ตามล่าหารัก Gretna Green by Julia Quinn บทที่ 10

    แองกัสเดินเข้ามาในโรงแรมแคนนี้แมนในอีกแปดนาทีต่อมา พร้อมกับจดหมายในมือ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนักกับการทำให้คนเดินสารยอมปล่อยจดหมายมาอยู่ในมือของเขา แองกัสพูด อย่างค่อนข้างจะหนักแน่นว่า เขาเป็นผู้คุ้มครองมิสมาร์กาเร็ต เพ็นนีแพกเกอร์อยู่ในตอนนี้ และจะนำจดหมายไปถึงมือของเธออย่างแน่นอน

    มันไม่ได้เสียหายอะไรที่แองกัสจะสูงเลยหกฟุตไปสี่นิ้วกว่า ซึ่งทำให้เขาค้ำหัวคนเดินสารไปเกือบฟุต

    มาร์กาเร็ตยังนั่งจุ้มปุ้กอยู่ที่เดิม เธอนั่งเคาะนิ้วกับโต๊ะอาหารอย่างกระวนกระวายโดยไม่สนใจชามใส่ครานากันชามใหญ่สองชามที่จอร์จเจ้าของโรงแรมคงเอามาตั้งตรงหน้าเธอ

    "นี่ขอรับกระผม" เขาพูดพลางยื่นซองจดหมายให้เธออย่างวาดลวดลาย

    มาร์กาเร็ตคงเพิ่งสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เพราะเธอผวาขึ้นนิ่ง แล้วก็สั่นศีรษะน้อยๆเป็นเชิงเรียกสติตัวเองกลับมา

    จดหมายนี้มาจากครอบครัวของมาร์กาเร็ตตามที่คาดไว้ แองกัสคาดคั้นข้อมูลนี้มาจากคนเดินสาร แต่เขาไม่คิดว่าข้อความข้างในจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร เพราะคนเดินสารรีบสารภาพจนหมดเปลือกว่า สุภาพสตรีที่มอบจดหมายนี้ให้แกเขากำชับว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีตระหนกตกใจหรือกลัดกลุ้มประการใด

    นัยน์ตาของแองกัสจับจ้องมาร์กาเร็ตอย่างระมัดระวังเมื่อมือสั่นระริกของหญิงสาวเปิดซองจดหมายออก ดวงตาสีเขียนของเธอกวาดไปตามตัวอักษร เมื่ออ่านจบ เธอก็กระพริบตาปริบๆอย่างรวดเร็ว แล้วเสียงกึ่งสำลักก็พรวดออกมาจากลำคอ "นี่มันเป็นไปได้ยังไง!!"

    แองกัสตัดสินใจว่าเขาควรจะปฏิบัติตัวกับมาร์กาเร็ตอย่างระมัดระวังมากๆ เพราะจากปฏิกิริยาของเธอ เขาไม่แน่ใจเลยว่าเธอกำลังจะกรีดร้องหรือคร่ำครวญกันแน่ ผู้ชายกับม้านั้นเดาใจได้ง่าย แต่มีเพียงพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าใจผู้หญิง

    เขาเรียกชื่อเธอ แต่เธอยัดเยียดจดหมายสองแผ่นมาให้เขาแทนการตอบ

    "ฉันจะฆ่าเขา" มาร์กาเร็ตแค่นเสียงออกมา "ถ้าเขายังไม่ตาย ฉันนี่ล่ะจะฆ่าเขาเอง"

    แองกัสก้มมองกระดาษสองแผ่นในมือ

    "อ่านแผ่นล่างก่อนสิ" มาร์กาเร็ตกระชากเสียงอย่างขมขื่น

    เขาสลับแผ่นกระดาษ แล้วเริ่มอ่าน

    บ้านรัทเธอร์ฟอร์ด

    เมืองเพ็นเดิล มณฑลแลงคาสเชียร์

    พี่มาร์กาเร็ตที่รัก

    จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาหาเราโดย ฮิวโก ธรัมป์ตัน เขาบอกว่าเขาได้รับคำสั่งไม่ให้นำมาส่งถึงเราจนกว่าพี่จะออกจากบ้านไปหนึ่งวันเต็มๆ

    อย่าโกรธเอ็ดเวิร์ดเลยนะคะ

    ขอพระเจ้าคุ้มครองพี่ด้วย

    น้องสาวที่รักของพี่

    อลิเซีย เพ็นนีแพกเกอร์

    แองกัสเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ฮิวโก ธรัมป์ตันที่ว่านี่เป็นใคร"

    "เพื่อนสนิทของน้องชายฉันเอง"

    "อ๋อ" เขาหยิบจดหมายแผ่นที่สองขึ้นมาอ่าน มันถูกเขียนด้วยลายมือที่บ่งชัดว่าเป็นบุรุษเพศ

    คฤหาสน์ธรัมป์ตัน มณฑลแลงคาสเชียร์

    พี่มาร์กาเร็ตที่รัก

    ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง ตอนนี้พี่คงได้รับจดหมายที่บอกว่าผมออกเดินทางไปเกร็ทน่ากรีนเรียบร้อยแล้ว และถ้าเป็นอย่างที่ผมคาด พี่คงกำลังอยู่สก็อตแลนด์ตอนที่อ่านจดหมายฉบับนี้

