เรื่องเล่าจากแดนไกล ตอนที่1

    ตอน  คาถาแปลงร่าง
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....เอ! ความจริงมันก็ยังไม่นานเท่าไร  ณ เมืองๆหนึ่งในชนบทที่ห่างไกลแสน...ไกล  และต่อไปนี้ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้นั่นเอง  ถ้าคุณอยากรู้ก็ลองตามกันมาดูสิ....
    “อุแว้...อุแว้”
    “แหม  น่ารักน่าชังจังเลยนะพ่อ”
    “นั่นสิ  เธอจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี  เอ...ลูกของเราเหมือนตัวอะไรน้า”
    “เหมือน...สิงโตไง”
    “ไม่มั้ง  เสือดาวมากกว่า”
    “แรด”
    “ช้าง”
    “สุนัข”
    “ไม่ใช่...ไม่ใช่  พี่ว่าเหมือนแพะ  ใช่แล้วเหมือนแพะ”
    “ฮือ...แต่น้องไม่ชอบแพะนี่”
    “งั้นเลียงผาก็ได้”
    “เลียงผา...อืม  ก็ดีนะพี่”
    “งั้นลูกเราคนนี้ชื่อเลียงผาละกัน”
    นั่นแหละคือที่มาของชื่อเด็กชายร่างเล็กผู้นี้ซึ่งถือกำเนิดลืมตาออกจากท้องแม่เมื่อสิบสองปีที่แล้ว  ความจริงหน้าของเขาก็ไม่ได้เหมือนกับเจ้าสัตว์ที่ว่านี้สักเท่าไรแต่เหตุที่พ่อแม่ตั้งชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเช่นนี้ก็เพราะว่า
    “เด็กสมัยนี้เขาก็มีชื่อกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ  ไม่เหมือนพวกเราที่แก่ๆกันแล้วทั้งชื่อทั้งแซ่ก็เลยออกจะเชย  อีกอย่างอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะได้ไม่สับสนด้วยเพราะพวกเราวางแผนให้หมดแล้ว”นั่นคือคำตอบแปลกๆจากปากมารดาของเด็กชาย  
    แต่เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้เริ่มต้นที่จุดนั้น  ความจริงมันก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรขึ้นเลย  แต่เราน่าจะลองตามไปดูเรื่องราวของเด็กชายคนนี้กันต่อ  แล้วเรื่องทั้งหมดก็จะได้เริ่มต้นขึ้น....
    “เลียงแต่งตัวเสร็จรึยัง  เดี๋ยววันแรกก็ไปโรงเรียนสายหรอก”
    “ครับแม่  เสร็จแล้วๆ”  เด็กชายตัวเล็กวิ่งลงมาจากชั้นบน  
    “เอ้าไม่ต้องรีบทานขนาดนั้นก็ได้  เดี๋ยวติดคอหรอก”
    “อ็อบ..แอบ...”เลียงรีบกลืนอาหารลงคอก่อนกล่าวว่า “ก็เมื่อกี้แม่ยังบ่นอยู่เลยนี้ครับว่าให้ผมรีบไป” เด็กชายเถียง
    “แหมเถียงคำไม่ตกฟากจริงๆเลยนะเรานี่  ไป...ไป้  สายแล้ว”
    และแล้วเด็กชายก็ออกวิ่งไปทั้งๆที่ขนมปังยังคาอยู่ที่ปาก
    เมืองแห่งนี้คือเมืองเทมาริสเป็นเมืองค่อนข้างเล็กตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบกลมสีฟ้านี้  ภายในเมืองมีครอบครัวอาศัยอยู่ประมาณห้าสิบครัวเรือน  สถานที่สำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล  ตลาด หรือโรงเรียนจึงตั้งขึ้นเพียงแห่งเดียวเพื่อสนองความต้องการของบุคคลในชุมชน  และโรงเรียนที่เด็กชายกำลังเดินทางไปเรียนนี้ก็ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพรรณซึ่งไม่ห่างไกลจากบ้านของเขาเท่าไรนัก  
    “เฮ้อ  ถึงซะที”  เลียงผาหอบแฮ่กๆอยู่หน้าประตูโรงเรียน
    “โรงเรียนสัตศาสตร์”เขายืนอ่านป้ายชื่อที่เด่นชัดด้วยตัวอักษรสีทองอย่างตั้งใจ
