บทที่ ๒
อัลลันรับคำท้า
เช้าวันต่อมาคุณสครูปกับข้าพเจ้ามาถึงปราสาทแรกนอลตอนสิบห้านาทีจะสิบนาฬิกาหรือว่าประมาณนั้น ระหว่างทางเราหยุดรับลูกปืนสามร้อยห้าสิบนัดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องจ่ายเงินไปมากกว่าสามเหรียญปอนด์ทองคำซึ่งในวันเวลานั้นมันมีค่ามาก ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าไม่ควรมาร่วมกีฬายิงไก่ฟ้าของคนอังกฤษโดยเปล่าประโยชน์เลย ช่างปืนที่คุณสครูป รับขึ้นรถม้าไปที่ปราสาทด้วยกล่าวย้ำกับข้าพเจ้าว่าราคานั้นมันถูกเหลือเกิน เพราะว่าตัวเขากับผู้ช่วยต้องนั่งทำงานอยู่เกือบทั้งคืนเพื่อบรรจุหัวกระสุนขนาดเบอร์สามเป็นพิเศษให้ข้าพเจ้า
ขณะเมื่อข้าพเจ้าก้าวลงจากรถชายท่าทางผึ่งผายมองดูโอ่อ่าสวมเสื้อโค้ทกำมะหยี่พร้อมด้วยเสื้อกั๊กสักหลาด เดินเข้ามาหาด้วยบรรยากาศของการแสดงอำนาจ ตามหลังมาด้วยคนที่ข้าพเจ้าจำได้ดี ชาลร์ส มือแต่ละข้างของเขาถือปืนมาด้วย
"นั่นคือพ่อบ้านที่นี่" คุณสครูปกระซิบบอก "ขอเตือนให้คุณปฏิบัติต่อเขาอย่างนอบน้อมด้วย"
เตรียมพร้อม ข้าพเจ้าถอดหมวกออกแล้วรออยู่
"ฉันพูดกับนายอัลลัน ควอเตอร์เมนอยู่ใช่ใหม ?" เขาพูดอย่างวางอำนาจด้วยเสียงต่ำสะท้าน พร้อมกับมองสำรวจข้าพเจ้าอย่างเย็นชาด้วยสายตาแสดงความรังเกียจ
ข้าพเจ้าแสดงอาการว่าถูกต้องแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นนะ ท่าน" เขากล่าวต่อไปหยุดเล็กน้อยตรงคำว่า "ท่าน" ราวกับเขาจะคาดว่าข้าพเจ้าไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนงานชาวอาฟริกาของเขา "ฉันได้รับบัญชามาจากเจ้านายท่านให้นำปืนพวกนี้มาให้นาย และฉันหวังว่านายจะดูแลมันให้ดีด้วย เพราะมันส่งมาเพื่อขายหรือส่งกลับคืนไป ชาลฺร์สช่วยอธิบายวิธีใช้ปืนพวกนี้ให้หนุ่มบ้านนอกด้วย และระหว่างอธิบายวิธีใช้ระวังให้ปากกระบอกปืนชี้ขึ้นฟ้าหรือกดลงพื้นเอาไว้ ปืนยังไม่ได้บรรจุกระสุนก็จริงอยู่แต่ว่าการทำอย่างนั้นมีประโยชน์อยู่เสมอ"
"ขอบคุณ ท่านพ่อบ้าน" ข้าพเจ้าตอบพร้อมกับยั่วประสาทเขาไปด้วย "แต่ผมคิดว่าผมคุ้นเคยกับการใช้ปืนมาจนหมดแล้ว"
"ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ ท่าน" เขาพูดอย่างแสดงอำนาจด้วยท่าทางไม่เชื่อถือ "ชาลร์ส ฉันเข้าใจว่าผู้ช่วยสครูปจะเป็นผู้บรรจุลูกปืนให้เจ้าหนุ่มคนนี้ ฉันหวังว่าเขาจะทำได้อย่างปลอดภัย เจ้านายท่านสั่งให้แกถือลูกปืนและร่วมทางไปกับพวกเขาด้วย แกต้องนับด้วยว่ายิงปืนไปกี่นัดและฆ่านกไปกี่ตัว อ้ายพวกที่หนีไปได้ไม่ต้องนับ ฉันเบื่อจริง ๆ อ้ายเรื่องที่บอกว่ายิงโดนตัวแล้วแต่หนีไปได้"
