ท่านประธานาธิบดี
**********
แมรี เอ็บบิ้นเคยได้ยินไดเฟังเรื่องผีท่านอับราฮัม ลิงคอล์นมาหลายต่อ หลายเรื่อง
ประธานาธิบดีท่านต่างๆและลูกจ้างในทำเนียบขาวล้วนเคยได้เห็นท่านประธานนาธิบดีผู้ล่วงลับ เพ่นพ่านไปมาในเขตที่พักมากว่าเจ็ดสิปปีแล้ว บางคนงุนงง บางคนหวาดผวา แต่ท่านไม่เคยอยู่นานเกินชั่วครู่
จนกระทั่งถึงคืนนี้
มีงานเลี้ยงรับรองจัดที่ชั้นล่างและท่านเลขานุการจัดแจงสะสางงานเอกสารอยู่ในห้องทำงานห้องเล็ก ๆ ชั้นบน
เสียงกุกกักของเตียงในห้องติดกันดังรบกวนสมาธิ หล่อนจึงเข้าไปดูด้วยใจกระหายใคร่รู้แล้วก็ได้พบว่าท่านประธานนาธิบดีคนที่สิบหกยืนอยู่บนเตียง กำลังถอดรองเท้าบู้ตอยู่ เมื่อท่านเหลือบมาเห็นหล่อน ก็หยุดแล้วหันมายิ้มให้
แมรีรีบวิ่งผละจากห้องไป ขณะผลุนผลันออกมาก็ประจัญหน้ากับวิลสัน เกรฟ พนักงานรับใช้ หล่อนสั่งให้เขาไปห่างๆห้องนอนนั้น ชายผู้สูงอายุกว่าถามว่าทำไม หล่อนก็ได้แต่ห้ามซ้ำ แล้ววิ่งจากไป วิลสันเกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา จึงวางหนังสือที่ถือมาแล้วเข้าไปในห้องนอนห้องที่เคยเป็นของท่านลิงคอล์น
แมรีได้ปิดประตูห้องข้างหลังหล่อน วิลสันได้แต่หวังให้เป็นเพียงหนู หรือผึ้งหรือแมลงอะไรสักอย่าง แล้วเขาเปิดประตูห้องออกมา
เขาได้ยินเสียงหัวเราะ
เสียงนั้นดังสะท้อนก้องมาจากทุกหนทุกแห่งในทันที มันดังกังวาลและทุ้มต่ำเหมือนหีบเสียงที่ส่งเสียงอ่อนละโหยโรยแรง วิลสันรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อขณะที่เอื้อมไปเปิดไฟ เขาชะโงกหน้าเข้าไปดู
มีคนอยู่ในห้องนั้นห้าคน วิลสันเปิดประตูออกแล้วก้าวเข้าไป ดูเหมือนไม่มีใครสังเกตเห็นเขาแม้จะกระแอมส่งเสียบอกงก็ตาม
พวกเขาพูดจากันค่อยๆจนเขาไม่อาจได้ยิน อย่าว่าแต่จะ เข้าใจเลยเขามองดูอยู่ชั่วครู่ มีชายหญิงชรามาก ๆ คู่หนึ่งนั่งอยู่ตรงริมเตียง แล้วมีชายอีกสามคนยืนล้อมรอบทั้งสองอยู่ พวกนี้ถึงจะแก่แต่ ก็ไม่เท่าชายหญิงคู่นั้น
วิลสันลอบมองอยู่ใกล้ๆชายแก่ชราบนเตียง เขาดูคุ้นๆ มีผมเผ้าหงอกบาง หนวดเคราก็หงอก และมีไฝข้างแก้มขวา เขาตัว สูงเก้งก้างสวมเสื้อคลุมอยู่กับบ้านอะไรพรรค์นั้น ส่วหญิงร่างอวบนั้น รวบผมเป็นมวยสวมชุดกำมะหยี่แดงแขนทรงกระดิ่ง
เขาฟังชื่อที่พวกเขาคุยกัน
วิลลี
เอ็ดเวิร์ด
เท็ด
แม่
อับราฮัม
นายพนักงานรับใช้เพ่งมองชายชราบนเตียง อับราฮัมหรือ ? อับราฮัม ลิงคอล์นหรือเปล่า? ถ้าใช้ ทำไมล่ะ ดูไปก็คล้ายท่าน ประธานาธิบดีแต่ไม่เหมือนที่ปรากฎตามรูปภาพตามที่วิลสันเคยเห็นมา
