แองกัสเดินเข้ามาในโรงแรมแคนนี้แมนในอีกแปดนาทีต่อมา พร้อมกับจดหมายในมือ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนักกับการทำให้คนเดินสารยอมปล่อยจดหมายมาอยู่ในมือของเขา แองกัสพูด อย่างค่อนข้างจะหนักแน่นว่า เขาเป็นผู้คุ้มครองมิสมาร์กาเร็ต เพ็นนีแพกเกอร์อยู่ในตอนนี้ และจะนำจดหมายไปถึงมือของเธออย่างแน่นอน
มันไม่ได้เสียหายอะไรที่แองกัสจะสูงเลยหกฟุตไปสี่นิ้วกว่า ซึ่งทำให้เขาค้ำหัวคนเดินสารไปเกือบฟุต
มาร์กาเร็ตยังนั่งจุ้มปุ้กอยู่ที่เดิม เธอนั่งเคาะนิ้วกับโต๊ะอาหารอย่างกระวนกระวายโดยไม่สนใจชามใส่ครานากันชามใหญ่สองชามที่จอร์จเจ้าของโรงแรมคงเอามาตั้งตรงหน้าเธอ
"นี่ขอรับกระผม" เขาพูดพลางยื่นซองจดหมายให้เธออย่างวาดลวดลาย
มาร์กาเร็ตคงเพิ่งสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เพราะเธอผวาขึ้นนิ่ง แล้วก็สั่นศีรษะน้อยๆเป็นเชิงเรียกสติตัวเองกลับมา
จดหมายนี้มาจากครอบครัวของมาร์กาเร็ตตามที่คาดไว้ แองกัสคาดคั้นข้อมูลนี้มาจากคนเดินสาร แต่เขาไม่คิดว่าข้อความข้างในจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร เพราะคนเดินสารรีบสารภาพจนหมดเปลือกว่า สุภาพสตรีที่มอบจดหมายนี้ให้แกเขากำชับว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีตระหนกตกใจหรือกลัดกลุ้มประการใด
นัยน์ตาของแองกัสจับจ้องมาร์กาเร็ตอย่างระมัดระวังเมื่อมือสั่นระริกของหญิงสาวเปิดซองจดหมายออก ดวงตาสีเขียนของเธอกวาดไปตามตัวอักษร เมื่ออ่านจบ เธอก็กระพริบตาปริบๆอย่างรวดเร็ว แล้วเสียงกึ่งสำลักก็พรวดออกมาจากลำคอ "นี่มันเป็นไปได้ยังไง!!"
แองกัสตัดสินใจว่าเขาควรจะปฏิบัติตัวกับมาร์กาเร็ตอย่างระมัดระวังมากๆ เพราะจากปฏิกิริยาของเธอ เขาไม่แน่ใจเลยว่าเธอกำลังจะกรีดร้องหรือคร่ำครวญกันแน่ ผู้ชายกับม้านั้นเดาใจได้ง่าย แต่มีเพียงพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าใจผู้หญิง
เขาเรียกชื่อเธอ แต่เธอยัดเยียดจดหมายสองแผ่นมาให้เขาแทนการตอบ
"ฉันจะฆ่าเขา" มาร์กาเร็ตแค่นเสียงออกมา "ถ้าเขายังไม่ตาย ฉันนี่ล่ะจะฆ่าเขาเอง"
แองกัสก้มมองกระดาษสองแผ่นในมือ
"อ่านแผ่นล่างก่อนสิ" มาร์กาเร็ตกระชากเสียงอย่างขมขื่น
เขาสลับแผ่นกระดาษ แล้วเริ่มอ่าน
บ้านรัทเธอร์ฟอร์ด
เมืองเพ็นเดิล มณฑลแลงคาสเชียร์
พี่มาร์กาเร็ตที่รัก
จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาหาเราโดย ฮิวโก ธรัมป์ตัน เขาบอกว่าเขาได้รับคำสั่งไม่ให้นำมาส่งถึงเราจนกว่าพี่จะออกจากบ้านไปหนึ่งวันเต็มๆ
อย่าโกรธเอ็ดเวิร์ดเลยนะคะ
ขอพระเจ้าคุ้มครองพี่ด้วย
น้องสาวที่รักของพี่
อลิเซีย เพ็นนีแพกเกอร์
แองกัสเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ฮิวโก ธรัมป์ตันที่ว่านี่เป็นใคร"
"เพื่อนสนิทของน้องชายฉันเอง"
"อ๋อ" เขาหยิบจดหมายแผ่นที่สองขึ้นมาอ่าน มันถูกเขียนด้วยลายมือที่บ่งชัดว่าเป็นบุรุษเพศ
คฤหาสน์ธรัมป์ตัน มณฑลแลงคาสเชียร์
พี่มาร์กาเร็ตที่รัก
ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง ตอนนี้พี่คงได้รับจดหมายที่บอกว่าผมออกเดินทางไปเกร็ทน่ากรีนเรียบร้อยแล้ว และถ้าเป็นอย่างที่ผมคาด พี่คงกำลังอยู่สก็อตแลนด์ตอนที่อ่านจดหมายฉบับนี้
