ตอน หุ่นยนต์นักฆ่า
การแก้ปัญหาของเด็กชายก็คือ...ใช้ชิมซึ่งเคยเป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรมในการแข่งขันให้แปลงเป็นตัวตุ่นมุดดำดินตามรอยไปก่อนพร้อมทั้งทำสัญลักษณ์ตามทางที่ไปไว้บนดินตลอด(ความจริงปัญหาใหญ่อีกข้อที่เลียงผาไม่ได้บอกทุกคนก็คือหมูน้อยไม่สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ที่เล็กกว่าลูกหมูได้ ก็คล้ายๆกับช้าง...เพื่อนร่างยักษ์ของเขานั่นแหละ แต่เรื่องของหมูน้อยยังไม่มีใครรู้) การเดินทางของพวกเด็กๆจึงล่าช้าไปกว่าที่กำหนดไว้เนื่องจากต้องคอยให้เพื่อนชายมุดดินขึ้นมาบอกทาง พอตกเย็นตัวตุ่นน้อยของพวกเขาก็ล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง
คืนนี้เลียงผาเป็นคนอยู่เฝ้าเวรยามเอง เด็กชายนั่งมองท้องฟ้าที่คลาคล่ำไปด้วยแสงดาวนับพันหมื่นดวงด้วยหัวใจที่เศร้าหมอง เขาไม่รู้ว่าจุดจบของเมืองเทมาริสแห่งนี้จะมาถึงเมื่อไร โอ้เทพีอาร์เทมิส ถ้าท่านเป็นผู้สร้างเมืองแห่งนี้จริง ขอโปรดช่วยปกปักรักษาผืนดิน ผืนป่า และเมืองอันเป็นที่รักของเราด้วยเถิด
จากนั้นเด็กชายจึงล้มตัวลงนอนและ ผล็อยหลับไป
ท่ามกลางหมอกหนาที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ยามที่สองตาแลไปทางใดกลับไม่ปรากฏร่องรอยแห่งสิ่งมีชีวิตราวกับทุกสรรพสิ่งได้หยุดนิ่งลง ชีวิตดูจะเลือนหายไปภายในเมฆหมอกอันมืดครึ้มนี้
เด็กชายตัวเล็กผิวสีน้ำตาลคล้ำจนเกือบดำเดินสะเปะสะปะไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาสีดำโตที่เป็นประกายสดใสดูจะอ่อนแสงลงมาก เสื้อผ้าขาดวิ่นและเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนตามลำตัว
หมูน้อย ห่าน หงส์เด็กชายตัวน้อยร้องเรียกเพื่อนๆอย่างสุดเสียง
ไม่ปรากฏเสียงตอบรับใดๆจากหมอกหนาทึบตรงหน้า แต่ความพยายามของเขาดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด เขายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ตะโกนร้องเรียกเพื่อนๆต่อไป....ต่อไป
และในที่สุดสายหมอกสีเทาดำก็จางลง เด็กชายแลเห็นสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า รูปปั้นเทพีอาร์เทมิสสีเขียวมรกตที่ทรงอาภรณ์ผืนบางราวกับปลิวไสวไปตามสายลม หากแต่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นรูปปั้นมรกตสีเขียวก็สว่างโร่ขึ้นแปรเปลี่ยนกลายเป็นหญิงสาวในอาภรณ์สีเขียวบางพลิ้วแทน
องค์เทพีอาร์เทมิส!!เด็กชายอุทานออกมาอย่างตกใจ
ใช่ ข้าคือเทพีอาร์เทมิสผู้สร้างเมืองเทมาริสแห่งนี้หญิงสาวงามสง่าผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงไพเราะ
