Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวียงนาคินทร์ ตอนที่ [29] 30-31 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1-12 อ่านได้ในบล็อกเลยนะคะ 






ตอนที่ 30

ใจนาง

 

         เงาภาพของกุสุมาลย์สะท้อนออกมาจากกระจกทองเหลือง หญิงงามกำลังลูบคลำบาดแผลที่ปลายคิ้วขวา รอยแผลทุเลาลงไปมากไม่บวมช้ำเท่าวันแรกๆ ที่บาดแผลยังสดใหม่อักเสบระบมจนตาแทบปิด  ริมฝีปากหยักโค้งเม้มลงด้วยความวิตกกังวลไปตามประสาคนรักสวยรักงาม  แต่เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากนอกห้องจึงละสายตาจากกระจกแล้วลุกออกไป

 

         "แน่ใจนะว่าไหวแล้ว   มิใช่ประเดี๋ยวประด๋าวหน้ามืดเข้าล่ะ" คุณท้าวจันทร์หอมถามไถ่เมื่อกุสุมาลย์ก้าวออกมาจากห้อง

 

         "ไหวจ้ะคุณท้าว  ไม่ได้เป็นอะไรมากมายเสียหน่อย  อย่าวิตกไปเลยเจ้าค่ะ" หญิงงามออกตัวและคิดว่าหล่อนหายดีพอจะไปรับใช้พระเทวีได้แล้ว   จึงไปทำงานตามปกติ

 

         "แล้วไม่เกล้าผมรึ?" คุณท้าวชราทักขึ้นเมื่อเห็นกุสุมาลย์ปล่อยผมยาวดำขลับนั่นสยายลงมาเคลียไหล่

 

         "สายแล้วน่ะจ้ะ" คนฟังได้ยินเข้าก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แต่ก็มิได้สักถามสิ่งใดต่อ

 

         แม้จะไม่มีกฏระเบียบบังคับอย่างเคร่งครัดนัก  แต่นางกำนัลที่ถวายการรับใช้มักจะม้วนมวยเก็บผมขึ้นเมื่อต้องทำงาน  เว้นแต่คนสนิทที่มีหน้าที่แค่ตามเสด็จหรือทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น  จึงบ่อยผมยาวได้เพราะไม่เกะกะระหว่างทำงาน   มีบ่อยครั้งที่กุสุมาลย์ปล่อยผมยาวตามสบาย  แต่เมื่อมีราชบุตรเขยมาประทับอยู่ที่ตำหนัก  หญิงงามจึงพยายามปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ไม่ให้เป็นที่ขัดพระเนตรพระกรรณเอาได้   แต่วันนี้นางจงใจปล่อยผมยาวลงมาเพื่ออำพรางรอยแผล  หากเกล้ามวยเก็บผมขึ้นไปจะเป็นที่สังเกตได้เด่นชัดกว่า

 

         ในห้องทรงพระสำราญภูวิษะเจ้าทรงประทับอยู่บนตั่ง   เมื่อทอดพระเนตรเห็นกุสุมาลย์เข้ามาถวายงานรับใช้หลังจากล้มหมอนนอนเสื่อไปถึงห้าวัน  จึงคลี่โอษฐ์แย้มสรวลส่งมอบรอยยิ้มงดงามให้  นางกำนัลคนงามแลเห็นเข้าก็รีบก้มหน้าหลบ  สีหน้าปะดักปะเดื่อไม่น้อยทั้งเขินอายทั้งกังวลกับรอยบาดแผลบนใบหน้า  จึงก้มหน้านิ่งมิกล้าเงยหน้าขึ้นสบดวงเนตรคมกล้าที่ฉายแววเมตตามองมาอย่างอ่อนโยนนั่น

 

         "กุสุมาลย์บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง? ยังเจ็บอีกหรือไม่?"

 

         "มะ...ไม่แล้วเพคะ" พระพี่เลี้ยงตอบตะกุกตะกักยิ่งก้มหน้าต่ำลงอีก

 

         "แน่ใจนะว่าเป็นไร  หากยังป่วยอยู่ก็อย่าได้ฝืนลุกขึ้นมาทำงานเลย ที่นี่ยังมีคนคอยดูแลรับใช้พระเทวีอีกหลายคนมิต้องเป็นกังวลดอก" สุรเสียงนั้นอ่อนโยนตรงกันข้ามกับยามเมื่อตรัสกับกัมลาภาเทวี

 

         "มะ...หม่อมฉันไม่เป็นไรจริงๆ เพคะ  หายดีแล้วจริงๆ เพคะ คงเพราะได้โอสถดีจากหมอหลวง"

 

         "งั้นรึ? ก็ดี...แต่เงยหน้าให้เราดูบาดแผลหน่อย"

 