แต่ผมไม่ได้อยู่ในสก็อตแลนด์ และผมไม่เคยมีความคิดที่จะพาผู้หญิงหนีตามกันเลย อันที่จริงแล้ว ผมกำลังจะออกเดินทางไปลิเวอร์พูลในวันพรุ่งนี้เพื่อสมัครเป็นทหารในกองทัพเรืออังกฤษ ผมจะใช้เงินเก็บของผมในการสมัครครั้งนี้เอง
ผมรู้ว่าพี่ไม่ปรารถนาจะให้ผมเป็นทหาร แต่ผมเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผมอยากที่จะเลือกทางเดินชีวิตของผมเอง ผมรู้ว่าชะตาชีวิตของผมจะต้องเข้าร่วมในกองทัพเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ผมยังหัดเล่นตุ๊กตาทหารตะกั่วตอนเป็นเด็ก
ผมสวดวิงวอนให้พี่ยกโทษให้ผมที่ในการโกหกหลอกลวงครั้งนี้ แต่ผมรู้ว่าพี่จะต้องตามผมมาที่ลิเวอร์พูลถ้าพี่รู้เจตนาที่แท้จริงของผม การลาจากอย่างขมขื่นคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันคงทำให้ผมต้องปวดร้าวไปตลอดชั่วชีวิต
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
น้องชายที่รักของพี่
เอ็ดเวิร์ด เพ็นนีแพกเกอร์
แองกัสเงยหน้าขึ้นมองมาร์กาเร็ต "นี่เธอไม่ได้ระแคะระคายอะไรมาก่อนเลยใช่มั้ยนี่" เขาถามเสียงเบา
"ไม่เลย" เธอตอบ กระแสเสียงพร่าไป "คุณคิดว่าฉันจะเดินทางทุลักทุเลมาถึงที่บ้าๆนี่ ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะไปลิเวอร์พูลเหรอไง"
"แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป"
"กลับบ้าน ละมัง.. ฉันจะทำอะไรได้อีกล่ะ ป่านนี้พ่อคุณคงไปอเมริกาได้ครึ่งทางแล้วมั้ง"
เธอพูดประชดอย่างเกินจริง แต่แองกัสก็ไม่อาจตำหนิเธอได้ ด้วยความที่ไม่อาจหาคำพูดใดๆที่เหมาะสมกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงได้แต่เอื้อมมือไป ผลักชามครานากันไปใกล้เธออีกนิด "กินครานากันเสียหน่อยสิ"
มาร์กาเร็ตเหลือบสายตามองอาหารของเธอ "คุณอยากให้ฉันกินเหรอ"
"ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเหลือแล้วนี่ เธอไม่ยอมกินแฮกกิสเลย"
หญิงสาวหยิบช้อนขึ้น "ฉันเป็นพี่สาวที่แย่ขนาดนั้นเลยหรือไง ฉันเป็นคนที่น่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ไม่หรอก"
"คิดดูสิ ฉันเป็นพี่สาวชนิดไหนกันที่ทำให้น้องชายต้องวางแผนส่งฉันออกเดินทางมาจนถึงเกรทน่ากรีนเพื่อที่เขาจะได้หนีไปได้โดยสะดวก"
"พี่สาวที่รักน้องชายอย่างมากละมัง" แองกัสตอบ ส่งครานากันเข้าปาก "ให้ตาย เยี่ยมจริงๆ เธอลองชิมดูหน่อยสิ"
มาร์กาเร็ตจุ่มช้อนลงไปในชาม แต่ไม่ยอมยกขึ้นใส่ปาก "คุณหมายความว่ายังไง"
"เห็นได้ชัดว่าเขารักเธอมากถึงขนาดไม่สามารถจะทนการลาจากอันปวดร้าวได้ และฟังดูเหมือนเธอคงจะคัดค้านหัวชนฝาทีเดียวถ้าเธอรู้เจตนาที่แท้จริงของเขา"
มาร์กาเร็ตเกือบจะสวนกลับว่า 'อ๋อ แน่นอน!' อยู่แล้ว แต่เธอกลับหยุดไว้ แล้วถอนหายใจ จะมีประโยชน์อะไรที่จะมาแก้ตัวหรืออธิบายความรู้สึกของเธอเอาตอนนี้ อะไรที่เป็นก็เป็นไปแล้ว ไม่มีอะไรที่แก้ไขได้อีกต่อไป
หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง แล้วยกช้อนขึ้น ถ้ามีอะไรสักอย่างที่เธอเกลียด ก็คงเป็นความรู้สึกที่ว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้กระมัง
"นี่เธอจะกินพุดดิ้ง หรือว่ากำลังทดสอบการทรงตัวของขนมบนช้อนกันแน่เนี่ย"
มาร์กาเร็ตกระพริบตาตื่นจากห้วงความคิด แต่ก่อนที่จะเธอกล่าวอะไรออกไป จอร์จ แม็คคัลลัมก็ปรากฏกายขึ้นที่โต๊ะอาหาร
