*** THE IVORY CHILD *** เทวรูปงาช้าง *** บทที่ ๖ บริษัท เหมืองทองแท้ จำกัด

    บทที่ ๖
    บริษัท เหมืองทองแท้ จำกัด


    สองปีผ่านไปหลังจากที่ข้าพเจ้ากล่าวอำลาลอร์ดแรกนอล และ คุณโฮลมส์          และเมื่อม่านเปิดฉากขึ้นอีกครั้งจะเห็นข้าพเจ้านั่งอยู่บนระเบียงบ้านหลังน้อยของข้าพเจ้าที่เดอร์บันจมอยู่ในห้วงความคิดคำนึงและโศกเศร้ามากจริง ๆ         ทำไมข้าพเจ้าถึงโศกเศร้านักข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟังในไม่ช้า

    ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมานั้นข้าพเจ้าได้รับข่าวครั้งหรือสองครั้งเกี่ยวกับลอร์ดแรกนอล        ดังเช่นว่าข้าพเจ้าได้รับจดหมายจากคุณสครูปเล่าถึงงานแต่งงานของท่านลอร์ดสหายของเขากับคุณโฮลมส์     ซึ่งปรากฏว่าเป็นงานที่หรูหรามากจริง ๆ  เกือบจะเป็นงานเทศกาลครั้งหนึ่งของนครลอนดอน       มีเจ้านายสองพระองค์เสด็จมาร่วมพิธี    ซึ่งท่านดยู๊กเป็นคนสำคัญที่สุด      และของขวัญที่ได้รับล้วนแต่ดีเลิศและมีค่ามหาศาล       รวมทั้งสร้อยไข่มุกประมาณค่าไม่ได้ที่เจ้าบ่าวมอบให้กับเจ้าสาว        และภาพตัดมาจากข่าวสังคมที่คุณสครูปแนบมาด้วยปรากฏภาพอันโอ่อ่าของเจ้าบ่าวและงดงามน่ารักของเจ้าสาว        รวมทั้งคำบรรยายเครื่องแต่งกายของเธอด้วยภาษาที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นแบบชาวกรีก      ประโยคหนึ่งสะดุดใจข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก

    มันกล่าวว่า    "เจ้าสาวได้รับข้อสังเกตว่าสวมเครื่องประดับเพียงอย่างเดียว       แม้ว่าเครื่องเพชรประจำตระกูลของลอร์ดแรกนอล ซึ่งไม่ได้ออกมาส่องประกายอวดแสงหลายปีแล้ว       และเป็นที่รู้กันว่าเป็นเครื่องเพชรที่ดีเลิศชุดหนึ่งในประเทศ       แต่กลับเป็นสร้อยทับทิมที่ดูว่ามีขนาดใหญ่แต่ขัดอย่างหยาบ ๆ แขวนรูปสลักเทพเจ้าของอียิปต์ทำจากทับทิมเช่นเดียวกัน       แต่ก็ต้องกล่าวเสริมว่าแม้ว่าจะเป็นสิ่งผิดปกติที่ใช้กับโอกาสเช่นนี้แต่ว่าทับทิมนี้เข้ากับผิวสีคล้ำงดงามของเธอได้เป็นอย่างดี         เลดี้แรกนอลเลือกเครื่องประดับชิ้นนี้จากเครื่องประดับอันหลากหลายของเธอด้วยเหตุของความเชื่อถือในโชคลางเป็นอย่างมาก         เมื่อถูกถามจากสหายว่าทำไมเธอถึงเลือกมัน       รายงานบอกว่า     เธอกล่าวว่าเพราะว่ามันทำให้เธอโชคดี"

    ตอนนี้ทำไมเธอถึงพอใจที่จะสวมของขวัญแต่งงานอันป่าเถื่อนของ ฮารุต กับ มารุต มากกว่าเครื่องเพชรพลอยชนิดอื่นทั้งหมดที่เธอมีอยู่ข้าพเจ้ายังสงสัย         เรื่องนี้มันแปลกมากและเกือบจะเป็นเรื่องลึกลับ  

    ข่าวชิ้นที่สองที่เกี่ยวกับคู่แต่งงานนี้มาถึงข้าพเจ้าผ่านทางหนังสือพิมพ์ ไทมส์ ฉบับเก่าซึ่งข้าพเจ้าได้รับนานมากกว่าปีหลังจากนั้น          มีใจความว่าบุตรชายและผู้สืบตระกูลของลอร์ดแรกนอลได้ถือกำเนิดขึ้นแม่และบุตรสุขภาพแข็งแรงดี"

