ในขณะที่ประชาชนเมืองเทมาริสทั้งเมืองกำลังดำรงชีวิตอยู่อย่างสงบสุขท่ามกลางธรรมชาติและสัตว์ป่าทั้งหลาย เลยออกไปอีกด้านหนึ่งของป่ามหัศจรรย์ เลยข้ามทิวเขาหินสีดำทะมึนที่เปรียบเสมือนกำแพงกั้นระหว่างความอุดมสมบูรณ์และความแห้งแล้งเอาไว้ ณ อีกฟากหนึ่งของผืนโลกใบเดียวกันนี้คือที่ตั้งของเมืองหลังเขา เมืองที่ร้อนระอุและเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องจำนวนมากผุดขึ้นเรียงรายจนไม่มีเนื้อที่หลงเหลือพอให้สีเขียวแห่งพงไพรได้แทรกลง ทุกๆส่วนของเมืองนี้ถูกปูไว้ด้วยถนนคอนกรีตสีเทา มีตึกอาคารรูปร่างต่างๆตั้งเรียงเป็นตับ บ้างก็มีสีขาวสะอาดตา บ้างก็เป็นสีเทากระดำกระด่างบ่งบอกถึงการขาดความเอาใจใส่ แต่สิ่งหนึ่งที่อาคารเหล่านี้มีเหมือนกันนั้นก็คือปราศจากสีเขียวและวัสดุที่นำมาสร้างอาคารก็ล้วนแล้วแต่เป็นปูน กระเบื้อง หรือไม่ก็อะลูมิเนียมทั้งสิ้น
นอกจากนั้นแล้วบนถนนคอนกรีตทุกสายในเมืองแห่งนี้ล้วนอัดแน่นไปด้วยยวดยานรูปร่างแปลกตาต่างๆมากมาย เหนือขึ้นไปคือท้องฟ้าสีหม่นปราศจากก้อนเมฆในฤดูหนาว หรืออาจเป็นฟ้าสีแดงฉาดที่มีเพียงดวงอาทิตย์และแสงแดดอันร้อนแรงครอบครองอยู่ในฤดูร้อน แต่ส่วนมากแล้วสายตาของทุกคนมักจะถูกบดบังไว้ด้วยกลุ่มควันท่อไอเสียและยานบินที่คับคั่งอยู่บนเส้นทางท้องฟ้า
หากจะพูดให้ถูกก็คือว่า ณ เมืองแห่งนี้แทบจะไม่มีที่ใดยอมถูกให้ทิ้งไว้ว่างเปล่าพอที่จะมีต้นหญ้าหรือวัชพืชสักต้นขึ้นให้เห็นเลย
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้....
ท่านจะไปไหนหรือขอรับหุ่นยนต์คนขับรถเอ่ยถามอย่างสุภาพกับเจ้านาย
ไปหอประชุมกลางเสียงตอบดังออกมาจากหน้ากากโลหะของเจ้านายร่างใหญ่
และแล้วยานบินขนาดมหึมาก็ถลาบินขึ้นสู่ฟ้าท่านกลางแสงแดดอันร้อนระอุของต้นฤดูร้อน
หอประชุมทรงแปดเหลี่ยมที่ตั้งสูงเด่นสะดุดตาใครต่อใคร ในวันนี้เป็นที่แจ้งประจักษ์กันดีว่าจะมีการประชุมสามัญประจำปีเรื่องการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและมลพิษของชาวเมืองขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ยวดยานพาหนะมากมายต่างลงจอดกันบริเวณหน้าอาคารทรงแปดเหลี่ยมพร้อมๆกันผู้คนภายใต้หน้ากากโลหะที่ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าอาคารไปอย่างรีบร้อน
เฮ้อ ค่อยหายใจสะดวกหน่อยเศรษฐีคนนั้นถอดหน้ากากออกเมื่อเข้ามาถึงภายในอาคาร ใบหน้าหลังหน้ากากโลหะนั้นมีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยชั้นไขมันส่วนเกินที่เพิ่มพูนขึ้นจนแทบจะล้นออกมา ดวงตาสีเทาเข้มปราศจากขนตาขนคิ้วที่บ่งบอกถึงความเจ้าอารมณ์และเด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจ และเมื่อบวกกับผมสีขาวบนศีรษะที่หลงเหลืออยู่น้อยเต็มทีช่วยส่งผลให้บุคคลผู้นี้ดูน่าเกลียดและน่ากลัวไปพร้อมๆกัน
ท่านวุฒิเชิญค่ะ การประชุมจะเริ่มขึ้นภายในสิบนาทีนี้หญิงสาวฝ่ายต้อนรับเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินนำเศรษฐีแก่ไปยังห้องประชุมที่จัดเตรียมไว้