         เมื่อแรกกุสุมาลย์ยังก้มหน้านิ่งมิกล้าเคยขึ้น  จนต้องรับสั่งซ้ำสองนางจึงค่อยๆ เงยดวงหน้าหวานละมุนนั้นขึ้นสบดวงเนตรนาคเจ้า  เวลาชั่วอึดใจที่ถูกมองอย่างเพ่งพิจนั้น  หญิงงามรู้สึกเนิ่นนานราวชั่วกัปชั่วกัลย์  ดวงใจเต้นไม่เป็นส่ำมันส่งเสียงดังเสียจนเกรงว่าภูวิษะเจ้าจะสดับเข้า  

 

         "เฮ้อ...." เสียงหอนทหัยดังแว่วมาให้ได้ยิน   นางกำนัลโฉมสะคราญจึงค่อยยืดตัวขึ้นนั่งได้ตามปกติ

 

         "คงเจ็บมากสินะ...มหิตาคงมิได้ตั้งใจจะทำร้ายเจ้า  อย่าถือโทษโกรธนางเลย" แต่ถ้อยคำที่ตรัสออกมานั้นทำลายความหวั่นไหวเมื่อครู่ไปจนหมด   เมื่อถ้วนทุกประโยคก็ล้วนแล้วแต่เอ่ยถึงนางเดียวในดวงฤทัย

 

         "หม่อมฉันมิบังอาจถือโทษโกรธเคืองพระเทวีหรอกเพคะ  หม่อมฉันเข้าใจดีว่ายามนั้นทรงกำลังกริ้วมิทันคิดว่าจะพลั้งมือ"

 

         "เราขอบใจแทนมหิตาที่ไม่ถือโทษโกรธนาง" 

 

         ถ้อยดำรัสอ่อนโยนนั้นทำให้กุสุมาลย์ยิ้มออกมาได้โดยมิต้องฝืน  นางเพียงแต่ชื่นชมภูวิษะเจ้าในฐานะบุรุษอันดีงามเท่านั้น   มีมิความนัยอื่นเคลือบแฝงหญิงงามกล่าวตอกย้ำตนเองในใจ

 

         "จริงสิ...สองวันก่อนเราได้บรรณาการจากกันทรานคร  มาเป็นแพรพรรณงดงามหลายฝืน  มหิตาคงใช้ผู้เดียวไม่หมดดอก   เราอนุญาตให้เจ้าเลือกฝืนที่ชอบไปใช้ได้" จากนั้นจึงตรัสเรียกให้นำหีบบรรจุแพรพรรณมาวางตั้งไว้เบื้องหน้ากุสุมาลย์

 

         "มะ...มิต้องหรอกเพคะ  หม่อมฉันไม่คู่ควรกับของสูงค่าเช่นนี้"

         นางโฉมงามยังนั่งพับเพียบเรียบร้อยอย่างเจียมตน  ไม่กล้าขยับมาดูสิ่งของประทาน  นาคเจ้าทอดพระเนตรเห็นก็ทรงทราบว่านางมิกล้าอาจเอื้อม  จึงแย้มสรวลขึ้นมาน้อยๆ ก่อนจะตรัส

 

         "ถ้าเจ้าไม่เลือกเอง  เราจะเลือกให้"

 

         "มะ...หม่อมฉันไม่ต้องการจริงๆ เพคะ"

         กุสุมาลย์รีบปฏิเสธให้วุ่นวาย  ดวงหน้าหวานนั้นมีสีระเรื่อขึ้นมาอีก  แต่ภูวิษะเจ้าหาได้สนพระทัยสิ่งที่นางพูดเลยแม้แต่น้อย   หากก้มพักตร์มองดูแพรพรรณมากมายในหีบนั้น  แล้วหยิบขึ้นมาทอดพระเนตรทีละฝืน

 

         "เรื่องแพรพรรณนี้บุรุษเยี่ยงเราไม่สันทัดนัก....ผืนใดก็ดูงดงามไปหมด" ทรงบ่นอุบอิบแล้วสรุปรวบรัด

 

         "ให้มหิตามาเลือกให้ก็แล้วกัน" 

 

         แต่ผ่านไปครู่ใหญ่มหิตาเทวีก็หาได้เสด็จออกมา  แม้กระทั่งภูวิษะเจ้าก็ขมวดขนงด้วยความสงสัย  จนต้องส่งปทุมมาไปเรียกพระชายามาพบ  แต่คนที่รอคอยก็มิได้เสด็จมาที่ติดตามปทุมมาออกห้องบรรทม  มีเพียงนางศรีดาราเท่านั้น

 

         "พระเทวีทรงปวดเศียรเพคะ  เลยให้หม่อมฉันมาช่วยเลือกผ้าให้พี่กุสุมาลย์แทน" ศรีดารายิ้มแป้นตอนทูลความ  มองหาความเท็จในดวงตาไม่เจอ

 

         "เป็นอะไรไป? เมื่อครู่ยังดีๆ อยู่นี่"

 

         "ทรงบ่นว่าเวียนเศียรแล้วก็อาเจียนเพคะ  เลยขอตัวบรรทม"  สีพระพักตร์องค์สวามีเปลี่ยนไปทันทีแต่ยังมีแก่พระทัยหันมายิ้มให้นางพี่เลี้ยงของมหิตาเทวี

 