    แต่ผมไม่ได้อยู่ในสก็อตแลนด์ และผมไม่เคยมีความคิดที่จะพาผู้หญิงหนีตามกันเลย อันที่จริงแล้ว ผมกำลังจะออกเดินทางไปลิเวอร์พูลในวันพรุ่งนี้เพื่อสมัครเป็นทหารในกองทัพเรืออังกฤษ ผมจะใช้เงินเก็บของผมในการสมัครครั้งนี้เอง

    ผมรู้ว่าพี่ไม่ปรารถนาจะให้ผมเป็นทหาร แต่ผมเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผมอยากที่จะเลือกทางเดินชีวิตของผมเอง ผมรู้ว่าชะตาชีวิตของผมจะต้องเข้าร่วมในกองทัพเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ผมยังหัดเล่นตุ๊กตาทหารตะกั่วตอนเป็นเด็ก

    ผมสวดวิงวอนให้พี่ยกโทษให้ผมที่ในการโกหกหลอกลวงครั้งนี้ แต่ผมรู้ว่าพี่จะต้องตามผมมาที่ลิเวอร์พูลถ้าพี่รู้เจตนาที่แท้จริงของผม การลาจากอย่างขมขื่นคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันคงทำให้ผมต้องปวดร้าวไปตลอดชั่วชีวิต

    นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

    น้องชายที่รักของพี่

    เอ็ดเวิร์ด เพ็นนีแพกเกอร์

    แองกัสเงยหน้าขึ้นมองมาร์กาเร็ต "นี่เธอไม่ได้ระแคะระคายอะไรมาก่อนเลยใช่มั้ยนี่" เขาถามเสียงเบา

    "ไม่เลย" เธอตอบ กระแสเสียงพร่าไป "คุณคิดว่าฉันจะเดินทางทุลักทุเลมาถึงที่บ้าๆนี่ ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะไปลิเวอร์พูลเหรอไง"

    "แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป"

    "กลับบ้าน ละมัง.. ฉันจะทำอะไรได้อีกล่ะ ป่านนี้พ่อคุณคงไปอเมริกาได้ครึ่งทางแล้วมั้ง"

    เธอพูดประชดอย่างเกินจริง แต่แองกัสก็ไม่อาจตำหนิเธอได้ ด้วยความที่ไม่อาจหาคำพูดใดๆที่เหมาะสมกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงได้แต่เอื้อมมือไป ผลักชามครานากันไปใกล้เธออีกนิด "กินครานากันเสียหน่อยสิ"

    มาร์กาเร็ตเหลือบสายตามองอาหารของเธอ "คุณอยากให้ฉันกินเหรอ"

    "ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเหลือแล้วนี่ เธอไม่ยอมกินแฮกกิสเลย"

    หญิงสาวหยิบช้อนขึ้น "ฉันเป็นพี่สาวที่แย่ขนาดนั้นเลยหรือไง ฉันเป็นคนที่น่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ"

    "ไม่หรอก"

    "คิดดูสิ ฉันเป็นพี่สาวชนิดไหนกันที่ทำให้น้องชายต้องวางแผนส่งฉันออกเดินทางมาจนถึงเกรทน่ากรีนเพื่อที่เขาจะได้หนีไปได้โดยสะดวก"

    "พี่สาวที่รักน้องชายอย่างมากละมัง" แองกัสตอบ ส่งครานากันเข้าปาก "ให้ตาย เยี่ยมจริงๆ เธอลองชิมดูหน่อยสิ"

    มาร์กาเร็ตจุ่มช้อนลงไปในชาม แต่ไม่ยอมยกขึ้นใส่ปาก "คุณหมายความว่ายังไง"

    "เห็นได้ชัดว่าเขารักเธอมากถึงขนาดไม่สามารถจะทนการลาจากอันปวดร้าวได้ และฟังดูเหมือนเธอคงจะคัดค้านหัวชนฝาทีเดียวถ้าเธอรู้เจตนาที่แท้จริงของเขา"

    มาร์กาเร็ตเกือบจะสวนกลับว่า 'อ๋อ แน่นอน!' อยู่แล้ว แต่เธอกลับหยุดไว้ แล้วถอนหายใจ จะมีประโยชน์อะไรที่จะมาแก้ตัวหรืออธิบายความรู้สึกของเธอเอาตอนนี้ อะไรที่เป็นก็เป็นไปแล้ว ไม่มีอะไรที่แก้ไขได้อีกต่อไป

    หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง แล้วยกช้อนขึ้น ถ้ามีอะไรสักอย่างที่เธอเกลียด ก็คงเป็นความรู้สึกที่ว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้กระมัง

    "นี่เธอจะกินพุดดิ้ง หรือว่ากำลังทดสอบการทรงตัวของขนมบนช้อนกันแน่เนี่ย"

    มาร์กาเร็ตกระพริบตาตื่นจากห้วงความคิด แต่ก่อนที่จะเธอกล่าวอะไรออกไป จอร์จ แม็คคัลลัมก็ปรากฏกายขึ้นที่โต๊ะอาหาร

