*** THE IVORY CHILD *** เทวรูปงาช้าง *** บทที่ ๔ ฮารุต กับ มารุต

    บทที่ ๔
    ฮารุต  กับ  มารุต


    หลังจากที่ลอร์ดแรกนอลส่งแขกที่หน้าประตูตามอย่างธรรมเนียมสมัยเก่าแล้ว        เขากลับมาและถามข้าพเจ้าว่าจะเล่นไพ่หรือว่าชอบฟังดนตรี         ข้าพเจ้ายืนยันกับเขาว่าเกลียดไพ่ขณะที่คุณเซาเวจปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ และสอบถามเจ้านายของเขาอย่างนอบน้อมว่ามีสุภาพบุรุษที่อยู่ในปราสาทนี้มีชื่อว่า-เฮีย-คัม-อะ-เซนี-หรือไม่      ลอร์ดแรกนอลมองสำรวจไปทั่วตัวเขาเหมือนกับสงสัยว่าเขาจะเมา       จากนั้นถามเขาว่าหมายความว่าอย่างไรที่มาถามคำถามน่าหัวเราะแบบนั้น

    "ผมหมายความว่า    เจ้านายท่าน"   คำตอบจากคุณเซาเวจมีร่องรอยของความขุ่นเคืองในน้ำเสียง     "มีชาวต่างชาติสองคนแต่งชุดขาวมาที่ปราสาท       แจ้งว่าต้องการพูดกับคุณเฮีย-คัม-อะ-เซนี ที่อยู่ที่นี่      ผมบอกเขาให้ไปที่อื่นเช่นเดียวกับที่พ่อบ้านบอกว่าเขาจะไม่ทำอะไรอย่างที่พวกนั้นพูด      แต่พวกเขากลับนั่งลงบนพื้นหิมะและบอกว่าพวกเขาจะรอพบ-เฮีย-คัม-อะ-เซนี"

    "ถ้าอย่างนั้นแกเอาตัวพวกเขาไปไว้ในห้องยามเก่า      ขังพวกเขาเอาไว้พร้อมกับเอาอาหารให้กินด้วย      แล้วให้คนเลี้ยงม้าไปตามตำรวจมา     ใครจะมีชื่อบ้า ๆ แบบนั้นกัน      ฉันว่าพวกเขาตามพวกไก่ฟ้ามา"

    "หยุดก่อน"     ข้าพเจ้าพูดขึ้นเพราะเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา      "ข่าวสารนั้นอาจจะหมายถึงผม      แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าใครเป็นผู้ส่งมา       ชื่อพื้นเมืองของผมคือ มะคูมะซาน      อาจเป็นไปได้ว่าคุณเซาเวจฟังมาไม่ถนัด     ให้ผมออกไปพบคนพวกนี้ได้ไหม ?"

    "ผมจะไม่ทำอย่างนั้นตอนที่อากาศหนาวขนาดนี้หรอก  ควอเตอร์เมน"   ลอร์ดแรกนอลตอบ      "พวกเขาบอกหรือเปล่าว่าเขาเป็นใครกัน   เซาเวจ ?"

    "ผมเดาเอาว่าพวกเขาเป็นนักเล่นกล   ครับท่าน       อย่างน้อยเมื่อผมบอกให้พวกเขาไปเสียให้พ้น      พวกเขาคนหนึ่งพูดขึ้นว่า    "ท่านนะไปก่อนเถิด"     จากนั้นนะนายท่านผมได้ยินเสียงขู่ฟ่อในกระเป๋าเสื้อโค้ทของผม      เมื่อผมเอามือล้วงลงไปพบว่ามันเป็นงูตัวใหญ่ร่วงลงสู่พื้นแล้วหนีหายไป      มันทำให้ผมเป็นอัมพาตไปเลยเจ้านาย     และขณะที่ผมยืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้นและสงสัยว่าผมถูกกัดเข้าหรือเปล่ามีหนูกระโดดออกมาจากผมของแม่ครัว       เธอเคยหัวเราะชุดที่พวกเขาสวมใส่เจ้านาย       แต่ตอนนี้เธอหวีดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความตกใจ

    ด้วยท่าทางขึงขังของคุณเซาเวจขณะที่เขาบรรยายเรื่องประหลาดอันร้ายกาจที่เกิดขึ้นกับแม่ครัว      เราทั้งคู่ระเบิดเสียงหัวเราะอันไม่สมควรออกมาอย่างสนุกสนาน              จากเสียงหัวเราะของเราเรียกความสนใจของคุณโฮลมส์และคุณแมนเนอร์ที่กำลังสนทนากันอยู่และแขกบางคนต่างพากันตรูเข้ามาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    "นายเซาเวจมาแจ้งว่ามีนักเล่นกลสองคนอยู่ที่ห้องครัว       อ้างว่าพวกนั้นเสกงูออกมาจากกระเป๋าของเขาและหนูออกมาจากผมของแม่ครัว     และพวกนั้นต้องการพบคุณควอเตอร์เมน"     ลอร์ดแรกนอลตอบ