    “ที่นี่ใช่โรงเรียนรึเปล่า?”เด็กผู้ชายร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยคนหนึ่งที่เดินตามหลังมาร้องถาม  เขาเป็นเด็กที่มีความแตกต่างกับเลียงผาอย่างเห็นได้ชัดคือเลียงผาเป็นเด็กตัวเล็ก ผอมบาง  ผิวสีน้ำตาลคล้ำจนเกือบดำ  ผมสีดำสนิทกับดวงตาสีดำกลมโตที่เป็นประกายกล้า  ผิดกับเด็กตุ้ยนุ้ยคนนี้ที่มีรูปร่างพอๆกับลูกหมูและเมื่อบวกกับผิวสีชมพูสดใส  ผมและดวงตาตี่ๆสีน้ำตาลอ่อนแล้วยิ่งทำให้เลียงผาอดนึกไปถูกลูกหมูตัวโตไม่ได้
    “นายเป็นนักเรียนใหม่ใช่ไหม”เลียงผาถามขึ้น
    “ใช่  แหมนายนี่ฉลาดจัง”
    เด็กชายอดยิ้มรับคำชมนั้นไม่ได้  แต่แหมดูแค่นี้ก็รู้แล้ว  ท่าทางเอ๋อๆแบบนั้นเป็นใครก็ดูออกกันหมดแหละ
    “แล้วนายล่ะ”ตุ้ยนุ้ยคนนั้นร้องถามเลียงผาบ้าง
    “ฉันก็เพิ่งมาเรียนเป็นวันแรกนี่แหละ”
    “งั้นเราก็เป็นเพื่อนกันได้สิ”
    “อ้อ  แน่นอน  ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ  ฉันชื่อเลียงผา”เขาบอกชื่อตัวเองอย่างภูมิใจ
    “ฉันชื่อหมูน้อย”ตุ้ยนุ้ยพูดด้วยท่าทางเขินอาย
    “ยินดีที่ได้รู้จักหมูน้อย  เข้าไปข้างในด้วยกันเถอะ”
    และแล้วเด็กทั้งสองก็เดินตามนักเรียนคนอื่นๆเข้าไป

    “สวัสดีนักเรียนใหม่ทุกคน  ฉันคือครูสุธิศรเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้  ฉันมีหน้าที่ในการดูแลพวกเธอทุกๆคนให้อยู่ในระเบียบและตั้งใจเรียน  ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่เธอต้องอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด  มิเช่นนั้นพวกเธออาจต้องระเห็จออกจากที่นี่ไปก่อนที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอทำผิดข้อหาอะไร”ครูใหญ่หน้ายักษ์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก  เลียงผาอดไม่ได้ที่จะสำรวจไปรอบๆหอประชุมแห่งนี้  ปีนี้มีนักเรียนเข้าเรียนใหม่ประมาณยี่สิบกว่าคน  นักเรียนส่วนใหญ่จะนั่นก้มหน้าฟังครูใหญ่พูดด้วยท่าทางขลาดๆทั้งนั้น  ซึ่งรวมทั้งหมูน้อยเพื่อนใหม่ของเด็กชายที่ออกจะเป็นเอามากกว่าคนอื่น  หมูน้อยมีสีหน้าจวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว
    “เป็นอะไรไปนะหมูน้อย”
    “ฉันกลัว”เด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
    “เขาไม่ได้ว่านายซะหน่อย  เขาพูดรวมๆถึงทุกคนในห้องต่างหาก”
    “ก็  ทำไมจะต้องตะโกนอย่างนั้นด้วย  นายไม่กลัวรึไง”หมูน้อยถามเมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยของเลียงผา
    “ไม่เลยสักนิด  ฉันไม่ได้ทำผิดทำไมต้องกลัวด้วย”
    “เอาล่ะต่อไปครูจะแนะนำคุณครูท่านอื่นๆให้”
    หมูน้อยมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นครูใหญ่เดินลงมาจากเวที  ปล่อยให้ครูท่านอื่นๆขึ้นไปพูดแทนบ้าง
    “สวัสดีจ๊ะนักเรียนที่น่ารักทุกคน  ครูชื่อครูฝ้ายจ๊ะ  ครูจะเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอทุกคนในปีนี้  หวังว่าพวกเธอคงไม่ทำให้ครูผิดหวังนะจ๊ะ”