คำแนะนำพวกนี้กล่าวออกมาอย่างกับว่าเป็นเรื่องใหญ่โตที่เราไม่อยากฟัง มันทำให้คุณสครูปหัวเราะคิกคักและทำให้ชาลร์สอมยิ้ม แต่สำหรับข้าพเจ้ามันทำให้เริ่มรู้สึกขุ่นเคืองรำคาญใจ
ข้าพเจ้าคว้าปืนมากระบอกหนึ่งแล้วสำรวจดู เป็นปืนที่มีราคาแพงและประดิษฐ์ขึ้นอย่างสวยงามในสมัยนั้นขึ้นลำด้วยคานโยกด้านล่าง
"ปืนไม่มีอะไรเสียหายหรอก ท่าน" ส่งเสียงกร้าวมาจากพ่อบ้านเสื้อกั๊กแดง "ถ้านายเล็งให้ตรงเป้ามันจะทำหน้าที่ของมันเอง แต่เงยลำกล้องปืนเอาไว้เจ้าหนุ่มเงยลำกล้องปืนเอาไว้ เพราะฉันรู้ดีว่าลำกล้องปืนมองไม่เห็นเหมือนกับตาของฉัน บางทีนายอาจจะได้ไม่เข้าใจผิด ถ้าฉันจะบอกว่าที่ปราสาทแรกนอลเกลียดเจ้าพวกไก่ฟ้าที่บินต่ำจริง ๆ ฉันพูดถึงมันก็เพราะว่าเจ้าหนุ่มต่างด้าวคนสุดท้าย-เป็นคนฝรั่งเศส ใช่แล้วคนฝรั่งเศส-ยิงอะไรไม่ได้เลยทั้งวันนอกจากแม่ไก่ตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนพุ่มไม้ นักยิงปืนสองคน หมวกของท่านลอร์ด แล้วก็นกเอี้ยง"
ถึงตรงนี้คุณสครูประเบิดเสียงหัวเราะเหมือนคนปัญญาอ่อนออกมา ส่วนชาลร์สที่โชคชะตาบันดาลให้ข้าพเจ้าหนีไม่พ้นหันหลังให้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเป็นสองเท่าราวกับว่าเกิดอาการปวดท้องขึ้นมาโดยฉับพลัน ส่วนตัวข้าพเจ้าบังเกิดความโกรธอย่างสุดขีด
"หุบปากเสียทีเถอะ พ่อบ้าน" ข้าพเจ้าว่าต่อไป "นายจะมาสั่งสอนฉันทำไม ? สนใจแต่หน้าที่ของนายเถอะ และฉันก็จะจัดการกับหน้าที่ของฉันเอง"
ถึงตรงนี้มีใครคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากมุมของอาคาร-พวกเราเจรจากันอยู่ตรงลานคอกม้าใกล้ห้องเก็บปืน-เป็นท่านลอร์ดแรกนอลนั่นเอง ข้าพเจ้าเห็นว่าเขาคงได้ยินการสนทนาของพวกเราเพราะดูท่าทางเขาโกรธมาก
"เจ็นกิ่นส์" เขาพูดเจาะจงไปที่พ่อบ้าน "ทำตามที่คุณควอเตอร์เมนบอกสนใจแต่หน้าที่ของตัวเอง บางทีแกอาจยังไม่รู้ว่าเขายิงสิงโตมาแล้วหลายตัว ช้างอีกหลายเชือก และสัตว์ใหญ่อีกหลายชนิดขณะที่แกยังไม่เคยยิงแมวได้สักตัว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่กงการของแกที่จะมาสั่งสอนเขาหรือว่าพวกแขกของฉัน ตอนนี้ไปดูแลพวกนักยิงปืนได้แล้ว"