    "นักเล่นกล !   ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ   ยอร์ช"    คุณโฮลมส์ร้องอุทานขึ้น      ขณะที่คุณแมนเนอร์และคนอื่น ๆ ซึ่งเริ่มเบื่อการพูดคุยที่ไร้สาระร้องสนับสนุนขึ้น

    "ดีทีเดียว"    เขาตอบ    "แม้ว่าที่นี่เราจะมีหนูอยู่มากพอแล้วไม่ต้องให้พวกนั้นเอามาเพิ่มให้อีก     เซาเวจออกไปบอกสหายของแกทั้งสองคนว่าคุณ เฮีย-คัม-อะ-เซนี รอพบพวกเขาอยู่ที่ห้องรับแขก     และมีหลายคนที่อยากเห็นกลของพวกเขา

    เซาเวจก้มหัวรับแล้วออกไป    เหมือนกับวีรบุรุษทำตอนสำเร็จโทษคู่ต่อสู้       แต่จากสีหน้าอันซีดเผือดของเขาข้าพเจ้าเห็นว่าเขากลัวอย่างหนัก       เมื่อเขาออกไปแล้วเราเตรียมตัวและจัดที่ว่างตรงกลางห้อง       ตรงด้านหน้าเราจัดเก้าอี้ให้แขกนั่ง

    "ไม่ต้องสงสัยเลยพวกนั้นต้องเป็นนักเล่นกลชาวอินเดีย"     ลอร์ดแรกนอลพูดขึ้น    "จึงต้องการที่ให้เขาเอาไว้ปลูกต้นมะม่วง      อย่างที่ผมจำได้เคยเห็นพวกเขาทำที่แคชเมีย"

    ขณะที่เขาพูดอยู่นั้นประตูเปิดออกแล้วคุณเซาเวจก้าวเข้ามา       เดินมาเร็วกว่าปกติธรรมดาของเขามาก     ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่าเขากุมกระเป๋าเสื้อโค้ทหางนกนางแอ่นเอาไว้จนแน่น

    "คุณแฮ-รูท กับคุณแม-รูท ครับ"   เขากล่าวแนะนำ

    "แฮ-รูท กับ แม-รูท หรือ"    ลอร์ดแรกนอล กล่าวย้ำ

    "ผมว่าน่าจะเป็น ฮารุต กับ มารุต"    ข้าพเจ้าพูด    "ผมคิดว่าเคยอ่านจากที่ไหนมาสักแห่งว่าพวกเขาเป็นผู้วิเศษผู้ยิ่งใหญ่       นักเล่นกลพวกนี้เอาชื่อของเขามาใช้"  (หลังจากนั้นข้าพเจ้าพบว่ามีกล่าวถึงในคัมภีร์โกหร่านว่าพวกเขาเป็นจ้าวแห่งเวทย์มนต์)

    ครู่ต่อมาชายสองคนเดินตามเขาผ่านประตูเข้ามา       คนแรกเป็นชายร่างสูงชาวตะวันออกหน้าตาขึงขังจริงจัง     มีเครายาวจมูกงุ้มดวงตาเป็นประกายคล้ายตาเหยี่ยว        ชายคนที่สองร่างเตี้ยกว่าค่อนข้างล่ำทั้งยังอ่อนวัยกว่ามาก       เขามีหน้าตาใจดียิ้มแย้มแจ่มใสดวงตาวาวสีดำสนิทและโกนหน้าเกลี้ยงเกลา        พวกเขามีสีผิวอ่อนมากจริง ๆ แล้วข้าพเจ้าเคยเห็นชาวอิตาเลี่ยนที่มีผิวคล้ำกว่าเขามาก       และมีบรรยากาศของพลังอำนาจอยู่รอบตัวพวกเขา

    ทันทีนั้นข้าพเจ้าจำเรื่องที่คุณโฮลมส์เล่าให้ฟังที่โต๊ะอาหารได้จึงแอบมองไปที่เธอ      และเห็นว่าหน้าเธอซีดเผือดลงและกายสั่นเล็กน้อย       ข้าพเจ้าไม่คิดว่าจะมีใครสังเกตเห็นเพราะว่าทุกคนจ้องไปที่คนแปลกหน้า       มากไปกว่านั้นเธอควบคุมสติได้ในทันทีแล้วมองสบตาข้าพเจ้ายกนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบเอาไว้

    พวกเขาสวมเสื้อคลุมขนสัตว์อย่างหนาจัดการถอดมันออกแล้วพับเรียบร้อยวางลงบนพื้น       ยืนนิ่งเผยให้เห็นเสื้อคลุมยาวขาวสะอาดงดงามและผ้าโพกหัวเรียบ ๆ ขนาดใหญ่มีสีขาวเช่นเดียวกัน

