มายืนฟังฉันคิดอยู่ได้ จิดาร่ายยาว แต่คำพูดบางอย่างของจิดาเกิดมาสะดุดหูเขาเข้าอย่างจัง
จริงด้วย...ผมได้ยินความคิดของคนอื่น เพราะฉะนั้นถ้าผมได้ไปอยู่ใกล้ๆคนที่เขาทำร้ายผม ผมก็ต้องได้ยินว่าเขาคิดอะไร ผมก็จะรู้ว่าคนที่ทำร้ายผมเป็นใคร แล้วเขาทำร้ายผมทำไม จิดาคิดตามคำพูดของเขา และนึกทบทวนคำพูดของตัวเอง ขอบคุณมากนะคุณจี๊ด คุณนี่หัวแหลม...เอ๊ย!หลักแหลมจริงๆเลย ทำไมผมถึงนึกไม่ออกนะเรื่องแค่นี้เอง
ฉันอยากจะรู้จริงๆเลย ว่าตอนคุณรถค่ำเนี่ย หัวคุณได้ไปกระแทกกับอะไรบ้างหรือเปล่า คุณถึงได้อัลไซเมอร์รับประทานขนาดนี้ จิดาบ่นกลั้วหัวเราะ
นั่นสิ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันผมจำได้ทุกอย่างยกเว้นตอนนั้น เขานึกไปถึงวินาทีก่อนหน้าที่เขาจะเอาเท้าไปเหยียบเบรก ผมคิดจนหัวแทบแตกก็ยังคิดไม่ออก จิดาเห็นหน้าที่คิ้วขมวดกันจนแทบจะผูกเป็นโบว์ทักซิโด้ แล้วก็นึกเป็นห่วงถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตัวเขานี่แหล่ะที่จะไม่รอด กลับเข้าร่างก็ไม่ได้ แถมยังนึกไม่ออกอีกว่าเดินไปเหยียบหัวแม่โป้งเท้าใครเขาให้ ถึงได้โดนเล่นงานจัดเต็มขนาดนี้ อยู่ดีๆเวทินก็เริ่มมีอาการแปลกๆหันรีหันขวางมองไปรอบๆตัว
คุณ ผมรู้สึกว่ามีคนเรียก ผมไปก่อนนะ
เอ้า...แล้วใครเรียกคุณ แล้วเรียกไปไหน คุณเวทิน...อ้าว หายไปซะแล้ว ร่างโป่รงแสงของเวทินจางหายไปในอากาศ จิดานิ่งคิด
แล้วตกลงใครเรียกวะ นี่เขามีโปรโมชั่นเรียกปุ๊บ ไปปั๊บเลยหรือเนี่ย เดลิเวอร์รีจริงๆ อย่างกับกุมารทอง จิดาพูดกลั้วหัวเราะ พร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นนั่งหลับตาบิ้วอารมณ์ ที่ขาดช่วงไปเมื่อครู่ ให้กลับมาใหม่ ก่อนจะไล่นิ้วเรียวไปตามตัวอักษร บนคีย์บอร์ดต่อจากบรรทัดเดิมอย่างสบายใจที่ กุมารทอง ไม่อยู่กวนสมาธิเธอแล้วจะได้เขียนได้อย่างสบายใจสักทีนึง
วีมาเยื่ยมนะคะเวทิน
ภารวีเอ่ยขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เวทินโผล่พรวดมากลางห้องพักฟื้นของตัวเองที่โรงพยาบาลพอดีพอดี
ภารวี! เวทินเรียกชื่อเธอ ภารวีชะงักพยายามมองหาต้นเสียง แต่มองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ไม่มีอะไรมั้ง เราคงหูฟาดไปเอง ภารวีบอกกับตัวเอง
คุณได้ยินผมหรือภารวี ? เวทินลองถามออกไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ภารวีกลับไม่มีท่าทีว่าจะได้ยินเขาอีกแล้ว
ภารวียืนมองร่างของเวทิน ที่นอนอยู่บนเตียงไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ร่างกายภายใต้ชุดผู้ป่วยสีฟ้าของโรงพยาบาล ดูซุบลงไปมากเหลือเกิน รอยแผลตามหน้าตาและร่างกายหายจนแทบจะสนิทแล้ว แต่ยังมีผ้าก๊อซพันอยู่บนศีรษะโดยรอบ
เครื่องช่วยหายใจถูกถอกออกเหลือเพียงสายออกซิเจนตรงใต้จมูก กับสายให้อาหารเขาดูเหมือนคนที่นอนหลับไปเฉยๆไม่มีอะไรผิดปรกติ ติดอยู่อย่างเดียวคือเขาไม่ยอมฟื้นตื่นขึ้นมาก็เท่านั้น จนคุณหมอเจ้าของไข้ก็ยังแปลกใจและหาสาเหตุไม่ได้ ว่าเพราะเหตุใดคนไข้จึงยังไม่มีท่าทีที่จะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิด จะว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนก็ไม่ใช่
เพราะตรวจเช็คหลายครั้งแล้วก็ดูปรกติดีทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าอวัยวะภายในร่างกายจะทำงานผิดปรกติไป ถ้าเป็นในนิยายก็คงจะเป็นเหมือนเจ้าชายนิทราที่รอเจ้าหญิงมาจุมพิต ให้หลุดพ้นจากคำสาป แต่สำหรับเขาแล้ว ตัวเขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังรอคอยสิ่งใดอยู่ แล้ววันใดที่จะมีเจ้าหญิงมาจุมพิตถอนคำสาปให้เขาเหมือนในนิยายบ้าง
คุณได้ยินวีใช่ไหมคะ ภารวีจับอุ้มมืออุ่นของเขาไว้
ได้ยินครับ
วีมีเรื่องจะเล่าให้คุณฟังเยอะแยะเลยนะคะ...เวทินคุณไม่เบื่อบ้างหรือไงนอนอยู่ได้ทุกวันทุกวัน รีบๆตื่นขึ้นมาสักทีสิคะ ตื่นมาให้วีตามตื้อ ตื่นมาให้วีควงแขน โทร.ตามให้คุณรำคาญ ภารวียกมือปาดน้ำตา
ผมก็อยากตื่น แต่ผมทำไม่ได้
คุณรู้ไหม ตอนนี้วีตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าร่วมมือกับคนอื่นทำร้ายคุณ แต่วีไม่ได้เป็นคนทำ วีจะทำร้ายคุณได้ยังไง ถึงคุณจะไม่รักวี แต่วีรักคุณ และไม่มีทางที่จะทำลายคุณแน่ๆ
อะไรนะ! เวทินร้องอย่างตกใจ
ตอนที่ อีตาผู้กองทันต์แพทย์นั่นมาบอกวี วีตกใจแทบแย่
ผู้กองทันต์แพทย์ ใครวะ...หรือว่าจะเป็น...ไอ้ธัน!
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 55 18:05:52