"ขอโทษครับ ท่าน" เจ็นกิ่นส์สำลักคำพูดออกมาหน้าของเขาที่เคยแดงก่ำพอ ๆ กับสีเสื้อกั๊กที่เขาสวมอยู่เปลี่ยนเป็นขาวซีดไปทันที "ผมไม่มีเจตนาจะโต้แย้งนะครับนายท่าน แต่ว่าช้างและสิงโตมันไม่ได้บินนะครับ และคนที่คุ้นเคยกับการยิงสัตว์ที่พื้นดินมักจะยิงต่ำไปครับท่าน นักยิงปืนพร้อมอยู่ที่ห้างซุ่มยิงแล้วครับท่าน"
ขณะที่พูดเขาค่อย ๆ พาตัวลับหายไป ลอร์ดแรกนอลมองจนเขาไปแล้วจึงพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ
"ผมขอโทษด้วยคุณควอเตอร์เมน ตาแก่โง่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของมรดกที่ตกทอดมา และเรื่องตลกก็คือว่าแกเป็นนักยิงปืนฝีมือแย่และอันตรายที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ถึงกระนั้นอีกด้านหนึ่งแกเป็นคนไล่ต้อนไก่ฟ้าที่ดีที่สุดในประเทศผมจึงมอบหน้าที่ให้ พร้อมที่จะไปกันหรือยังครับ ? ชาลร์สจะดูแลปืนและลูกกระสุนให้"
ดังนั้นคุณสครูปและข้าพเจ้าจึงถูกพาผ่านทางเข้าด้านข้างสู่ห้องโถงใหญ่และแนะนำให้รู้จักกับสมาชิกนักยิงปืนคนอื่น ๆ เกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่พำนักอยู่ที่ปราสาท พวกเขาต่างเป็นนักยิงปืนที่มี่ชื่อเสียง ที่จริงแล้วข้าพเจ้าเคยอ่านพบชื่อเสียงของบางคนจากหนังสือพิมพ์ "เดอะ ฟิลด์" ที่ข้าพเจ้าอ่านเสมอที่อาฟริกา แม้ว่าจะไม่บ่อยนัก เวลาที่เดินท่องป่าไปไกล ๆ ข้าพเจ้าไม่ได้อ่านสักฉบับเป็นปี
ข้าพเจ้าต้องประหลาดใจที่พบว่ารู้จักกับสุภาพบุรุษในกลุ่มนี้คนหนึ่ง ที่จริงเราไม่ได้พบกันมาสิบสองปีแล้ว แต่ข้าพเจ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยจะลืมใบหน้าคน และข้าพเจ้าแน่ใจว่าไม่ผิดพลาดแน่ในกรณีนี้ นั่นหมายถึงว่าชายร่างเล็กนัยน์ตาเจ้าเล่ห์สีเทามีปลายจมูกสีแดงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก แวน คูป เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงรู้กันดีในอาฟริกาใต้ว่ามีข่ายเชื่อมโยงใหญ่โตและประสพผลสำเร็จจากของปลอมที่มือกฎหมายดูเหมือนจะเอื้อมไปไม่ถึง และของปลอมที่ข้าพเจ้าก็เป็นเหยื่อหนึ่งในหลายคนของเขาเป็นจำนวนถึง ๒๕๐ ปอนด์ เป็นเงินจำนวนมากทีเดียวสำหรับข้าพเจ้า
