ตามล่าหารัก Gretna Green by Julia Quinn บทที่ 12

    เขาสั่นหน้า "ไม่มีเสื้อผ้าแห้งๆแล้ว"

    "ทำไมล่ะ"

    "ก็เธอ…" เขาจิ้มนิ้วไปที่บ่าของเธอ "ใส่มันอยู่นี่"

    มาร์กาเร็ตสบถออกมาอย่างมีสีสัน

    "รู้เปล่า เธอพูดถูก" เขาทำท่าราวกับว่าเพิ่งจะค้นพบสิ่งสำคัญของโลก "ฉันชอบยั่วโมโหเธอจริงๆด้วยสิ"

    "แองกัส!"

    "อ๊ะ ก็ได้.. ฉันกลับมาซีเรียสก็ได้" เขาตีหน้าขมวดคิ้วเหมือนจะเอาใจ "เธอต้องการอะไรล่ะ"

    "ฉันต้องการให้คุณถอดเสื้อผ้าออกแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง"

    หน้าเขาแช่มชื่นขึ้นมาทันที "ตอนนี้เลยเหรอ"

    "ไม่ใช่ย่ะ" เธอค้อนขวับ "ฉันจะออกไปอยู่นอกห้องแป๊บนึง และเมื่อฉันกลับมา ฉันหวังว่าจะเห็นคุณนอนอยู่บนเตียง แล้วมีผ้าห่มคลุมมิดชิดจนถึงคาง"

    "แล้วเธอจะนอนไหนล่ะ"

    "ฉันไม่นอนหรอก ฉันจะตากเสื้อผ้าคุณให้แห้ง"

    เขาหมุนคอมองด๊อกแด๊ก "ที่นี่มีเตาผิงที่ไหนกัน"

    "ฉันจะลงไปข้างล่าง"

    เขายืดตัวขึ้นจนถึงจุดที่มาร์กาเร็ตไม่ต้องคอยพยุงเขาอีกต่อไป "เธอจะต้องไม่ลงไปข้างล่างมืดๆตัวคนเดียวตอนกลางคืนแบบนี้"

    "ฉันตากเสื้อของคุณกับเปลวเทียนได้ที่ไหนล่ะ"

    "งั้นฉันจะไปกับเธอ"

    "แองกัส ตอนนั้นคุณก็ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่แล้ว"

    อะไรก็ตามที่เขาทำท่าจะพูด…มาร์กาเร็ตมั่นใจจากท่าเชิดคางขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับอ้าปากขึ้นเตรียมพร้อมจะโต้แย้งเธอ เหมือนกับว่าเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง… แต่เจ้าอะไรบางอย่างที่ว่านั่นก็ถูกยกเลิกไปด้วยคำสบถอย่างมีรสชาติเป็นชุดยาวเหยียด

    และในที่สุด หลังจากที่เขาปล่อยคำสบถสาบานทุกคำที่เธอเคยได้ยิน และได้เรียนรู้ใหม่ๆจากเขาอีกหลายคำจนหมดสิ้นแล้ว เขาก็กัดฟันกรอด "รออยู่นี่แหละ" แล้วก็ปึงปังออกไปจากห้อง

    สามนาทีต่อมา เขาก็ปรากฎตัวขึ้น มาร์กาเร็ตตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาเตะประตูผางออก แล้วหอบเอาเทียนประมาณสามโหลมากองไว้ที่พื้น โดยเล่มหนึ่งยังติดควันอยู่กรุ่นๆด้วยซ้ำ

    เธอกระแอม กะจะรอให้สีหน้าถ:-)ทึงของเขาอ่อนลงก่อนจึงค่อยสานความต่อ แต่หลังจากผ่านไปชั่วครู่ มีทีท่าว่าอารมณ์บูดๆของเขาจะไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อยในอนาคตอันใกล้ เธอจึงเอ่ยปากถามว่า "นี่คุณไปเอาเทียนมาจากไหนเยอะแยะ"