    นี่คงเป็นบทสุดท้ายของเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อันแสนประหลาดนี้        ข้าพเจ้าคิดกับตัวเอง


    ระหว่างสองปีนี้มีเรื่องหลากหลายบังเกิดกับข้าพเจ้า       อย่างแรกเลย  พร้อมกับสหายเก่า เซอร์สตีเฟ่น  โซมเมอร์        ข้าพเจ้าพาคณะเดินทางไปค้นหาต้นกล้วยไม้มหัศจรรย์ที่เขาปรารถนาจะเอามาเพิ่มให้กับรังสะสมกล้วยไม้ของเขา         ข้าพเจ้าได้เขียนการเดินทางผจญภัยอันแปลกประหลาดของเราครั้งนั้นไปแล้ว       และไม่ปรารถนาที่จะกล่าวถึงมันอีกที่นี่          นอกจากจะกล่าวว่าระหว่างการเดินทางข้าพเจ้าถูกยั่วยวนใจอย่างหนักให้เดินทางขึ้นไปทางตอนเหนือของทะเลสาปที่พวกปองโกตั้งถิ่นฐานอยู่           ข้าพเจ้าปรารถนาเป็นอย่างมากที่จะเห็นว่า ฮารุต กับ มารุต มาปรากฏตัวเพื่อพาข้าพเจ้าไปยังดินแดนที่เจ้าช้างประหลาดที่กล่าวกันว่ามันถูกดลใจโดยวิญญาณชั่วร้ายรอให้ข้าพเจ้าไปสังหารมันด้วยปืนไรเฟิล         อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็ระงับแรงกระตุ้นอันนั้นเอาไว้       และที่จริงแล้วสถานการณ์ของพวกเราบังคับให้ข้าพเจ้าต้องทำอย่างนั้น          ในตอนท้ายพวกเรากลับมาอย่างปลอดภัยจนถึงเดอร์บัน             และที่นี่ข้าพเจ้าก็มาถึงบทสรุปว่าข้าพเจ้าจะไม่ไปเสี่ยงชีวิตกับการเดินทางอย่างบ้าบิ่นแบบนั้นอีกแล้ว

    เนื่องจากเหตุที่ข้าพเจ้าให้รายละเอียดไว้แล้วที่ไหนสักแห่งตอนนี้ข้าพเจ้ามีเงินสดอยู่ในกระเป๋าเป็นจำนวนมาก         และด้วยเงินจำนวนนี้ข้าพเจ้าตัดสินใจว่าจะวางมือจากอาชีพนายพรานอิสระและพ่อค้าในดินแดนป่าเถื่อนของอาฟริกาเสียที          เช่นเคยเมื่อมีเงินโอกาสก็มาเสนอตัวในไม่ช้าในรูปของเหมืองทองที่ได้ถูกค้นพบในดินแดนของพวกซูลูซึ่งเป็นแห่งแรกเลยที่พบในท้องถิ่นนั้น         พ่อค้าชาวยิวชื่อว่า ยาคอบ ยื่นข้อเสนอแก่ข้าพเจ้าว่าจะมอบหุ้นให้ครึ่งหนึ่งถ้าข้าพเจ้าจ่ายเงินที่จำเป็นเพื่อให้เหมืองทำงานได้          ข้าพเจ้าเดินทางไปสำรวจดูและมั่นใจว่านี่เป็นข้อเสนอที่วิเศษจริง ๆ       ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูในรายละเอียดและบอกตามตรงว่าข้าพเจ้าไม่มีความปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นเลยสำหรับเรื่องนี้มันยังทำให้ข้าพเจ้าเจ็บปวดอยู่จนถึงตอนนี้         ไม่ต้องพูดไปถึงว่าเจ้าพ่อค้ายิวและเพื่อนบางคนของเขาร่อนเอาทองขึ้นมาให้เห็นต่อหน้าต่อตาของข้าพเจ้าและจากนั้นเอาก้อนผลึกสวยงามมาให้ข้าพเจ้าดู       และพวกเขาสาธิตว่ามันถูกชะล้างอยู่ในพื้นโลกหลายล้านปีล่วงมาแล้ว         ข่าวการค้นพบของพวกเราแพร่สะพัดไปเหมือนไฟป่า       และอย่างเช่นที่ข้าพเจ้าเป็นทุกคนรู้ว่าข้าพเจ้าเป็นคนซื่อ       ท้ายที่สุดบริษัทเล็ก ๆ ก็ตั้งขึ้นมามีชื่อของนายอัลลัน  ควอเตอร์เมน เป็นประธานของบริษัท เหมืองทองแท้ จำกัด