มากันครบแล้วรึยังเสียงแหบพร่าเอ่ยถามด้วยอารมณ์ค่อนข้างหงุดหงิด
เออ...ยังขาดท่านทะนงค่ะเสียงเล็กเบาตอบด้วยอาการสั่นเทา
ไป้ โทรไปตามมันมาให้ถึงที่นี่ภายในสิบนาทีนี้ชายแก่ตะโกนออกคำสั่งไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
ค่ะ....ค่ะหญิงสาวละล่ำละลักจากไป
แล้วอารมณ์ของเศรษฐีแก่ก็ยังคงบูดสนิทเมื่อการประชุมเริ่มขึ้นโดยขาดผู้เข้าร่วมประชุมคนสำคัญไปหนึ่งคน
มันอยู่ไหนเสียงทรงอำนาจถามขึ้น
กำลังเดินทางมาอยู่ค่ะ
ท่านวุฒิคิดอย่างไรกับข้อเสนอของท่านภงธนาบ้าง
ไอ้การคุมกำเนิด ลดอัตราการเกิดของท่านมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ว่าข้อเสนอของท่านเนี่ยกว่าจะเห็นผลคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี แล้วระยะเวลาระหว่างนี้ไปจนถึงตอนนั้นพวกเรามิต้องตายกันหมดเหรอเศรษฐีอ้วนผู้เป็นประธานการประชุมตำหนิ
ตอนนี้เมืองของเรากำลังประสบปัญหาประชากรล้นเมืองและการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โดยคาดว่าเสบียงอาหารสำรองทั้งหมดที่มีอยู่คงจะหมดไปภายในสองถึงสามปีนี้อย่างแน่นอนเลขาการประชุมรายงาน
เราอพยพไปหาที่อยู่ใหม่กันไม่ดีกว่าเหรอผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งเสนอ
เป็นความคิดที่ดี แต่สถานที่แห่งนั้นมันอยู่ไหนกันล่ะ
มีอยู่ที่หนึ่ง เลยออกไปอีกด้านหนึ่งของทิวเขาหินสีดำ บริเวณนั้นเราเคยส่งยานออกไปสำรวจดูแล้ว พื้นที่แห่งนั้นยังคงเป็นป่าไม้ขนาดกว้างที่อุดมสมบูรณ์ รู้สึกว่าจะได้รับสมญาว่าเป็นป่ามหัศจรรย์ และติดกับชายป่าด้านหนึ่งก็เป็นที่ตั้งของเมืองเทมาริส
ฮึ ๆ นี่ท่านยังเชื่อตำนานเทพปรัมปรานั่นอีกเหรอชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูก
ข้าไม่ได้เชื่อแต่ตำนานนี้มีอยู่จริงนะท่าน เทพีอาร์เทมิสทรงสร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นจริง
เอาเถอะๆจะยังไงก็ตามเจ้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับป่าแห่งนี้และเมืองเทมาริสนี้มาให้ข้าด้วย อีกสิบสองวันเราจะมีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าป่าแห่งนี้น่าสนใจอย่างที่เจ้าว่าจริง ต่อให้จะต้องทำลายเมืองเทพแห่งนั้นข้าก็จะยึดป่าแห่งนี้มาเป็นของเราให้จงได้!!!ชายชรากล่าวน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลงทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน วุฒิ...เศรษฐีชราผู้นั้นก็ยังคงนั่งรออยู่ในห้องประชุมด้วยอารมณ์บูดเน่าที่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วห้อง ไม่นานนักประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดขึ้น ผู้ที่เดินเข้ามาคือเด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงชะลูด
เพิ่งมาเอาป่านนี้ การประชุมเขาเริ่มกันตอนเย็นรึไงน้ำเสียงประชดประชันดังขึ้นจากผู้ที่นั่งรออยู่
