เรื่องเล่าจากแดนไกล(ตอนที่13)

    หลังงานเลี้ยงปลอบขวัญพวกเด็กๆในค่ำวันนั้น  ทุกๆคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามบ้านของตนที่เร่งสร้างจนเสร็จก่อนค่ำ  บ้านของเลียงผากับฝาแฝดอยู่ห่างกันเพียงแค่หลังคาเดียว  ส่วนของหมูน้อยอยู่ไกลกว่าเพื่อนเนื่องจากนายเขตายังคงต้องคอยดูแลผู้ป่วยอยู่ดังนั้นบ้านของเขาจึงจำเป็นต้องตั้งอยู่ใกล้หน่วยแพทย์เฉพาะที่
    เมื่อวันรุ่งขึ้นมาถึงได้มีการประชุมชาวเมืองทั้งหมด ณ บริเวณด้านหน้าทะเลสาบ  วันนี้ต่างหน้าดำคร่ำเคร่งกันทุกคน  เรื่องในที่ประชุมก็คือเรื่องเมืองที่ถูกบุกโจมตี
    “เราต้องยึดเมืองของเราคืน”ทุกคนเห็นด้วยกับคำเสนอของชาวเมืองผู้หนึ่ง
    “ใช่  ต้องแก้แค้นให้กับชาวเมืองที่ตายไป”
    เสียงโห่ร้องสนับสนุนดังกึกก้องไปทั่ว
    “เห็นทีเราคงหนีไม่พ้นสงครามจริงๆ”ท่านเจ้าเมืองกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ยิ่งนัก
    ดังนั้นการประชุมเรื่องเตรียมการรบจึงเกิดขึ้น  โดยเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าก่อนที่จะลงมือสู้กับศัตรูเราควรเรียนรู้พวกเขาเหล่านั้นให้มาก  ซึ่งผลสรุปในวันนั้นก็คือการจัดตั้งหน่วยลาดตระเวนขึ้นเพื่อล้วงความลับของศัตรูมาเสียก่อน
    หน่วยลาดตระเวนมีทั้งหมดสิบสองคน  แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆสามกลุ่มด้วยกันโดยกลุ่มแรกจะแปลงเป็นนกอินทรีบินไปทางอากาศ  กลุ่มสองจะแปลงเป็นตัวตุ่นดำดินลงไป  และกลุ่มสุดท้ายจะเป็นปลาว่ายไปตามลำธาร  การเดินทางของพวกเขาทั้งสิบสองเริ่มต้นทันทีที่การประชุมสิ้นสุดลง  หน่วยลาดตระเวนต่างเร่งรีบเดินทางโดยให้สัญญาว่าอีกสามวันจะนำข่าวสำคัญมาบอก

    อีกฟากหนึ่งของป่า ณ ดินแดนที่ซึ่งเคยเป็นบ้านอันแสนสงบสุขของชาวเมืองเทมาริส  บัดนี้ความสงบสุขและธรรมชาติอันแสนร่มรื่นแทบไม่มีหลงเหลืออยู่อีกเลย  บ้านหลังงามทุกหลังถูกพังราบเป็นหน้ากลอง  ต้นไม้สีเขียวสดขจีที่เหล่าชาวเมืองต่างทะนุถนอมกันมาเป็นเวลานานถูกโค่นล้มกลายเป็นเพียงท่อนซุงธรรมดาท่อนหนึ่ง  กองทัพหุ่นยนต์ยังคงกระจัดกระจายอยู่โดยรอบของเมือง  แม้ว่ากำลังพลจะอ่อนลงมากแล้วแต่นั่นก็ไม่ช่วยให้การบุกโจมตีใดๆทำได้ง่ายดายนัก
    “เคลียร์พื้นที่บริเวณนี้ให้ราบด้วย”ดอกเตอร์ชราสั่ง
    “ท่านจะทำอะไร?”แม่ทัพหนุ่มถามด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
    “ข้าต้องการพื้นที่เพื่อสร้างศูนย์วิจัยใหม่ของข้าให้ใหญ่โตและทันสมัยมากกว่าเดิม”
    “แต่ที่บริเวณนี้จะต้องเป็นสนามฝึกรบของข้านะท่าน”
    “เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนั้นท่านแม่ทัพ  ข้าเป็นผู้พบสถานที่นี้ก่อนข้าก็ต้องเป็นเจ้าของสิ”