    โอ ! เจ้าบริษัทนั้นน่ะ !   บ่อยครั้งในทุกวันนี้ข้าพเจ้าฝันถึงมันในเวลาที่ป่วยจากไฟธาตุพิการ

    เงินทุนของเราไม่มากนัก     จำนวน ๑๐,๐๐๐ ปอนด์  ที่พ่อค้ายิวผู้มีชื่ออันแสนดีว่า ยาคอบ กับเพื่อนของเขาถืออยู่ครึ่งหนึ่ง (แน่นอน โดยไม่มีเงินเลย) เป็นค่าซื้อสิทธิของพวกเขา        ข้าพเจ้าคิดว่าสัดส่วนของมันสูงมากและบอกออกไป         โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ข้าพเจ้ารู้มาว่าค่าสิทธิของพวกเขามีแค่รอกปั่นจั่นสามขาหน้าสี่เหลี่ยมจำนวนสามโหล    เกวียนผุ ๆ พัง ๆ      โคสี่ตัวที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักและเงินสดอีก ๕ ปอนด์     อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาชี้แจงกับข้าพเจ้าว่าด้วยความรู้พิเศษและความฉลาดปราดเปรื่องของพวกเขาจะจัดการให้ทรัพย์สินเพิ่มค่าอย่างมหาศาล       มากไปกว่านั้นเงินจำนวนนี้จะจ่ายให้พวกเขาเป็นแค่ใบรับเงินชั่วตราวและจะเปลี่ยนเป็นเงินสดเมื่องานประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอนแล้วไม่ใช่เงินที่จ่ายตอนนี้        หลังจากครุ่นคิดอย่างกังวลอยู่คืนหนึ่งข้าพเจ้าก็ยอม

    โดยส่วนตัวก่อนที่ข้าพเจ้าจะยอมรับเป็นประธานบริษัท       ซึ่งมีค่าจ้าง ๑๐๐ ปอนด์ต่อปี (ที่ข้าพเจ้าไม่เคยได้รับเลย)        ข้าพเจ้าซื้อและจ่ายเป็นเงินสดหุ้นมีมูลค่า ๑๐๐๐ ปอนด์สเตอริง         ข้าพเจ้ายังจำได้ว่า ยาคอบ กับเพื่อนของเขาทำท่าเหมือนกับประหลาดใจมากที่ข้าพเจ้าทำอย่างนั้น         ขณะที่เขาเสนอหุ้นให้กับข้าพเจ้ามีค่าห้าร้อย ปอนด์ โดยไม่ต้องจ่ายเงิน "เป็นค่าตอบแทนที่เอาชื่อข้าพเจ้ามาเป็นประกัน"     ส่วนนี้ข้าพเจ้าปฏิเสธ        กล่าวว่าข้าพเจ้าจะไม่ชักชวนใครให้มาร่วมลงทุนด้วยโดยที่ไม่มีเงินของข้าพเจ้าเสี่ยงอยู่ด้วยจริง ๆ        ดังนั้นพวกเขายอมรับการตัดสินใจของข้าพเจ้าอย่างไม่ขาดความกระตือรือร้น         ในตอนท้ายยอดเงินจำนวน ๔๐๐๐ ปอนด์ลงรับเอาไว้แล้วเราเริ่มทำงาน        งานดำเนินไปได้ดีข้าพเจ้าไม่ได้ห่วงใยเพราะว่าไม่เคยเลยในชีวิตของข้าพเจ้าจะตกอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดใจอย่างนี้

    เราเริ่มด้วยการล้างกรวดหินกระหย่อมหนึ่งผลที่ได้ออกมาดูเหมือนจะน่าประหลาดจริง ๆ       และมันน่าทึ่งมากที่พวกเขาทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปอีก ๑๐ ชิลลิ่ง      ยาคอบ และ พวกฉวยประโยชน์ในโอกาสนี้ขายหุ้นเกือบครึ่งที่เขาถืออยู่เพื่อเร่งเร้าผู้ร่วมทุน       อธิบายกับข้าพเจ้าว่าที่เขาทำอย่างนั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวซึ่งเขารังเกียจแต่ "เพื่อขยายงานให้กว้างขวางขึ้นโดยรับเลือดใหม่เข้ามาเสริม"

