 |
เล่าเรื่อง ....ละเม็งละคร (ฝรั่ง) ตอนห้า ( ต่อ -- นักประพันธ์เอกมาโลว์ กะ ดร. เฟาทัสค่ะ )
คริสโตเฟอร์ มารโลว์ กับ ดร. เฟาทัส โศกนาฏกรรมบันลือโลก
ใครที่เคยดูหนังเรื่อง Shakespeare in Love ( จำไม่ได้ว่ามีชื่อเป็นภาษาไทยรึเปล่าน่ะ) เมื่อหลายปีมาแล้วเหมือนกัน พอจะจำชื่อนายคนนี้ได้ไหมคะ คริสโตเฟอร์ มารโลว์ (Christopher Marlowe, 1564-93) คู่รักคู่แค้นตัวแสบของพระเอกของเรา เชคสเปียร์ กับ มาร์โลว์นี่เกิดปีเดียวกันเลยค่ะ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเขียนบทละครแถวหน้าในยุคนั้น ก็เกือบจะพร้อมๆ กัน แต่คนละสังกัดนะคะ เพราะมาร์โลว์ เขาอยู่คณะของ ลอร์ด แอดไมรัล (Lord Admirals company) นี่ก็คณะพี่เบิ้มเหมือนกัน ว่ากันว่า สองคนนี้ขับเคี่ยวกันด้วยบทละครชั้นเยี่ยม และบทกวีชั้นยอดตลอดทั้งยุค อัตราความดังนั้นเรียกได้ว่า
สูสี
สูสี
ทั้งเชิงกลอน และการสร้างตัวละครที่สมจริงชนิด ตีแผ่ความเป็นมนุษย์ออกมาได้อย่างสุด ..สุด
อย่างที่เขาว่า ถ้าเป็นม้าแข่ง ก็ต้องตัดสินด้วยภาพถ่ายเลยล่ะค่ะ เรื่องเด่นๆ ของมาร์โลว์มีอยู่หลายเรื่อง แต่ที่ฉันชอบมากที่สุดคือโศกนาฏกรรมเรื่อง ดร. เฟาทัส ( Dr. Faustus) ที่กำลังจะเล่าอยู่นี่แหละ ว่ากันว่า เรื่องนี้มาร์โลว์เอาเค้าโครงเรื่องมาจากมหาอุปรากรเรื่อง เฟาวส์ ( Faust) ของเยอรมัน ที่เกอเธ่ (Goethe) เขียนไว้ แต่ได้ดัดแปลงปรุงโฉมเสียใหม่ จนเกือบหาเค้าเดิมไม่เจอ เพราะฉะนั้น ถ้าใครอ่านตรงนี้แล้ว ไม่เหมือนกับที่เคยดู หรือเคยอ่านมา ก็แสดงว่าอาจจะเป็นคนละเวอร์ชั่นกันนะคะ
ดร. เฟาทัสของมาร์โลว์เปิดฉากมาด้วยภาพของ ดร. จอห์น เฟาทัส นักปราชญ์ผู้ทรงภูมิแห่งเมืองวิตเตนเบริ์ก ซึ่งเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง เพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ เช่น กฎหมาย การแพทย์ และศาสนา ด้วยความที่เป็นคนฉลาดม-า-ก และใฝ่รู้ ม-า-ก ดร. ท่านจึงอ่านมันดะ จนแตกฉานเชี่ยวชาญไปซะทุกเรื่อง ทีนี้ ก็เริ่มหน่ายสิคะ
อะไรๆ มันก็เริ่มไม่ท้าทายความสามารถ และภูมิปัญญาอันสูงส่งระดับนี้เอาเสียเลย
. เฮ้อ เก่งเกินไปนี่ก็มีปัญหาเหมือนกันนะ
ด้วยความเบื่อหน่ายในวิชาการทั้งหลายในโลกนี้ ที่ช่างง่ายดายเกินไปซะจริง สำหรับคนอย่าง ดร เฟาทัส ผมกับความทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นผู้มีอำนาจเหนือใครๆ ทำให้พระเอกของเราเริ่มหันมาศึกษามนต์ดำ ที่ว่ากันว่า ผู้ที่ศึกษาได้จนสำเร็จแตกฉาน จะมีอำนาจประมาณน้องๆ พระเจ้านั่นเลย แต่ว่า ..ข้อแม้อย่างหนึ่งในการศึกษาวิชานี้ก็คือ จะต้องมีการติดต่อสื่อสารกับพวกปีศาจด้วย ทำให้ไม่ค่อยมีใครในสมัยนั้นกล้าศึกษากันเท่าไหร่ เพราะปีศาจทั้งหลายนั้นขึ้นชื่อในด้านการโกงได้เป็นโกง ตัวดร. เฟาทัสเองก็รู้ความจริงในข้อนี้ดี แต่ก็มั่นใจในความรู้ และความสามารถของตัวเองเกินกว่าที่ผู้ใดจะมาทัดทานได้
เรียกว่า ฉุดกันไม่อยู่แล้วค่ะงานนี้
เฟาทัสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของผู้เชี่ยวชาญด้านมนต์ดำสองคน คือ วาลเดส และ คอร์เนเลียส ซึ่งก็ได้สอนศาสตร์การร่ายเวทย์ให้แก่เขา โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่า ในคืนนั้นเอง ท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ ดร. เฟาทัส นักเรียนผู้ร้อนวิชา ได้ร่ายเวทย์ปลุกวิญญานปีศาจที่ชื่อ เมฟิสโตฟีลิส(Mephistophilis) ขึ้นมา
เฟาทัสเจรจาต่อรองกับ เมฟิสโตฟีลิส ว่า เขาจะยอมแลกเปลี่ยน วิญญาณอันเป็นอมตะของตนเอง กับช่วงเวลา 24 ปี ที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างบรมสุขในฐานะจอมเวทย์มือฉมัง ผู้สามารถบันดาลทุกสิ่ง ทุกอย่างให้เป็นจริงได้ดังใจปรารถนา
เมฟิสโตฟิลิสชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ไอ้อยากได้น่ะ
ก็อยากได้อยู่หรอกนะ วิญญานคน แต่ตัวเมฟิสโตฟิลิส ซึ่งเป็นเพียงปีศาจชั้นต่ำ ระดับลูกน้องรองบ่อนของจอมปีศาจ ลูซิเฟอร์ เจ้าแห่งนรก ไม่มีอำนาจพอที่จะทำข้อตกลงเช่นนี้กับมนุษย์ได้ จึงได้พยายามถ่วงเวลาไว้ก่อน โดยบอกให้ เฟาทัสคิดทบทวนดูให้ดี ท่านไม่รู้หรอกว่า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
จากคุณ :
a whispering star
- [
2 ก.ย. 45 11:10:07
]
|
|
|
|
|