ความคิดเห็นที่ 1 เสียงหวีดหวิวพลิ้วมาขลุ่ยพาเศร้า เสียงครวญเจ้าเคล้าแผ่วแว่วแว่วเสียง โศกกำสรวลชวนซึ้งถึงสำเนียง ฤทัยเพียงแทบขาดลงดาดดิน โอ้กระไรใครหนอจะพ้อถึง ครวญคำนึงซึ้งเศร้าเฝ้าถวิล เสียงขลุ่ยพร่ำร่ำหาอยู่อาจินต์ น้ำตารินหลั่งรดจนหมดทรวง เสียงหวีดหวิวพลิ้วมาอุราหวน เสียงเหมือนชวนหวนไห้ในอ้อมสรวง คิดนึกย้อนอ้อนรักเพื่อตักตวง อยากจะหวงห่วงหามาชื่นชม แท้ที่จริงสิ่งใดใครจะนึก มาตรองตรึกผนึกในฤทัยขม รักมาห่างร้างไปในสายลม จึงตรอมตรมข่มเศร้าเคล้าเสียงเพลง.... *******กิ่งฟ้า********* จากคุณ : กิ่งฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:31:50

ความคิดเห็นที่ 2 ความร้าวราน ผ่านเสียงขลุ่ย คุยเสียงสั่ง คล้ายสิ้นหวัง ย้ำช้ำชอก ฟอกถวิล เผยห้วงใจ แห่งรากเง่า เหย้าติดตฤณ ดินอย่างเจ้า เขลาหมิ่น ถิ่นตีโมง ต้นเสียงขลุ่ย พลิ้ววาด กวาดลาดลิบ ลมกระซิบ ลำนำ ลำน้ำโขง ดอกนกยูง ยุ้งแขยง แปลงแดงโพลง เหม่อโค้งโค้ง โยงฟ้า ลับตาพลัน รักรักดิน ณ.ถิ่นนี้ ยิ่งชีวิต ดินให้สิทธิ์ อิสระ ทักษะฝัน แม้เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย หลายหมื่นวัน จะเป็นไร ให้เป็นกัน ..... ตะวันเคียง ............ ฟังเสียงขลุ่ยให้อิสระมากมาก จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:38:46

ความคิดเห็นที่ 3 .. ขลุ่ยขับเคลิ้ม เติมวาด กระหวัดหวิว คลอร่ายริ้ว พริ้วพรม ผสมผสาน ห้วงเวหา ดารดาษ พาดละลาน แผ่ผืนม่าน หว่านเม็ด สะเก็ดดาว .. เดือนเพ็ญแจ่ม แย้มยิ้ม พริ้มเพลงขลุ่ย เมฆหมอกปุย รุ่ยร่าย คลายม่านขาว ขับแสงใส พรายกระพริบ ระยิบดาว เดือนเด่นพราว เจ้าพลอย ลอยเด่นดวง อาใหญ่สุดยอดค่ะ หนุ่ยฝากภาพมาประกอบด้วยนะคะ จากคุณ : เกสรผกา เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 12:02:41

ความคิดเห็นที่ 4 เสียงขลุ่ยแว่ว . . . แผ่วเบาบาง . . . กลางแนวป่า ยามเหม่อมอง  . . . ท้องนภา . . . ครา เดือนฉาย  กาสะลอง . . . หอมละมุน . . . กรุ่นกำจาย ดารา ราย  . . . สุกสกาว . . . คราวเหมันต์   แล้วมีแป้ง . . . บางบาง . . . มาวางให้ เสิร์ฟจานใหญ่ . . . น่าดู . . . คือ หมูหัน มี ต้นหอม . . . จัดวาง . . . ข้างเคียงกัน พร้อมตั้งวง . . . สังสรรค์ . . . ในวันดี   *********************************************************** แจมกลอนขลุ่ย ด้วยคนจ้า . . . . กลอนพี่เพราะอ่ะ . . . . ปอมมีหมูหันมาฝากจ้า . . . แต่เนื่องจากปอมกลัวเจ้าหมูหันเป็นตัวๆ เลยส่งแบบจานเล็ก mini มาฝาก พี่ไฟ อ่ะ   ชะแว้บบบบบบบบบบบบบบบบ   น้องกิ๊บหนอ . . . ต้องรอเดือนหน้า . . เอิงเงยๆ จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 17:02:13

ความคิดเห็นที่ 5 *พลิ้วแผ่วพร่ำลำนำ เอื้อนคำเอ่ย หวานชื่นเปรย เผยละมุน อุ่นอักษร ดุจเพลงร่าย ปลายสรวง ห้วงอัมพร กลั่นเป็นกลอน กล่อมเคล้า เยาวมาลย์ *เสียงขลุ่ยเยือน เดือนเพ็ญ เด่นประจักษ์ ถ้อยคำรัก ตระหนักพร้อม กล่อมผสาน เสนาะยิ่ง สำเนียง ผ่านเสียงกานท์ บทเพลงขาน หวานซึ้ง ตรึงฤดี *รัตติกาล ขานรับ สดับแว่ว พลิ้วเพลงแผ่ว อุ่นอวล ถึงนวลศรี ขลุ่ยครวญคลอ รอสมาน สานไมตรี ห้วงราตรี ดั่งมีมนตร์ มาดลใจ... สวัสดีค่ะ พี่เปลว และพี่น้องทุกท่าน....พี่เปลว จะหวานไปถึงหนายยยยยยยยยย จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 17:06:05