ครั้งสุดท้ายที่เราพบกันมีพายุร้ายขวางกั้นอยู่ และเรื่องจบลงตรงที่ข้าพเจ้าประกาศออกไปด้วยความโกรธว่าถ้าข้าพเจ้าข้ามท้องทุ่งไปถึงเขาได้ข้าพเจ้าจะยิงเขาทันทีที่เห็นหน้า บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้เขาหายหน้าไปจากอาฟริกาใต้ และข้าพเจ้าขอเสริมว่าเขาเป็นคนเลวจริง ๆ ข้าพเจ้าเชื่อว่าเขาเพิ่งเข้ามาในห้องจากที่พักสักแห่งหนึ่งในปราสาทแรกนอล และเขาคงไม่รู้ถึงการมาร่วมยิงปืนของข้าพเจ้า ถ้าเขารู้ข้าพเจ้าค่อนข้างแน่ใจว่าเขาคงไม่มาปรากฏตัวแน่ เขาหันมาและมองเห็นข้าพเจ้าพอดีจึงสำลักคำพูดออกมา "อัลลัน ควอเตอร์เมน คุณพระช่วย !" ไม่ดังมากนักแต่ด้วยน้ำเสียงแสดงความประหลาดใจจึงเรียกความสนใจจากลอร์ดแรกนอลซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ
"ใช่แล้ว คุณแวน ครูป" ข้าพเจ้าตอบด้วยน้ำเสียงแสดงความยินดี "อัลลัน ควอเตอร์เมน ไม่ใช่ใครอื่น และผมหวังว่าคุณคงยินดีที่ได้พบผมเหมือนกับที่ผมยินดีมากที่ได้พบคุณ"
"ผมคิดว่าคงมีการเข้าใจผิดกันขึ้น" ลอร์ดแรกนอลพูดพร้อมกับมองมาที่เรา "นี่คือท่านเซอร์จูเนียส ฟอร์เตสคู น่าจะเป็นคุณฟอร์เตสคูจึงจะถูกต้อง"
"อย่างนั้นหรือ" ข้าพเจ้าตอบ "ผมไม่ทราบหรือจำได้ว่าเขาเคยมีชื่ออย่างนั้น แต่ผมรู้ว่าเราเป็นเพื่อนเก่ากัน"
ลอร์ดแรกนอลเดินจากไปเหมือนกับว่าไม่ต้องการจะสนทนาด้วย เมื่อไม่ใครได้ยินอีกแล้ว แวน คูป เดินเมียงเข้ามาหาข้าพเจ้า
"คุณควอเตอร์เมน" เขาพูดเสียงเบา ๆ "ผมเปลี่ยนไปมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน"
"ใช่ฉันรู้แล้ว" ข้าพเจ้าตอบ "แต่ฉันยังเหมือนเดิม และถ้านายพร้อมที่จะคืนเงิน ๒๕๐ ปอนด์ที่นายเป็นหนี้ฉันพร้อมดอกเบี้ย ฉันจะขอบคุณมาก ถ้าไม่ยอมฉันคิดว่ามีเรื่องดี ๆ ของนายที่ฉันจะเล่าให้คนอื่นฟัง"
"โอ คุณควอเตอร์เมน" เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ข้าพเจ้าอยากจะเตะเขาสักป้าบ "ฉันไม่ยอมรับหนี้อันนั้นหรอก"
"นายไม่ยอมรับจริง ๆ หรือ ?" ข้าพเจ้าตะคอก "ดีละ บางทีนายจะปฏิเสธเรื่องทั้งหมดด้วยซิ แต่คำถามมีอยู่ว่า นายจะเชื่อไหมล่ะถ้าฉันพิสูจน์ได้ ?"
"คุณควอเตอร์เมน คุณเคยได้ยินชื่อพระราชบัญญัติหมดอายุความมาบ้างหรือไม่ ? เขาถามอย่างเยาะเย้ย
"ไม่เลยถ้ามันเกี่ยวกับชื่อเสียง" ข้าพเจ้าตอบอย่างแข็งขัน "ตอนนี้นายจะเอายังไง ?"
เขาไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วตอบว่า
"ฟังทางนี้ คุณควอเตอร์เมน คุณมีน้ำใจนักกีฬาอยู่เสมอ ฉันจะให้โอกาสคุณ ถ้าวันนี้ฉันสังหารนกได้มากกว่า คุณต้องสัญญาว่าจะเก็บเรื่องทั้งหมดของฉันที่อาฟริกาใต้เอาไว้ แต่ถ้าคุณสังหารนกได้มากกว่าฉัน คุณก็ยังต้องหุบปากเอาไว้ แต่ฉันจะจ่ายเงิน ๒๕๐ ปอนด์พร้อมดอกเบี้ยหกปีให้"
จากคุณ :
Sv
- [23 ก.ค. 45 15:18:44 ]