เด็กชายหมอบตัวลงแสดงความเคารพต่อองค์เทพี
ลุกขึ้นเถิดเด็กน้อย ที่ข้ามาพบเจ้าในครานี้ก็เพื่อขอร้องให้เจ้าจงช่วยปกป้องเมืองเทมาริสให้รอดพ้นจากภัยในครั้งนี้ด้วย
เหตุไฉนองค์เทพีไม่ทรงช่วยชาวเมืองของพระองค์ล่ะขอรับเด็กชายถามสีหน้างุนงง
เมืองแห่งนี้เป็นของพวกเจ้า ข้ามอบให้พวกเจ้าเป็นผู้ดูแลรักษามาช้านาน ดังนั้นหน้าที่เหล่านี้จึงตกเป็นของชาวเมืองทุกคน ข้า...แม้จะเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา แต่สิ่งที่ข้าสามารถทำได้ในตอนนี้ก็เพียงแค่เฝ้ามองพวกเจ้าด้วยหัวใจและความปรารถนาดี ข้าไม่อาจยื่นมือเข้าช่วยได้ดังเช่นทุกคราที่ข้าไม่อาจช่วยนักรบในอดีตได้ แต่พวกเขาก็สามารถปกปักรักษาเมืองและผืนป่าแห่งนี้มาได้ทุกคราว และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะต้องทำหน้าที่ดังกล่าว จงจำไว้ว่ามนุษย์นั้นคือผู้สร้างทุกสิ่ง ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถของพวกเจ้าทุกคนไปได้เสียงเบาพลิ้วดังล่องลอยมาและจากไปตามสายลม
เลียงผาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องไปทั่วทั้งผืนหญ้า เด็กชายเหลียวมองรอบตัวด้วยความระแวดระวัง เพื่อนๆของเขายังคงหลับสบายอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายยังคงสภาพเช่นเดิมเว้นแต่แสงสว่างได้พัดพาเองความมืดมิดและอ้างว้างยามราตรีไปจนหมดสิ้น เขาเอื้อมมือไปปลุกเพื่อนๆเพื่อเริ่มต้นออกเดินทางในเช้าวันใหม่ วันนี้หงส์เป็นฝ่ายนำทางแทนชิมซึ่งยังดูเหนื่อยล้าจากหน้าที่เมื่อวานอยู่
การเดินทางยังดำเนินต่อไปเฉกเช่นเมื่อวาน และในที่สุดในเช้าวันที่สามของการเดินทางพวกเด็กๆก็มาถึงชายป่ามหัศจรรย์ พวกเขาตัดสินใจพักเอาแรงและวางแผนกันจนกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน
เราต้องสืบให้ได้ว่าครูภพถูกขังอยู่ที่ไหนเลียงผากล่าว
งานนี้ฉันอาสาเองชิมบอก
ดังนั้นเด็กที่เหลืออีกห้าคนจึงซ่อนตัวอยู่ในโพรงใหญ่ของต้นโอ๊กยักษ์ ณ ชายป่ารอจนกระทั่งชิมซึ่งแปลงร่างเป็นนกกระจอกบินกลับมาในขณะที่แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
ได้เรื่องไหม?เลียงผาถามเพื่อน
ก็พอรู้เรื่องบ้าง ฉันไปแอบฟังพวกทหารยามเฝ้ากำลังคุยกันอยู่ เห็นว่ามีนักโทษคนหนึ่งถูกขังอยู่ในยานมาเฟ เขาว่าอย่างนี้นะ แต่ฉันไม่รู้ว่านักโทษคนนั้นจะใช่ครูภพไหม
ถึงไม่ใช่เราก็ต้องช่วยเขาล่ะ เพราะยังไงเขาก็คงเป็นชาวเมืองคนหนึ่งเหมือนกันเลียงผาว่า
ว่าแต่ไอ้ยานมาเฟที่นายว่ามันคือยานไหนล่ะในเมื่อมันมีตั้งเป็นสิบลำจอดเรียงรายอยู่อย่างนี้หงส์ถาม
ดูเหมือนว่าชิมจะลืมคิดเรื่องนี้เสียสนิท!!
