สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 13 ] The Promise Love...
เราสามคน...
หลังจากส่งมินตราที่คอนโดเมื่อตอนหัวค่ำ วสุก็รีบกลับไปเคลียร์งานคั่งค้างที่บริษัทจนดึกดื่น เกือบตีสองแล้ววสุก็ยังไม่หายจากอาการหดหู่ที่ยังคงรบกวนจิตใจเขาจนน่ารำคาญ ชายหนุ่มเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดค้นหาจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งเก่าซีดจนเหลืองไปตามกาลเวลา แล้วเพ่งมองมันอย่างครุ่นคิด...
ในที่สุดแกก็กลับมาจนได้สินะ แววตาของวสุเคร่งเครียดยามเมื่อนึกถึงชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูหัวใจและเป็นเจ้าของจดหมาย
คนขี้ขลาดอย่างแก คิดจะมาสู้กับฉันงั้นสิ ได้แล้วเราจะได้เห็นดีกัน วสุขยำจดหมายในมืออย่างหงุดหงิด ก่อนจะโยนทิ้งลงในลิ้นชักเก็บมันไว้ตามเดิม
วสุตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องที่เกิดกับมินตราที่เกาะ ถึงแม้จะหึงหวงและคลางแคลงใจในตัวคนรักมากมายสักแค่ไหน แต่เขาจะเก็บมันไว้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสียยังดีกว่า อย่างน้อยมินตราก็ยังอยู่กับเขา ไม่มีวันที่เขาจะปล่อยคนรักให้ไปเป็นของคนอื่นโดยเฉพาะกับผู้ชายคนนั้น...
ลิลลี่สีชมพูดอกโตประดับด้วยอซาเลียสีขาวดอกใหญ่แซมด้วยยิปโซฟิลาจัดช่อขนาดย่อมเข้ากันอย่างพอดิบพอดี..ยังคงถูกส่งมาให้มินตราอยู่เกือบทุกเมื่อเชื่อวัน จนหญิงสาวรู้สึกอิดหนาระอาใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเพียรพยายามปฏิเสธมันสักแค่ไหน ลิลลี่สีชมพูจากใครคนนั้นก็ยังคงบรรจงส่งมาให้อยู่เสมอจนมินตราอดใจอ่อนไม่ได้
ร้านดอกไม้ใช่มั๊ยคะ คราวหน้าไม่ต้องส่งดอกไม้มาให้ฉันแล้วนะคะ บอกคนคนนั้นด้วยว่าฉันไม่ต้องการรับมันค่ะ มินตราตัดสินใจโทรไปยังเบอร์โทรศัพท์ของร้านดอกไม้ที่อยู่ด้านหลังของการ์ดที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง แต่หล่อนก็รู้ดีว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...อธิป อดีตคนเคยรัก ที่รู้ใจหล่อนเสียยิ่งกว่าใคร
อ้อ..รบกวนบอกเค้าด้วยนะคะ ว่าถึงจะส่งมามากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เค้าอาจจะเสียเงินเปล่าเพราะฉันจะไม่เก็บไว้ รบกวนทางร้านช่วยบอกตามนี้ด้วยนะคะ เสียดายค่ะถ้าของสวยๆอย่างนี้จะต้องถูกทิ้งลงถังขยะทุกวัน เข้าใจด้วยนะคะ มินตราวางสายจากเจ้าของร้านดอกไม้อย่างเครียดขึ้ง ดวงตากลมโตแสนเศร้ามองช่อดอกลิลลี่สีชมพูนับสิบๆช่อที่แห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลาภายในห้องรับแขกอย่างเศร้าเหงาหงอย ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเข้ากันได้ดีกับจิตใจของหญิงสาวที่เหี่ยวเฉาร้าวรานไม่ต่างกัน...
