นิทานหุ่นฟาง

    เด็กหญิงหุ่นฟางกำลังร้องไห้….

    ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดตะปูที่แทงทะลุหน้าอกแบนราบของเธอหรอก  เรื่องนี้เธอชินกับมันซะแล้ว
    ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดรูปถ่ายใครก็ไม่รู้ที่แปะอยู่บนหน้าเธอหรอก  ดีซะอีกที่ไม่ต้องเห็นหน้าคนที่มาตอกตะปูไม่ใช่เพราะเธอเบื่อคำสาปแช่งบ้าบอทั้งหลายหรอก  เธอฟังมันมามากกว่าที่ตั้งใจไว้เยอะ

    แต่เด็กหญิงหุ่นฟางกำลังน้อยใจ…

    เธอน้อยใจที่พ่อหมอไม่เคยให้ความสำคัญกับตัวเธอเลย  มือที่จับอยู่บนร่างแห้งกรอบของเธอขยุ้มขยำด้วยหน้าที่ของหมอผี  ปากก็พร่ำบ่นถึง”คน”ที่เธอไม่รู้จัก หญิงบ้าง ชายบ้าง  ไม่ว่าจะเป็นการทำเสน่ห์หรือสาปแช่งล้วนแต่ต้องทำบนร่างของเธอทุกทีไป

    แต่พ่อหมอไม่เคยพูดถึงเด็กหญิงหุ่นฟาง….

    เธอได้แต่น้อยใจอยู่ลึกๆ

    เด็กหญิงหุ่นฟางโอดครวญแต่หมอผีไม่เคยได้ยิน  หลายครั้งที่เธอน้อยใจหนักเข้าถึงกับประชดด้วยการอดข้าวไม่ดื่มน้ำ  แต่เด็กหญิงหุ่นฟางลืมไปว่าเธอไม่เคยกินข้าวดื่มน้ำอยู่แล้ว พ่อหมอจึงไม่สังเกตเห็นการประท้วงของเธอ วันคืนที่ผ่านมาเด็กหญิงหุ่นฟางได้แต่อยู่เดียวดาย  ตุ๊กตารักยมตั้งข้อรังเกียจไม่ยอมพูดกับเธอ  พวกเค้าบอกว่าเธอผอมแห้งหุ่นไม่ดี ไม่ใช่เสป็คที่นิยม  

    เมื่อวานนี้เด็กหญิงหุ่นฟางถูกตุ๊กแกหนุ่มหักอกเอาอย่างจัง  ตุ๊กแกบอกว่าเธอเล่นตัวไม่ยอมให้เขาโอบกอด  เด็กหญิงหุ่นฟางแก้ตัวทันที เธอพร้อมจะอยู่ในวงแขนของตุ๊กแกหุ่นแต่แรกแล้ว ขาดคำตุ๊กแกยกขาหน้าทั้งสองข้างจนเกือบจะหล่นลงจากข้างฝา  แผลตะปูนับสิบทำให้เด็กหญิงหุ่นฟางตกใจ เป็นความผิดของเธอหรือที่ตะปูที่หมอผีฝังไว้ทำให้ตุ๊กแกไม่สามารถกอดเธอได้  แต่ตุ๊กแกไม่ฟังเธอแล้ว  เขาไต่ข้างฝาหายขึ้นไปบนขื่อพร้อมกับตุ๊กแกสาวอีกตัว

    ถึงที่สุดแล้ว… เด็กหญิงหุ่นฟางตัดสินใจจะหนีไปตายดาบหน้า

    ก่อนสว่างเธอรวบรวมกำลังแบกข้าวของจำเป็นออกจากกระท่อมปลายนา ตะปูดอกที่เงางามที่สุด… มัดฟางสำรองสำหรับแซมผม…  ข้าวของทุกอย่างแทรกอยู่ตามฟางข้าวส่วนลำตัวของเธอ

    หมอผีกำลังนอนกอดขวดเหล้าขาวกรนครอกๆ  ไม่วายเด็กหญิงหุ่นจะแกล้งเหยียบพื้นเสียงดังอย่างไรพ่อหมอก็ไม่ได้ยิน  เสียงฟางข้าวย่ำลงไปตามกระไดจนถึงพื้น  ลมช่วงย่ำรุ่งรุนแรงมาก  เด็กหญิงหุ่นฟางเกือบจะปลีวไปหลายครั้ง  เธอคิดถึงบ้านของหมอผีขึ้นมาจับใจ

    ไม่ได้…  เธอต้องอดทน

    แสงอาทิตย์ยามเช้าแสบตากว่าที่คิด  เด็กหญิงหุ่นฟางหยุดพักเสียบตะปูบนหน้าอกให้แน่นเข้า  เข็มหมุดบนหน้าผากเกือบจะหลุดออกมาซะแล้ว ระหว่างพักเด็กหญิงหุ่นฟางมองไปรอบๆ  ทิวทัศน์ของทุ่งนาดูกว้างจนน่ากลัว  เธออยู่ในห้องมืดทึมของหมอผีมาตลอด  ที่กว้างและสว่างอย่างนี้ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น  ฟางก็เปียกชื้นเพราะน้ำค้างเต็มตัวไปหมด  เธอต้องหลบจิ้งหรีดหลายตัวที่แอบมาเกาะแกะหวังดูดน้ำค้าง  นกกระจอกก็พยายามจิกทึ้งตัวเธออย่างไร้ปราณี  เด็กหญิงหุ่นฟางต่อสู้ไม่ได้  

    เด็กหญิงหุ่นฟางกำลังกลัว….