ลองใช้เครื่องนั่นติดต่อกับครูภพดูสิหมูน้อยเป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้น
ห่านแกะห่อผ้าหยิบเอาเครื่องรับสัญญาณออกมาตั้งไว้ตรงหน้าเพื่อนๆ
เราจะเปิดเครื่องนี้ยังไงเลียงผาถาม เขาเองแทบไม่มีความรู้ในเรื่องเครื่องมือประเภทนี้เลย
ขอฉันลองดูนะหมูน้อยกล่าว และใช้เวลาสำรวจเพียงไม่นานเด็กชายก็คลำหาสวิตช์เปิดปิดได้
ครืน ๆเสียงเครื่องยนต์ภายในเริ่มทำงานทันทีที่หมูน้อยเปิด
นายนี่เก่งเรื่องพวกนี้จริงๆหงส์อดกล่าวชมไม่ได้ นั่นคือพรสวรรค์ของหมูน้อยที่ใครๆต่างพากันลืมเสียสนิท
นายส่งสัญญาณติดต่อกันครูภพทีสิเลียงผาบอก
เด็กชายตุ้ยนุ้ยเอื้อมมือไปกดปุ่มสีเงินปุ่มหนึ่งที่เรียงติดต่อกันไว้ทางด้านในฝาหอย และในทันทีเครื่องส่งสัญญาณเปลือกหอยก็ส่งเสียงครืนๆออกมาอีกครั้ง
คงต้องรออีกสักพักหมูน้อยบอก
พวกเด็กๆนั่งลงรอบเปลือกหอยภายใต้ร่มไม้ของต้นโอ๊กยักษ์ ทุกคนต่างจ้องมองเปลือกหอยนั่นอย่างใจจดใจจ่อจนไม่ทันระวังภัยที่กำลังเยื้องกายเข้ามา
ระวัง!!!หงส์ร้องตะโกนขึ้นเมื่อเห็นหุ่นยนต์นักฆ่าเงื้อดาบขึ้นอยู่เบื้องหลังหมูน้อย และด้วยความเร็วของแฝดผู้พี่ ห่านผลักร่างหมูน้อยกลิ้งหลบปลายดาบไปได้ทัน
ฉับ!ปลายดาบฟันแฉลบลงบนไหล่ซ้ายของเด็กชายเป็นทางยาว
ห่าน!!น้องสาวร้องตะโกนเรียกพี่ชายด้วยความตกใจ
เลียงผาเป็นคนเดียวที่ตั้งสติได้ทัน เด็กชายผลักเพื่อนให้หลบพ้นทางปลายดาบครั้งที่สองที่ฟัดฉับลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง
หาที่หลบเร็วเลียงผาบอกเพื่อนๆพร้อมกับลากห่านซึ่งเลือดไหลนองเต็มแผ่นหลังเข้าไปหลบในโพรงไม้โอ๊กยักษ์ซึ่งเคยเป็นที่ซ่อนตัวของเด็กๆ
นายพักอยู่นี่ก่อนนะเลียงผากล่าวกับห่านก่อนมุดออกจากโพรงมา
ระวังตัวนะห่านเตือนเสียงอ่อนแรง
เด็กชายมุดออกจากโพรงมาในร่างกระรอกบินสีเทาดำกระโดดข้ามต้นไม้ตามเพื่อนๆเข้าไปในป่า
ฝ่ายหมูน้อย ชิม หงส์และแมวที่วิ่งหนีกันเข้ามาในป่าต่างหยุดหอบหายใจแอบอยู่ใต้พงไม้ใหญ่ หุ่นยนต์นักฆ่าย่องเดินตามหลังมาด้วยความเงียบกริบ สองตาอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวเป็นประกายจ้าสอดส่ายสายตามองหาเหยื่ออยู่ท่ามกลางความมืด
ตึก....ตึก....ตึกเสียงย่ำเท้าดังเข้ามาใกล้ทุกทีๆ
เราจะทำยังไงดีหมูน้อยกระซิบถามอย่างร้อนรน
ต้องหนีชิมบอก
พวกเด็กๆตัดสินใจวิ่งสุดชีวิตเข้าไปหลบยังพงไม้ด้านหน้า แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นการเปิดโอกาสให้ศัตรูได้เห็นเหยื่อได้อย่างชัดเจน หุ่นยนต์นักฆ่าเปลี่ยนท่าทางจากเต่าที่เคยเชื่องช้ากลับกลายเป็นนักวิ่งลมกรดแสนรวดเร็วปานพายุวิ่งไล่กวดพวกเด็กๆตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด
แปลงร่างเป็นกระรอกสิเสียงตะโกนดังลงมาจากต้นไม้