    "เอาเป็นว่า โรงแรมแคนนี่แมนจะรับอรุณด้วยความมืดพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน"

    มาร์กาเร็ตเปลี่ยนใจไม่แย้งว่า เนื่องจากเวลานี้เลยเที่ยงคืนมาแล้ว จึงจะต้องเป็น 'วันนี้' ถึงจะถูก แต่จิตใต้สำนึกของเธอก็อดไม่ได้ที่ส่งคำพูดออกมาว่า "แต่ฤดูนี้มันสว่างช้าออกนะ"

    "ฉันทิ้งไว้ในครัวอันสองอัน" แองกัสฮึ่มฮั่ม แล้วก็เริ่มลอกเสื้อเปียกออกจากตัวโดยไม่ฟังอีคร้าอีรม

    มาร์กาเร็ตอุทาน แล้วรีบมุดออกจากห้อง คนผีทะเล เขาก็รู้ว่าเขาควรจะรอให้เธอออกไปรอนอกห้องก่อน ถึงค่อยเปลื้องผ้าอย่างนั้น หญิงสาวรออยู่หนึ่งนาทีเต็มๆ แล้วให้เวลาเขาอีกสามสิบวินาทีเผื่อความหนาว นิ้วมือแข็งๆอย่างนั้นคงปลดกระดุมยากหรอก

    เธอสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ หมุนตัวกลับมา แล้วเคาะประตู "แองกัส" เธอร้องเรียก "คุณอยู่บนเตียงหรือยัง" แล้ว ก่อนที่เขาจะตอบอะไรออกมา เธอก็หรี่ตา แล้วรีบเสริมว่า "โดยมีผ้าห่มปิดมิดชิดถึงคางน่ะ"

    เสียงร้องตอบดังจับความไม่ได้ แต่พอจะบอกได้ว่าเป็นการตอบรับ ดังนั้น เธอจึงหมุนลูกบิด แล้วผลักประตู

    ประตูไม่ขยับเลยแม้แต่นิด

    ท้องไส้ของเธอเริ่มจะมวนด้วยความตระหนก ประตูไม่ได้ล็อค เขาไม่มีทางไปล็อคประตู แล้วประตูก็ล็อคเองไม่ได้ด้วย

    มาร์กาเร็ตทุบประตูปังๆ "แองกัส! แองกัส! ฉันเปิดประตูไม่ได้!"

    เสียงฝีเท้าดังตามมา และเมื่อเธอได้ยินเสียงเขาอีกครั้ง มันดังมาจากอีกฟากของบานประตู

    "เกิดอะไรขึ้น"

    "ประตูมันเปิดไม่ออก"

    "ฉันไม่ได้ล็อคนี่"

    "ฉันรู้ สงสัยมันติดน่ะ"

    เธอได้ยินเสียงหัวเราะ ซึ่งทำให้เธอเกิดความรู้สึกอยากจะกระทืบเท้าขึ้นมากระทัน… หรือจะให้ดี กระทืบลงบนเท้าของเขา

    "เอาล่ะวา คราวนี้" เขาว่า "ชักสนุกแล้วสิ"

    ความต้องการจะทำร้ายร่างกายเขาพุ่งจี๊ด

    "มาร์กาเร็ต" แองกัสร้องเรียก "ยังอยู่หรือเปล่า"

    เธอหลับตาลงชั่วครู่ แล้วก็ปล่อยลมหายใจลอดไรฟัน "คุณต้องช่วยฉันเปิดประตู"

    "แต่ฉัน..เปลือยอยู่นะ"

    เธอหน้าแดง ถึงเขาจะอยู่อีกฟากของประตู และมองไม่เห็นเธอ แต่เธอก็ยังอดหน้าแดงไม่ได้

    "มาร์กาเร็ต?"

