ตอน คาถาแปลงร่าง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....เอ! ความจริงมันก็ยังไม่นานเท่าไร ณ เมืองๆหนึ่งในชนบทที่ห่างไกลแสน...ไกล และต่อไปนี้ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้นั่นเอง ถ้าคุณอยากรู้ก็ลองตามกันมาดูสิ....
อุแว้...อุแว้
แหม น่ารักน่าชังจังเลยนะพ่อ
นั่นสิ เธอจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี เอ...ลูกของเราเหมือนตัวอะไรน้า
เหมือน...สิงโตไง
ไม่มั้ง เสือดาวมากกว่า
แรด
ช้าง
สุนัข
ไม่ใช่...ไม่ใช่ พี่ว่าเหมือนแพะ ใช่แล้วเหมือนแพะ
ฮือ...แต่น้องไม่ชอบแพะนี่
งั้นเลียงผาก็ได้
เลียงผา...อืม ก็ดีนะพี่
งั้นลูกเราคนนี้ชื่อเลียงผาละกัน
นั่นแหละคือที่มาของชื่อเด็กชายร่างเล็กผู้นี้ซึ่งถือกำเนิดลืมตาออกจากท้องแม่เมื่อสิบสองปีที่แล้ว ความจริงหน้าของเขาก็ไม่ได้เหมือนกับเจ้าสัตว์ที่ว่านี้สักเท่าไรแต่เหตุที่พ่อแม่ตั้งชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเช่นนี้ก็เพราะว่า
เด็กสมัยนี้เขาก็มีชื่อกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่เหมือนพวกเราที่แก่ๆกันแล้วทั้งชื่อทั้งแซ่ก็เลยออกจะเชย อีกอย่างอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะได้ไม่สับสนด้วยเพราะพวกเราวางแผนให้หมดแล้วนั่นคือคำตอบแปลกๆจากปากมารดาของเด็กชาย
แต่เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้เริ่มต้นที่จุดนั้น ความจริงมันก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรขึ้นเลย แต่เราน่าจะลองตามไปดูเรื่องราวของเด็กชายคนนี้กันต่อ แล้วเรื่องทั้งหมดก็จะได้เริ่มต้นขึ้น....
เลียงแต่งตัวเสร็จรึยัง เดี๋ยววันแรกก็ไปโรงเรียนสายหรอก
ครับแม่ เสร็จแล้วๆ เด็กชายตัวเล็กวิ่งลงมาจากชั้นบน
เอ้าไม่ต้องรีบทานขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวติดคอหรอก
อ็อบ..แอบ...เลียงรีบกลืนอาหารลงคอก่อนกล่าวว่า ก็เมื่อกี้แม่ยังบ่นอยู่เลยนี้ครับว่าให้ผมรีบไป เด็กชายเถียง
แหมเถียงคำไม่ตกฟากจริงๆเลยนะเรานี่ ไป...ไป้ สายแล้ว
และแล้วเด็กชายก็ออกวิ่งไปทั้งๆที่ขนมปังยังคาอยู่ที่ปาก
เมืองแห่งนี้คือเมืองเทมาริสเป็นเมืองค่อนข้างเล็กตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบกลมสีฟ้านี้ ภายในเมืองมีครอบครัวอาศัยอยู่ประมาณห้าสิบครัวเรือน สถานที่สำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ตลาด หรือโรงเรียนจึงตั้งขึ้นเพียงแห่งเดียวเพื่อสนองความต้องการของบุคคลในชุมชน และโรงเรียนที่เด็กชายกำลังเดินทางไปเรียนนี้ก็ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพรรณซึ่งไม่ห่างไกลจากบ้านของเขาเท่าไรนัก
เฮ้อ ถึงซะที เลียงผาหอบแฮ่กๆอยู่หน้าประตูโรงเรียน
โรงเรียนสัตศาสตร์เขายืนอ่านป้ายชื่อที่เด่นชัดด้วยตัวอักษรสีทองอย่างตั้งใจ