และไม่รอช้าเด็กทั้งสามก็แปลงร่างกลายเป็นกระรอกตัวจิ๋วโดดขึ้นต้นไม้ไป เหลือเพียงหมูน้อยคนเดียวที่ไม่สามารถแปลงเป็นสัตว์ร่างเล็กเช่นนั้นได้
เร็วเข้าหมูน้อยหงส์เร่ง
เด็กชายตุ้ยนุ้ยยืนตัวสั่นอยู่ริมต้นไม้
นายเป็นช้างได้! หมูน้อยเร็วเข้าเสียงเลียงผาตะโกน
เด็กชายตั้งสติได้ทัน
อารา การา พารา เมราเดีย อารา การา พารา เมราเดีย อารา การา พารา เมราเดีย ช้างแอฟริกา
ทันทีที่เสียงท่องมนต์จบลง ร่างตุ้ยนุ้ยของเด็กชายก็กลับขยายใหญ่ขึ้น จมูกกลมโตของเขายาวออก...ยาวออก ใบหู แขนขา และลำตัวเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มีขนหนาขึ้น และผิวกายก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสีเทาเข้ม
ร่างอันใหญ่โตนั้นได้เปรียบกว่าหุ่นยนต์นักฆ่าซึ่งบัดนี้ดูเหมือนจะกลับกลายเป็นตุ๊กตานักรบไปเสียแล้ว กำลังใจของเด็กชายจึงกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขายื่นงวงยาวออกไปยึดดาบอันคมกริบที่เปื้อนไปด้วยเลือดก่อนจะขว้างมันไปไกลลิบตา
จัดการมันเลยหงส์ตะโกนบอก
งวงยาวอันแสนจะหนักอึ้งของเด็กชายเอื้อมกลับมาตวัดรัดรอบลำตัวของหุ่นยนต์ ยกเอาร่างหุ่นเหล็กขึ้นพร้อมๆกับฟาดมันลงกับก้อนหินใหญ่ทางด้านข้าง
ปัง!เสียงเหล็กกระทบกับก้อนหินยักษ์ก่อให้เกิดประกายไฟแปล๊บขึ้น
ช้างน้อยวางร่างหุ่นเหล็กลง หุ่นยนต์ซึ่งตอนนี้ดูจะหมดสภาพนักฆ่านอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้าพวกเด็กๆทั้งห้า
จะทำยังไงกับมันดีหงส์ถาม
มันเป็นหุ่นยนต์ลูกที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหุ่นยนต์แม่แบบ นี่ไงเครื่องรับส่งสัญญาณหมูน้อยชี้ไปยังกล่องสี่เหลี่ยมเล็กที่พังยับเยินอยู่ทางด้านท้ายทอยของหุ่น
ปล่อยมันไว้นี่เถอะ พวกเราไปดูห่านกันก่อนดีกว่าเลียงผาเตือนเพื่อนๆ
พวกเด็กๆจึงรีบวิ่งมายังโพรงโอ๊กยักษ์ที่ห่านนั่งกุมไหล่อยู่ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
นายเป็นยังไงบ้างเลียงผาถามด้วยความเป็นห่วง
หาทางห้ามเลือดกันก่อนดีกว่าแมวบอก
เด็กๆช่วยกันฉีกเสื้อผ้าผูกกันเป็นแทบยาวเพื่อที่จะพันห้ามเลือดให้
จริงสิ ฉันเอาสมุนไพรมาด้วยแฝดน้องร้องขึ้นก่อนหันไปรื้นกระเป๋าตนหยิบเอากล่องไม้ที่เคยได้รับตอนอยู่ที่โรงเรียนขึ้นมา
ในนี้เป็นสมุนไพรแห้งที่มีสรรพคุณต่างๆ อย่างต้นนี้ใช้ห้ามเลือด แล้วก็นี่ใช้สมานแผลเด็กสาวว่าพลางหยิบใบไม้แห้งสองชนิดนั่นขึ้นมาขยี้ๆผสมกันก่อนโปะลงไปตรงบาดแผลของพี่ชาย
อูย!แฝดผู้พี่ครางออกมา
คงแสบนิดหน่อยแต่รับรองหายสนิทแน่
เธอนี่รอบรู้จังแมวเอ่ยปากชม
ฉันศึกษาข้อมูลของพืชที่ครูให้มาพวกนี้ก่อนออกเดินทาง คิดอยู่แล้วว่ามันคงต้องได้ใช้ประโยชน์อะไรบ้างหงส์บอก
คืนนั้นเด็กทั้งหกจึงนอนพักเอาแรงกันอยู่ในโพรงไม้โอ๊กยักษ์โดยมีชิมกับเลียงผาเป็นฝ่ายเฝ้ายาม
จากคุณ :
ไฟลี่ - [9 พ.ค. 45 18:16:19]