ผมจะมาหรือไม่มา มันก็ไม่ได้เป็นผลอะไรกับการประชุมอยู่แล้วนี่ครับชายหนุ่มตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ดีนี่ งั้นคราวหน้าแกก็ไม่ต้องมาเลยล่ะกัน
ครับเขารับคำอย่างว่าง่าย เป็นผลให้ดีกรีความโกรธของเศรษฐีอ้วนเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
ออกไปเลยนะ แล้วไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีกเขาตวาดไล่
ขอบคุณครับ ผมเองก็ไม่คิดที่จะมาอยู่แล้ว ไอ้การประชุมกับแนวความคิดของพวกท่านเนี่ยมันไม่ได้มีอะไรสร้างสรรค์เลยแล้วชายหนุ่มก็เดินจากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาอีก
สิบสองวันผ่านไป .... ในการประชุมครั้งใหม่นี้ได้มีการจัดการบรรยายเกี่ยวกับสภาพของป่ามหัศจรรย์และเมืองเทมาริสขึ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้รับทราบ
ป่ามหัศจรรย์แห่งนี้มีพื้นที่ไม่ต่ำกว่าห้าแสนไมล์ซึ่งนั่นยังไม่รวมถึงดินแดนและเขตลึกลับในตำนาน มีป่าหลากหลายชนิดปะปนกันอยู่ทั้งทุ่งหญ้าเขตร้อน ป่าดงดิบ ป่าชายเลน ทะเลทราย หรือแม้กระทั่งป่าเมืองหนาวในเขตขั้วโลก ณ ใจกลางป่าแห่งนี้คือทะเลสาบอันกว้างใหญ่ซึ่งเชื่อกันว่าเทพีอาร์เทมิสเทพีแห่งธรรมชาติและผืนดินทรงอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และในบริเวณชายป่าด้านตะวันออกนั้นเป็นที่ตั้งของเมืองเทมาริส เมืองในตำนานที่เทพีอาร์เทมิสทรงสร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้อาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าอื่นๆอย่างสงบพร้อมยังได้มอบหน้าที่ในการดูแลพิทักษ์ผืนป่ามหัศจรรย์ไว้กับพวกเขาด้วย
แล้วตำนานเวทมนต์แปลงร่างของพวกชาวเมืองเทมาริสนั้นจริงเท็จเพียงใดผู้เข้าร่วมประชุมท่านหนึ่งเอ่ยแทรกถามขึ้น
ยานสำรวจของเราไม่สามารถลดระดับลงไปได้ต่ำกว่าห้าหมื่นฟุต ฉะนั้นจึงไม่สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ หรือสืบหาวิถีการดำรงชีวิตของชาวเมืองแห่งนี้ได้ผู้รายงานกล่าว
จะจริงหรือเท็จนั้นไม่สำคัญหรอก เพราะไม่ว่าเวทมนต์ใดๆก็ไม่อาจมาสู้รบปรบมือกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ของพวกเราได้ท่านวุฒิกล่าวด้วยความมั่นใจ
การบรรยายจึงดำเนินต่อไป....
หากพูดถึงทรัพยากรของป่าแห่งนี้แล้วถือว่าสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราค้นพบมา พันธุ์ไม้ต่างๆที่เคยพบว่าสูญพันธุ์ยังคงเจริญงอกงามอยู่ในดินแดนแห่งนี้ รวมไปถึงแร่ธาตุในดินทั้งหลายโดยเฉพาะทองคำที่ยานสำรวจของเรารายงานกลับมาว่า มีทองคำถูกฝังอยู่มากมายบริเวณโดยรอบทะเลสาบ
เสียงฮือฮาแสดงความพออกพอใจดังขึ้นทั่วทั้งห้องประชุม
ถ้าเช่นนั้นสถานที่แห่งนี้ก็เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการอพยพในครั้งนี้ แล้วท่านคิดว่าเราจะใช้เวลาเตรียมการนานเท่าไรถึงจะพร้อมรบเศรษฐีอ้วนหันไปถามผู้เข้าร่วมประชุมท่านหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าด้านกำลังพลทหาร
ขอเวลาข้าอีกสองเดือนกำลังทหารของเราก็จะแกร่งไม่มีใครเทียบได้ชายร่างกำยำผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
