ตอนเช้าก็ทานข้าวเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ฉันชอบอาหารอินโดประเภทที่มีชื่อเรียกว่า นาชิโกะเรน หรือม ิโกะเรน หรือ บีฟุ่นโกะเรน มากที่สุด นาชิโกะเรนนั่นจะหน้าตาเหมือนข้าวผัด ส่วน มิโกะเรนจะคล้าย ๆ ยากิโซบะ ( บะหมี่ผัด) ส่วนบีฟุ่นโกะเรน คือ ผัดวุ้นเส้น นั่นเอง ถ้าจะให้ความหมายของคำว่า โกะเรนและ้ค่อนข้างน่าตกใจ นั่นคือ " ผัด ย่าง " ถ้าหากว่าเป็นมันเผา จะเรียกว่า สวีิทโปเตโต้โกะเรนหรือเปล่านะ
บนนาชิโกะเีรนนั่นยังโป๊ะด้วยไข่ดาวที่เกือบสุกวางอยู่น่ากินมาก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าอาหารจานนี้น่าอร่อยอย่างแน่นอน แล้วเป็นอย่างที่คิดไว้คือ อร่อยมาก ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจว่าระหว่างที่อยู่ที่บาหลีจะกินแต่ นาชิโกะเรนอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า กลางวัน หรือเย็น ฉันจึงคิดว่าถ้าหากว่ามีโอกาสล่ะก็จะกินแต่นาชิโกะเรนอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะพูดอย่างนี้ก็ตามเถอะ คงจะคิดว่าถ้ากินทุกครั้ง ทุกครั้งตามที่พูดไว้แล้วล่ะก็จะต้องเบื่ออย่างแน่นอน แต่ว่าจริง ๆ แล้วฉันทำตามนั้นจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะทานทุกครั้งตลอดแต่ว่าไม่รู้สึกเบื่อเลย จึงอยากจะรายงานใ้ห้ทุกท่านทราบ
หลังจากอาหารเช้าแล้ว จากการนำทางของคุณกฤษณะก็พาเราไปดูรูปที่ชาวบ้านของหมู่บ้านอุบุโดะวาดกัน จากโรงแรมนั่งรถไปประมาณ 7-8 นาทีก็ถึงถนนสายเมนแล้ว ตรง 2 ข้างทางของถนนเต็มไปด้วยร้านเล็ก ๆ ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึกตั้งเรียงรายอยู่ โดยประมาณครึ่งหนึ่งของร้านที่ตั้งอยู่เป็นร้านขายรูปภาพซะส่วนใหญ่ ตรงด้านหน้าร้านมีรูปภาพแขวนอยู่เต็มไปหมด ฉันพึ่งเคยเห็นเมืองที่เต็มไปด้วยรูปภาพอย่างนี้ ฉันได้แ่ต่รู้สึกว่า " โอ้โห ยอดเยี่ยม ยอดจริง " ตื่นเต้นมาก
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงร้านที่เป็นแกลลอรี่แทนที่จะไปยังร้านขายรูป ที่แกลลอรี่นี้มีรูปภาพที่เป็นภาพเอนทีคอยู่และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีของที่ทำจากศิลปินพื้นบ้านวางขายอยู่ด้วย ภาพวาดของบาหลีนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่ มีีทั้งที่เขียนส่วนเล็ก ๆ วาดส่วนที่เ็ป็นส่วนที่ระเอียดและส่วนที่ใหญ่ ถ้าถามฉันว่าชอบแบบใหน ฉันชอบที่เป็นการเขียนส่วน เล็ก ๆ ลงไปในรูป เพราะ่ว่าพอมองเห็นส่วนที่ละเีอียดเล็ก ๆ ที่เขียนอยู่ที่ให้รู้สึกถึงพลังของมนุษย์นั่นเอง
ภายใต้รูปภาพหลายร้อยรูปภาพนั้น มีรูปของปลาอยู่รูปหนึ่งทำให้ใจของฉันเต้นแรง สามารถแสดงถึงสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นรูปที่สวยงามมากแสดงถึงความสามารถของผู้วาดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเลยถามกับคนที่ร้านว่า " ถ้าหากว่ามีรูปของคนที่วาดรูปนี้อีกอยากจะขอดูหน่อย" ก็เลยเอารูปอีกอันหนึ่งมาให้ดู ซึ่งก็เป็นรูปปลาเหมือนกันแต่ว่า ใช้สีที่แตกต่างออกไป ซึ่งอันนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน
ดังนั้นจึงหันไปบอกสามีว่า " ซื้อทั้ 2 รูปเลยนะ" แล้วจึงหันไปถามราคากับคนขาย ปรากฎว่า รูปละ 3 หมื่นเยน ถ้าหากว่าซื้อ 2 รูปก็ 6 หมื่นเยน แต่ว่าที่บาหลีจะต้องต่อราคา ถ้าหากว่าซึ้อในราคาที่บอกมาล่ะก็จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน ถ้าตามปกติล่ะก็จะต้องลดให้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากว่าต่อราคาดี ๆ ล่ะก็ ลดครึ่งหนึ่งก็ยังได้