ที่นี่ใช่โรงเรียนรึเปล่า?เด็กผู้ชายร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยคนหนึ่งที่เดินตามหลังมาร้องถาม เขาเป็นเด็กที่มีความแตกต่างกับเลียงผาอย่างเห็นได้ชัดคือเลียงผาเป็นเด็กตัวเล็ก ผอมบาง ผิวสีน้ำตาลคล้ำจนเกือบดำ ผมสีดำสนิทกับดวงตาสีดำกลมโตที่เป็นประกายกล้า ผิดกับเด็กตุ้ยนุ้ยคนนี้ที่มีรูปร่างพอๆกับลูกหมูและเมื่อบวกกับผิวสีชมพูสดใส ผมและดวงตาตี่ๆสีน้ำตาลอ่อนแล้วยิ่งทำให้เลียงผาอดนึกไปถูกลูกหมูตัวโตไม่ได้
นายเป็นนักเรียนใหม่ใช่ไหมเลียงผาถามขึ้น
ใช่ แหมนายนี่ฉลาดจัง
เด็กชายอดยิ้มรับคำชมนั้นไม่ได้ แต่แหมดูแค่นี้ก็รู้แล้ว ท่าทางเอ๋อๆแบบนั้นเป็นใครก็ดูออกกันหมดแหละ
แล้วนายล่ะตุ้ยนุ้ยคนนั้นร้องถามเลียงผาบ้าง
ฉันก็เพิ่งมาเรียนเป็นวันแรกนี่แหละ
งั้นเราก็เป็นเพื่อนกันได้สิ
อ้อ แน่นอน ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ ฉันชื่อเลียงผาเขาบอกชื่อตัวเองอย่างภูมิใจ
ฉันชื่อหมูน้อยตุ้ยนุ้ยพูดด้วยท่าทางเขินอาย
ยินดีที่ได้รู้จักหมูน้อย เข้าไปข้างในด้วยกันเถอะ
และแล้วเด็กทั้งสองก็เดินตามนักเรียนคนอื่นๆเข้าไป
สวัสดีนักเรียนใหม่ทุกคน ฉันคือครูสุธิศรเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ฉันมีหน้าที่ในการดูแลพวกเธอทุกๆคนให้อยู่ในระเบียบและตั้งใจเรียน ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่เธอต้องอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นพวกเธออาจต้องระเห็จออกจากที่นี่ไปก่อนที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอทำผิดข้อหาอะไรครูใหญ่หน้ายักษ์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก เลียงผาอดไม่ได้ที่จะสำรวจไปรอบๆหอประชุมแห่งนี้ ปีนี้มีนักเรียนเข้าเรียนใหม่ประมาณยี่สิบกว่าคน นักเรียนส่วนใหญ่จะนั่นก้มหน้าฟังครูใหญ่พูดด้วยท่าทางขลาดๆทั้งนั้น ซึ่งรวมทั้งหมูน้อยเพื่อนใหม่ของเด็กชายที่ออกจะเป็นเอามากกว่าคนอื่น หมูน้อยมีสีหน้าจวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว
เป็นอะไรไปนะหมูน้อย
ฉันกลัวเด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
เขาไม่ได้ว่านายซะหน่อย เขาพูดรวมๆถึงทุกคนในห้องต่างหาก
ก็ ทำไมจะต้องตะโกนอย่างนั้นด้วย นายไม่กลัวรึไงหมูน้อยถามเมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยของเลียงผา
ไม่เลยสักนิด ฉันไม่ได้ทำผิดทำไมต้องกลัวด้วย
เอาล่ะต่อไปครูจะแนะนำคุณครูท่านอื่นๆให้
หมูน้อยมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นครูใหญ่เดินลงมาจากเวที ปล่อยให้ครูท่านอื่นๆขึ้นไปพูดแทนบ้าง
สวัสดีจ๊ะนักเรียนที่น่ารักทุกคน ครูชื่อครูฝ้ายจ๊ะ ครูจะเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอทุกคนในปีนี้ หวังว่าพวกเธอคงไม่ทำให้ครูผิดหวังนะจ๊ะ
แหมมีครูประจำชั้นใจดีอย่างนี้ค่อยรู้สึกดีหน่อยหมูน้อยพึมพำเบาๆ