    "แค่เห็นคุณแก้ผ้า ฉันก็คงตาบอดไปแล้วล่ะ" หญิงสาวประชด "นี่คุณจะช่วยฉัน หรือจะต้องให้ฉันพังประตู"

    "ต้องเป็นภาพน่าดูไม่เบาเลย ฉันยอมจ่ายเลยนะถ้าจะได้เห็นเธอ…."

    "แองกัส!"

    เขาหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะทุ้มๆหนักแน่นที่ลอดผ่านประตูออกมา แล้วไปหลอมเหลวกระดูกของเธอข้างใน "เอาล่ะ" เขาพูด "พอฉันนับถึงสาม เธอก็ทุ่มตัวผลักประตูเข้ามาเลยแล้วกัน"

    มาร์กาเร็ตพยักหน้า แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เขามองไม่เห็นเธอ จึงพูดว่า "ตกลง"

    "หนึ่ง….สอง…"

    เธอหลับตาปี๋

    "สาม!"

    เธอโถมน้ำหนักตัวทั้งหมดกระแทกบานประตู แต่แองกัสคงต้องดึงประตูออกก่อนหน้าเธอนิดเดียว เพราะไหล่ของเธอกระทบประตูเพียงผ่านๆ ก่อนที่ตัวทั้งตัวจะถลาพุ่งลงไปกระแทกพื้น…อย่างแรง

    เธอยังคงหลับตาแน่นอยู่ได้ตลอดเวลาอย่างน่าอัศจรรย์

    เธอได้ยินเสียงประตูปิดกริ๊ก แล้วก็รู้สึกว่าเขาโน้มตัวลงมาอยู่ตรงหน้าเธอขณะถาม "เธอเป็นยังไงบ้าง"

    เธอยกมือขึ้นปิดตา "ไปที่เตียงเดี๋ยวนี้!"

    "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ล่อนจ้อนหรอกน่า"

    "ฉันไม่เชื่อ!"

    "ฉันสาบานเอ้า ฉันนุ่งผ้าปูที่นอนอยู่"

    มาร์กาเร็ตแง้มนิ้วมือพอให้เห็นภาพตรงหน้าแค่เศษเสี้ยว จริงๆด้วย มีอะไรขาวๆพันอยู่รอบตัวเขา เธอลุกขึ้นนั่งหันหลังให้เขาทันที

    "เธอนี่เชื่อยากชะมัด มาร์กาเร็ต เพ็นนีแพ็กเกอร์" เขาบ่น แต่เธอได้ยินเสียงเขาเดินข้ามห้องไปยังเตียงนอน

    "คุณอยู่บนเตียงหรือยัง"

    "อยู่แล้ว"

    "คลุมผ้าห่มแล้วด้วยนะ"

    "ถึงคางเลยครับผม"

    เธอได้ยินรอยยิ้มในคำพูดของเขา ต่อให้เธอกำลังหัวเสียแค่ไหนก็ตาม ดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นจะติดต่อมาถึงเธอด้วย มุมปากของเธอสั่นระริก เมื่อเธอพยายามจะรักษาน้ำเสียงให้เย็นชาเมื่อกล่าว "ฉันจะหันไปแล้วนะ"

    "ก็เอาสิ"

    "ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณเลยถ้าคุณหลอกฉัน"

    "จีซัส วิสกี้ และโรเบิร์ต เดอะ บรู๊ซ หันมาเถอะน่า แม่คุณ"

    เธอทำตาม เขาอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วจริงๆ ถึงแม้จะไม่ถึงคางอย่างที่เขาว่า แต่ก็เพียงพอ

    "เป็นไง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมั้ย"

    หญิงสาวพยักหน้า "แล้วเสื้อผ้าเปียกๆของคุณล่ะ"

    "บนเก้าอี้"