    “ข้าต่างหากที่มาก่อน  ท่านก็เห็นว่าต้นไม้และสิ่งก่อสร้างต่างๆถูกรื้อถอนจนหมด  นั่นแหละฝีมือข้าเอง”
    “แต่การรื้อถอนสิ่งเหล่านั้นมันเป็นหน้าที่โดยตรงของท่านมาตั้งแต่ต้นแล้ว  ยังนี้ไม่เท่ากับท่านเป็นเจ้าของพื้นที่เมืองทั้งเมืองงั้นรึ”ชายชราแทบจะตวาดถาม
    “ถ้าท่านอยากคิดเช่นนั้นก็ได้”เขาตอบอย่างไม่ยี่หระนัก
    ดอกเตอร์ศศวัตรผละจากไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความโกรธ  แน่นอนเขาไม่ยอมแพ้แต่เพียงแค่นี้แน่  ชายชรากลับไปยังยานบังคับการ  ติดต่อถึงเศรษฐีวุฒิทันที
    “มีอะไรหรือดอกเตอร์”ชายร่างอ้วนถามอย่างร่าเริง
    “ท่านพอจะมีเวลามาที่เมืองนี้ไหม”
    “มีปัญหาหรือ  ข้ากะจะออกเดินทางพร้อมชาวเมืองทั้งหมด”
    “แต่ข้าอยากให้ท่านมาที่นี่ก่อน  ข้าพบที่ดินผืนหนึ่งเหมาะเจาะมากที่จะเป็นบ้านอันแสนสวยงามของท่าน”
    “อ้อ  เช่นนั้นเอง  ได้...แล้วข้าจะรีบไป  แต่ทำไมท่านถึงไม่จับจองมันเสียเองเล่า”
    “ข้าคิดว่าท่านในฐานะผู้นำของเมืองเราควรมีสิทธิ์ที่จะจับจองดินแดนที่เราล่ามาได้ก่อนเป็นคนแรก”ชายชราตอบด้วยน้ำเสียงและแววตาที่ซ่อนไว้ภายในอย่างมิดชิด
    ในช่วงเย็นของวันนั้นท่านเศรษฐีวุฒิก็เดินทางมาถึงเมืองเทมาริสแห่งนี้ด้วยยานบินส่วนตัวซึ่งได้รับการออกแบบโดยดอกเตอร์ศศวัตรและมีเพียงลำเดียวในเมืองหลังเขา
    “ข้าอยากเห็นผืนดินผืนนั้นแล้วสิว่ามันงามดังเช่นท่านว่าไหม”
    “รอให้เช้าก่อนดีกว่าท่าน  เมืองแห่งนี้เมื่อตกกลางคืนก็มืดและเงียบสงัดวังเวงเสียเหลือเกิน”
    “อีกหน่อยมันก็จะเต็มไปด้วยแสงสีแล้ว”
    “มันคงเป็นเมืองที่สวยงามมาก”
    “แน่นอน”ชายร่างอ้วนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
    “ว่าแต่ท่านนำสิ่งที่ข้าขอมาด้วยรึเปล่า”
    “เอามาสิ”เศรษฐีอ้วนตอบพลางยื่นกล่องบรรจุผลึกแก้วใสสี่เหลี่ยมหลายสิบแท่งให้
    “ท่านจะเอาไปทำอะไร  พลังงานจากผืนดินแห่งนี้ยังสร้างไม่ได้หรือ”
    “ข้าเอามาเผื่อสำรองไว้ก่อนกันความผิดพลาด  พลังงานจากผืนดินแห่งนี้มีมากพอให้ท่านใช้ได้อีกนานเลยเชียวล่ะ”ชายชรากล่าว
    ในยามดึกที่ฟ้าปราศจากแสงดาว  ร่างในเงามืดร่างหนึ่งเดินลอดผ่านกองทัพหุ่นยนต์และเครื่องรักษาความปลอดภัยเข้าไปยังยานรบลำใหญ่สีดำทะมึนที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางยานลำเล็กลำน้อยต่างๆ  ร่างๆนั้นมุ่งตรงไปยังห้องบังคับการอย่างชำนาญทางก่อนจะเปิดประตูเดินตรงเข้าไปยังเครื่องจักรกลขนาดยักษ์กลางห้องซึ่งเป็นวิทยาการทันสมัยชิ้นใหม่ล่าสุดที่สร้างขึ้นเพื่อการรบโดยเฉพาะ