    ฟางที่เคยมัดแน่นหลุดร่วงไปหลายเส้น  ร่างที่ผอมแห้งอยู่แล้วยิ่งโทรมลงไปอีกเพราะนกและจิ้งหรีดทำให้ตัวเธอฉีกขาด ตะปูตัวเก่งที่เอามาจากกระท่อมตกหายไปแล้ว  นกกระจอกแอบขโมย คาบมันบินหายไป  

    เด็กหญิงหุ่นฟางอยากร้องไห้

    เธอก้มลงนั่งพร้อมกับเอามือแปะที่หน้า  เธอพยายามบีบน้ำตาอยู่นาน..  แต่หุ่นฟางไม่มีลูกตา และไม่มีต่อมน้ำตาสำหรับร้องไห้  เด็กหญิงหุ่นฟางนั่งอยู่นาน

    เธอนั่งอยู่นาน
    …
    เธอนั่งอยู่นานนนน
    …
    เธอนั่งอยู่นานนนนนนน
    …
    เธอนั่งอยู่นานนนนนนนนนนนนน
    …
    เธอนั่งอยู่นานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    …

    เด็กหญิงหุ่นฟางรอให้น้ำตาไหลไม่ไหว  เธอหยิบเส้นฟางสำรองแซมลงไปตามตัว จัดตะปูและเข็มหมุดมากมายให้เข้าที่ เด็กหญิงหุ่นฟางอยากจะร้องไห้อีกครั้งแต่เธอจำได้ว่าเธอร้องไห้ไม่ได้ เธอไม่มีน้ำตา…  เธอทำได้แค่มองไปรอบๆแทนการร้องไห้  นกกระจอกกลุ่มใหญ่กำลังบินลงมาจากท้องฟ้า  เด็กหญิงหุ่นฟางได้แต่รอคอยสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้..

    เงาดำกลางทุ่งนาไล่นกกระจอกฝูงนั้นไป…

    เด็กหญิงหุ่นฟางเพ่งมองเงาดำกลางทุ่งนา  

    หุ่นไล่กา….

    หุ่นไล่กายืนพิงไม้หลักเพื่อหลอกให้นกกาทั้งหลายคิดว่ามีคนอยู่จะได้ไม่ลงมาขโมยเมล็ดข้าว  แต่เด็กหญิงหุ่นฟางไม่รู้…  เธอสงสัยว่าทำไมหุ่นไล่กาไม่มีเข็มหมุดมากมายเหมือนเธอ  เด็กหญิงหุ่นฟางพยายามเข้าไปใกล้ๆหุ่นไล่กา  เธอเดินฝ่านาข้าวเข้าไปอย่างยากลำบาก   น้ำขังในทุ่งนาทำให้เธอเปียกและหนักขึ้นทุกทีๆ   ในที่สุดเธอก็ต้องลอยเข้าไปตามกอข้าวทีละนิดๆ  

    หุ่นไล่กาอยู่กลางท้องนา
    เด็กหญิงหุ่นฟางก็อยู่กลางท้องนา
    หุ่นไล่กายังคงยืนนิ่ง   เด็กหญิงหุ่นฟางไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
    หุ่นไล่กาถามว่าทำไมหุ่นฟางอย่างเธอถึงไม่อยู่ที่กระท่อมหมอผี  เด็กหญิงหุ่นฟางเล่าทุกอย่างให้ฟัง  เธอมาคิดได้ทีหลังว่าไม่ควรพูดกับคนแปลกหน้า แต่ช่างเถอะ…

    หุ่นไล่กาทำสิ่งที่เด็กหญิงหุ่นฟางไม่กล้าหวัง

    หุ่นไล่กากอดเด็กหญิงหุ่นฟาง

    เธอตกใจไม่อยากให้หุ่นไล่กากอด   เด็กหญิงหุ่นฟางกลัวว่าตะปูกับเข็มหมุดตามตัวจะทำร้ายหุ่นไล่กาเหมือนกับตุ๊กแก  แต่หุ่นไล่กาไม่กลัว  หุ่นไล่กายืนอยู่กลางทุ่งนาคนเดียวมาตลอด เขาเดินไปไหนไม่ได้ หน้าที่ของหุ่นไล่กาอยู่กลางทุ่งนา หุ่นไล่กาดีใจที่เด็กหญิงหุ่นฟางเดินเข้ามาหา  เขาดีใจที่มีใครเข้ามาหาเขาบ้าง

    เด็กหญิงหุ่นฟางกลับไปหาหมอผีอีกครั้ง
    หุ่นไล่กาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

    แต่เด็กหญิงหุ่นฟางไม่น้อยใจหมอผีอีกแล้ว  หุ่นไล่กาสอนเธอถึงหน้าที่ของเธอ  เด็กหญิงหุ่นฟางรู้แล้วว่ามีคนคิดถึงเธอที่เป็นหุ่นฟาง  หุ่นไล่กาจะไม่หนีเธอไปไหนแน่นอน ก่อนเธอจะกลับมาที่กระท่อมหุ่นไล่กายังแอบเอาเมล็ดข้าวแซมไว้ที่แขนเธออีกด้วย เขาบอกว่าอยากให้ไว้ที่หน้าอกให้เด็กหญิงหุ่นฟางคิดถึงแต่มันยังไม่ถึงเวลา  ทั้งคู่เพิ่งจะรู้จักกันยังไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม  มันผิดประเพณีอันดีงาม

    ไว้คืนเดือนหงายหน้าเด็กหญิงหุ่นฟางจะแอบเอาตะปูเงาๆไปฝากหุ่นไล่กาบ้าง  

    จากคุณ : droid - [15 พ.ค. 45 09:17:17]