    เธอมองตามสายตาเขาไปยังกองเสื้อผ้าแฉะๆ แล้วจึงตรงไปจุดเทียนจำนวนมากมายนั่น "นี่ต้องเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เข้าท่าที่สุด" เธอบ่นอุบ มาร์กาเร็ตพยายามจะหาอะไรมาตั้งเป็นเสาเพื่อผึ่งเสื้อผ้าแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยามเมื่อเธอจุดเทียนขึ้นทีละเล่มๆ หญิงสาวก็ต้องส่ายหัวเมื่อเห็นห้องทั้งห้องสว่างขึ้นเรื่อยๆ

    เขาจะนอนหลับได้ยังไง สว่างยังกับกลางวันอย่างนี้

    เธอหันกลับมา ตั้งท่าจะชี้ให้เขาเห็นถึงความไม่เข้าท่าของแผนการณ์ของเขา แต่คำพูดใดๆก็คงค้างเพียงปลายลิ้น

    เขากำลังหลับ

    มาร์กาเร็ตจ้องมองเขาอยู่หนึ่งนาทีเต็มๆ พิจารณาปอยผมของเขาที่ตกระหน้าผาก และแพขนตาที่ดกดำทาบผิวแก้ม ผ้าปูที่นอนเลื่อนไหลลงเล็กน้อย เผยให้เห็นแผ่นอกว้างกำยำที่สะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจ

    เธอไม่เคยรู้จักใครเหมือนเขามาก่อน ไม่เคยเห็นใครที่งดงามในยามสงบนิ่งเช่นนี้มาก่อนเลย

    เป็นเวลานานแสนนานกว่าเธอจะหันกลับมา แล้วเริ่มจุดเทียนอีกครั้ง

    รุ่งสางวันนั้น มาร์กาเร็ตผึ่งเสื้อผ้าจนแห้งหมด ดับเทียนทุกเล่ม และเข้านอนเรียบร้อย เมื่อแองกัสลืมตาตื่นขึ้น เขาพบเธอนอนคุดคู้อยู่ข้างเตียง เสื้อโค้ตของเขาม้วนเป็นก้อนกลมต่างหมอน

    เขายกตัวเธอขึ้นวางลงบนเตียงด้วยอาการนุ่มนวลและระมัดระวังสุดแสน เขาคลุมผ้าห่มขึ้นจนถึงคางของเธอ และเหน็บชายผ้าเข้ากับช่วงไหล่บาง จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ จ้องมองเธอหลับไหล

    มันเป็นยามเช้าที่วิเศษที่สุดในชีวิตของเขา

    มาร์กาเร็ตตื่นขึ้นมาในเช้าวันนั้นด้วยความเคยชินที่ปฏิบัติตลอดมา คือ ลืมตาตื่นขึ้นและลุกขึ้นนั่งทันทีโดยไม่มีอิดเอื้อน

    หญิงสาวนั่งตัวตรง กระพริบตาไล่ความง่วงงุน แล้วระลึกถึงความจริงสามประการ หนึ่ง เธออยู่บนเตียง สอง แองกัสไม่ได้อยู่บนเตียง และสาม เขาไม่อยู่ในห้อง

    เธอลุกขึ้นยืน นิ่วหน้ากับความยับเยินของกระโปรงที่ใส่ แล้วจึงเดินไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้อง ชามครานากันเปล่าๆสองใบยังวางอยู่ที่นั่น แต่ที่วางอยู่ด้วยคือ พับกระดาษยับยู่ยี่มอมแมม ที่ดูเหมือนจะถูกฉีกออกมาจากกระดาษใบที่ใหญ่กว่า มาร์กาเร็ตคาดว่าแองกัสคงต้องตามหาทั่วโรงแรมกว่าจะเจอเศษกระดาษที่เอามาใช้ได้

    เธอคลี่มันออกแล้วอ่าน

    ไปหาข้าวเช้ากิน เดี๋ยวกลับ

    เขาไม่ได้เซ็นชื่อ แต่นั่นก็ไม่จำเป็นแต่อย่างใด มาร์กาเร็ตคิดขณะที่เธอกวาดตาไปทั่วห้องเพื่อหาอะไรมาหวีผม คงไม่มีใครอีกแล้วที่จะทิ้งโน้ตไว้ให้เธอนอกจากแองกัส