    "ถึงเวลาเก็บของปิดร้านแล้วนะครับ" เขาพูด "ผมไม่อยากจะไล่พวกคุณหรอก แต่เมียผมเขาเรียกร้องเหลือเกิน" เขายิ้มกริ่มให้แองกัส "คุณก็รู้ว่ามันเป็นยังไง"

    แองกัสบุ้ยใบ้ไปทางมาร์กาเร็ต "เธอยังกินครานากันไม่หมดเลย"

    "เอาขึ้นไปกินที่ห้องก็ได้ ทิ้งให้เสียของทำไม"

    แองกัสพยักหน้า แล้วลุกขึ้น "งั้นก็ได้ พร้อมหรือยังจ๊ะ หวานใจ"

    ช้อนในมือของมาร์กาเร็ตหล่นปุลงในชามครานากันดังแผละ นี่เขาเพิ่งจะเรียกเธอว่า หวานใจ..เหรอเนี่ย "ฉัน..ฉัน..ฉัน…"

    "เธอรักฉันมาก" แองกัสพูดกับจอร์จ "จนบางทีเธอนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร"

    ขณะที่มาร์กาเร็ตยังตะลึงมองเขาค้างออกอย่างนั้น เขาก็ยักไหล่กว้างอันทรงพลังของตนด้วยอาการอวดดีจองหองอย่างที่สุด "ฉันจะว่าอะไรได้ล่ะ ก็ฉันทำให้เธอหลงรักจนหน้ามืดตามัวไปแล้วนี่นา"

    จอร์จหัวเราะกั้กๆ ขณะที่มาร์กาเร็ตกระอึกกระอักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ยังเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ "คุณระวังหลังหน่อยก็ดีนะ" เจ้าของโรงแรมเตือนแองกัส "ไม่งั้นคุณอาจจะได้แชมพูสระผมใหม่เป็นครานากันแสนอร่อยของเมียผมก็ได้"

    "ความคิดแจ๋วไปเลยค่ะ" มาร์กาเร็ตฮึ่มฮั่ม

    แองกัสหัวเราะก้องก่อนจะยืนขึ้นแล้วส่งมือให้เธอ เขาพอจะรู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เธอเลิกเศร้าก็โดยการแกล้งแหย่เธอด้วยการกุเรื่องว่าเธอเป็นภรรยาที่แสนจะหลงใหลในตัวเขา ถ้าเขาแกล้งเปรยถึงเด็กในท้องด้วย เธออาจจะลืมเรื่องน้องชายของเธอไปเลยก็ได้

    เขาตั้งท่าจะอ้าปากพูด แต่พอเห็นแววตาอาฆาตในดวงตาของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนใจ ยังไงความปลอดภัยทางร่างกายก็ยังสำคัญกว่า ท่าทางของมาร์กาเร็ตเหมือนกับเธอพร้อมจะกระโดดเข้าทำร้ายเขาทุกเมื่อยังไงยังงั้น หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ขว้างชามครานากันใส่เขา

    แต่เขาก็ยินดีที่จะโดนปาพุดดิ้งใส่ หากว่านั่นจะทำให้หญิงสาวหยุดคิดกังวลเรื่องน้องชายของเธอ แม้จะเพียงแค่ชั่วครู่ก็ตามที "ไปกันเถอะ ที่รัก" เขาเล่นละครต่อ "เขาจะได้เก็บร้านพักผ่อนกัน"

    มาร์กาเร็ตพยักหน้าแล้วยืนขึ้นด้วยริมฝีปากเม้มเข้าหาแน่น แองกัสคิดว่าเธอคงไม่ไว้ใจตัวเองให้พูดอะไรออกมา

    "อย่าลืมครานากันของเธอเสียล่ะ" เขาพูด แล้วหยิบชามของหวานของตนขึ้น

    "คุณน่าจะถือให้คุณผู้หญิงด้วยนะครับ" จอร์จกระเซ้า "ผมไม่ค่อยไว้ใจประกายตาของเธอเลย"

    แองกัสเห็นว่าเป็นคำแนะนำที่มีเหตุผล จึงคว้าชามอีกอันขึ้นมาด้วย "ขอบคุณที่แนะนำ เอาล่ะ ภรรยาของฉันคงจะต้องเดินไปโดยไม่มีฉันควงแขนไปด้วย แต่ฉันคิดว่า เธอคงจะพอทนได้สักสองสามนาที หรือนายว่าไง"

    "โอ๊ย...แน่นอนครับ คุณผู้หญิงคนนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคนไหนมาบอกว่าจะต้องไปที่ไหนที่ไหนหรอก" จอร์จกระทุ้งศอกเข้าที่แขนของมาร์กาเร็ต แล้วยิ้มเผล่ "แต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ"

    แองกัสรีบรุนหลังมาร์กาเร็ตออกไปจากห้องอาหารก่อนที่เธอจะฆาตกรรมเจ้าของโรงแรม

    -- มีต่อ --

    จากคุณ : Tigger - [18 มิ.ย. 45 09:16:39 A:203.170.222.135 X:]