    "ชาวอาหรับเผ่าโซมาลีชั้นสูง"   ข้าพเจ้าคิดกับตัวเอง    สังเกตเห็นว่าขณะที่พวกเขาจัดเสื้อคลุมยาวให้เรียบร้อยพวกเขามองสำรวจพวกเราทุกคนอย่างรวดเร็ว       พวกเขาคนหนึ่งปิดประตูโดยที่เซาเวจยังอยู่ในห้องราวกับว่าต้องการให้เขาอยู่ด้วย        จากนั้นพวกเขาเดินมาหาพวกเรา       แต่ละคนถือตะกร้ามีเครื่องประดับทำจากต้นอ้อที่ฉีกเป็นเส้น ๆ ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเครื่องมือเล่นกลของพวกเขาและบางทีอาจจะเป็นงูที่เซาเวจพบในกระเป๋าของเขา       ข้าพเจ้าต้องประหลาดใจพวกเขาเดินตรงมาหาข้าพเจ้าแล้ววางตะกร้าลง        ยกมือของเขาขึ้นเหนือศีรษะเหมือนอย่างที่คนกำลังจะกระโดดน้ำทำ      แล้วโค้งตัวลงจนปลายนิ้วของเขาสัมผัสพื้น       ต่อมาเขาพูดขึ้น      ไม่ใช่ภาษาอาราบิคอย่างที่ข้าพเจ้าคาดว่าพวกเขาจะพูดแต่เป็นภาษาบันตูซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจได้เป็นอย่างดี

    "ตัวข้า ฮารุต  หัวหน้าพระและหมอของชาวเคนด้าห์ขาว     ขอคารวะท่าน โอ มะคูมะซาน"  ชายสูงอายุกล่าว  

    "ตัวข้า  มารุต  พระและหมอของชาวเคนด้าห์ขาว   ขอคารวะท่าน โอ ผู้พิทักษ์ยามราตรี   ผู้ที่พวกเราเดินทางตามหามายาวไกล"    ชายที่อ่อนวัยกว่าพูดขึ้น       จากนั้นทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกัน

    "เราทั้งสองขอคารวะท่าน    โอ ท่านผู้ที่ดูเหมือนจะมีกายเล็กแต่ยิ่งใหญ่     โอ   หัวหน้าที่มีอดีตอันยากลำบากแต่จะมีอำนาจใหญ่โตในอนาคต      โอ  ผู้อันเป็นที่รักของมามีนาผู้ลาลับไปแล้วแต่ยังส่งเสียงมาจากเบื้องล่าง      มามีนาผู้ที่ร่วมทางมากับพวกเรา"

    ถึงตรงนี้ก็เป็นคราวของข้าพเจ้าที่ตัวเนื้อสั่นและซีดลง      สำหรับผู้ที่เคยอ่านเรื่องของมามีนามาแล้วก็คงพอจะเดาได้       และเป็นคราวของคุณโฮลมส์ที่จ้องข้าพเจ้าด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่างมาก

    "โอ  ผู้พิฆาตคนชั่วและสัตว์ร้าย"     พวกเขากล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงโอ่อ่าราบเรียบเหมือนสวดมนต์      "ผู้ที่อำนาจวิเศษบอกพวกเราว่าจะเป็นผู้ปลดปล่อยดินแดนของพวกเราให้รอดพ้นไปจากสิ่งชั่วร้ายน่ากลัว      เราขอคารวะท่าน      เราโค้งคำนับอยู่เบื้องหน้าท่าน       เราน้อมรับท่านอย่างเช่นเจ้านายและพี่น้อง      แด่ท่านที่เราขอสาบานว่าจะได้รับความปลอดภัยในหมู่พวกเราและในทะเลทราย        แด่ท่านที่เราสัญญาว่าจะมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้"

    อีกครั้งพวกเขาพากันคำนับ     หนึ่งครั้ง   สองครั้ง   สามครั้ง       จากนั้นยืนกอดอกนิ่งเงียบอยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า

    "พวกเขาพูดบ้าบออะไรกัน ?"    คุณสครูปถามขึ้น   "ผมฟังรู้เรื่องเพียงเพียงสองสามคำ"-เขารู้ภาษาซูลูเพียงเล็กน้อย-"แต่ไม่เข้าใจเลย"

    ข้าพเจ้าบอกเขาอย่างสั้น ๆ ขณะที่คนอื่นร่วมรับฟังด้วย

    "มามีนาหมายถึงอะไรกัน ?"     คุณโฮลมส์ถามขึ้นด้วยเสียงแหลมอย่างหวั่นไหว       "เป็นชื่อผู้หญิงใช่ไหม ?"

    จากคุณ : Sv - [7 ส.ค. 45 08:48:59 ]