ครูฝ้ายเป็นหญิงสาวสวยน่ารักที่มีผมสีทองยาวสลวยปะบ่า ดวงตาสีน้ำผึ้งภายใต้แว่นตาสีทองที่ฉายประกายเอื้อเอ็นดูกับลักยิ้มทั้งสองข้างที่แก้มยิ่งทำให้ครูฝ้ายยิ่งดูน่ารักขึ้นอีกมาก
และต่อๆไปก็ถึงคราวของครูท่านอื่นๆบ้าง มีครูลี...หญิงชราแก่ๆรูปร่างเล็กท่าทางใจดีซึ่งเป็นครูประจำอยู่ห้องพยาบาล ครูพิณ...ครูสอนประวัติศาสตร์ท่าทางเชยๆเฉื่อยๆที่ทำให้นักเรียนหลายคนต้องอมยิ้มกับรูปร่างกลมๆสีน้ำตาลเข้มของเธอและการพูดจาที่ดูจะคงเส้นคงวาเป็นน้ำเสียงเดียวกันตลอดการแนะนำตัว และก็ยังมีครูอีกหลายคนที่เลียงผาจำชื่อไม่ได้
นายชอบครูคนไหนหมูน้อยถามขึ้นขณะทยอยกันเดินออกจากหอประชุมเพื่อเข้าห้องเรียน
ฉันชอบครูฝ้าย เราคงโชคดีที่เจอครูประจำชั้นแบบนี้
อืมเหมือนกันเลย แต่ครูประพาที่สอนภาษาศาสตร์คนนั้นก็ท่าทางใจดีนะ แต่น่ารักน้อยกว่าครูฝ้ายหน่อยหมูน้อยออกความเห็น ครูประพา...เท่าที่เลียงผาเห็นเธอเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่งกายทันสมัยและก็แต่งหน้าค่อนข้างจัดทำให้นักเรียนหลายๆคนลงความเห็นว่าเธอดูจะสวยกว่าครูฝ้ายที่แทบไม่แต่งตัวเลย
เอ้าถึงแล้วจ๊ะห้องเรียนของพวกเธอครูฝ้ายบอกเมื่อเดินข้ามตึกมาถึงห้องสีขาวสะอาดสะอ้านที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างลงตัว โต๊ะนักเรียนทั้งยี่สิบสี่ตัวที่ตั้งอยู่กลางห้องถูกจัดให้หันหน้าเข้าหากันเป็นตัวยู มีกระดานดำขนาดใหญ่ติดผนังหน้าห้อง และโต๊ะครูที่ตั้งอยู่ริมขวาสุด ด้านหลังห้องเป็นชั้นขนาดใหญ่ที่ถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน โดยด้านขวาสุดมีของมากมายวางอยู่เต็มไปหมด
เอาหนังสือกับของต่างๆไปเก็บไว้ที่ชั้นนะจ๊ะ แล้วครูจะทำป้ายชื่อติดให้ทีหลังครูฝ้ายกล่าว และนักเรียนทุกคนก็กรูกันไปยังชั้นวางหนังสือ
เอาล่ะทีนี้เราก็มาทำความรู้จักกันดีกว่า พวกเธอรู้จักครูกันไปแล้ว แต่ครูยังไม่รู้จักพวกเธอเลย ไหนลองบอกครูสิจ๊ะว่าชื่ออะไรกันบ้างครูฝ้ายพูดขึ้นหลังจากที่นั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว
ผมชื่อสิงห์ครับ
ชิมครับเด็กชายผิวสีหมึกกล่าว
แมวค่ะ
แก้วค่ะ
มดครับ
หนูค่ะ
ห่านกับหงส์ครับฝาแฝดชายหญิงที่นั่งข้างๆเลียงผาเอ่ยขึ้น เด็กชายจึงอดลอบมองเพื่อนใหม่คู่นี้ไม่ได้ ทั้งสองคนมีลักษณะเหมือนกันมากจนแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร ทั้งดวงตากลมโตสีดำสนิทกับผิวขาวและรูปร่างโปร่งบาง จะมีก็เพียงแต่ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวสลวยของเด็กสาวกับผมรองทรงตัดสั้นของเด็กชายที่สร้างความต่างให้กับฝาแฝดคู่นี้
เอ้าหนุ่มน้อยคนต่อไปล่ะจ๊ะครูฝ้ายร้องถาม
ผมชื่อเลียงผาครับ
เลียงผารอด้วยสิหมูน้อยร้องเรียกก่อนพาร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยของเขาวิ่งตามเด็กชายมา
มีอะไรเหรอ
กลับบ้านด้วยกันนะ?