    “ในเมื่อข้าเป็นผู้สร้างหุ่นเหล่านั้นขึ้นมา  ข้าก็ควรเป็นผู้ควบคุมมันสิ”เสียงแหบพร่าของชายชรารำพึงออกมา
    แล้วเขาก็ดึงผลึกแก้วใสออกมาจากเสื้อคลุม  ในห้องอันมืดสนิทเช่นนั้นผลึกแก้วแท่งโตเปล่งแสงเป็นประกายสีรุ้งจนทำให้ห้องทั้งห้องดูสว่างขึ้นทันตา  มือเหี่ยวย่นของเขาล้วงเอาแผ่นชิพขนาดจิ๋วจากกระเป๋าบรรจุลงในแท่งแก้ว  ก่อนจะใส่ผลึกแท่งนั้นแทนที่ผลึกแท่งเก่าที่กลายเป็นสีดำไปกว่าครึ่งแท่ง
    “ข้าไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของไอ้โง่ตัวไหน”ว่าแล้วชายชราก็ถอดชิพจากผลึกแก้วสีดำ  บดขยี้มันด้วยปลายเท้าอย่างสะใจ
    ในวันรุ่งขึ้นแผนทุกอย่างเป็นไปตามที่ชายชราคาดไว้  เขาพาเศรษฐีวุฒิไปยังที่ดินผืนนั้น  ชายอ้วนดูจะชื่นชอบที่ดินผืนนี้มาก
    “ท่านนี่ตาแหลมจริงๆดอกเตอร์  ที่ดินบริเวณนี้เหมาะสร้างเป็นบ้านข้าจริงๆ  ขอบใจท่านมาก  อ้อท่านแม่ทัพด้วย  อุตส่าห์อดหลับอดนอนเพื่อมาเกลี่ยที่ให้ข้า”ชายอ้วนหันไปพูดกับแม่ทัพหนุ่มทศยศ
    “ข้าดีใจที่ท่านชอบ”ชายหนุ่มกัดฟันตอบ  เก็บความคั่งแค้นไว้ภายใน
    “ท่านแม่ทัพคิดว่าเราจะพร้อมย้ายเมืองเมื่อไหร่”
    “อย่างเร็วที่สุดก็คงต้องเป็นเดือนหน้า”
    “ฟังดูช้าไปสำหรับชาวเมืองนะ  แต่ก็เอาเถอะข้าขอบใจท่านทั้งสองมากที่ช่วยกันทำให้งานทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยดี  ชาวเมืองต่างชื่นชมท่านกันใหญ่”เศรษฐีอ้วนกล่าวอย่างรื่นรมย์แล้วเขาก็ผละออกไปสำรวจที่ดินโดยรอบพร้อมกับสั่งงานเพื่อเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่
    “ฉลาดดีนี่ดอกเตอร์ที่เชิญท่านวุฒิมา”ชายหนุ่มหันมาพูดกับดอกเตอร์ด้วยดวงตาวาวโรจน์
    “ข้าเป็นคนตรงท่านแม่ทัพ  ทำอะไรย่อมต้องเปิดเผยเสมอ”ชายชราตอบด้วยแววตาและน้ำเสียงไม่แพ้กัน
    “ดี  หวังว่าความตรงของท่านคงไม่ทำให้ท่านต้องลำบากหรอกนะ”
    “ข้ามั่นใจในสิ่งที่ข้าทำเสมอท่านแม่ทัพ”ชายชรากล่าวก่อนผละจากไปด้วยความสะใจทิ้งให้แม่ทัพหนุ่มยืนหัวเสียอยู่ตามลำพัง
    กลับมามองทางด้านชาวเมืองเทมาริสบ้าง  เวลาผ่านไปสามวันหน่วยลาดตระเวนทั้งสิบสองคนก็กลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับข่าวที่สร้างความแตกตื่นให้กับชาวเมือง
    “บ้านเรือนและต้นไม้ทุกหลังของเราถูกโค่นทิ้งราบหมด”หน่วยบินกล่าวด้วยความเศร้าสลด
    “มันทำอย่างนั้นเพื่ออะไรกัน”ชาวบ้านผู้หนึ่งกัดฟันถาม
    “ก็คงต้องการพื้นที่ไปสร้างเมืองของมันนั่นแหละ  มันช่างโง่นักที่ไม่รู้จักค่าของต้นไม้”
    “แล้วทางด้านกองทัพพวกมันล่ะ”ท่านเจ้าเมืองถาม