    “แหมมีครูประจำชั้นใจดีอย่างนี้ค่อยรู้สึกดีหน่อย”หมูน้อยพึมพำเบาๆ
    ครูฝ้ายเป็นหญิงสาวสวยน่ารักที่มีผมสีทองยาวสลวยปะบ่า  ดวงตาสีน้ำผึ้งภายใต้แว่นตาสีทองที่ฉายประกายเอื้อเอ็นดูกับลักยิ้มทั้งสองข้างที่แก้มยิ่งทำให้ครูฝ้ายยิ่งดูน่ารักขึ้นอีกมาก
    และต่อๆไปก็ถึงคราวของครูท่านอื่นๆบ้าง  มีครูลี...หญิงชราแก่ๆรูปร่างเล็กท่าทางใจดีซึ่งเป็นครูประจำอยู่ห้องพยาบาล  ครูพิณ...ครูสอนประวัติศาสตร์ท่าทางเชยๆเฉื่อยๆที่ทำให้นักเรียนหลายคนต้องอมยิ้มกับรูปร่างกลมๆสีน้ำตาลเข้มของเธอและการพูดจาที่ดูจะคงเส้นคงวาเป็นน้ำเสียงเดียวกันตลอดการแนะนำตัว  และก็ยังมีครูอีกหลายคนที่เลียงผาจำชื่อไม่ได้

    “นายชอบครูคนไหน”หมูน้อยถามขึ้นขณะทยอยกันเดินออกจากหอประชุมเพื่อเข้าห้องเรียน
    “ฉันชอบครูฝ้าย  เราคงโชคดีที่เจอครูประจำชั้นแบบนี้”
    “อืมเหมือนกันเลย  แต่ครูประพาที่สอนภาษาศาสตร์คนนั้นก็ท่าทางใจดีนะ  แต่น่ารักน้อยกว่าครูฝ้ายหน่อย”หมูน้อยออกความเห็น  ครูประพา...เท่าที่เลียงผาเห็นเธอเป็นหญิงสาวหน้าตาดี  แต่งกายทันสมัยและก็แต่งหน้าค่อนข้างจัดทำให้นักเรียนหลายๆคนลงความเห็นว่าเธอดูจะสวยกว่าครูฝ้ายที่แทบไม่แต่งตัวเลย
    “เอ้าถึงแล้วจ๊ะห้องเรียนของพวกเธอ”ครูฝ้ายบอกเมื่อเดินข้ามตึกมาถึงห้องสีขาวสะอาดสะอ้านที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างลงตัว  โต๊ะนักเรียนทั้งยี่สิบสี่ตัวที่ตั้งอยู่กลางห้องถูกจัดให้หันหน้าเข้าหากันเป็นตัวยู  มีกระดานดำขนาดใหญ่ติดผนังหน้าห้อง  และโต๊ะครูที่ตั้งอยู่ริมขวาสุด  ด้านหลังห้องเป็นชั้นขนาดใหญ่ที่ถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน  โดยด้านขวาสุดมีของมากมายวางอยู่เต็มไปหมด
    “เอาหนังสือกับของต่างๆไปเก็บไว้ที่ชั้นนะจ๊ะ  แล้วครูจะทำป้ายชื่อติดให้ทีหลัง”ครูฝ้ายกล่าว  และนักเรียนทุกคนก็กรูกันไปยังชั้นวางหนังสือ
    “เอาล่ะทีนี้เราก็มาทำความรู้จักกันดีกว่า  พวกเธอรู้จักครูกันไปแล้ว  แต่ครูยังไม่รู้จักพวกเธอเลย  ไหนลองบอกครูสิจ๊ะว่าชื่ออะไรกันบ้าง”ครูฝ้ายพูดขึ้นหลังจากที่นั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว
    “ผมชื่อสิงห์ครับ”
    “ชิมครับ”เด็กชายผิวสีหมึกกล่าว
    “แมวค่ะ”
    “แก้วค่ะ”
    “มดครับ”
    “หนูค่ะ”
    “ห่านกับหงส์ครับ”ฝาแฝดชายหญิงที่นั่งข้างๆเลียงผาเอ่ยขึ้น  เด็กชายจึงอดลอบมองเพื่อนใหม่คู่นี้ไม่ได้  ทั้งสองคนมีลักษณะเหมือนกันมากจนแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร  ทั้งดวงตากลมโตสีดำสนิทกับผิวขาวและรูปร่างโปร่งบาง  จะมีก็เพียงแต่ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวสลวยของเด็กสาวกับผมรองทรงตัดสั้นของเด็กชายที่สร้างความต่างให้กับฝาแฝดคู่นี้
    “เอ้าหนุ่มน้อยคนต่อไปล่ะจ๊ะ”ครูฝ้ายร้องถาม
    “ผมชื่อเลียงผาครับ”

    “เลียงผารอด้วยสิ”หมูน้อยร้องเรียกก่อนพาร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยของเขาวิ่งตามเด็กชายมา
    “มีอะไรเหรอ”
    “กลับบ้านด้วยกันนะ?”
