"คุณจะกรุณา" เธอพูดด้วยความโกรธที่ระงับไว้อย่างสุดความสามารถ "บอกฉันได้มั้ยว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"
"เรื่องไหนล่ะ" เขาถาม
เธอตอบเขาด้วยการจ้องอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แองกัสคิดว่าเธอดูน่ารักดีเมื่อแก้มแดงก่ำด้วยความโมโห แต่ตัดสินใจว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะกล่าวคำชื่นชมออกมาดังๆ
"อ๋อ" เขาลากเสียง ไม่อาจระงับมุมปากไม่ให้กระตุกด้วยความขบขันได้ "โธ่ ฉันนึกว่ามันก็ชัดเจนแล้วนะ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องอธิบายล่ะก็
."
"จำเป็น!"
เขายักไหล่ "เธอไม่มีทางมีที่ซุกหัวนอนคืนนี้แน่ถ้าจอร์จไม่นึกว่าเธอเป็นภรรยาของฉันจริงๆ"
"ไม่จริงสักหน่อย แล้วใครคือจอร์จ"
"เจ้าของโรงแรมไง แล้วที่ฉันพูดก็จริงอย่างยิ่งทีเดียว เขาไม่มีทางให้เราเช่าห้องนี้กับคู่หนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงานกันแน่"
"แน่นอนสิ" เธอตวาด "เขาคงจะยกห้องนี้ให้ฉัน แล้วโยนคุณออกไปข้างนอก"
แองกัสเกาหัวแกรกๆอย่างครุ่นคิด "ฉันไม่แน่ใจหรอกนะเรื่องนั้น มิสเพ็นนีแพกเกอร์ เพราะยังไงฉันก็เป็นคนถือกระเป๋าเงินนี่นา"
เธอทำตาเขียวปั้ดด้วยความโกรธแค้น แล้วแองกัสก็สังเกตเห็นในทันทีว่านัยน์ตาเธอเป็นสีอะไร มันเป็นสีเขียว เฉดของสีเขียวที่สวยงามน่ารักมากเสียด้วย
"เห็นมั้ย" เขาพูดเมื่อเห็นเธอเงียบไป "เธอก็เห็นด้วยกับฉันนั่นแหละ"
"ฉันมีเงินนะ" เธอบ่นอุบ
"เท่าไหร่ล่ะ"
"พอก็แล้วกัน!"
"เธอบอกว่าโดนขโมยกระเป๋าไปไม่ใช่รึไง"
"ใช่" เธอพูดด้วยความเกรี้ยวกราดจนแองกัสคิดว่าช่างมหัศจรรย์ที่เธอไม่สำลักคำพูดเสียก่อน "แต่ฉันยังมีเศษเงินเหลือนิดหน่อยนี่"
"เหลือพอจ่ายเป็นค่าอาหารค่ำ น้ำอาบร้อนๆ แล้วก็ห้องทานอาหารส่วนตัวงั้นหรือ"
"นั่นไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย" เธอเถียง "และที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ คุณทำท่ายังกะสนุกสนานกับมันมากอย่างนั้นแหละ"
แองกัสอมยิ้ม "ฉันก็*สนุก*จริงๆ"
"คุณทำอย่างนี้ทำไม" เธอโบกมือใส่เขาอย่างขุ่นเคือง "ถ้าห้องมันเต็มเราก็ไปโรงแรมอื่นก็ได้นี่"
เสียงฟ้าร้องผ่าเปรี้ยงดังสนั่น
พระเจ้า แองกัสคิด อยู่ข้างเขาในคืนนี้ "ในสภาพอากาศอย่างนี้น่ะหรือ" เขาถาม "ขอประทานโทษ แต่ฉันไม่มีอารมณ์จะออกไปฝ่าพายุข้างนอกอีกหรอก"
"แม้ว่าเราจะต้องเล่นละครเป็นสามีภรรยากันน่ะเหรอ" เธอเสียงอ่อนลง "แล้วคุณจำเป็นจะต้องสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งฉันขนาดนี้ด้วยรึไง"
นัยน์ตาสีเข้มของเขาอ่อนลง "ฉันไม่ได้คิดจะดูถูกเธอเลยสักนิดเดียว เธอคงเข้าใจนะ"
มาร์กาเร็ตพบว่าอารมณ์ของเธอเริ่มสงบลงภายใต้สายตาอบอุ่นและเป็นห่วงเป็นใยของเขา "แต่คุณก็ไม่เห็นต้องบอกเจ้าของโรงแรมว่าฉันกำลังท้องเลยนี่นา" เธอพูด หน้าร้อนซู่เมื่อขย้อนคำสุดท้ายออกมา
เขาถอนหายใจ "ฉันคงต้องขอโทษด้วย คำแก้ตัวของฉันก็มีแค่ว่า ฉันบังเอิญเกิดอารมณ์ขันขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้นเอง ตลอดสองวันมานี่ฉันได้แต่ขี่ม้าห้อตะบึงข้ามสก็อตแลนด์ ทั้งหนาว เปียกเฉอะแฉะ ทั้งหิว การเล่นละครของเราเป็นเรื่องน่าขบขันเรื่องแรกที่ฉันรู้สึกในช่วงหลายวันที่ผ่านมา อภัยให้ฉันด้วยเถอะถ้าฉันสนุกจนเลยเถิดเกินไป"
มาร์กาเร็ตได้แต่จ้องหน้าเขา หมัดของเธอกำแน่นอยู่ข้างตัว เธอรู้ว่าเธอควรจะรับคำขอโทษของเขาโดยดี แต่ความจริงก็คือ เธอยังอยากได้เวลาอีกสักหลายนาทีกว่าจะทำใจได้
แองกัสยกมือขึ้นแบหราเป็นทำนองขอสงบศึก "เธอจะยืนทื่อเป็นหินอย่างนี้ต่อไปฉันก็ไม่ว่าหรอก" เขาพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ "แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย มิสเพ็นนีแพกเกอร์ที่รัก ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนใจอ่อนกว่าที่คิด"
สายตาที่เธอยิงมาทางเขาไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้ปรานีแต่อย่างใด "ทำไม! เพราะว่าฉันไม่บีบคอคุณตายต่อหน้าเจ้าของโรงแรมข้างล่างนั่นน่ะเหรอ"
"อืม..นั่นก็ด้วย แต่ที่ฉันพูดถึงก็คือการที่เธอไม่อยากทำร้ายจิตใจเจ้าของโรงแรมด้วยการแสดงท่ารังเกียจอาหารประจำชาติของเขาต่างหาก"
"ฉันรังเกียจแฮกกิส" เธอเถียง
"ใช่ แต่เธอไม่ได้พูดมันออกมาดังๆ" เขาเห็นเธออ้าปากก็รีบยกมือ "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เถียงอีกล่ะ เธอพยายามจะทำให้ฉันไม่ชอบเธอเสียเหลือเกิน แต่บอกได้เลยว่ามันไม่สำเร็จ"
"คุณมันบ้า" เธอพูดพลางถอนหายใจ
แองกัสดึงเสื้อโค้ตเปียกชุ่มออกจากตัว "เธอด่าฉันจนกลายเป็นนิสัยไปแล้วนะ"
"ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้นย่ะ" เธอบ่น แล้วก็เงยหน้าขึ้นเห็นว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ "อย่าถอดเสื้อโค้ตนะ!"
"ก็เป็นปอดบวมตายน่ะสิ" เขาพูดเอื่อยๆ "เธอก็น่าจะถอดเสื้อออกด้วยเหมือนกัน"
"คุณต้องออกไปนอกห้องก่อน"
"แล้วยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าประตูน่ะนะ ฉันว่าไม่ดีกว่า"
มาร์กาเร็ตเดินสวบๆไปรอบห้อง เปิดตู้ ค้นลิ้นชัก "มันน่าจะมีฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าสักอันสิ มันต้องมีสักอัน"
"แถวนี้ไม่มีของอย่างนั้นหรอก" เขาพูดอย่างช่วยเหลือ
เธอยืนนิ่งอยู่เป็นครู่ พยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดออกมาอีกครั้ง ตลอดชีวิตของมาร์กาเร็ตคือการควบคุมตัวเอง เธอต้องรับผิดชอบน้องๆ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี และการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆเป็นพฤติกรรมที่สมควรหลีกเลี่ยง แต่ครั้งนี้
.เธอมองข้ามไหล่และเห็นเขากำลังยิ้มกริ่ม ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน
เธอกระแทกลิ้นชักปิดดังโครม ซึ่งควรจะทำให้เธอสะใจได้ไม่มากก็น้อย หากไม่ใช่ว่าปลายนิ้วกลางของเธอติดอยู่ที่ปากลิ้นชักด้วย "โอ๊ยยยยยยยยยย!" เธอร้องโหยหวน เอานิ้วใส่ปากอมโดยอัตโนมัติด้วยความเจ็บปวด
"เป็นอะไรหรือเปล่า" แองกัสถาม เดินเข้ามาหาเธอทันที
เธอส่ายหน้า "ไปให้พ้นนะ" เธอพึมพำทั้งมีนิ้วคาปาก
"แน่ใจนะ กระดูกอาจจะหักก็ได้"
"ไม่หัก ไปให้พ้น"
เขาจับมือเธอดึงนิ้วออกจากปากอย่างนุ่มนวล "ท่าทางไม่เป็นไรจริงๆ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
"แต่ฉันก็ไม่ใช่หมอเลยบอกไม่ได้แน่ชัด"
"ทำไม?" มาร์กาเร็ตร้องครวญ "ทำไม?"
"ทำไมฉันถึงไม่ใช่หมอน่ะเหรอ?" เขาทวนคำ กระพริบตาปริบๆท่าทางงุนงง "เธอคงนึกว่าฉันเรียนแพทย์มาละมัง แต่ความจริงแล้ว ฉันถนัดด้านเกษตรมากกว่า ฉันวางแผนดูแลที่นาน่ะ จะพูดให้ถูก
"
"ทำไมคุณต้องกลั่นแกล้งฉันด้วย!" เธอแผดเสียงใส่
"อะไรกัน มิสเพ็นนีแพกเกอร์ เธอคิดว่าฉันกำลังกลั่นแกล้งเธอได้ยังไง"
เธอกระชากมือออกจากการเกาะกุม "ฉันสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงถูกลงโทษอย่างนี้ ฉันจินตนาการไม่ออกว่าฉันทำบาปทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาเจอ
."
"มาร์กาเร็ต" เขาพูดเสียงดัง หยุดการพล่ามบ่นของเธอด้วยการเรียกชื่อต้นอย่างสนิทสนม "อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่น่า"
เธอยืนอยู่ที่นี่ นิ่งไม่กระดุกกระดิกเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็ม ลมหายใจเธอไม่สม่ำเสมอ แล้วเธอก็กลืนน้ำลายอย่างผิดปกติ จากนั้นเธอก็เริ่มกระพริบตา
"โอ
ไม่" แองกัสพูด หลับตาลงอย่างทุกข์ทรมาน "อย่าร้องไห้"
-- อ่านต่อ บทที่ 6 --
จากคุณ :
Tigger - [10 มิ.ย. 45 17:06:53 A:203.147.22.123 X:203.147.22.3]