ความคิดเห็นที่ 6 ....เสียงขลุ่ยใสกังวาลสะท้านทุ่ง ธรรมชาติปรุงอุ่นละมุนธรรมศาน สะเนาะโสตโลดเล่นตลอดกาล แสนชื่นบานฟังเพลงขลุ่ย...สุขใจจริง.... จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 21:10:01

ความคิดเห็นที่ 7 เสียงขลุ่ยเอื้อน ข่มอ้าง เข้าข้างตน คลอขลุ่ยขับสดับคลอล้อลมไหว ล้อลมไกวไม้ใบไหวเกลื่อนกล่น ละใบและใบไหวปะปน เดือนเพ็ญห่างหนบนทางจร.. ชอบวรรคข้างบนของคุณเปลวจังเลยค่ะ ล้ำลึก ซ่อนความหมาย ทำเอาแอบเทใจให้เลย.. จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:05:57

ความคิดเห็นที่ 8 มีหลังไมค์ต่อว่ามา 7 ท่าน ขอรับ บอกว่าตั้งกระทู้แล้วทำไมหายจ้อยยยย........... ไม่ได้หายขอรับ    แค่เพียงงานมันเร้ารุมเฉยๆ บางคืนเปิดมาอ่าน พร้อมๆกับทำงาน AutoCAD ไปด้วย    ด้วยที่ว่า.... ต้องส่งเป็น e-mail รึไม่ก็ ........อะไรก็ไม่รู้ ......... จะตอบไปบ้างก็......เอ๊ะ......รอให้ครบ 150 คอมเม้นท์ก่อนดีกว่าม้างงง????.... แต่มาคิดอีกที       รอให้ครบ  15  คอมเม้นท์ก่อนก็ได้มั้ง?....... ตอนนี้คิดใหม่แล๊ะ....... 7 คอมเม้นท์   ก็พอแล้วล่ะ ขอบคุณมากมายขอรับ สำหรับกิ๊ปจาก....  PANRADA, กิ่งฟ้า, เกสรผกา, ลุงชิกง, นกโก๊ก, โค อัสดง, พลอยแข, สุนันยา, ป.ปาแปง, เสกคาถา, คุณแม่ใจดี, ploythana จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 20:34:30

ความคิดเห็นที่ 9 แท้ที่จริงสิ่งใดใครจะนึก มาตรองตรึกผนึกในฤทัยขม รักมาห่างร้างไปในสายลม จึงตรอมตรมข่มเศร้าเคล้าเสียงเพลง................................คุณครูกิ่งฯ เรไรดั่ง  รั้งดอม  อ้อมกอดขลุ่ย เกสรปุย  สวมปลอบ  กอบเกี่ยวเคว้ง ลมแผ่วผิว  ผันผ่าน  ม่านบทเพลง ขลุ่ยบรรเลง  บาดลึก  ท้วงตรึกตรอง พ้อประหนึ่ง  ปานเหน็บ  ให้เจ็บช้ำ วงเวียนกรรรม  วกกราย  ให้หม่นหมอง มืดเลือนลับ  ลุล่วง  สู่ช่วงปอง รุ่งสางคล้อง  ส่องคลอ  พ้อพักเพียง...............................เปลวไฟฯ ขอบคุณขอรับ     กับบทกลอนสะท้อนความรู้สึก.... เปลวไฟฯต่อให้แล้วนะครับ แด่...... คุณครูผู้น่ารักสำหรับห้องกวี แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 55 01:52:18 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 55 20:47:59 จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 20:37:18

ความคิดเห็นที่ 10 ดูอาจจะไม่เหมาะสมอารมณ์็หมาย ด้วยพี่ชายหว่านพ้นกระท้นถอย สะเก็ดไอใยรักฝากเกล็ดปรอย เหลี่ยมเม็ดน้อยมากค่ากว่ารักใด............ สั้นไป ..............แต่คิดเองนะคะ จากคุณ : PANRADA เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 00:37:58

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับน้องปานฯ มาบอกว่า กิ๊ฟหมดแล้วครับ  กลอนที่ฝากมาให้ คิดยังไงก็คิดไม่ออก สมองตื้อขอรับช่วงนี้ แหะๆๆๆ จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 11:53:33

ความคิดเห็นที่ 12 เอาสมอง มาเฉาะ กระเทาะบ้าง เอามาวาง ข้างน้อง จะบ้องหมาย ช่วยส่วนที่มืนอยู่ ให้ดูคลาย เชิญมาได้ ทุกเวลา อย่าช้านาน จะได้หาย อาการ ที่ท่านว่า สุนันยา จัดมอบ มาปลอบหวาน แล้วจะเคี้ยว ด้วยกรด รสน้ำตาล ให้พี่เสียวสะท้าน....ด้วยกานท์กลอน..... เข้ามาบอกว่าอย่าแกล้งทำมึน แล้วลืมโน่น ลืมนี่....ถ้ายังมึนอยู่ เดี๋ยวสุช่วยเอง รีบๆมาด่วน ก็แล้วกัน... รักนะ จึงอยากช่วย......เชอะ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 14:16:34