วิลสันสะบัดศรีษะ เขากำลังคิดอะไรอยู่นะนี่? ท่านผู้นั้นมรณะมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1865แล้ว
วิลสันขยับเข้าไปใกล้ ใจก็กริ่งเกรงว่ารองเท้าเขาจะส่งเสียงดัง แต่ก็หยุดเมื่อเห็นท่านอับราฮัมมองเขา ชายชราจ้องเขาอยู่ชั่วครู่ แล้วยิ้มบาง ๆ คนอื่น ๆ พากันหยุดแล้วหันมาดู พวกเขาไม่ยิ้ม
แม้ว่าจะเคยกล้าหาญเผชิญกระสุนจากอริศัตรูในสงครามอเมริกันกับสเปญ วิลสันก็ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นยามนี้มาก่อน แม้คนพวกนี้จะดูอ่อนแอ ไม่มีพิษสงแต่มีบางอย่างดูไม่เป็นธรรมชาติในน้ำเสียงพวกเขา ในความเชื่องช้าของอากัปกิริยา พวกเขาดูหลอก ๆ
คำถามข้อเดียวที่เขาสงสัย คือ นี่เป็นแค่ผลพวงจากจินตนาการของเขาหรือเปล่า หรือคนพวกนั้นเป็นผี?
วิลลี เอ็ดเวิร์ด เท็ด ล้วนเป็นชื่อของบุตรชายสามในสี่คนของท่านลิงคอล์น โรเบิร์ต ลิงคอล์นเองก็พึ่งตายตอนอายุแปดสิบสามเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ถ้านี่เป็นเหมือนงานพบปะสังสรรค์กัน ทำไมไม่มีเขาอยูที่นี่ด้วยล่ะ?
วิลสันขยี้ตาตัวเองแต่ร่างเหล่านั้นไม่ได้หายไปเสียแล้ว แม้จะตะลึงตะไลอ้ำๆ อึ้งๆอยู่หลายครั้งก่อนจะกระแอมในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้าทำใจดีสู้เสืออ่ยปากขึ้นว่า
"ท - - - ท่านประธานาธิบดีครับ"
ชายชราพยักหน้า
"คุณนายลิงคอล์น"
สตรีนั้นมองหน้าผู้สามี แล้วก้มศีรษะให้ หล่อนขึ้นชื่อว่าเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างคนหนึ่ง
วิลสันรู้ว่าเขาควรชี้แจงถึงการปรากฎกายของเขาหรือ ม่ก็ขอโทษขอโพยแต่ลิ้นก็แข็งเสียอีก จึงได้แต่ยืนจ้องเป็นเบื้ออยู่
อายุอานามของคนเหล่านี้ดูไม่สมเหตุสมผลเลย เด็ก ๆ พวกลูก ๆ ลิงคอล์นทั้งสามตายตั้งแต่ยังเยาว์ ท่านประธานาธิบดีเองก็ถูกลอบสังหาร และคุณนายลิงคอล์นเองก็ตายตอนวัยกลางคน จากความเศร้าโศกตรอมใจอันสั่งสมจากสามีและบุตรทั้งสามถึงแก้กรรม
แต่ละท่านแต่ละคนเหล่านี้ล่วนแก่เฒ่าเกินกว่าอายุจริงตอนตาย ไม่ว่าจากโรคภัยในวัยเยาว์ หรือจากความคลุ้มคลั่ง หรือจากการลอบสังหาร
แล้วก็กระทบใจเขาว่า ที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากว่า นี่คือเงาสะท้อนจากโลกอันโหดร้ายไร้คุณธรรมน้อยกว่า