"ถึงเวลาเก็บของปิดร้านแล้วนะครับ" เขาพูด "ผมไม่อยากจะไล่พวกคุณหรอก แต่เมียผมเขาเรียกร้องเหลือเกิน" เขายิ้มกริ่มให้แองกัส "คุณก็รู้ว่ามันเป็นยังไง"
แองกัสบุ้ยใบ้ไปทางมาร์กาเร็ต "เธอยังกินครานากันไม่หมดเลย"
"เอาขึ้นไปกินที่ห้องก็ได้ ทิ้งให้เสียของทำไม"
แองกัสพยักหน้า แล้วลุกขึ้น "งั้นก็ได้ พร้อมหรือยังจ๊ะ หวานใจ"
ช้อนในมือของมาร์กาเร็ตหล่นปุลงในชามครานากันดังแผละ นี่เขาเพิ่งจะเรียกเธอว่า หวานใจ..เหรอเนี่ย "ฉัน..ฉัน..ฉัน
"
"เธอรักฉันมาก" แองกัสพูดกับจอร์จ "จนบางทีเธอนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร"
ขณะที่มาร์กาเร็ตยังตะลึงมองเขาค้างออกอย่างนั้น เขาก็ยักไหล่กว้างอันทรงพลังของตนด้วยอาการอวดดีจองหองอย่างที่สุด "ฉันจะว่าอะไรได้ล่ะ ก็ฉันทำให้เธอหลงรักจนหน้ามืดตามัวไปแล้วนี่นา"
จอร์จหัวเราะกั้กๆ ขณะที่มาร์กาเร็ตกระอึกกระอักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ยังเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ "คุณระวังหลังหน่อยก็ดีนะ" เจ้าของโรงแรมเตือนแองกัส "ไม่งั้นคุณอาจจะได้แชมพูสระผมใหม่เป็นครานากันแสนอร่อยของเมียผมก็ได้"
"ความคิดแจ๋วไปเลยค่ะ" มาร์กาเร็ตฮึ่มฮั่ม
แองกัสหัวเราะก้องก่อนจะยืนขึ้นแล้วส่งมือให้เธอ เขาพอจะรู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เธอเลิกเศร้าก็โดยการแกล้งแหย่เธอด้วยการกุเรื่องว่าเธอเป็นภรรยาที่แสนจะหลงใหลในตัวเขา ถ้าเขาแกล้งเปรยถึงเด็กในท้องด้วย เธออาจจะลืมเรื่องน้องชายของเธอไปเลยก็ได้
เขาตั้งท่าจะอ้าปากพูด แต่พอเห็นแววตาอาฆาตในดวงตาของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนใจ ยังไงความปลอดภัยทางร่างกายก็ยังสำคัญกว่า ท่าทางของมาร์กาเร็ตเหมือนกับเธอพร้อมจะกระโดดเข้าทำร้ายเขาทุกเมื่อยังไงยังงั้น หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ขว้างชามครานากันใส่เขา
แต่เขาก็ยินดีที่จะโดนปาพุดดิ้งใส่ หากว่านั่นจะทำให้หญิงสาวหยุดคิดกังวลเรื่องน้องชายของเธอ แม้จะเพียงแค่ชั่วครู่ก็ตามที "ไปกันเถอะ ที่รัก" เขาเล่นละครต่อ "เขาจะได้เก็บร้านพักผ่อนกัน"
มาร์กาเร็ตพยักหน้าแล้วยืนขึ้นด้วยริมฝีปากเม้มเข้าหาแน่น แองกัสคิดว่าเธอคงไม่ไว้ใจตัวเองให้พูดอะไรออกมา
"อย่าลืมครานากันของเธอเสียล่ะ" เขาพูด แล้วหยิบชามของหวานของตนขึ้น
"คุณน่าจะถือให้คุณผู้หญิงด้วยนะครับ" จอร์จกระเซ้า "ผมไม่ค่อยไว้ใจประกายตาของเธอเลย"
แองกัสเห็นว่าเป็นคำแนะนำที่มีเหตุผล จึงคว้าชามอีกอันขึ้นมาด้วย "ขอบคุณที่แนะนำ เอาล่ะ ภรรยาของฉันคงจะต้องเดินไปโดยไม่มีฉันควงแขนไปด้วย แต่ฉันคิดว่า เธอคงจะพอทนได้สักสองสามนาที หรือนายว่าไง"
"โอ๊ย...แน่นอนครับ คุณผู้หญิงคนนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคนไหนมาบอกว่าจะต้องไปที่ไหนที่ไหนหรอก" จอร์จกระทุ้งศอกเข้าที่แขนของมาร์กาเร็ต แล้วยิ้มเผล่ "แต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ"
แองกัสรีบรุนหลังมาร์กาเร็ตออกไปจากห้องอาหารก่อนที่เธอจะฆาตกรรมเจ้าของโรงแรม
-- มีต่อ --
จากคุณ :
Tigger - [18 มิ.ย. 45 09:16:39 A:203.170.222.135 X:]