สามเดือนผ่านไป...วสุยังคงปฏิบัติตัวกับมินตราเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ที่ไม่ปกติเลยสำหรับมินตราคือการที่วสุคอยตามรับตามส่งเทคแคร์หล่อนมากขึ้นกว่าเดิมจนคนในบริษัทต่างพากันรู้ว่าทั้งสองคบกันอย่างเปิดเผย เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับมินตราไม่น้อยเลยทีเดียว
วันนี้ก็เช่นกัน เป็นอีกวันที่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์สอง สีดำสนิทมาจอดเทียบรอมินตราอยู่หน้าบริษัทหลังเลิกงาน หญิงสาวรู้สึกอึดอัดกับสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่ไม่น้อย
มิน...คืนนี้ไปงานเลี้ยงเปิดตัวโครงการใหม่กับพี่นะ วสุยิ้มแย้มเอ่ยบอกมินตราอย่างอารมณ์ดีทันทีที่หล่อนขึ้นรถมานั่งเคียงข้าง
งานนี้เหรอ...ท่านประธาน เอ่อ..พ่อพี่ก้องก็ไปด้วยสิคะ มินตราเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลจนวสุต้องจับมือคนรักไว้อย่างปลอบใจ
อยากแนะนำมินให้รู้จักพ่อพี่..นะครับ สายตาเว้าวอนของวสุที่มองมาทำให้มินตราถึงกับหน้าเครียด จะบอกว่าไม่กลัวก็คงไม่ใช่หล่อนเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อนจนนึกกลัวขึ้นมาครามครัน
แต่..แต่มินกลัวค่ะพี่ก้อง
ไม่ต้องกลัวนะ พ่อพี่มีเหตุผลพอ ถ้าพี่รักใคร พ่อพี่ก็จะรักด้วยพี่มั่นใจ วสุจับแก้มคนรักเบาๆอย่างทนุถนอม
ก็ได้ค่ะ แต่มินกลัวจริงๆนะ มินตรายังคงแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยความรู้สึกที่ไม่มั่นใจเอาเสียเลย จนวสุนึกเอ็นดูจับศรีษะคนรักโยกเบาๆอย่างรักใคร่
โธ่..คนเก่งของพี่ เธอนี่กลัวอะไรก็ไม่รู้นะ วสุหัวเราะออกมาเบาๆ จนมินตราอดยิ้มตามไม่ได้ บรรยากาศภายในรถอบอวลไปด้วยความรู้สึกดีๆของคนสองคน
ในขณะเดียวกัน พอร์ชสีบรอนซ์เทาจอดอยู่ในมุมมืดของถนนฝั่งตรงกันข้าม อธิป..จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่วางตา ดวงตาคมฉายแววเศร้าออกมาอย่างปิดไม่มิด...
ถ้าคนคนนั้นของเธอ..เป็นฉัน คงจะดีไม่น้อยเลยนะมินตรา อธิปนั่งมองบีเอ็มดับเบิลยูสีดำสนิทวิ่งฝ่าสายฝนที่กำลังตกโปรยปรายไปยังทิศทางฝั่งตรงกันข้ามกับรถของเขาจนลับสายตา
อีกยี่สิบนาทีก่อนเวลานัดหมาย มินตราบรรจงเลือกชุดที่จะใส่ไปในงานนี้ด้วยความตื่นเต้นเป็นพิเศษ จนเลือกได้เดรสสั้นผ้าไหมสีทองทรงสอบธรรมดาที่มินตรารู้สึกชอบสีของมันและสวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ทันทีที่เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น มินตรารีบวิ่งไปที่หน้าประตูมองผ่านรูเล็กๆหน้าประตูไปก็พบว่าชายหนุ่มที่นัดหมายเดินทางมาถึงแล้ว จึงรีบเปิดประตูต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จนวสุถึงกับยิ้มกว้างในความงามที่ดูแปลกตาไปไม่น้อยของมินตรา
วันนี้สวยจัง วสุเอ่ยชมทันทีที่พบหน้า
ขอบคุณค่ะ จะเข้ามาก่อนรึเปล่าคะมินตราเอ่ยถามคนรักไป ดูนาฬิกาข้อมือไป ยังมีเวลาให้หล่อนเอ้อระเหยอีกเล็กน้อย
นี่จ้ะ..ของขวัญ วสุยื่นกล่องสีชมพูยาวผูกโบว์สีเงินมาให้มินตรา หล่อนมองด้วยประกายตาตื่นเต้นแปลกใจ
อะไรคะ มินตรายังคงยืนนิ่งมองดูกล่องของขวัญด้วยความสนใจ แต่ยังไม่ทันได้หยิบวสุก็จับมันมาวางไว้ในมือของหล่อนทันที