    เธอยิ้มเมื่อก้มลงมองตัวหนังสือหนาหนักอย่างมั่นใจบนกระดาษ บุคลิกของเขาฉายชัดอยู่บนตัวอักษร

    เมื่อไม่แลเห็นอะไรจะใช้แทนหวีได้ มาร์กาเร็ตก็เอานิ้วสางผมยาวๆของเธอแทน หญิงสาวรูดม่านหน้าต่างเปิดออก แสงแดดฉายประกายกล้าทาบสีฟ้าจัด ปุยเมฆกระจายฟ่องเป็นหย่อมๆลอยอยู่ไม่ไกล อากาศข้างนอกวันนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน

    มาร์กาเร็ตส่ายศีรษะพลางผลักบานหน้าต่างเปิดรับลม เธอกำลังอยู่ในสก็อตแลนด์ ทั้งที่จริงๆแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องมาที่นี่เลย เธอไม่มีเงิน เสื้อผ้ามอมแมมไปทั้งตัว แถมมีหวังว่าชื่อเสียงของเธอคงเหลวแหลกไปหมดแล้วกับการออกเดินทางไกลมาตัวคนเดียวแบบนี้

    แต่ช่างเถอะ .. วันนี้อากาศดีก็แล้วกัน

    บรรยากาศในหมู่บ้านเริ่มคึกคักขึ้นมาบ้างแล้ว มาร์กาเร็ตมองพ่อแม่ลูกเด็กข้ามถนนเข้าไปในร้านจับจ่ายซื้อของ หนุ่มสาวเดินเคียงกันเป็นคู่ๆ เธอมั่นใจว่าพวกเขาคงหนีตามกันมา

    การหนีตามกันไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ในส่วนลึกของหัวใจ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าความจริงแล้วหนุ่มสาวที่หนีตามกันมาที่นี่ อาจจะมีเหตุผลที่เข้าท่าเพียงพอก็ได้ มาร์กาเร็ตถอนหายใจลอยๆ พลางขยับตัวเท้าคางจ้องออกไปนอกหน้าต่าง นึกจินตนาการว่าหนุ่มสาวคู่ไหนบ้างที่อาจจะหนีตามกันมาเพราะที่บ้านขัดขวางความรัก

    เธอกำลังนั่งนึกถึงพ่อที่เข้มงวดและแม่เลี้ยงใจร้ายอยู่ เมื่อเสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าดังก้องขึ้น มาร์กาเร็ตมองเลิ่กลั่ก และเห็นแองกัสเดินแหวกฝูงชนพุ่งถลามาตามถนน

    "แอนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!"

    มาร์กาเร็ตสะดุ้งวาบ แองกัสเจอน้องสาวแล้ว!!

    สาวน้อยผมดำร่างสูงยืนตัวแข็งอยู่ริมถนนอีกฝั่งด้วยสีหน้าตื่นตระหนกสุดขีด เจ้าหล่อนพยายามซ่อนตัวหลังรถม้าคนใหญ่อย่างไม่ประสบความสำเร็จ

    "จีซัส วิสกี้ และโรเบิร์ต เดอะ บรู๊ซ" มาร์กาเร็ตกระซิบ ถ้าเธอไม่รีบออกไป มีหวังแองกัสคงฆ่าน้องสาวเขาตายแน่ หรืออย่างน้อย ข่มขู่สาวน้อยนั่นจนเสียสลติ

    มาร์กาเร็ตยกชายกระโปรงขึ้นพ้นข้อเท้า แล้ววิ่งตื๋อออกไปจากห้องนอน

    -- ต่อบทที่ 13 (ตอนจบ) --

    จากคุณ : Tigger - [23 มิ.ย. 45 12:47:38 A:203.170.222.202 X:]