ก็ได้ ว่าแต่บ้านนายอยู่ไหนล่ะ
ข้างตลาดนี่เอง
พวกเราไปด้วยสิฝาแฝดชายหญิงร้องถามขึ้นเมื่อได้ยินเด็กสองคนสนทนากัน
บ้านพวกเราอยู่หน้าตลาดนั่นแฝดหญิงบอก
อืม งั้นไปด้วยกันเลย
และแล้วเด็กทั้งสี่คนก็เดินกลับบ้านพร้อมกัน
นายชื่อเลียงผาใช่ไหม ส่วนนายชื่อหมูน้อยแฝดชายเอ่ยขึ้นท่าทางเขาจะเป็นคนความจำดีไม่น้อยเลย
นายนี่จำแม่นจัง ว่าแต่นายสองคนชื่ออะไรนะฉันจำไม่ได้หมูน้อยถามหน้ามุ่ย
เราชื่อห่านกับหงส์
อ้อ!ร่างตุ้ยนุ้ยร้องเสียงดังทั้งๆที่จำไม่ได้เลยว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
ถึงแล้วล่ะบ้านของเรา
บ้านฝาแฝดคู่นี้เป็นบ้านไม้หลังเล็กกะทัดรัดที่ตั้งอยู่หน้าตลาดพอดี หน้าบ้านถูกวางระเกะระกะไปด้วยกะละมังใบใหญ่หลายใบที่มีตาข่ายคลุมมิดชิด และเมื่อเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าภายในกะละมังแต่ละใบนั้นเต็มไปด้วยปลาหลากหลายชนิดที่กำลังดิ้นกระโดดไปมา
บ้านนายขายปลาเหรอ?หมูน้อยร้องถามด้วยท่าทางทึ่งจัด
แต่ยังไม่ทันที่ฝาแฝดทั้งคู่จะพูดอะไร ร่างๆหนึ่งอันแสนใหญ่โตก็เดินเข้ามาหาเด็กทั้งสี่ ร่างๆนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนดกยาวสีน้ำตาลเข้ม จมูกสีดำขนาดใหญ่และฟันอันแหลมคมที่กำลังแยกเขี้ยวอยู่ในขณะนี้
ว๊าก...หมีหมูน้อยกระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังเลียงผาด้วยท่าทางตื่นกลัว แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรไม่ได้มากนักเพราะร่างเล็กกะทัดรัดของเด็กชายแทบจะบังไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของร่างตุ้ยนุ้ยนั่น
นี่พ่อเราเองแหละหมูน้อย
หวัดดีครับเลียงผายกมือไหว้หมียักษ์ตนนั้นทำให้หมูน้อยต้องทำตามด้วยท่าทางขลาดๆ
เพื่อนใหม่เหรอลูกหมียักษ์หันมาถามแฝดทั้งสองพร้อมกับร่างและขนที่หดลงจนกลายสภาพเป็นคนธรรมดาที่มีรูปร่างใหญ่โตและผิวสีน้ำตาลเข้ม
พ่อเพิ่งกลับมาจากป่าเหรอครับ
อืม ได้ปลามาเยอะเชียว แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะวันแรกที่โรงเรียน
ได้เพื่อนเยอะเลยค่ะ นี่ไงคะเพื่อนใหม่ของเราเลียงผากับหมูน้อยแฝดหญิงแนะนำเพื่อนทั้งสองให้พ่อรู้จัก
เข้ามาในบ้านกันก่อนไหมนายหมียักษ์หันมาถามเด็กทั้งสอง
ไม่ดีกว่าครับ พวกผมจะรีบกลับบ้านเลียงผายกมือไหว้อีกครั้งก่อนเดินจากมา
นายสองคนไม่เห็นเหมือนพ่อเลยเลียงผาอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อนั่งอยู่ในห้องเรียนวันต่อมา
พวกเราเหมือนแม่ พ่อบ่นใหญ่เลยที่เราสองคนไม่มีสัตว์ประจำตัวเป็นหมี
ทำไมล่ะ
จากคุณ :
ไฟลี่ - [วันมหาสงกรานต์ (13) 13:15:33]