ดี แล้วผลงานนักฆ่าไซเบอร์รุ่นใหม่ของท่านดอกเตอร์เล่า จะเสร็จภายในสองเดือนนี้หรือไม่เขาหันไปถามผู้เข้าร่วมประชุมอีกท่านหนึ่ง
มากเกินไปท่านวุฒิ ข้าขอเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้นแหละ หุ่นยนต์นักฆ่าของข้าก็จะพร้อมรับมือกับศัตรูทุกรูปแบบชายผู้ที่ถูกเรียกว่าดอกเตอร์กล่าวด้วยความหยิ่งผยอง
ดีมาก งั้นประกาศออกไปให้ประชาชนรับทราบเลยว่า อีกไม่เกินสามเดือนนี้เราจะมีการอพยพย้ายถิ่นฐานกันอีกครั้งหนึ่งนั่นคือคำสั่งสุดท้ายของการประชุมในวันนี้
ข่าวการอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อไปยังที่อยู่ใหม่ถูกประกาศออกไปอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น ทั่วทั้งเมืองหลังเขาแห่งนี้ต่างเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจ ท้องถนนที่เคยติดขัดไปด้วยยวดยานพาหนะกลับยิ่งติดแน่นมากขึ้นกว่าเดินเนื่องมาจากประชาชนทั้งหลายต่างพากันออกไปเลี้ยงฉลองและใช้จ่ายกันอย่างฟุ่มเฟือย
เห็นทางการประกาศว่าพบป่าแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์มากประชาชนหลายกลุ่มต่างวิพากษ์วิจารณ์และคาดหวังถึงสถานที่แห่งใหม่
รัฐบาลชุดนี้ไม่ทำให้พวกเราผิดหวังจริงๆ ข้ายังจำได้เลยนะเมื่อห้าปีก่อนที่ยึดเมืองแห่งนี้จากพวกชนผิวดำ ไม่รู้เลือกสถานที่กันยังไงทั้งป่าไม้และสัตว์ป่าแทบจะหาความสมบูรณ์ไม่ได้ แล้วเป็นไง...ไม่กี่ปีก็ต้องย้ายสถานที่กันใหม่หญิงชราคนหนึ่งกล่าว
โถ จะเอาอะไรกับตอนนั้น ก็เมืองก่อนโน้นที่เคยอยู่นะแทบจะเป็นทะเลทรายอยู่แล้ว หามาได้แค่นี้ก็ดีถมไปอีกคนหนึ่งแย้ง
ช่างอดีตมันเถอะน่า พวกท่านรอดูอนาคตของเรากันดีกว่า เฮ้อ ข้าจะได้ใช้อะไรให้มันเต็มเม็ดเต็มหน่วยหน่อย อุตส่าห์ประหยัดมาตั้งนานแล้ว
นั่นสิๆ ข้านะอยากมีบ้านทั้งหลังที่ทำจากสักทองสักหลังนึง เอาแบบต้นโตๆสักสามสี่คนโอบเลย
ข้าเอาบ้านทองคำเลยดีกว่า เห็นว่าพบทองฝังอยู่มากด้วยนี่
โธ่.....โธ่....ท่านคิดว่าพวกทองคำเนี่ยจะมีตกมาถึงเราเหรอ ข้าว่าไอ้บ้านทองคำอย่างที่ท่านฝันนั่นน่ะนะ นู้น...สงสัยไปถูกสร้างเป็นบ้านของไอ้เศรษฐีวุฒินู่น
ท่านก็อย่างโลภมากไปเลยน่า เราได้กันแค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว ปล่อยให้พวกมันคอรัปชั่นไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่ยังมีหลงเหลือมาถึงประชาชนอย่างเราๆบ้างก็พอแล้วล่ะเสียงชายชราคนหนึ่งกล่าวอย่างปลงๆ
พวกท่านคิดว่าการรบครั้งนี้จะสำเร็จไหม เห็นว่าคราวนี้บุกรุกถึงเมืองของเทพเลยนะชายหนุ่มคนหนึ่งแย้งขึ้นเรียบๆ
หนุ่มน้อยเอ๋ย! จะไปสนอะไรกับเทพเจ้าพวกนั้น ไม่ว่าพลังเทพหรือเวทมนต์อะไรก็ต้านทานวิทยาศาสตร์และมันสมองของดอกเตอร์ศศวัตรไม่ได้หรอกชายแก่ผู้อพยพถิ่นฐานมาหลายต่อหลายเมืองกล่าวอย่างมั่นใจ
ใช่ๆ ดอกเตอร์ศศวัตรนี่แหละเทพเจ้าตัวจริงล่ะอีกคนหนึ่งสนับสนุน
จากคุณ :
ไฟลี่ - [18 เม.ย. 45 07:29:59]