. . . เยือนเหย้า . . . ( Coming Home)

    . . . เยือนเหย้า . . . ( Coming Home)




                      ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณแม่ พี่สาวและฉันล้วนผิดแผกแตกต่างกันไปดั่งฤดูกาลต่างๆ  มีหลายครั้งหลายคราเมื่อเติบใหญ่ที่พวกเราไม่เห็นพ้องต้องกัน มีอารมณ์ความคิดเห็นขัดแย้งแตกแยกกัน เมื่อหลายปีก่อน คุณแม่ป่วยเป็นโรคลูปัส(*กลุ่มอาการโรค S.L.E. มีลักษณะภูมิคุ้มกันผิดปกติ อาจมีอาการบวม เป็นผื่น  ไตวาย ตับวาย เป็นต้น)  แม้ทุกคนในครอบครัวจะเศร้าโศกไปตามๆกัน แต่เป็นโรคร้ายที่ท่านต้องผจญทุกข์แต่เพียงลำพังตัวเอง  พี่สาวฉันนั้นพบโลกน่าพิศวงระคนอลหม่านจากการสั่งสอนเด็กแรกรุ่น ที่ฉันพอจดจำได้เพียงเลาๆ ตามประสาอดีตวัยรุ่นคนหนึ่งค่ะ ตัวฉันเองนั้นมีอาชีพค้าขายอะไหล่รถมาได้หกปีแล้ว ระหว่างนั้นก็ขีด ๆ เชียน ๆ ในยามว่าง และหวังสุดจิตสุดใจว่าจะมีโอกาสทองหล่นตุ๊บมาบนตักอย่างไม่มีมีปี่มีขลุ่ยบ้างค่ะ คุณคงเดาได้แล้วสิคะว่าฉันเป็นคนช่างฝันลม ๆ แล้ง ๆ เพียงคนเดียวในบ้าน  คอยแต่หมกมุ่นเฝ้ามองผู้คนเดินผ่านไปมาเท่านั้นเอง

                      เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เวลาสองสามวันที่ฉันไปเยี่ยมคุณแม่และพี่สาว ผู้บัดนี้อยู่ห่างไปแค่เดินทางชั่วโมงหนึ่ง  ฉันก็ได้เรียนรู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ  มีหลืบมุมเล็กๆในตัวฉันที่หวั่นหวาดเกี่ยวกับครอบครัว เกี่ยวกับสายใยอันเหนียวแน่นของความสนิทสนมใกล้ชิด ในวัยเยาว์ ฉันกริ่งเกรงว่าจะถูกกลืนกินเข้าไปอยู่ในพรมแดนอันแสนยิ่งใหญ่นี้ แล้วไม่อาจพบตัวตนของฉันอีกเลย ฉันดิ้นรนอย่างหนักให้มีปากมีเสียงของตัวเองต่างหากแปลกแยกออกไป ด้วยการสรรค์สร้างโลกแห่งจินตนาการที่มหัศจรรย์ค่ะ  แม้แต่ขณะนี้นะคะ ฉันพบพานตัวเองเลื่อนไหลไปกับฝันกลางวัน ราวกับโดนทรายดูดในแดนฝันก็ไม่ปาน ฉันล่ะแสนชิงชังที่จะยอมรับออกมาว่าฉันเป็นคนไม่ใคร่ชอบโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนดังมี่ใครๆพากันคิดนะคะ แต่กระนั้น การไปเยี่ยมบ้านครั้งนี้ ฉันหวนกลับไปค้นพบอีกครั้งหนึ่งว่าครอบครัวในโลกแห่งความเป็นจริงของฉันนั้นช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง พวกเขาพร้อมที่จะเยียวยาบาดแผลเก่าแก่ให้ได้ เพียงแต่ว่าฉันจะยินยอมให้พวกเขาช่วยเท่านั้น

                      มีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพี่สาวที่ทำให้ฉันดูโง่เง่าไปถนัดตาค่ะ ฉันก็เกือบลืมไปเสียแล้วนะคะถ้าไม่เห็นใบหน้าคุ้นเคยนั้น ที่ดูละม้ายคล้ายคลึงกับฉันมากกว่าใคร ๆ   เราอายุห่างกันห้าปีค่ะ แต่ตอนนี้ดูไม่ต่างกันนัก เหมือนกับว่าฉันได้กลับมาพบตัวเองค่ะ  เนื่องด้วยว่าไม่มีความคิดใดๆที่พรั่งพรูออกมาระหว่างกันแล้วไม่เข้าใจกัน ไม่มีมุขตลกไหนที่ปล่อยออกมาค้างเติ่งเหมือนแร้งทะเลลอยกลางอากาศ  อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งล่ะค่ะที่ฉันไม่รู้สึกตัวว่าโง่เขลาที่ไปออกความเห็นตามอำเภอใจ อาจเปรียบได้กับอิสรเสรีภาพอย่างสร้างสรรค์แท้ ๆนั้นเองค่ะ