    เป็นเพียงแค่เวลาสั้น ๆ หลังจากการโตพรวดพราดครั้งนี้กรวดหินที่อยู่รอบ ๆ กระหย่อมนั้นก็กลายเป็นกรวดหินจริง ๆ       และตัดสินใจกันว่าเราควรจะซื้อแบ็ตเตอรี่ขนาดเล็กแล้วเริ่มบดหินซึ่งคาดว่าทองจะไหลออกมากับสายน้ำล้างแร่       เราเจรจาเรื่องแบ็ตเตอรี่พวกนั้นผ่านพวกช่างที่เมืองเคปทาวน์-แต่ทำไมธุระกิจยังถดถอยลงหมดทุกด้าน ?      ราคาหุ้นเริ่มตกลง       มันลดลงจากราคาเริ่มต้นที่ ๑ ปอนด์ เป็น ๑๕ ชิลลิ่ง  จากนั้นเป็น ๑๐ ชิลลิ่ง     ยาคอบ ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการอธิบายกับข้าพเจ้าว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้อง "พยุงตลาดเอาไว้"   อย่างที่เขาทำไปแล้วคือรับซื้อหุ้นจำนวนมากเอาไว้           และในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นประธานของบริษัทควรที่จะ "เป็นผู้นำในการทำหน้าที่ที่ดีอย่างนี้"  เพื่อแสดงความเชื่อถือในบริษัท

    ข้าพเจ้าต้องเป็นผู้นำในการซื้อหุ้นเพิ่มอีก ๕๐๐ ปอนด์      ซึ่งข้าพเจ้ารับทั้งหมดได้เพียงแค่นั้น      ข้าพเจ้ารับว่ามันน่าตกใจมากในความเชื้อถือไว้ใจมนุษย์ที่ยังมีอยู่ในตัวข้าพเจ้าเมื่อพบในภายหลังว่าหุ้นจำนวน ๑๐๐๐ หุ้นที่ข้าพเจ้าซื้อเพิ่มมาด้วยเงิน ๕๐๐ ปอนด์ที่จริงแล้วเป็นส่วนของยาคอบ       แม้ว่ามันจะนำมาขายให้ข้าพเจ้าในชื่อของคนอื่น

    วิกฤตของบริษัทก็มาถึงวาระสุดท้ายก่อนที่พวกแบ็ตเตอรี่เหล่านั้นจะมาถึงทุนของเราก็หมดเกลี้ยง        ไม่มีใครยอมลงทุนอีกสักครึ่งเพนนี       ใบหุ้นถูกเสนอขายออกไปได้ราคาเพียง ๑๐๐๐ ปอนด์จากที่เสนอราคาไป ๕๐๐๐ ปอนด์       ใครเป็นผู้ซื้อไปในตอนนั้นยังเป็นเรื่องลึกลับอยู่สำหรับข้าพเจ้า          สุดท้ายการประชุมก็จัดขึ้นเพื่อพิจารณาการชำระสะสางบัญชีของบริษัท          และในการประชุมครั้งนี้หลังจากไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันมาสามคืนข้าพเจ้ารับหน้าที่เป็นประธาน

    เมื่อข้าพเจ้าก้าวเข้าไปยังห้องประชุม          ข้าพเจ้าต้องประหลาดใจมากที่พบว่าผู้อำนวยการห้าคนมาเข้าร่วมประชุมเพียงคนเดียวนอกจากตัวข้าพเจ้า       เขาเป็นกัปตันชราผู้ซื่อสัตย์ซึ่งปลดประจำการแล้วและซื้อหุ้นไว้จำนวน ๓๐๐ หุ้น        ยาคอบกับเพื่อนของเขาอีกสองคนซึ่งเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของเขาปรากฏว่าขึ้นเรือไปเมืองเคปเมื่อตอนเช้า       ซึ่งเขาถูกเรียกตัวไปเยี่ยมญาติห่าง ๆ ที่กำลังจับไข้อยู่

    มันเป็นการเริ่มต้นการประชุมด้วยความโกลาหล        ข้าพเจ้าอธิบายสถานภาพอย่างดีที่สุดที่ข้าพเจ้าจะทำได้       และเมื่อข้าพเจ้าจบคำพูดลงก็ถูกรุกเร้าด้วยคำถามเป็นจำนวนมากที่ข้าพเจ้าไม่สามารถตอบให้ตัวเองหรือว่าใครสักคนพอใจได้       จากนั้นมีสุภาพบุรุษผู้ถือหุ้นจำนวนสิบหุ้นซึ่งดื่มเหล้ามาก่อนแล้ว     เสนอขึ้นอย่างตรง ๆ ว่าข้าพเจ้าโกงผู้ถือหุ้นโดยเสนอรายงานเท็จ

    จากคุณ : Sv - [ 21 ส.ค. 45 09:25:43 ]