เปิดดูสิ วสุเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะโอบไหล่มินตราให้เดินเข้ามายังห้องรับแขกแล้วดึงให้นั่งที่โซฟาตัวยาวด้วยกัน
โห..สวยจังเลยค่ะ ให้มินเหรอคะ สร้อยคอทองคำขาวเส้นบางประดับด้วยจี้นิลเม็ดโตล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ ฝีมือประณีตบรรจง ปรากฏแก่สายตา มินตราถึงกับอึ้งกับความงามของมัน
จ้ะ พี่ว่ามันเหมาะกับเธอดี
แต่มินรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ ของราคาแพงแบบนี้ มินตราส่ายหน้าปฏิเสธ จนเส้นผมสลวยปลิวไสว พร้อมทั้งเก็บสร้อยเส้นสวยใส่กล่องคืนให้กับวสุ
อย่าพูดอย่างนั้นพี่ตั้งใจให้ เพราะเธอคู่ควรกับมันจริงๆ หันหลังมาสิพี่จะสวมให้ วสุดันให้มินตราหันหลังให้ ระยะห่างที่แนบชิดกันทำให้มินตราถึงกับประหม่า หลังจากสวมสร้อยเส้นสวยที่ดูจะเข้ากับมินตราได้อย่างพอดิบพอดี วสุจึงบรรจงจูบลงบนต้นคอของคนรักอย่างแผ่วเบาจนหล่อนถึงกับสะดุ้ง
อ่ะ..เสร็จแล้ว มินตราถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะผละออกจากวสุอย่างรวดเร็ว
รู้ไหม วันนี้มินสวยเป็นพิเศษเลยนะ วสุกุมมือคนรักไว้บางเบา ก่อนจะดึงหล่อนให้ลุกขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางไปงานคืนนี้
อืม มินรู้แล้ว หญิงสาวกอดกระชับมือเข้ากับแขนหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มคนรัก ก่อนจะเดินเคียงกันออกไป...
.....................................................................................
งานเลี้ยงเปิดตัวโครงการรีสอร์ทธรรมชาติจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางแขกมาร่วมงานนับพันคน ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมดังดูเล็กลงไปถนัดตา มินตราเดินเคียงข้างวสุเข้ามาในงานด้วยความตื่นเต้น หล่อนรู้สึกวิตกกังวลและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด จนวสุต้องกุมมือน้อยไว้แน่น แขกที่มาร่วมงานต่างพากันซุบซิบถึงเพื่อนสาวคนสนิทของลูกชายท่านประธานที่ดูน่ารักสะสวยสมกัน
คุณพ่อครับ นี่มินตราครับ วสุพามินตราฝ่าบรรดาแขกนับพันเข้าไปหาบิดาของเขาที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเวที มินตราได้แต่ยืนหลบอยู่ด้านหลังอย่างเกร็งๆ
สวัสดีค่ะ หนูชื่อมินตราค่ะ มินตราค้อมศรีษะลงต่ำไหว้สวัสดีบิดาของวสุด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
สวย น่ารักดีนี่ หนูใช่ไหมที่เป็นสถาปนิกโครงการนี้ รอยยิ้มใจดีของท่านประธานวิสวัฒน์กรุ๊ปยามมองมาและคำพูดที่แฝงไว้ด้วยความเอ็นดูทำให้มินตราสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว
ค่ะ ท่าน
ตาก้อง ลูกอย่าปล่อยให้เด็กน่ารักคนนี้หลุดมือไปเชียวนะ พ่อไม่ยอมจริงๆด้วย ทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนี้ หนูมินตราคนนี้พ่อถูกชะตา ประธานวิสวัฒน์ยิ้มหยอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวน จนมินตราได้แต่ตะลึงที่บิดาของวสุรู้เรื่องการคบกันของพวกเขา...
แน่นอนอยู่แล้วครับพ่อ..ผมไม่มีวันปล่อยมิน ไม่เด็ดขาดเลยครับ เธอเป็นคนที่ผมรักยิ่งกว่าสิ่งใดอีกครับพ่อ
........................................................................................
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 55 02:13:48
|
|
|
|