                      ด้วยสาเหตุบางประการ ฉันมักมองพี่พอลลาเป็นลูกสาวที่ช่างมีเหตุมีผลและแสนเปอร์เฟ็คสมบูรณ์แบบนะคะ เธอทั้งเก่งเลข ทั้งมีความสามารถทางจัดการ โดดเด่นตรงข้ามกับฉันค่ะ แถมยังเป็นระดับท้อป ๆ เสมออีก ฉันดีใจจนบอกไม่ถูกที่ได้เห็นห้องพักอพาร์ทเมท์ของเธอค่ะ  แน่ล่ะค่ะ มันเป็นห้องที่ตกแต่งประดับประดาอย่างมีรสนิยมอยู่แล้ว มากมายอักโขกว่ารังหนูที่ฉันเรียกว่าบ้านอีกนะคะ มันดูเหมือนมีคนอาศัยอยู่จริงๆค่ะ  ไม่มีพลาสติกคลุมเครื่องเรือนสักชิ้นเลย  จานชามวางซ้อนกันในอ่าง หนังสือหนังหาทิ้งอยู่บนพื้นห้อง และมีเศษกระดาษโปรยปรายตรงข้ามห้องกินข้าว คุณพระ คุณเจ้าเพิ่งประทานของขวัญพร้อมห่อกระดาษผูกโบว์ ให้แก่ฉัน ฉันไม่อาจหักห้ามความตื่นเต้นได้ค่ะ

                      เราคุยกันหลายเรื่องค่ะ โดยเฉพาะเรื่องความฝันนะคะ เราทั้งคู่ต่างคาดหวังต้องการให้ชีวิตเราเกิดอะไรขึ้นมากกว่าที่เราจะพานพบได้ค่ะ  วัยเด็กของเรานั้นสาหัสสากรรจ์ที่สุด   เราก็ต่างสงสัยว่าเราจะเป็นเช่นไรถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างไปนะคะ แต่นั้นแหละค่ะจิตมนุษย์ช่างน่าขบขันแท้   ความลำบากยากเข็ญดูเหมือนจะออกดอกชูช่อมีเรี่ยวมีแรงเพิ่มมากขึ้นทุกทีไป ฉันคิดนะคะว่าเราทั้งคู่เชื่อว่ามันคุ้มค่าที่มีชีวิตอย่างที่เราประสบมาค่ะ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นผู้หญิงเช่นที่เราเป็นในวันนี้ แหม มันอาจไม่ใช่ประสบการณ์ทั้งหมดหรอกนะคะ แต่เราก็อาจเป็นตัวเราที่เป็นอยู่น้อยลงไปก็ได้ค่ะ

                      คุณแม่ของเราเป็นคนพิเศษเหลือเกินค่ะ  ท่านมีชีวิตราวกับเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับความยากลำบาก แต่ท่านก็ไม่เคยยอมแพ้เลยนะคะ มีหลายครั้งที่ฉันเคยอยากนั่งลงถามท่านว่าท่านทำได้อย่างไร อะไรที่ทำให้ท่านฝืนทนต่อไปนะคะ แต่ฉันไม่คิดว่าท่านจะจมอยู่กับเรื่องนั้นนักค่ะ เมื่อพี่สาวฉันเดินเข้ามาทางประตู  ใบหน้าเธอก็แช่มชื่นขึ้นมาทันที ท่านยินดีหนักหนาที่ของขวํญล้ำค่าทั้งสองชิ้นของท่านมาอยู่พร้อมหน้ากันอีก ฉันคิดนะคะว่ามันคงช่วยท่านได้บ้างเล็กน้อยเหมือน ๆ กับเราค่ะ

                      คืนสุดท้ายที่พวกเราอยู่ด้วยกัน เรานั่งคุยกันบนม้านั่งยาว แล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันทำไปอย่างแกน ๆ ค่ะ  ชัวิตเรานั้นแสนเปราะบาง ไม่จีรังถาวรนะคะ บ่อยครั้งแค่ไหนที่ฉันมองข้ามพวกเขามาตลอดเวลา หญิงสองคนที่มีค่าต่อฉันยิ่งนัก?  ทันใดนั้น ฉันก็ได้เรียนรู้ถึงความผูกพันธ์ฉันท์พี่สาวน้องสาวอันศักดิ์สิทธิ๋นี้  พวกเราต่างเป็นผู้หญิง เป็นครอบครัว และเมื่อรวมกัน เราคือบ้าน


                                 เจนนิเฟอร์ อาศัยอยู่กับสุนัขสองตัว แมวสี่ตัวและ"ผู้ชายแสนวิเศษคนหนึ่ง"

                                 จากภาพสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และพี่สาว  เธอเริ่มตระหนักถึง

                                 สายใยอันเหนียวแน่นที่มีร่วมกันในฐานะผู้หญิง และความสัมพันธ์ของมิตร-

                                  ภาพ  "เมื่อฉันเติบใหญ่แลฉลาดขึ้น ฉันโชคดีเหลือเกินที่ตระหนักได้ว่า ครอบ-

                                  ครัวมีคุณค่าราคาค่างวดแท้จริงอย่างไรค่ะ"                                  



    แปลเรียบเรียงจาก Coming Home ของ Jennifer Fales ใน Every Woman Has a Story(* เล่มเดียวกับเรื่องยังมีแสงตะวันส่องเสมอ)

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [13 พ.ค. 45 21:53:54]