    “ก็ได้  ว่าแต่บ้านนายอยู่ไหนล่ะ”
    “ข้างตลาดนี่เอง”
    “พวกเราไปด้วยสิ”ฝาแฝดชายหญิงร้องถามขึ้นเมื่อได้ยินเด็กสองคนสนทนากัน
    “บ้านพวกเราอยู่หน้าตลาดนั่น”แฝดหญิงบอก
    “อืม  งั้นไปด้วยกันเลย”
    และแล้วเด็กทั้งสี่คนก็เดินกลับบ้านพร้อมกัน
    “นายชื่อเลียงผาใช่ไหม  ส่วนนายชื่อหมูน้อย”แฝดชายเอ่ยขึ้นท่าทางเขาจะเป็นคนความจำดีไม่น้อยเลย
    “นายนี่จำแม่นจัง  ว่าแต่นายสองคนชื่ออะไรนะฉันจำไม่ได้”หมูน้อยถามหน้ามุ่ย
    “เราชื่อห่านกับหงส์”
    “อ้อ!”ร่างตุ้ยนุ้ยร้องเสียงดังทั้งๆที่จำไม่ได้เลยว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
    “ถึงแล้วล่ะบ้านของเรา”
    บ้านฝาแฝดคู่นี้เป็นบ้านไม้หลังเล็กกะทัดรัดที่ตั้งอยู่หน้าตลาดพอดี  หน้าบ้านถูกวางระเกะระกะไปด้วยกะละมังใบใหญ่หลายใบที่มีตาข่ายคลุมมิดชิด  และเมื่อเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าภายในกะละมังแต่ละใบนั้นเต็มไปด้วยปลาหลากหลายชนิดที่กำลังดิ้นกระโดดไปมา
    “บ้านนายขายปลาเหรอ?”หมูน้อยร้องถามด้วยท่าทางทึ่งจัด
    แต่ยังไม่ทันที่ฝาแฝดทั้งคู่จะพูดอะไร  ร่างๆหนึ่งอันแสนใหญ่โตก็เดินเข้ามาหาเด็กทั้งสี่  ร่างๆนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนดกยาวสีน้ำตาลเข้ม  จมูกสีดำขนาดใหญ่และฟันอันแหลมคมที่กำลังแยกเขี้ยวอยู่ในขณะนี้
    “ว๊าก...หมี”หมูน้อยกระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังเลียงผาด้วยท่าทางตื่นกลัว  แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรไม่ได้มากนักเพราะร่างเล็กกะทัดรัดของเด็กชายแทบจะบังไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของร่างตุ้ยนุ้ยนั่น
    “นี่พ่อเราเองแหละหมูน้อย”
    “หวัดดีครับ”เลียงผายกมือไหว้หมียักษ์ตนนั้นทำให้หมูน้อยต้องทำตามด้วยท่าทางขลาดๆ
    “เพื่อนใหม่เหรอลูก”หมียักษ์หันมาถามแฝดทั้งสองพร้อมกับร่างและขนที่หดลงจนกลายสภาพเป็นคนธรรมดาที่มีรูปร่างใหญ่โตและผิวสีน้ำตาลเข้ม
    “พ่อเพิ่งกลับมาจากป่าเหรอครับ”
    “อืม  ได้ปลามาเยอะเชียว  แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะวันแรกที่โรงเรียน”
    “ได้เพื่อนเยอะเลยค่ะ  นี่ไงคะเพื่อนใหม่ของเราเลียงผากับหมูน้อย”แฝดหญิงแนะนำเพื่อนทั้งสองให้พ่อรู้จัก
    “เข้ามาในบ้านกันก่อนไหม”นายหมียักษ์หันมาถามเด็กทั้งสอง
    “ไม่ดีกว่าครับ  พวกผมจะรีบกลับบ้าน”เลียงผายกมือไหว้อีกครั้งก่อนเดินจากมา

    “นายสองคนไม่เห็นเหมือนพ่อเลย”เลียงผาอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อนั่งอยู่ในห้องเรียนวันต่อมา
    “พวกเราเหมือนแม่  พ่อบ่นใหญ่เลยที่เราสองคนไม่มีสัตว์ประจำตัวเป็นหมี”
    “ทำไมล่ะ”

    จากคุณ : ไฟลี่ - [วันมหาสงกรานต์ (13) 13:15:33]