึงวิสัญญีพยาบาลที่ทำผิดพลาด จนคนไข้ขาดออกซิเจนในคืนนั้น
  

"เขาให้เกษียณอายุเลย และห้ามไปดมยาคนไข้ที่ไหนอีก แต่เขาก็ได้สิทธิของพนักงานเกษียณทุกอย่าง ส่วนพยาบาลที่รับคำสั่งสับสน ให้ไปเรียนซ่อมอีก 1 ปีค่อยกลับมาเริ่มงานใหม่"
  

อืม...ดูเหมือนทุกคนจะมีทางลงเรียบร้อยไปแล้ว แต่ปันนานี่สิ มีบทลงโทษแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แค่โชคร้ายเป็นแพทย์เวรที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์คืนนั้น จึงตกเป็นจำเลยไปด้วย
  

จากความสงสาร เห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของคนไข้ เลยไปถึงญาติ ที่ทำให้ปันนาไม่สบายใจนอนไม่หลับไปหลายคืน ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้แทน  
  

"ทุกคนก็รอกล้วยคนเดียว ถ้าตกลง เรื่องทุกอย่างก็เงียบ แต่ถ้าไม่ พวกเราทุกคน ก็เตรียมรับหมายศาล เป็นดาราหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ แถมคดีคนไข้ของหมอโยเซฟที่ตายไปวันก่อน กับคดีเก่าๆที่พูดกันในห้องประชุมวันนั้นก็จะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ด้วย" ผอ.ถอนหายใจด้วยทีท่าหนักอกหนักใจ "ลองคิดดูก็แล้วกันนะว่าโรงพยาบาลของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป"
  

"กล้วยขอคุยกับเขาก่อน” ปันนายังไม่ตกปากรับคำง่ายๆ ไม่ใช่เห็นแก่ตัว แต่เป็นคำสั่งที่ไร้เหตุผลสิ้นดี
  

ผอ. เริ่มอ้าปากหาวอีกรอบ หนังตาเริ่มตก ทำท่าสัปหงกจนจะเอียงตกเก้าอี้อยู่แล้ว
  

คนแก่อายุเกิน 60 ปี ให้มาอดตาหลับขับตานอนจะไหวได้อย่างไร ชายชรายกมือขึ้นดูเวลา "จะตีหนึ่งแล้ว...คงไม่มาแล้วมั๊ง”
  

"ผอ.กลับเถอะค่ะ ถ้ามา กล้วยจะอยู่รับหน้าแทน" หญิงสาวเสนอตัว อย่างเห็นใจเจ้านาย "รับรองจะรายงานอาการคนไข้ไม่ให้ขาดตก แม้แต่ผายลมกี่ครั้ง กระแอมกี่ทีจะบอกให้หมด"
  

ผอ.ถลึงตาใส่ "ทำเป็นเล่นไปหมอกล้วย อย่าไปพูดจริงๆแบบนี้กับเขานะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไปล้อเลียนเขาเข้า" ในที่สุด ผอ.ก็ต้องยอมถอย แต่ก่อนไปก็ยังไม่วายย้ำกับหมอกล้วยอีกทีว่า "ต้อนรับเขาให้ดีล่ะ โรงพยาบาลของเราอยู่ในมือของหมอแล้วนะ"
  

ทิ้งภาระอันหนักอึ้งราวกับวีรสตรีไว้บนไหล่สองข้างของหญิงสาวตัวนิดเดียวอย่างปันนาแล้ว หมอรักดีก็เก็บแฟ้ม เดินอ่อนระโหยโรยแรงออกจากวอร์ดไป  
  

พอเจ้านายไปแล้ว ลูกน้องก็มานั่งสัปหงกแทน ทำไมจะไม่ง่วงล่ะ เมื่อคืนผ่าตัดคนไข้ฉุกเฉินที่ทางศัลยกรรม หมอวิกรมวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่ที่แท้เป็นถุงน้ำรังไข่แตก มารู้ก็ต่อเมื่อผ่าเปิดหน้าท้องเข้าไปแล้ว หล่อนถูกตามมาช่วยกลางคัน กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเกือบตี 3
  

"หมอจะเอาผ้าห่มไหม? " กนกอร พยาบาลเวรดึกที่เพื่งมารับเวร  เมียงๆมองๆอยู่นอกห้อง ถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นปันนานั่งกอดอก ห่อตัวเข้าหากัน        

"ไม่ล่ะ...เดี๋ยวหมอก็ไปแล้ว"
  

"ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า คุณมารุตก็คงไม่มาแล้วล่ะ ทุกทีไม่เคยเกินเที่ยงคืน"
  

"พวกนี้เป็นมนุษย์ค้างคาวรึไงนะ แอบมาตอนคนเขาหลับกันหมด" ปันนาประชด
  

"คงงานยุ่งทั้งคู่ คนที่เป็นเจ้าของไข้ก็คือคุณมารุต มหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆของประเทศไทยทุกปี เจ้าของห้างสรรพสินค้ากับโรงแรม แกรนด์โรเยลพาเลซที่ว่าหุ้นกับชาวฮ่องกงนี่แหละ"     
  

กนกอรบอกด้วยท่าทีกระตือรือร้น ครั้นเห็นปันนาทำท่าไม่สนใจ เลยไม่พูดต่อ "หมอง่วงก็หลับไปก่อนเถอะ เขามาเมือ่ไหร่ จะมาปลุก"
  

หลังจากกนกอรแวบออกไปทำงาน ปันนาก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเข้าสู่ภวังค์โดยไม่รู้ตัว

"หมอ...หมอ...มาแล้วตอนนี้อยู่ในห้อง สามีคนไข้มาเองเลย โห หล่อน่าฟัดจริงๆ"


เสียงเรียกอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเขย่าแขนปันนา ทำให้คนถูกเรียกลืมตาอันแสนจะหนักอึ้งขึ้นมาอย่างงงๆ


ภาพแรกที่จับได้ในสายตาคือใบหน้ากลมกระปุ๊กลุก  ตายิบหยีเหมือนเม็ดกวยจี้ของกนกอรนั่นเอง
  

แค่พักตาเล่นๆ ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หญิงสาวผวาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ความง่วงงุนหายไปปลิดทิ้ง ตรงไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาเช็ดขี้ตาให้สะอาด ไม่อยากให้เขานึกนินทาในใจว่า


หมอที่นี่นอกจากรักษาผิดพลาดแล้ว ยังขี้ตาเกรอะกรังอีกต่างหาก
  

สามีคนไข้มาเอง!
  

เสียงกนกอรดังแว่วอยู่ในโสตประสาท ขณะปันนาสาวเท้าตรงไปยังห้องคนไข้
  

การพบกันครั้งแรก ผลจะลงเอยเช่นใด หญิงสาวก็ไม่อาจตอบตัวเองได้


[ ค้นหาเว็บบอร์ดทุกโรงเรียน แวะไปล่างสุดโฮมเพจ Dek-D ]

แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 07:10:27

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 22:02:34

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 22:00:48

แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 21:48:55

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 21:45:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com