"จะ . . . จะให้กระผมรับใช้สิ่งใดบ้างครับ" วิลสันระงับสติแล้วกล่าวขึ้น แม้ว่าได้พูดออกไปแล้วแต่ก้ยังมิวายหวาดหวั่นอยู่ เขาถอยหลังกลับไปที่ประตู ท่านอับราฮัมยิ้มให้อีกครั้งแต่ไม่เอ่ยปากว่าอะไร วิลสันหลบออกมาทางประตูและแอบเหลียวมองด้านหลังเขา ไม่อยากไปชนเข้ากับวิลเลียม สจ๊วร์ด หรือ แอนดรู จอห์นสัน หรือใครๆ อื่นอีก แล้วเหลียวกลับไปมองครอบครัวนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดประตูไป
แล้วก้ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อ แมรี เอ็บบิ้นแตะไหล่เขา
หล่อนถามว่าเขาเห็นอะไรบ้างหรือเปล่า เขาก็เล่าให้ฟังไปตามที่พบเห็นในห้องนอนมา แล้วก็ตัวสั่นสะท้าน หล่อนเองยอมรับว่าเห็นท่านลิงคอล์นเช่นกัน หล่อนถามวิลสันว่าแล้วพวกเขาควรจะทำเช่นไรต่อไป
เขาเรื่มออกเดินไปตามโถง หยุดหยิบหนังสือที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ
"เราปล่อยให้พวกเขาอยู่กันตามลำพังดีกว่า" เขาว่า "พวกเขาก็คงอยากให้เป็นเช่นนั้น ผมก้ต้องการเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน"
(หมายเหตุ: มักมีผู้คนพบวิญญานท่านอับราฮัม ลิงคอล์น ในทำเนียบขาวมาหลายปีแล้ว ท่านประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รู้สเวลท์ เองก็เคยออกปากว่า "ผมเห็นท่านลิงคอล์น . . . ในหลายห้องต่าง ๆ กันและในโถง" เช่นเดียวกับเอ็บบิ้นและวิลสัน เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ก็เคยเห็นลิงคอล์นอยู่ในห้องอดีตประธานาธิบดีและต่อจากนั้นก็เห็นนอนในอีกหลายๆห้อง วิญญานนั้นยังคงปรากฎต่อหน้าพระพักตร์ราชินีวิลเฮลมีนา แห่ง เนเธอร์แลนด์ จนทรงสิ้นสติสมประดีไปเมื่อทรงขานรับเสียงจากประตู แล้วเปิดไปพบท่านลิงคอล์นยืนอยู่ จอห์น เคนนี องครักษ์ของ เบนจมิน แฮริสัน เฝ้าหวาดผวากับวิญญานท่านอดีตประธานาธิบดี จนต้องเชิญคนทรงเจ้าเข้าผีมาเป็นเป็นสื่อติดต่อบอกกล่าวกับวฺญญานว่า ท่านทำให้เขาไม่เป็นอันทำงานทำการตามภารกิจได้ วิญญานท่านจึงไม่ปรากฎให้นายองครักษ์ได้เห็นอีกเลย ภรรยาท่านประธานาธิบดี คูลริดจ์ ก็เคยเจอท่านลิงคอล์นหนหนึ่ง ในขณะที่อีลีนอร์ รุสเวลท์และดไวท์ ไอเซ่นฮาวร์ แม้ไม่ได้เห็นวิญญานท่านประธานาธิบดีคนที่สิบหกด้วยตา แต่ทั้งคู่ก็บอกว่ารู้สึกว่าวิญญานนั้นมาปรากฏอยู่ข้างๆในหลายวาระเช่นกัน)
แปลเรียบเรียงจาก Honest, Abe ของ Jeff Rovin
จากคุณ :
ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [วันฉัตรมงคล 20:36:17]