. . . เมืองลับแล . . . (Invisible Cites )



    1.

    องค์กุ๊บไล ข่าน มิจำต้องทรงเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มาร์โก โปโลได้กล่าวอ้างถึงเมืองต่างๆที่เขาเดินทางผ่าน หากแต่องค์จักรพรรดิแห่งตาร์ตาร์ ยังคงทรงสดับฟังชายหนุ่มชาวเวนิสผู้นั้น ด้วยความกระหายใคร่รู้มากมายเกินกว่าที่แสดงออกกับผู้นำสาส์น หรือนักผจญภัยอื่น ๆ ของท่าน ในช่วงชีวิตกษัตริย์หลายต่อหลายพระองค์ มีชั่วขณะหนึ่งซึ่งเกิดความภาคภูมิใจในอาณาเขตที่แผ่ขยายไปกว้างใหญ่ไพศาลไร้ที่สิ้นสุด ที่เราได้พิชิตมา อีกทั้งมีความเศร้าโศกระคนโล่งใจที่ล่วงรู้ว่าเราพากันล้มเลิกความคิดที่จะเรียนรู้เข้าใจสถานที่เหล่านั้นในไม่ช้า  ความว่างเปล่าปกคลุมเราในยามราตรี ด้วยกลิ่นไอแห่งช้างสารตามหลังฝนและแก่นจันทน์เยือกเย็นในภาชนะทองเหลือง    กลิ่นชวนวิงเวียนที่ทำให้แม่น้ำและขุนเขาสั่นสะท้านไปตามขอบโค้งแนวแผนที่ดวงดารา ที่คลี่ม้วนเปิดออกแสดงแผ่นแล้วแผ่นเล่า  สาส์น ที่ส่งมาแจ้งแก่เราถึงความล่มสลายแห่งกองทหารกองสุดท้ายในทุก ๆ การประจัญบาน  หยดครั่งตราลัญจกรของกษัตริย์ที่หาคนรู้จักไม่ อ้อนวอนกองทัพที่คอยปกป้อง เสนอการแลกเปลี่ยน การบรรณาการประจำปีด้วยโลหะมีค่า หนังสัตว์ตากแห้ง และกระดองกระ  นับเป็นเวลาที่อับจนหนทาง เมื่อเราพบอาณาจักรแห่งนี้ ที่เปรียบเสมือนที่รวมสรรพสิ่งมหัศจรรย์ทั้งมวล ได้กลายเป็นสถานที่ปรักหักพังไร้รูปไร้ทรงมิรู้จบ การเน่าเปื่อยของเนื้อตายได้ลุกลามเกินกว่าจะเยียวยารักษาด้วยพระราชคฑาแห่งเรา  อันมีชัยเหนือกษัตริย์ฝาสยอริราชศัตรู ทำให้เราเป็นทายาทแห่งความหายนะสำหรับพวกมัน เพียงคำบอกเล่าของมาร์โกโปโลเท่านั้นที่ องค์กุ๊บไลข่านทรงสามารถวินิจฉัยผ่านซากกำแพงและป้อมค่าย   ลวดลายประดับอันแสนละเอียดประณีตจนเหลือรอดจากปลวกกัดแทะได้

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [17 พ.ค. 45 13:04:14]