    “มีการวางตำแหน่งไว้รอบเมือง  แม้จะจำนวนไม่มากนักแต่เมื่อเทียบกับกำลังของเราในขณะนี้คิดว่าคงยากจะเอาชนะได้”หน่วยทางน้ำกล่าว
    “แล้วนี่เราจะไม่มีทางยึดเมืองคืนเลยงั้นรึ”
    “หน่วยข้ามีข่าวสำคัญ”หัวหน้าหน่วยใต้ดินบอกแก่ท่านเจ้าเมือง
    “ว่ามา”
    “ในคืนที่เราเดินทางไปถึง  ข้าเจอชายสองคนกำลังเจรจากันอยู่  พวกเขากำลังสนทนาถึงเรื่องอะไรข้าไม่แน่ใจนักแต่ข้าจับใจความได้อย่างหนึ่งก็คือ  กองทัพของพวกเขาดูเหมือนจะถูกควบคุมและได้รับพลังงานมาจากเจ้าผลึกแท่งใสที่ชายคนหนึ่งนำติดตัวมาด้วย”
    “นั่นอาจเป็นแหล่งพลังงานหลักของพวกมัน  ว่าแต่มันต้องมีเครื่องส่งและควบคุมพลังงานนั่นด้วย  มันอยู่ที่ไหนกัน”ท่านเจ้าเมืองถาม
    “ข้าคิดว่าคงเป็นยานสีดำลำใหญ่ที่มีการป้องกันหนาแน่นนั่น”หน่วยทางอากาศคาดการณ์
    “ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง  สงครามคราวนี้อาจไม่เหนือบ่ากว่าแรง”ท่านเจ้าเมืองสรุป
    และเพื่อสร้างความมั่นใจและความพร้อมในการปฏิบัติการ  ท่านเจ้าเมืองจึงได้ส่งสายออกไปอีกสามหน่วยเพื่อเช็คสภาพทุกอย่างของเมืองในขณะนั้น
    “ข้อมูลของหน่วยแรกที่ได้มานั้นเป็นจริง  หุ่นยนต์ทุกตัวจะมีไมโครชิพอยู่ซึ่งถูกตั้งระบบให้รับคำสั่งจากห้องบังคับการภายในยานสีดำลำใหญ่ที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุด  มีบุคคลเพียงไม่กี่คนที่เข้าไปในนั้นได้  ดังนั้นหากต้องการทำลายกองทัพพวกมันแล้วล่ะก็เราต้องหาทางเข้าไปยังห้องบังคับการนั่นให้ได้แล้วทำลายเครื่องควบคุมหุ่นของมันซะ”สายสืบรายงาน
    “แล้วคนของฝ่ายนั้นล่ะ”
    “การบุกโจมตีครั้งนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้กำลังพลมนุษย์น้อยมาก  บุคคลสำคัญเห็นจะมีอยู่เพียงสามคนเท่านั้นคือ  แม่ทัพซึ่งเป็นผู้ควบคุมกองทัพทั้งหมด  ชายชราคนหนึ่งซึ่งเป็นมันสมองของกองทัพ  แล้วก็ชายอ้วนคนหนึ่งซึ่งคนเป็นผู้นำสูงสุดของฝ่ายนั้น”
    “ข้าว่าถ้าเราจัดการกับกองทัพหุ่นได้คนเหล่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของเราแล้ว”
    “งั้นท่านคิดว่าเราควรจัดการอย่างไรดี”ท่านเจ้าเมืองถาม
    “หาคนแฝงตัวเข้าไปทำลายยานลำนั้น”ชาวบ้านคนหนึ่งเสนอ
    “ท่านจะแฝงตัวเข้าไปอย่างไรในเมื่อเราออกจะต่างจากเขามาก”เจ้าเมืองติง
    “ข้าไม่ได้ให้ปลอมตัวเข้าไปแต่ข้ากำลังบอกให้เขาแปลงกายเข้าไปต่างหาก!!  ข้าไม่คิดว่าฝ่ายนั้นจะล่วงรู้ความลับของพวกเรา”
    “ท่านจะทำจะจัดการอะไรก็รีบทำเข้าเถอะ  เพราะอีกไม่นานพวกมันคงจะย้ายชาวเมืองทั้งหมดเข้ามาอาศัยอยู่  และเมื่อถึงเวลานั้นพวกเราคงลำบากขึ้น”สายสืบอีกคนกล่าวเตือน

    จากคุณ : ไฟลี่ - [วันฉัตรมงคล 09:06:08]