         "งั้นพวกเจ้าก็ช่วยกุสุมาลย์เลือกก็แล้ว  ถูกใจผ้าผืนใดก็นำไป"  ตรัสจบก็ทรงลุกขึ้นปลีกวรกายเข้าไปหาพระชายาทันทีด้วยท่าทีห่วงหาอาทรยิ่งนัก นางศรีดาราเห็นเข้าก็หัวเราะดังคิกออกมา

 

         "ศรีดาราเจ้าหัวเราะดังไปแล้ว" ปทุมมาปรามเข้าให้แต่ก็มีรอยยิ้มระบายเต็มหน้าไม่แพ้กัน  ในขณะที่กุสุมาลย์หน้าเศร้าไปถนัดตา

 

         "มาช่วยกันดูผ้าดีกว่า งามๆ ทั้งนั้นเลยนะพี่กุสุมาลย์  เห็นแล้วข้าก็อยากได้บ้างจะได้ใส่คล้องคออวดผู้คนตอนออกไปนอกวัง" นางคนทะเล้นดูจะกระตือรือร้นกับแพรพรรณตรงหน้า  มิได้ทันสังเกตสีหน้าของกุสุมาลย์แม้แต่น้อย

 

         "นั่นสิ...งามแปลกตาจริงๆ  ลวดลายสีสันไม่เหมือนผ้าของจุมภะเรา" ปทุมมาเองก็พลอยชื่นชมกับแพรพรรณเหล่านั้นไปด้วย  

 

         เนื่องจากในยุคสมัยของพวกนางนั้นแพรพรรณดีๆ มิใช่ของหาง่าย  ผ้าทอมือผืนงามหรือผ้ามัดย้อมเล่นสีสันสวยงามนั้น   ต้องถูกสั่งทำขึ้นอย่างปราณีตบรรจงเพื่อแสดงฐานะของผู้สวมใส่  หาใช่ชาวบ้านร้านตลาดธรรมดาจะมีไว้ในครอบครองได้   แม้แต่พระแม่เจ้ากมุทรามหาเทวีเองก็มิใช่ข้อยกเว้น   เมื่อทรงได้แพรผืนใหม่ก็มาก็มิรั้งรอที่จะใช้ประดับวรกายตอนเสด็จออกประภาสใกล้ๆ   มหาเทวีจะทรงเปลือยพระถันและสวมแต่ภูษาท่อนล่าง  ก่อนจะนำผ้าผืนงามมาคล้องอังสา  ซึ่งจะไม่ทรงเครื่องประดับมากนัก   โดยเฉพาะสร้อยพระศอจะไม่ทรงสวมใส่ให้แย่งความเด่นของผ้า   ดังนั้นเมื่อนางกำนัลได้รับพระราชทานผ้าจึงถือเป็นพระกรุณาเมตตานางผู้นั้นยิ่งนัก   หากแต่กุสุมาลย์มิได้ดีใจหรือกระตือรือร้นในการเลือกแพรพรรณอันสวยงามนั้นเลย  นางเพียงแต่หยิบๆ จับๆ แล้วปล่อยให้นางกำนัลอีกสองนางช่วยกันหยิบยกมาเทียบกับเรือนกายของนางเท่านั้น

 

         "ศรีดารา...พระเทวีทรงประชวรมากรึไม่ ?...หรือว่าทรงไม่ต้องการพบข้า?"

 

         "ปุดโธ่...คิดมากจริง พี่กุสุมาลย์   ทรงประชวรจริงๆ ตั้งแต่เช้าก็อาเจียนไปหลายรอบจนหมดเรี่ยวหมดแรง"

 

         "เอ๋?...หรือว่าจะทรงพระครรภ์กัน?" ปทุมมายกมือขึ้นปิดปากอย่างตื่นเต้น

 

         "ใช่ที่ไหนเล่า...เมื่อเช้าทรงเสวยของแสลงเข้าไปต่างหาก"

 

         "อ้าว? ของแสลงอันใด  แล้วใครนำไปให้เสวย?" กุสุมาลย์ฟังเข้าก็ติติงออกมาชุดใหญ่

 

         "น้ำสมุนไพรที่คุณท้าวจันทร์หอมจัดถวายน่ะ   ก็รู้อยู่ว่าไม่ทรงโปรดกลิ่นฉุนออกจะตายแต่จำต้องดื่มแก้ปวดระดูล่วงหน้าน่ะ  ก็เห็นหมู่นี้ทรงหงุดหงิดคุณท้าวสงสัยว่าระดูจะเคลื่อน   ถ้าระดูมาอาจจะประชวรได้ก็เลยจัดน้ำสมุนไพรให้เสวยกันไว้ก่อน   พอเสวยเข้าไปเท่านั้นแหละ...ทรงอาเจียนเอาๆ "  หญิงสาวทั้งสาวคนฟังแล้วพากันย่นจมูกพร้อมๆ กัน  เพราะรู้ถึงสรรพคุณยาแก้ระดูของคุณท้าวจันทร์หอมเป็นอย่างดี

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 15:33:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com