พอสามีได้ิยินราคาก็บอกว่า " เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะต้องต่อราคากันแล้ว " หลังจากพูดเสร็จก็พูดว่า " ถ้าหากว่า รูปล่ะ หมื่นเยนล่ะก็ก็อยากจะซื้อเหมือนกัน " กับคนขาย พูดโดยที่ตัดอกตัดใจเหลือเกิน รูปละ 3 หมื่นต่อเหลือแค่ หมื่นเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้นฉันเลยสะกิดสามีบอกว่า " นี้ต่อมากเกินไปแล้วน่ะ " สามีบอกว่า " ถึงยังไงตอนต่อราคามันก็จะต้องขยับขึ้นอยู่แล้วดังนั้นตอนแรกบอกราคาที่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งนั่นแหล่ะดี " แล้วก็เป็นเหมือนกับที่สามีฉันบอกไว้ พอดีราคาไปต่อราคามา ราคาก็ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดซื้อมาในราคา รูปละ หมื่นห้าพันเยน ถึงยังงั้นก็เถอะเป็นราคาที่ต่ำกว่าที่คนขายบอกตอนแรกตั้งครึ่งหนึ่ง การต่อราคาของสามีประสบผลสำเร็จมาก
เมื่อการท่องเที่ยวครั้งก่อนปวดท้องจนไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ว่าคราวนี้สภาพยอดเยี่ยมมาก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่ลงเล่นน้ำกลางดึกเมื่อคืนนี้ การเที่ยวบาหลีครั้งนี้ได้สามีแบบนี้มาด้วยคงจะทำให้การซื้อของนั้นเป็นได้อย่างสะดวกอย่างแน่นอนเลย
นหลังจากที่ซื้อภาพนั้นแล้ว ก็คิดว่าอยากที่จะเจอผู้ที่วาดภาพนี้ คนที่เขียนภาพที่เก่งขนาดนี้นั้นเป็นคนแบบไหนน่ะ และเขียนภาพภายใต้สภาพแวดล้อมแบบไหนน่ะ และเขียนแต่ล่ะภาพด้วยอารมณ์แบบไหน และมีความคิดอย่างไงกับนักเขียนน่ะ และลองปรึกษากับคุณกฤษณะดู ปรากฎว่าคนขายของที่แกลลอรี่พาไปจนถึงบ้านของคนเขียนภาพนี้ นักวาดของหมู่บ้านอุบุโดะก็อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอุบุโดะนี้เอง ถ้าหากว่าทราบสถานที่ก็สามารถไปได้ด้วยรถยนต์ ฟังจากคนขายภาพพูด ดูเหมือนว่าคนที่วาดภาพนี้เป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปีแล้ว ชื่อ พารุวาดะ อยากที่จะไปพบคุณพารุวาดะมาก หลังจากฟังเสียงขอร้องของฉันแล้ว ก็พากันนั่งรถยนต์ไปยังอุบุโดะ จนถึงบ้านของคุณพารุวาดะ
ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้นัดหมายมาก่อน พวกคุณพารุวาดะก็พากันออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น บ้านของคุณพารุวาดะเป็นบ้านสไตส์บาหลี ภายในพื้นที่เดียวกันนี้มีัทั้งบ้านของพ่อแม่ และญาติ ๆ คนอื่น ๆ อยู่ด้วยกัน พวกเด็ก ๆ ที่อยู่ในบ้ายพากันแอบมองพวกฉันด้วยความสนใจ คงเห็นว่าเป็นคนประหลาด แน่ ๆ ช่างเป็นชีวิตที่อบอุ่นและสงบ ภาพใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้นี่เองที่คุณพารุวาดะวาดภาพรูปปลาใบนี้้ คิดว่าช่างดีจังเลย
คุณพาุรุวาดะทำมีใบหน้าที่ดี เป็นหน้าที่มีความสงบ เป็นใบหน้าของคนที่มีความสุขและพอใจและบอกว่า เวลาที่เขียนภาพนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ความคิดสร้างสรรค์ ความเงียบสงบ ฉันคิดว่าคุณพารุวาดะนั้นและที่ดูเป็นคนที่มีความสุขสงบ และคิดว่าที่รูปภาพของพารุวาดะมีความสวยงามนั้นเป็นเพราะ่ว่่า นอกเหนือจากที่มีเทคนิคที่ดีแล้ว ยังมีความสงบและสบายอยู่ด้วย
ได้พบคุณพารุวาดะนั้นช่างดีจริง ๆ ได้มาที่หมู่บ้านอุบุโดะนั้นช่างดีจริง ๆ การมาท่องเที่ยวครั้งนี้นั้น รู้สึกเหมือนว่าได้มีประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง
หลังจากที่ออกมาจากบ้านของอุบุโดะ และมุ่งไปยังป่าลิง ทั้งฉันและสามีไม่ได้ชอบลิงเป็นพิเศษ และไม่ได้อยากจะไปที่ป่านี้เป็นพิเศษเท่าไหร่เลย แต่เป็นเพราะ่ว่าคุณกฤษณะแนะนำเลยลองไปดู เหมือนกับที่คิดไว้คือมีลิงอยู่เต็มไปหมด ถ้าเทียงกับประสบการณ์ที่ได้ไปพบคุณพารุวาดะแล้วล่ะก็ช่างเทียบกันไม่ติดเลย และนอกจากนั้นแล้วลิงยังได้กัดกางเกงของสามีฉันดัวย
จากคุณ :
oh/s - [29 มิ.ย. 45 22:09:14 A:203.147.24.123 X:203.147.24.3]